1 / 94

โครงการ กวาดล้าง โปลิโอ และ โรคหัด Polio and Measles Eradication Projects

โครงการ กวาดล้าง โปลิโอ และ โรคหัด Polio and Measles Eradication Projects. ศูนย์ประสานงานโครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด ตามพันธะสัญญานานาชาติ. X. http://thaigcd.ddc.moph.go.th/. http://thaigcd.ddc.moph.go.th/. ฉีดวัคซีน MMR 9 เดือน และนักเรียน ป.1. การป้องกัน. หัด (Measles).

Download Presentation

โครงการ กวาดล้าง โปลิโอ และ โรคหัด Polio and Measles Eradication Projects

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. โครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัดPolioandMeaslesEradicationProjects ศูนย์ประสานงานโครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด ตามพันธะสัญญานานาชาติ

  2. X http://thaigcd.ddc.moph.go.th/

  3. http://thaigcd.ddc.moph.go.th/

  4. ฉีดวัคซีน MMR 9 เดือน และนักเรียน ป.1 การป้องกัน หัด (Measles) สาเหตุ Measles Virus การติดต่อ ทางการหายใจ (air borne) ระยะฟักตัว 8 - 12 วัน เฉลี่ยจากวันที่สัมผัสถึงออกผื่น 14 วัน ไข้ (ก่อน) น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ ตลอดเวลา ตาแดงแฉะและกลัวแสง ที่กระพุ้งแก้มพบจุดขาวๆ ขอบแดง (Koplik,s spots) 1-2 วัน ก่อนออกผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆ แล้วสีจะเข้มขึ้น (maculo-papular) โดยเริ่มจากหลังหู แล้วลามไปที่หน้าชิดขอบผม ลำตัว แขน ขา กินเวลา 2-3 วัน แล้วไข้จึงเริ่มลด อาการ 1-2 วันก่อนเริ่มมีอาการ (3-5 วันก่อนผื่นขึ้น-ผื่นขึ้นแล้ว 4 วัน) ระยะติดต่อ

  5. การกำจัดโรคหัด • เพิ่มและรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนหัดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในทุกพื้นที่ • จัดตั้ง เครือข่ายการตรวจเชื้อหัดทางห้องปฏิบัติการ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั่วประเทศ • เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคหัด โดยมีการตรวจยืนยันเชื้อก่อโรคทางห้อง ปฏิบัติการในผู้ป่วยที่สงสัยโรคหัด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ในทุกพื้นที่ • รณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคหัด หรือมาตรการเสริมอื่น เช่น การบริการวัคซีน ในประชากรวัยทำงาน เพื่อเพิ่มระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในประชากรกลุ่มเสี่ยง

  6. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

  7. การกำจัดโรคหัด (measles elimination) การไม่พบผู้ป่วยโรคหัดที่ติดเชื้อภายในประเทศ (Endemic measles case) ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 12 เดือนขึ้นไป ภายใต้ระบบเฝ้าระวังโรคหัดที่มีประสิทธิภาพ

  8. ความสำคัญของการเฝ้าระวังโรคหัดความสำคัญของการเฝ้าระวังโรคหัด เป็นเครื่องมือหนึ่งเพื่อนำไปสู่กำจัดโรคหัด • ติดตามสถานการณ์โรค • บ่งชี้ประชากรกลุ่มเสี่ยง • ตรวจจับการระบาดและควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว

  9. ระบบเฝ้าระวังโรคหัดที่มีประสิทธิภาพระบบเฝ้าระวังโรคหัดที่มีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด • อัตราการรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคหัด • การตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ • การตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสโรคหัด • การสอบสวนโรค

  10. การเฝ้าระวังโรคหัดระบบปัจจุบัน vs ระบบที่มีประสิทธิภาพ

  11. การเฝ้าระวังโรคหัดระบบปัจจุบัน vs ระบบที่มีประสิทธิภาพ

  12. การเฝ้าระวังโรคหัดระบบปัจจุบัน vs ระบบที่มีประสิทธิภาพ

  13. ระบบเฝ้าระวังโรคหัดของประเทศไทยในปัจจุบันระบบเฝ้าระวังโรคหัดของประเทศไทยในปัจจุบัน การรายงานและสอบสวนผู้ป่วยให้ได้ตามโครงการกำจัดโรคหัด ต้องไม่รอรายงานจาก ICD10!!!

  14. การรายงานและสอบสวนผู้ป่วยให้ได้ตามโครงการกำจัดโรคหัด ต้องไม่รอรายงานจาก ICD10!!!

  15. นิยามผู้ป่วย 1. เกณฑ์ทางคลินิก (Clinical Criteria) มีไข้> 38 ํC และมีผื่นนูนแดงขึ้นขณะยังมีไข้พร้อมทั้งมีอาการไอ(Cough) ร่วมกับอาการอื่นๆ อีกอย่างน้อยหนึ่งอาการ ดังต่อไปนี้ • มีน้ำมูก (Coryza) • เยื่อบุตาแดง (Conjunctivitis) • ตรวจพบ Koplik's spot 1-2 วันก่อนและหลังผื่นขึ้น

  16. นิยามผู้ป่วย 2. เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Criteria) 2.1. Serology test - Measles IgM ให้ผลบวก 2.2. Viral isolation- เพาะเชื้อจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ โดย Throat swab culture หรือ Nasal swab culture

  17. ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ป่วยสงสัย(Suspected case)หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก หรือ แพทย์วินิจฉัยโรคหัด 3. ผู้ป่วยเข้าข่าย(Probable case)หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก ร่วมกับมีข้อมูลทางระบาดวิทยาเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยัน 2. ผู้ป่วยยืนยัน(Confirmed case)หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก และ มีผลบวกทางห้องปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง

  18. นิยามผู้สัมผัสใกล้ชิดนิยามผู้สัมผัสใกล้ชิด • ผู้สัมผัสร่วมบ้าน • ผู้ร่วมงาน หรือ ร่วมห้องเรียน ที่ต้องอยู่ในห้องเดียวกันเป็นประจำ • ผู้ที่มีประวัติคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย ในระยะ 7 วันก่อนวันเริ่มป่วยของผู้ป่วย เช่น แฟน เพื่อนสนิท

  19. การรายงานผู้ป่วยเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังเพื่อการกำจัดโรคหัดการรายงานผู้ป่วยเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังเพื่อการกำจัดโรคหัด ให้รายงานตั้งแต่ผู้ป่วยสงสัย พร้อมทั้งเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ในผู้ป่วยสงสัยทุกรายที่มาโรงพยาบาล

  20. เมื่อแพทย์พบผู้ป่วยหัดที่สถานบริการเมื่อแพทย์พบผู้ป่วยหัดที่สถานบริการ ให้เจาะเลือดส่งตรวจ measles IgM ทุกราย - ระยะเวลาเจาะเลือดที่ดีที่สุด คือหลังผื่นขึ้น 4 – 30 วัน - หากผู้ป่วยมาเร็วมาก เช่น 1 วันหลังผื่นขึ้น ยังไม่ต้องเจาะเลือด อาจนัดมาเจาะเลือดภายหลัง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาให้ติดตามในพื้นที่ • ส่งเลือดที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ การตรวจไม่เสียค่าใช้จ่าย (รพ.มีค่าใช้จ่ายเฉพาะการเจาะเลือด และจัดส่ง) • แจ้งเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาเพื่อดำเนินการสอบสวน และรายงานต่อไป

  21. เมื่อเจ้าหน้าที่ระบาดได้รับรายงานผู้ป่วยเมื่อเจ้าหน้าที่ระบาดได้รับรายงานผู้ป่วย เพื่อทราบรายละเอียดของการเจ็บป่วย ยืนยันการวินิจฉัยโรค และ ตรวจสอบการระบาดที่อาจจะมีอยู่ในชุมชน • สอบสวนเฉพาะราย(case investigation) สอบสวนผู้ป่วยสงสัยทุกรายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน พร้อมทั้งเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการในผู้ป่วยสงสัยทุกราย ได้แก่ Measles IgM

  22. เมื่อสอบสวนผู้ป่วยเฉพาะรายแล้ว ให้รายงานเข้าฐานข้อมูลสำนักระบาดวิทยา • เข้า website สำนักระบาดวิทยา  โครงการกำจัดโรคหัด  ฐานข้อมูลกำจัดโรคหัด • กรอกข้อมูลการสอบสวนผู้ป่วยเฉพาะราย หรือการระบาด รวมทั้งข้อมูลวันที่เจาะเลือด • เมื่อมีผลการเจาะเลือดแล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะรายงานให้ทราบทาง website นี้

  23. การตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสหัด ตรวจหา IgM ด้วยวิธี ELISA(ผู้ป่วยทุกราย) เจาะเลือดครั้งเดียว ช่วง 4-30 วัน หลังผื่นออก เจาะ 3-5 มล. ดูด serum ส่งกรม/ศูนย์วิทย์ฯภายใต้ระบบลูกโซ่ความเย็น (ไม่ควรเก็บ serum ไว้นานเกิน 3 วัน) รายงานผลได้ภายใน 48 ชั่วโมง

  24. ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บตัวอย่างระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บตัวอย่าง ที่มา : ฝ่ายไวรัสระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิต NIHกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

  25. เกณฑ์ในการออกสอบสวนโรคในพื้นที่เกณฑ์ในการออกสอบสวนโรคในพื้นที่ มีผู้ป่วยสงสัยโรคหัดเป็นกลุ่มก้อน เมื่อสอบสวนผู้ป่วย Index case แล้วพบว่าผู้สัมผัสใกล้ชิดมีอาการป่วยสงสัยโรคหัดร่วมด้วย ผู้ป่วย Index case มีผลการตรวจMeasles IgM ให้ผลบวก ผู้ป่วย Index case มาจากพื้นที่ที่ความครอบคลุมของวัคซีนต่ำได้แก่ - Measles หรือ MMR เข็มที่ 1 ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในเด็กอายุ 1 - 2 ปี (นับจากวันเริ่มป่วยของผู้ป่วย index case) ในระดับตำบล - MMR เข็มที่ 2 ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียน

  26. เพื่อยืนยันเชื้อก่อโรคและสายพันธุ์ หาที่มาของการระบาดและควบคุมโรค • การสอบสวนเหตุการณ์การระบาด(outbreak investigation) กรณีที่เกิดโรคเป็นกลุ่มก้อน ให้ทำการสอบสวนการระบาดทันทีโดย - ใช้แบบสอบสวนโรคเฉพาะราย (ME1 form) หรือทะเบียนผู้ป่วยในการสอบสวนเหตุการณ์การระบาดของโรคหัด(ME2 form) - เก็บสิ่งส่งตรวจในผู้ป่วยสงสัย ได้แก่ Measles IgM ประมาณ 10 – 20 ตัวอย่าง ของผู้ป่วยสงสัยในเหตุการณ์ - สุ่มตัวอย่าง Throat / Nasal swab จำนวนไม่เกิน 5 ตัวอย่างเพื่อส่งตรวจ Genotype ของไวรัสโรคหัด ด้วยวิธี PCR

  27. การตรวจวิเคราะห์หาสายพันธุ์ของไวรัสหัดการตรวจวิเคราะห์หาสายพันธุ์ของไวรัสหัด • (เฉพาะเมื่อสอบสวนการระบาดที่เป็นกลุ่มก้อน) • Throat swab : 1-5 วัน หลังผื่นออก • Nasal swab:1-5 วัน หลังผื่นออก • รายงานผลได้ภายใน 1 เดือน

  28. แบบสอบสวนเหตุการณ์การระบาด(ME2 form)

  29. วัคซีน : ความหมายในการป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรค เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพ ในการป้องกันโรค แต่ ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการควบคุมโรค

  30. Pop. 10,000 Coverage 90% 9000 (90% มีseroconversion rate) 1000(50%เป็นโรคหัด) 8100 900(50% เป็นโรคหัด) 450 500

  31. = อัตราป่วยของผู้ไม่ได้รับวัคซีน - อัตราป่วยของผู้ที่ได้รับวัคซีน อัตราป่วยของผู้ไม่ได้รับวัคซีน = 500 - 450 = 0.5 - 0.05 1000 9000 0.5 500 1000 = 0.45 = 90% 0.5 Vaccine efficacy X 100 X 100 X 100 X 100

  32. แนวทางการป้องกันควบคุมการระบาดโรคหัด  แนวทางการตรวจสอบและให้วัคซีน เพื่อการกำจัดโรคหัด การเบิกวัคซีนและการกระจายวัคซีน MMR

  33. แนวทางการตรวจสอบและให้วัคซีนเพื่อการกำจัดโรคหัดแนวทางการตรวจสอบและให้วัคซีนเพื่อการกำจัดโรคหัด  ระยะก่อนเกิดโรค ระยะที่มีการระบาด

  34. ระยะก่อนเกิดโรค • ตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีน ของเด็กในพื้นที่ และการให้วัคซีนเพิ่มเติม (เก็บตก) • 2. ให้วัคซีนเสริมในประชากรกลุ่มเสี่ยงสูง ก่อนเกิดโรค

  35. ระยะก่อนเกิดโรค 1. การตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีน ของเด็กกลุ่ม เป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบและการให้วัคซีนเพิ่มเติม 1.1 การได้รับวัคซีน M/MMR ของเด็กอายุครบ 1 ปี 1.2 การได้รับวัคซีน M/MMR ของเด็ก < 7 ปี 1.3 การได้รับวัคซีน M/MMR ของเด็ก ป.1 – ม.6 1.4 สถานบริการไม่มีหลักฐานการได้รับวัคซีนของกลุ่มเป้าหมาย ตาม 1.1 – 1.3

  36. ระยะก่อนเกิดโรค ตรวจสอบระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีน MMR ในกลุ่มเป้าหมายรายไตรมาส (>95%) ครั้งที่ 1 : เด็กอายุ 9-12 เดือน ครั้งที่ 2 : นักเรียนชั้น ป. 1

  37. การให้วัคซีน MMRในเด็กก่อนวัยเรียนจำแนกตามประวัติการได้รับวัคซีน

  38. การให้วัคซีน MMRในเด็กวัยเรียนจำแนกตามประวัติการได้รับวัคซีน

  39. ระยะก่อนเกิดโรค • ตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีน ของเด็กในพื้นที่ และการให้วัคซีนเพิ่มเติม (เก็บตก) • 2. ให้วัคซีนเสริมในประชากรกลุ่มเสี่ยงสูง ก่อนเกิดโรค

  40. ระยะก่อนเกิดโรค 2. การให้วัคซีนเสริมในประชากรกลุ่มเสี่ยงสูง @ เด็กที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร @ เด็กด้อยโอกาส @ เด็กในกลุ่มแรงงานต่างชาติ

  41. กรณีไม่มีหลักฐานการได้รับวัคซีน กรณีไม่มีหลักฐานการได้รับวัคซีน ของเด็กก่อนวัยเรียน/วัยเรียน (1.4) • กรณีมีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ (2) สสอ./สสจ. วางแผนรณรงค์ให้MMRแก่เด็กทุกคนโดยไม่คำนึงถึงประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการได้รับวัคซีนในอดีต

  42. พบผู้ป่วยสงสัยโรคหัด 2 ราย ภายใน 14 วัน ในหมู่บ้าน/ชุมชน/สถานที่มีบุคคลรวมกันเป็นจำนวนมาก แนวทางการให้วัคซีนเมื่อพบผู้ป่วยสงสัยโรคหัด พบผู้ป่วยสงสัยโรคหัด 1 ราย ดำเนินการเช่นเดียวกับ ในระยะก่อนเกิดโรค ดำเนินการควบคุมโรค

  43. พบผู้ป่วยสงสัยโรคหัด 2 ราย ภายในระยะเวลา 14 วัน ในหมู่บ้าน/ชุมชน/สถานที่มีบุคคล รวมกันเป็นจำนวนมาก เกณฑ์การระบาด

  44. แนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัดแนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัด เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ < 7 ปี)  เด็กวัยเรียน  ผู้ใหญ่  พื้นที่ใกล้เคียงที่ยังไม่มีการระบาด เกิดการระบาดโรค 1 2 ระยะฟักตัว (8-12 วัน)

  45. การระบาดในเด็กก่อนวัยเรียน (อายุต่ำกว่า 7 ปี) ประเมินสภาพการดำเนินงานป้องกันโรคในพื้นที่

  46. แนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัดแนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัด เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ < 7 ปี)  เด็กวัยเรียน  ผู้ใหญ่  พื้นที่ใกล้เคียงที่ยังไม่มีการระบาด เกิดการระบาดโรค 1 2 ระยะฟักตัว (8-12 วัน)

  47. ดูหลักฐานยืนยัน ได้รับไม่ได้รับ/ไม่สามารถประเมิน/ไม่แน่ใจ ไม่ต้องให้ MMRให้ MMR  ควรให้แล้วเสร็จภายใน 72 ชม. หลังรับรายงานผู้ป่วยรายแรก **เด็กที่มีหลักฐานว่าได้ MMR เมื่ออายุ 4-6 ปี ไม่ต้องให้ MMR ในการควบคุมโรค การระบาดในเด็กวัยเรียน (ป.1-ม.6) ตรวจสอบประวัติการได้รับ MMR เมื่อเข้าเรียนชั้น ป.1**ของเด็กแต่ละคนทุกชั้นเรียน

  48. แนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัดแนวทางการให้วัคซีนป้องกันและควบคุมโรคหัด เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ < 7 ปี)  เด็กวัยเรียน  ผู้ใหญ่  พื้นที่ใกล้เคียงที่ยังไม่มีการระบาด เกิดการระบาดโรค 1 2 ระยะฟักตัว (8-12 วัน)

  49. ประเมินอัตราป่วยรายกลุ่มอายุตามประเมินอัตราป่วยรายกลุ่มอายุตาม “แบบประเมินอัตราป่วยเพื่อขอรับวัคซีน MMR ในการควบคุมโรค” การระบาดในผู้ใหญ่ 1. ผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนปี 2533 กลุ่มอายุ & ขอบเขตการให้วัคซีน ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน และแบบประเมินฯ

  50. 2. ผู้ใหญ่ที่เกิดตั้งแต่ปี 2533 ตรวจสอบการได้รับ MMR เมื่อเข้า ป.1 การระบาดในผู้ใหญ่ (ต่อ)

More Related