480 likes | 625 Views
PART 1. ขอบเขตการบริหารงานโครงการ (SCOPE) = เวลา (T: Time) + ทรัพยากร (R: Resources) ประกอบด้วยข้อ Course Description ข้อ 1-2. แนวทางการบริหารจัดการโครงการที่ดี (Scope = Resources + Time).
E N D
PART 1. ขอบเขตการบริหารงานโครงการ (SCOPE) = เวลา(T: Time) + ทรัพยากร (R: Resources)ประกอบด้วยข้อ Course Description ข้อ1-2
แนวทางการบริหารจัดการโครงการที่ดี (Scope = Resources + Time) แกนตั้งการสร้างความพร้อม จัดสรรทรัพยารที่จำกัดของโครงการ CSF of ICT Infrastructure (CBIS/ TBIS) คือ>> ออกแบบ การคิด ~40% -50%ขั้นตอน 1 การศึกษา วิเคราะห์ และออก แบบเป้า ประสงค์ กระบวนงานและข้อมูล • Goals • Architecture การทำ ~30% -40% ขั้นตอน 2 การจัดทำ และพัฒนา ซอฟต์แวร์ • Business • Process • Architecture • Data • Architecture • Application • Architecture ขอบเขต การบริหารโครงการไอทีที่ดี • ICT • Infrastructure • Architecture • ICT • Good Governance • Architecture กำหนดกรอบ เวลา….> ทบทวน • People ware • Hardware/ Software Of Computer and Network ทบทวน • INFORMATION การแก้ไข ปิดโครงการ ~-30% -10% ขั้นตอน 3 การทดสอบและปรัประบบ ฝึกอบรม ใช้งาน และจัดการศูนย์ข้อมูล.เพื่อ MA • BUSINESS RULE / ACTS:- Structured Rules / Code of Conducts/ ETHICS ทบทวน ทบทวน • BUDGETS บรรลุแผนICT ขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่า 4 ส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันการบริหารจัดการที่ดี ตามแผนแม่บท ICT / SISP กระบวนงานICTขับ เคลื่อนห่วงโซ่คุณค่า 3 Software Back Bone ขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่า 2 Digital Firms ขับ เคลื่อนห่วงโซ่คุณค่า 1
การใช้ปัจจัยทรัพยากร /INPUTที่มีความพร้อมเป็นทรัพยากรนวัตกรรมDNA การบริหารจัดการที่ทันสมัย CBIS, TBIS ขอบเขตการบริหารจัดการ =เวลาคิด- ทำ -แก้+ ทรัพยากรที่มีความพร้อม Modern DNA Innovation การใช้เวลา 2 การทำงาน 10% นำแผนยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ: จัดทำเป็นยุทธ วิธีลงสู่ปฏิบัติ Software Engineering การใช้เวลา 1การคิด 75% จัดการวางแผน ยุทธศาสตร์ Systems Analysis and Design เวลาที่ใช้ในเรื่องการจัดการอะไร VS. คิด ทำ แก้ รูปที่ 1-4 การบริหารโครงการ Project Management VS. การบริหารการเปลี่ยนแปลง VS. การบริหารการพัฒนา การใช้เวลา 3 การแก้ไขคาดการณ์ 15% ปัญหาSWOTติดตามประเมินสถานการณ์ สิ่งแวดล้อมเพื่อตั้งเป็นวัตถุประสงค์องค์กร Software Project / Risk Management
Inheritance ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ SW Reuse Component รูปที่ 1-4 โครงการ Project VS. การบริหารการเปลี่ยนแปลง VS. การบริหารการพัฒนา Inheritance ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ SW Reuse Component • การใช้ปัจจัยทรัพยากร /INPUTที่มีความพร้อมเป็นทรัพยากรนวัตกรรมDNA การบริหารจัดการที่ทันสมัย CBIS, TBIS ขอบเขตการบริหารจัดการ =เวลาคิด- ทำ -แก้+ ทรัพยากรที่มีความพร้อม Modern DNA Innovation การใช้เวลา 2 การทำงาน 10% นำแผนยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ: จัดทำเป็นยุทธ วิธีลงสู่ปฏิบัติ Software Engineering การใช้เวลา 1การคิด 75% จัดการวางแผน ยุทธศาสตร์ Systems Analysis and Design การใช้เวลา 3 การแก้ไขคาดการณ์ 15% ปัญหาSWOTติดตามประเมินสถานการณ์ สิ่งแวดล้อมเพื่อตั้งเป็นวัตถุประสงค์องค์กร Software Project / Risk Management Inheritance ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ SW Reuse Component Inheritance ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ SW Reuse Component เวลาที่ใช้ในเรื่องการจัดการอะไร VS. คิด ทำ แก้
1. ระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อมยุคต่างๆ (Environmental Nature of Entity Metaphysics and Ontology) 3. CO- OPERATORS:- Information Processors 2. ระบบมนุษย์สร้างขึ้น (Manmade Systems) ตัวอย่างกฎเกณฑ์ ระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่แน่นอน
Intellectual Property Information Processor (Value Chain1) อริยสัจสี่/STRATEGY WISDOM ภูมิปัญญา Information Processor (Value Chain6) SOCIO-cultural INNOVATION/ MBO Information Processor (Value Chain5) Science Methodology / MBO Knowledge DATA Information Processor (Value Chain4) Inter-disciplinary RESEARCH/ MBO Information Information Processor (Value Chain3) Computer Science / MBO Information Processor (Value Chain2) Data Processing / MBO FACT สัจจธรรม Information Processor (Value Chain1) การบริหารจัดการอริยสัจสี่ / การบริหารการเปลี่ยนแปลง / การบริหารยุทธศาสตร์ / การบริหารการพัฒนา เพื่อเข้าสู่สัจจธรรม / การบริหารระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อม / STRATEGY ENTITY ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม การบริหารโครงการ คือ การบริหารการเปลี่ยนแปลง คือยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่ดี ตามธรรมชาติ อริยสัจสี่ (NATURAL ENTITY) ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม Information World / Knowledge Society
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) • ระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เป็น ENTITY เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่แน่อน ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา • สิ่งมีชีวิตทั้งธรรมชาติฯ และมนุษย์ พึ่งพากัน มนุษย์ มีIQ, EQ ไม่ยอมให้ธรรมชาติฯ เปลี่ยนแปลงตามยถากรรมเพราะจะกระทบมนุษย์ด้วยความรู้สึกและเรียนรู้ ดังนั้น มนุษย์จะทำการถ่ายทอด DNA ของมนุษย์สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติฯ เข้าสู่วิถีชีวิตของมนุษย์ได้ ให้อยู่รอด ยั่งยืน มากที่สุด • 3. วิธีการ ควบคุมการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติฯได้ เรียกว่า การพัฒนา(Development)ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรือทฤษฎีกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสมัยใหม่ (Modernization)
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 1 • กระบวนการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสมัยใหม่ จะต้องมีการกำหนดแนวความคิด และทิศทาง หรือเป้าหมายการพัฒนา คือการมีแผน (Plan) หรือ มีแผนพัฒนา (Development Plan) เพื่อจะวางกรอบในการประยุกต์ใช้ประโยชน์ ทรัพยากรและเวลา ให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าสูงสุด (Value Chain) โดยกระบวนการทำงานของตัวประมวลผลสารสนเทศแบบ IPO Logic และการใช้เครื่องมือนวัตกรรมเทคโนโลยี • แผนพัฒนา (Development Plan) จะประกอบด้วยแผนงานของ Entity Class ต่างๆโดยแต่ละแผนงาน จะประกอบด้วย จำนวนโครงการหลากหลาย ที่เกี่ยวข้องกันรวมเป็นแผนงานเดียวกัน
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 2
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 3
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 4
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 5
Events เหตุการณ์ที่กำหนดเป็นเงื่อนไขเพื่อทำให้ Method ทำงานได้ • ตัวชี้วัดความสัมฤทธิ์ผลของกิจกรรม Key Performance Indicators / KPI 7. Inheritance การเลียนแบบ สำเนา หน้าที่การทำงานของ Method ที่มีอยู่ก่อน หน้าแล้ว นำมาสืบทอดพฤติกรรม เป็นการ ทำงานของ Method ใหม่เพื่อนำกลับมาใช้ ใหม่ได้ ในลักษณะของกระบวนงานที่เป็น สากล ที่ครบวงจรทั้ง IPO Cycle 7. การติดตามทบทวน การประยุกต์ใช้ประโยชน์ ประหยัดและประสิทธิภาพของแผน แผนงาน โครงการ กิจกรรมเป็นไปตามตัวชี้วัด KPI เพื่อให้ครบวัฏจักรการพัฒนาตามแผนพัฒนา 1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)ต่อ 6
2. การวางแผนดำเนินงานโครงการ • การวางแผนโครงการคือ การจัดทำเอกสารที่เกี่ยวกับการคาดคะเน ความสัมฤทธิ์ผลที่จะได้รับ และตอบสนองความต้องการของผู้ที่จะได้รับเมื่อจบโครงการ ภายใต้การดำเนินการโครงการและการควบคุม ตามข้อกำหนดของผลงาน ระยะเวลา งบประมาณที่มีอยู่ ด้วยเหตุผลและหลักการดังนี้ • 1.1 ความสัมฤทธิ์ผลที่จะได้รับ มีความหมายถึง • ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบของโครงการคืออะไร สามารถตอบสนองความต้องการ ผลประโยชน์ของผู้ที่จะได้รับเมื่อจบโครงการ จะทำให้คุณภาพ และปริมาณงานของแผนงานประจำ ดีขึ้น มีความรวดเร็วขึ้น มีขั้นตอนน้อยลง การให้บริการรวดเร็วลูกค้าพึงพอใจ ส่งผลทำให้การประหยัดค่าใช้จ่าย ปัจจัยจำเป็นต่อการบริหารงาน ที่ต่อเนื่อง มีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมสนับสนุนในการปฏิบัติงานได้ง่าย
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 1 1.2 การดำเนินงานโครงการ หมายถึงการกำหนดรายละเอียดกิจกรรมและงบประมาณ ที่จะใช้ ในแต่ละระยะเวลา ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานจริง เริ่มดำเนินการจริง ระหว่างดำเนินการ และการสิ้นสุดของแต่ละกิจกรรม และกิจกรรมหลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยมีกำหนดการ ควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ประเมินผลงานแต่ละกิจกรรม ให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าเพิ่ม ประสานเชื่อมโยงกัน จนบรรลุผลสัมฤทธิ์ 1.3 การควบคุม คุณภาพและปริมาณผลงานในกิจกรรม เวลา และงบประมาณโครงการ ให้สอดรับกับ องค์ประกอบแผนงานต่อไปนี้คือ ขั้นการวิเคราะห์ ขั้นการออกแบบการพัฒนา เตรียมเอกสาร ฝึกอบรม และการนำระบบมาใช้งานจริงแต่ละกิจกรรมก็จะประกอบด้วย งานย่อยแยกไปอีก ในหัวข้อนี้ได้แก่ การคาดคะเนเวลา และการเตรียมตารางการทำงาน คาดคะเนค่าใช้จ่าย ผลประโยชน์ที่จะได้รับ
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 2 แผนงาน กับ โครงการ ต่างกันอย่างไร พิจารณาภายใต้ IPO Logic 2.1 ความหมายแผน(Plan) ในฐานะมองเป้าหมาย-นิโรธ ที่จะบรรลุ คือ งานที่ควรจะทำในอนาคตให้สัมฤทธิ์ผล ในระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยเหตุผลและหลักการคือ 2.1.1 งานที่ควรจะทำคือการแก้ไขปัญหาความจำเป็นพื้นฐาน (Needs) เพื่อมีวินัยความพร้อม ที่เป็นปัจจัยจำเป็นขั้นพื้นฐานต่อการผลิตผลผลิตที่ต่อเนื่อง (SUPPLY) ให้บรรลุห่วงโซ่อุปทานที่มีห่วงโซ่คุณค่า (Supply Chain and Value Chain) 2.1.2 งานที่มีอัตถประโยชน์สูงสุด (Wants Utilization) เพื่อส่วนรวมมากกว่าเพื่อส่วนตัว 2.1.3 งานที่มีห่วงโซ่คุณค่าเพิ่มสูง ส่งผลให้เกิดเกิดพลังให้เกิดอำนาจการซื้อ (Purchasing Power) ตามบริบทนวัตกรรมสังคมวัฒนธรรม หรือตามธรรมชาติสิ่งแวดล้อมกำหนด (DEMAND)
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 2 2.2 ความหมายแผน ในฐานะมองวิธีการ-มรรค คือกระบวนการ สร้างฐานแนวความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ในการกำหนดแนวทาง (หรือ การชี้แนวทางหรือชี้ช่องทาง หรือเป็นดัชนีชี้วัดการดำเนินการ) ไปสู่งานที่ควรจะทำในอนาคตฯ 2.3 ผลผลิตของแนวความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ในการกำหนดแนวทางไปสู่งานที่ควรจะทำในอนาคตฯ คือการลงมือปฏิติการจัดทำแผนงานขึ้นมาเรียกว่า หรือการจัดทำแผนงาน หรือการวางแผนงาน (Planning) ซึ่งหลังจากมีกระบวนการจัดทำแผนงานขึ้นมาแล้วจะได้ผลผลิตเรียกว่า แผนงาน(Plan)
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 3 2.4 สรุป ความสำคัญของ การวางแผนงาน planning แลโครงการ คือหน้าที่พื้นฐาน อันแรกของการทำหน้าที่บริหาร กำหนดกฎเกณฑ์ในรายละเอียดของความหลากหลายของแผนงาน แต่ละแผนงาน มีองค์ประกอบของโครงการหลากหลายโครงการที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันรวมกันเป็นแผนงาน ซึ่งส่งผลทำให้แผนงานทั้งหมด ได้มีการประสานเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน กลายเป็นแผนพัฒนาระบบงานทั้งระบบ เพื่อบรรลุความสัมฤทธิ์ผลสูงสุด และสอดรับกับความจำเป็นและความต้องการสูงสุด ในการใช้ทรัพยากรได้ตลอดเวลา เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการวางแผนงาน ดังนี้
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 4 • กำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่สัมฤทธิ์ผล • ปรับกลยุทธ์ที่จะเป็นระเบียบวิธีการนำไปสู่ การบรรลุวัตถุประสงค์ • จัดสร้างระเบียบวิธีการ กำหนดไว้ในกลยุทธ์ เพื่อบรรลุความต้องการ • ลงมือนำระเบียบที่กำหนดมาดำเนินการ ติดตาม สั่งการ ตามลำดับทุกขั้นตลอดอย่างต่อเนื่อง
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 5 3. โครงการ Project คืออะไร • การวางแผนเฉพาะเรื่อง หรือการออกแบบงานใหม่ให้ดีกว่าระบบงานเดิมที่มีอยู่เป็นอยู่ “A specific plan or design” • การจัดงานโครงการต้องมีการวางแผน และหรือนำแนวความคิดรวบยอดของแผนมาใช้งานอย่างเต็มที่ “A planned undertaking”
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 6 ลักษณะของโครงการ เพิ่มงานที่เป็นอยู่เดิมดีขึ้น บรรลุวิสัยทัศน์ของงานมากขึ้น เร็วขึ้น A task is more ‘project-like’ if it is: • เป็นภารกิจใหม่ Non-routine • มีการทำงาน อย่างมีแผน ตามแผนทำงานทุกขั้นตอน Planned • มีเป้าหมายที่เสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนด Aiming at a specific target • ทำงานเพื่อตอบสนองผู้ใช้ ลูกค้า Work carried out for a customer • ใช้ทีมงานที่เก่งหลากหลายด้าน จากหลากหลายหน่วยงานมาเป็นทีมงานเดียวกัน Matrix Organization/ Mission impossible/ Involving several specialists / Inter-disciplinary
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 7 ลักษณะของโครงการ ต่อ 1 • สร้างงานโครงการมีสาระสำคัญในการพัฒนา หลากหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนสามารถประสานเชื่อมโยงก่อให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าเพิ่มในภาพรายละเอียดและภาพรวม Made up of several different phases • อุปสรรคความล้มเหลวของโครงการขึ้นกับความสามารถในการบริหาร ภายใต้สูตร กรอบระยะเวลาที่กำหนด ผนวกกับปัจจัยทรัพยากร ที่มีความพร้อมและมีอยู่Constrained by time and resources • ความท้าทายโครงการคือ ปริมาณงานใหม่ๆ ผสมผสานกับของเดิมที่มีปริมาณมาก และมีความซับซ้อนของกระบวนงาน ข้อเท็จจริง ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ ภูมิปัญญา ของทีมจัดการโครงการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของหน่วยงาน Large and/or complex
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 7 ลักษณะของโครงการ ต่อ 2 • การบริหารโครงการ เป็นการเร่งรัด ส่งเสริม สนับสนุน และผลักดัน พลังขับเคลื่อนการทำงานตามแผนงานประจำต่อเนื่อง ที่ล้าช้า มีปัญหามาก ให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสมัยใหม่ (Modernization) ซึ่งเป็นลักษณะที่ต้องการอาศัยทฤษฎีการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างมีระบบ หรือทฤษฎีการบริหารการพัฒนา เช่น การบริหารจัดการมุ่งผลสัมฤทธิ์ (RBMS) หรือ การบริหารเชิงกลยุทธ์ • การบริหารโครงการต้องใช้เครื่องมือการบริหารเชิงนวัตกรรมสังคมวัฒนธรรม (Socio-cultural Innovation) เป็น DNA ในการออกแบบระบบงานอย่างสร้างสรรค์และมีธรรมาภิบาล
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 8 ลักษณะของโครงการ ต่อ 3 • การบริหารโครงการ เป็นการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน จะต้องมีการดำเนินการวางแผนบริหารความสี่ยง ที่มั่นคงปลอดภัย • การบริหารโครงการ เป็นแผน การประยุกต์ใช้ประโยชน์ฐานความคิด ความรู้ ความเข้าใจของผู้นำ ของผู้คิดค้น และหรือผู้ผลิตจัดทำเอกสารโครงการ ขึ้นมา เป็นแผนงาน เพื่อทำให้และหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้นำ ผู้บริหารโครงการสามารถนำเอกสารโครงการมาบริหารจัดการให้ สัมฤทธิ์ผล ต่อเนื่องได้อย่างกลมกลืนกันตามผังภาพ
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 9 ลักษณะของโครงการ ต่อ 4 http://www.visualthesaurus.com
2. การวางแผนการดำเนินงานโครงการ ต่อ 10- Page 45 http://en.wikipedia.org/wiki/Project_management Project management is the discipline of planning, organizing, and managingresources to bring about the successful completion of specific project goals and objectives. It is sometimes conflated with program management, however technically a program is actually a higher level construct: a group of related and somehow interdependent projects. A project is a temporary endeavor, having a defined beginning and end (usually constrained by date, but can be by funding or deliverables[1]), undertaken to meet unique goals and objectives[2], usually to bring about beneficial change or added value. The temporary nature of projects stands in contrast to business as usual (or operations)[3], which are repetitive, permanent or semi-permanent functional work to produce products or services. In practice, the management of these two systems is often found to be quite different, and as such requires the development of distinct technical skills and the adoption of separate management. The primary challenge of project management is to achieve all of the project goals[4] and objectives while honoring the preconceived project constraints.[5] Typical constraints are scope, time, and budget.[1] The secondary—and more ambitious—challenge is to optimize the allocation and integration of inputs necessary to meet pre-defined objectives.
History of project management Roman Soldiers Building a Fortress, Trajan's Column113 AD Project management has been practiced since early civilization. Until 1900 civil engineering projects were generally managed by creative architects and engineers themselves, among those for example Vitruvius (1st century BC), Christopher Wren (1632–1723) , Thomas Telford (1757-1834) and Isambard Kingdom Brunel (1806–1859) [6] It was in the 1950s that organizations started to systematically apply project management tools and techniques to complex projects.[7] Henry Gantt (1861-1919), the father of planning and control techniques. As a discipline, Project Management developed from several fields of application including construction, engineering, and defense activity.[8] Two forefathers of project management are Henry Gantt, called the father of planning and control techniques[9], who is famous for his use of the Gantt chart as a project management tool; and Henri Fayol for his creation of the 5 management functions which form the foundation of the body of knowledge associated with project and program management.[10] Both Gantt and Fayol were students of Frederick Winslow Taylor's theories of scientific management. His work is the forerunner to modern project management tools including work breakdown structure (WBS) and resource allocation. The 1950s marked the beginning of the modern Project Management era. Project management became recognized as a distinct discipline arising from the management discipline.[11] In the United States, prior to the 1950s, projects were managed on an ad hoc basis using mostly Gantt Charts, and informal techniques and tools. At that time, two mathematical project-scheduling models were developed. The "Critical Path Method" (CPM) was developed as a joint venture between DuPont Corporation and Remington Rand Corporation for managing plant maintenance projects. And the "Program Evaluation and Review Technique" or PERT, was developed by Booz-Allen & Hamilton as part of the United States Navy's (in conjunction with the Lockheed Corporation) Polaris missile submarine program;[12] These mathematical techniques quickly spread into many private enterprises.
Henry Gantt (1861-1919), the father of planning and control techniques. As a discipline, Project Management developed from several fields of application including construction, engineering, and defense activity.[8] Two forefathers of project management are Henry Gantt, called the father of planning and control techniques[9], who is famous for his use of the Gantt chart as a project management tool; and Henri Fayol for his creation of the 5 management functions which form the foundation of the body of knowledge associated with project and program management.[10] Both Gantt and Fayol were students of Frederick Winslow Taylor's theories of scientific management. His work is the forerunner to modern project management tools including work breakdown structure (WBS) and resource allocation. The 1950s marked the beginning of the modern Project Management era. Project management became recognized as a distinct discipline arising from the management discipline.[11] In the United States, prior to the 1950s, projects were managed on an ad hoc basis using mostly Gantt Charts, and informal techniques and tools. At that time, two mathematical project-scheduling models were developed. The "Critical Path Method" (CPM) was developed as a joint venture between DuPont Corporation and Remington Rand Corporation for managing plant maintenance projects. And the "Program Evaluation and Review Technique" or PERT, was developed by Booz-Allen & Hamilton as part of the United States Navy's (in conjunction with the Lockheed Corporation) Polaris missile submarine program;[12] These mathematical techniques quickly spread into many private enterprises.
PERT network chart for a seven-month project with five milestones At the same time, as project-scheduling models were being developed, technology for project cost estimating, cost management, and engineering economics was evolving, with pioneering work by Hans Lang and others. In 1956, the American Association of Cost Engineers (now AACE International; the Association for the Advancement of Cost Engineering) was formed by early practitioners of project management and the associated specialties of planning and scheduling, cost estimating, and cost/schedule control (project control). AACE continued its pioneering work and in 2006 released the first integrated process for portfolio, program and project management (Total Cost Management Framework). The International Project Management Association (IPMA) was founded in Europe in 1967,[13] as a federation of several national project management associations. IPMA maintains its federal structure today and now includes member associations on every continent except Antarctica. IPMA offers a Four Level Certification program based on the IPMA Competence Baseline (ICB).[14] The ICB covers technical competences, contextual competences, and behavioral competences. In 1969, the Project Management Institute (PMI) was formed in the USA.[15] PMI publishes A Guide to the Project Management Body of Knowledge (PMBOK Guide), which describes project management practices that are common to "most projects, most of the time." PMI also offers multiple certifications.
Click Continue… SWPROJECT-Management Ads by GoogleWorldwide Health planAward-Winning Health Insurance For Expats. Get A Quote & Buy Online!www.GoodHealthWorldwide.comING Life InsuranceLife Insurance Company for Expat More than 15 Years of Experiencewww.Kuvanant.com+ 1000 houses in FrancePersonal assistance in english where you need it: in France !www.immoboulevard.complan (pl n) n. 1. A scheme, program, or method worked out beforehand for the accomplishment of an objective: a plan of attack. 2. A proposed or tentative project or course of action: had no plans for the evening. 3. A systematic arrangement of elements or important parts; a configuration or outline: a seating plan; the plan of a story. 4. A drawing or diagram made to scale showing the structure or arrangement of something. 5. In perspective rendering, one of several imaginary planes perpendicular to the line of vision between the viewer and the object being depicted. 6. A program or policy stipulating a service or benefit: a pension plan.