400 likes | 554 Views
สักการะสถาน แม่พระ DIVINO AMORE ( ความรักพระเจ้า ) โดย คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์. วัดหลังแรก ปี 1745. ภาพวาดต้นฉบับ แม่พระแห่งความรักพระเจ้า Divino Amore ตั้งอยู่เหนือแท่นภายในวัดหลังแรก. เราเองก็มาแสวงบุญยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพื่อคุกเข่าลงแทบเท้าพระรูปแห่งอัศจรรย์นี้
E N D
สักการะสถาน แม่พระ DIVINO AMORE ( ความรักพระเจ้า ) โดย คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์
ภาพวาดต้นฉบับ แม่พระแห่งความรักพระเจ้า Divino Amore ตั้งอยู่เหนือแท่นภายในวัดหลังแรก
เราเองก็มาแสวงบุญยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพื่อคุกเข่าลงแทบเท้าพระรูปแห่งอัศจรรย์นี้เราเองก็มาแสวงบุญยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพื่อคุกเข่าลงแทบเท้าพระรูปแห่งอัศจรรย์นี้ .....จอห์นปอลที่ 2
คริสตังไทย ไม่ค่อยคุ้นเคยกับสักการสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี นั่นคือ สักการะสถาน ดิวิโน อะโมเร (Divino Amore) ถ้าจะให้แปล ก็ต้องแปลว่า สักการสถาน “ความรักของพระเจ้า”น้อยคนมากในประเทศอิตาลีที่จะไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ เป็นความศรัทธาที่มีต่อรูปภาพของแม่พระรูปหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ของแม่พระแต่อย่างใด แต่เกี่ยวข้องกับอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากการภาวนาต่อหน้ารูปภาพรูปนี้ ซึ่งมีอยู่มากมายจนถึงปัจจุบันนี้
อัศจรรย์ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1740 สถานที่เกิดอัศจรรย์ เป็นปราสาทเก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “ปราสาทแห่งสิงโต”(Castello dei Leoni)ปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นบนที่ดิน ซึ่งแต่เดิม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1081 เป็นทรัพย์สินของอารามนักบุญเปาโล ต่อมา ตกเป็นของวัด Santa Sabina และตั้งแต่ปี ค.ศ.1295 ตกเป็นของครอบครัว Savelli ระหว่างปีนี้เองที่ครอบครัว Savelli สร้างปราสาทหลังนี้ขึ้น บริเวณหอของกำแพงปราสาทได้ติดรูปภาพวาดรูปหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นรูปที่วาดโดยสำนักศิลปะของ Pietro Cavallini แต่ด้วยสาเหตุใดแท้จริงไม่ปรากฏ คาดเดาว่า อาจเกิดจากแผ่นดินไหว ทำให้ปราสาทแห่งนี้พังลงมา และกลายเป็นสถานที่รกร้าง คงเหลือไว้แต่ส่วนหนึ่งของกำแพงและหอที่มีรูปวาดนี้ไว้เท่านั้น พวกคนเลี้ยงแกะที่เลี้ยงแกะอยู่บริเวณนี้จึงใช้เป็นที่พักผ่อน และเป็นที่สวดสายประคำต่อหน้ารูปวาดรูปนี้
สถานที่เกิดอัศจรรย์ครั้งแรก ภาษาลาตินแปลว่า มารดาแห่งความรักพระเจ้า
รูปภาพวาดนี้ เป็นรูปของพระนางพรหมจารีมารีอาประทับนั่งบนบัลลังก์ โดยมีพระเยซูกุมารในอ้อนแขน และมีนกพิราบอยู่เหนือศีรษะ นกพิราบนี้เป็นสัญลักษณ์ของพระจิตเจ้า พระจิตเจ้านี้เป็น “ความรักของพระเจ้า”จึงเป็นที่มาของชื่อภาพวาดนี้ “แม่พระแห่งความรักพระเจ้า” นักเดินทางผู้หนึ่ง บางทีอาจจะเป็นนักแสวงบุญผู้หนึ่ง เราไม่ทราบชื่อของเขา กำลังมุ่งหน้าไปมหาวิหารนักบุญเปโตร สมัยนั้นมักจะมีผู้แสวงบุญเดินทางไปสวดภาวนาหน้าหลุมศพนักบุญเปโตรบ่อยๆ แต่การเดินทางก็เสี่ยงไม่ใช่น้อย ทั้งจากการทำร้ายและการจี้ปล้น แต่ชายคนนี้หลงทาง และกำลังวิตกกังวลไปต่างๆ นานา มองเห็นหอกำแพงเก่าแห่งนี้ จึงมีความหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือ
ในขณะที่กำลังจะเดินผ่านหอเข้าไปภายในกำแพง เขาต้องเผชิญหน้ากับฝูงสุนัขดุร้าย ซึ่งเข้ามาล้อมเขาไว้ และดูเหมือนว่า จะไม่มีทางหลบหนีภัยมหันต์นี้ได้ ทำให้เขาตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก ชายผู้น่าสงสารผู้นี้ได้มองขึ้นไปยังหอ และเห็นภาพวาดของแม่พระ เขาจึงเปล่งเสียงทั้งหมดที่มีอยู่ กล่าวว่า “พระมารดาของข้าพเจ้า โปรดช่วยด้วย”สุนัขทุกตัวหยุดขู่กรรโชก และทั้งหมดก็สงบลงทันที ราวกับว่ามีใครสักคนหนึ่งสั่งพวกมันให้ทำเช่นนั้น หลังจากนั้น คนเลี้ยงแกะได้มาพบเขา และพาเขาไปชี้ทางเพื่อเดินทางไปกรุงโรม
อัศจรรย์แรก เมษายน 1740 ข้าแต่พระแม่ ช่วยลูกด้วย จุดเริ่มต้นแห่งอัศจรรย์
ชายผู้นี้ได้เล่าเรื่องที่ตนเองพบ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย คนเลี้ยงแกะหลายคนก็ได้เล่าเรื่องเหล่านี้ด้วย ทำให้มีผู้เดินทางมาสวดภาวนาต่อภาพวาดนี้มากขึ้นๆ และที่น่าอัศจรรย์ก็คือ คำวอนขอต่างๆ ได้กลับกลายมาเป็นคำขอบคุณสำหรับพระหรรษทานต่างๆ ที่ได้รับ จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ในที่สุด พระคาร์ดินัล Giovanni Antonio Guadagniซึ่งเป็น Vicario แห่ง Rome และเป็นสมาชิกในคณะคาร์แมลไม่สวมรองเท้า ตัดสินใจมาเยี่ยมสถานที่นี้ และกำหนดสถานที่เหมาะสมสำหรับรูปภาพศักดิ์สิทธิ์รูปนี้
แก้บนและขอบพระคุณสำหรับพระหรรษทานที่ได้รับ ช่างมากมายจริงๆ
ปีค.ศ.1742 ย้ายรูปภาพจากหอเก่าแก่ไปประทับไว้ที่วัดน้อย Santa Maria ad Magos การย้ายรูปครั้งนั้น ทำให้เกิดความเสียหาย จนกระทั่งต้องมีการซ่อมแซมกันต่อมาอีกหลายครั้งทีเดียว • 8 มีนาคม 1743 ย้ายรูปนี้ไปเก็บไว้ที่ Conservatorio di Santa Caterina della Rota รอให้มีการสร้างวัดใหม่ในสถานที่ที่เกิดอัศจรรย์ • 19 เมษายน 1745 สร้างวัดเสร็จสิ้น และย้ายรูปภาพนี้ มีฝูงชนจำนวนมากมาร่วมในขบวนแห่ครั้งนี้ พระสันตะปาปา เบเนดิ๊กต์ ที่ 14 ได้มอบพระคุณการุญครบบริบูรณ์แด่ผู้เข้าร่วมพิธีในโอกาสนี้ด้วย และใครก็ตามที่มาเยี่ยมสถานที่นี้ภายใน 7 วัน หลังจากการย้ายพระรูป ก็ได้รับพระคุณการุญครบบริบูรณ์เช่นเดียวกัน
31 พฤษภาคม 1750 โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ได้มอบถวายวัดนี้แด่ Divino Amore อย่างสง่า พร้อมทั้งให้คำอธิบายไว้ว่า “สตรีซึ่งน้อมรับที่จะเป็นมารดาของพระผู้ไถ่นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยพระจิตเจ้า” นั่นคือ Divino Amore ผู้ที่เป็นประธานในวันนั้น ได้แก่ สังฆราชแห่ง Padova คาร์ดินัล Carlo Renzonico ซึ่ง 8 ปีต่อมาได้รับเลือกเป็น Pope Clemente XIII นับแต่นั้นเป็นต้นมา สักการสถานแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการจาริกแสวงบุญ โอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งอัศจรรย์แรก 7 มิถุนายน 1840 ได้มีการสร้างสะพานและถนนหนทางเพิ่มขึ้น และกษัตริย์แห่งโปรตุเกส (Michele) ได้เข้าร่วมพิธีด้วย
อัศจรรย์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 4 มิถุนายน 1944 กองทัพนาซีถอนกำลังออกจากกรุงโรม ฝ่ายสัมพันธมิตรเดินเข้ากรุงโรมอย่างสง่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ โดยไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อเลย ทหารนาซียึดกรุงโรมอยู่เกือบ 9 เดือน ฝ่ายสัมพันธมิตรจำเป็นต้องขับไล่ทหารนาซีออกจากกรุงโรม การหลีกเลี่ยงโจมตีกรุงโรมจึงเป็นเรื่องยากมาก พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 2 เชิญชวนชาวโรมแห่แหนพระรูป Divino Amore ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในกรุงโรม และไปสวดภาวนาร่วมกันต่อหน้าพระรูปนี้ที่วัดนักบุญอิกญาซีโอที่กรุงโรมเอง ขอให้กรุงโรมพ้นจากการถูกโจมตี
รูปแม่พระถูกนำมาที่กรุงโรม เมื่อวันที่ 24 มกราคม 1944 • สัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่ Anzio วันที่ 22 มกราคม 1944 • รูปแม่พระได้รับการแห่แหนไปตามวัดต่างๆ ในกรุงโรม ตามถนนหนทาง และในเดือนพฤษภาคม 1944 เนื่องจากมีคลื่นมหาชนซึ่ง ต้องการเคารพพระรูป จึงถูกนำไปตั้งไว้ที่วัด Lorenzo in Lucina • สัมพันธมิตรทราบดีว่า 6 มิถุนายน 1944 เป็น “วันดีเดย์”(D-Day) จะ ยกพลขึ้นบกที่ Normandie ดังนั้น จำเป็นต้องขับไล่ทหารนาซีออกจากกรุงโรม เพื่อเสริมกำลังเข้าประเทศเยอรมันนี • 11-12 พฤษภาคม เริ่มสงครามยึดกรุงโรม เวลา 23.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม เริ่มยิงปืนใหญ่ถล่มเขตทหาร ที่ Eur, Appio เขตทหารใต้อาราม Montecassino
28 พฤษภาคม Pope Pio XII เริ่มอัฐมวารและนพวารแม่พระแห่ง Divino Amore ชาวโรมมาร่วมพิธีวันละประมาณ 15,000 คน จนทำให้วัด Lorenzo ไม่สามารถ รับได้ ต้องย้ายมาที่วัด Ignazio • 4 มิถุนายน 1944 วันสุดท้ายของอัฐมวารพระจิตเจ้า เวลา 18.00 น. อ่านคำบนบาน (Voto) ของชาวโรมต่อพระแม่แห่ง Divino Amore สัญญาว่า ชาวโรมจะแก้ไขพฤติกรรมทางศีลธรรม จะปฏิสังขรณ์สักการสถาน และจะจัดตั้งงานเมตตาในที่ที่เกิดอัศจรรย์ครั้งแรกนั้น Pope Pio XII ต้องการจะมาอยู่ร่วมด้วย แต่ ไม่สามารถออกจาก Vaticanได้ และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันนั้นเอง ฝ่ายนาซีได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังออกจากกรุงโรม และฝ่ายสัมพันธมิตรก็เดินทางเข้ากรุงโรม เวลา 19.45 น. โดยไม่มีการปะทะกันเลย • 11 มิถุนายน 1944 คลื่นมหาชนชาวโรม และ Pope Pio XII ได้นำสวดขอบพระคุณแม่พระที่วัด Ignazio ต่อหน้ารูปพระแม่แห่ง Divino Amore “พระแม่ปกครองกรุงโรมให้พ้นภัย”ตั้งแต่นั้น สักการสถานแห่งนี้ถือเป็นสักการสถาน แห่ง Rome และของทุกคน
Pope Pio XII นำชาวโรมขอบพระคุณสำหรับความช่วยเหลือ กรุงโรมปลอดภัย
Pio XII พร้อมกับ พระคุณเจ้า Montini (Pope Paolo VI) ยืนยันต่อหน้าพระรูป แม่พระว่าจะทำตามที่ได้บนไว้ วัดนักบุญอิกญาซีโอ 11 มิ.ย. 1944
ชาวกรุงโรมแห่พระรูปแห่งอัศจรรย์กลับไปส่งที่สักการะสถานชาวกรุงโรมแห่พระรูปแห่งอัศจรรย์กลับไปส่งที่สักการะสถาน
บุคคลสำคัญของสักการสถาน : Don Umberto Terenzi • ฟื้นฟูสักการสถาน เป็นเจ้าอาวาสที่นี่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931-1974 • 23 มกราคม 2004 ดำเนินเรื่องเป็นบุญราศีและนักบุญ • ท่านได้รับอัศจรรย์จาก Divino Amore จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ • ก่อตั้งคณะสงฆ์ Oblati di Divino Amore • ก่อตั้งคณะธิดาแม่พระแห่ง Divino Amoreปัจจุบันคณะนี้ทำงานอยู่ ในหลายประเทศ เช่น โคลัมเบีย บราซิล เปรู ฟิลิปปินส์ อินเดีย นิการากัว เป็นต้น
คุณพ่อ Umberto กับ Pope Pio ที่ 12 ระลึกถึงความเชื่อของชาวโรมที่มีต่อความศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ของพระรูป ในวันที่ 4 มิ.ย. 1944
บริเวณรอบๆ สักการะสถาน แต่เดิมเป็นบริเวณรกร้างและมีอันตรายจาก ฝูงสุนัข และการจี้ปล้นต่างๆ
อาคารบริเวณสักการะสถาน ใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจเมตตาต่างๆ สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำหรับคนชรา และผู้แสวงบุญ
สักการสถานใหม่ เริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 1944 Pope John Paul IIเปิดและเสกวันที่ 4 กรกฎาคม 1999 ปัจจุบัน สักการสถานแห่งนี้มีบ้านเข้าเงียบอบรม และเป็นที่สวดภาวนา มีคณะนักบวชที่คุณพ่อ Terenzi ตั้งขึ้น เป็นผู้ดูแลบ้านพักคนชรา
สักการะสถานแห่งใหม่ ทันสมัย สวยงาม สร้างขึ้นตามคำบนบานของชาวโรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 1944 แต่มีอุปสรรคหลายประการ สร้างเสร็จในสมัยพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2
พระรูปแม่พระ Divino Amore ในสักการะสถานแห่งใหม่
วัดน้อยในสักการะสถานแห่งใหม่ สำหรับเฝ้าศีลมหาสนิท สวดภาวนา ด้วยความสงบเงียบ
บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยความทันสมัย แต่ก็มีความรู้สึกยิ่งใหญ่และสงบ
โฉมหน้านักแสวงบุญคนไทย เข้าใจว่าเป็นบรรดาพระสงฆ์กรุงเทพฯ
ทางเข้าวัดน้อยพระจิตเจ้า เป็นที่สามารถถวายมิสซาได้ถ้าหากสักการะสถานไม่ว่าง สักการะสถานแห่งนี้ดูแลโดย นักบวชซึ่งตั้งขึ้นโดยคุณพ่อ Umberto มีทั้งคณะนักบวชชายและนักบวชหญิง
ภายในวัดน้อยพระจิตเจ้า ก็มีพระรูปแม่พระ ภาพนี้เป็นภาพวาดเลียนแบบแต่ก็มีผู้ที่มาสวดภาวนาต่อหน้าพระรูปด้วย เข้าใจว่าเป็นคริสตังไทย
ภายในวัดน้อยพระจิตเจ้า บรรยากาศขณะร่วมพิธีมิสซา
ก่อนจาก นี่คือรูปเลียนแบบของแม่พระแห่งความรักพระเจ้า (Divino Amore) ที่ติดตั้งอยู่บนกำแพงปราสาทเก่า บริเวณประตูกำแพง เป็นสถานที่ที่เกิดอัศจรรย์ครั้งแรก หากใครมีโอกาสไปกรุงโรม สักการะสถานแห่งนี้ เป็นอีกที่หนึ่งที่สมควรอย่างยิ่ง ที่จะไปแสวงบุญ ขอบอก