220 likes | 1.27k Views
ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY ). ผู้ ผูกขาดหมายถึง ( Monopolist ) ผู้ผลิตเพียงรายเดียวในตลาดสินค้าชนิดหนึ่งที่ไม่มีสินค้าชนิดอื่นทดแทนได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวจึงสามารถควบคุมราคา และปริมาณได้มากกว่าผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์. ลักษณะของตลาด ผูกขาด.
E N D
ผู้ผูกขาดหมายถึง ( Monopolist ) ผู้ผลิตเพียงรายเดียวในตลาดสินค้าชนิดหนึ่งที่ไม่มีสินค้าชนิดอื่นทดแทนได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวจึงสามารถควบคุมราคา และปริมาณได้มากกว่าผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์
ลักษณะของตลาดผูกขาด • มีผู้ขายหรือผู้ผลิตเพียงรายเดียว • ไม่มีสินค้าอื่นที่จะมาทดแทนสินค้าสินค้าที่ผูกขาดได้อย่างใกล้ชิด • การเข้าสู่ตลาดของผู้ผลิตรายใหม่ถูกปิดกั้นหรือเข้ามาด้วยความยากลำบาก • ผู้ผลิตแสวงหากำไรสูงสุด ผู้บริโภคแสวงหาความพอใจสูงสุด
สาเหตุของการเกิดตลาดผูกขาดสาเหตุของการเกิดตลาดผูกขาด • ผู้ผลิตเป็นเจ้าของหรือควบคุมวัตถุดิบในการผลิตสินค้าแต่เพียงผู้เดียว • ธุรกิจเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือได้รับสัมปทานในการผลิตและจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว • มี Economy of scale
ดุลยภาพระยะสั้นในตลาดผูกขาดดุลยภาพระยะสั้นในตลาดผูกขาด ผู้ผูกขาดจะต้องเลือกการผลิต ณ ระดับปริมาณและราคาที่ก่อให้เกิดกำไรสูงสุดถ้าการผลิตนั้นจะได้ภาวะดุลยภาพ ลักษณะเส้นอุปสงค์ • มีความยืดหยุ่นน้อย( Inelastic demand ) P = AR • อุปสงค์ของหน่วยผลิต เป็นเส้นเดียวกับอุปสงค์ตลาด เนื่องจากผู้ผลิตมีเพียงรายเดียว • ถ้าลดราคา ผู้ผลิตจะขายได้มากขึ้น
เส้นรายรับเพิ่ม ( Marginal Revenue ) • เส้นรายรับเฉลี่ย ( Average Revenue ) • เส้นราคา ( Price line ) ( P ) = D = AR • MR สองเท่าของ AR
MR =MC หรือผลิตที่ รายรับเพิ่ม = ต้นทุนเพิ่ม หรือ P เท่ากับหรือสูงกว่าต้นทุนผันแปรเฉลี่ย ได้กำไร P น้อยกว่า AC ขาดทุน • ขาดทุน ผลิตต่อ ถ้า P มากกว่า AVC ขาดทุนจะไม่ปิดกิจการ • ขาดทุน เลิกกิจการ ถ้า P น้อยกว่า AVC
เส้นอุปทานในระยะสั้น • ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ จะอยู่เหนือเส้น MC เพราะว่า P = MC • ในตลาดผูกขาด เส้นอุปทานไม่สามารถหาได้ เพราะว่า ราคา มากกว่า รายรับเพิ่ม และรายรับเพิ่มเท่ากับ • ต้นทุนเพิ่ม และไม่ทราบว่าราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะขายได้มากหรือน้อย จึงไม่สามารถอธิบาย • ความสัมพันธ์ระหว่าง P และ Q
การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกัน ( Price Discrimination ) ผู้ผูกขาดอาจมีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ซื้อและตั้งราคาขายให้แตกต่างกันเพราะว่าตัวเองเป็นผู้ผูกขาด มี 2 แบบ คือ • สินค้าชนิดเดียวกันหรือเหมือนกันจะถูกตั้งราคาขายให้แตกต่างกัน เมื่อขายให้ผู้ซื้อที่มีความแตกต่างกัน • ตั้งราคาที่ทำให้สัดส่วนของราคาต่อต้นทุนเพิ่มต่างกันในระหว่างผู้ซื้อแต่ละราย P1 / MC1 ไม่เท่ากับ P2 / MC2
การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันการตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกัน • จุดประสงค์ของผู้ผลิตก็เพื่อให้ได้รับรายได้มากที่สุด • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 1 ( First degree price discrimination ) ขายสินค้าให้ลูกค้าแต่ละคนราคาแตกต่างกัน แม้ว่าราคาสินค้าชนิดเดียวกัน ผู้ขายจะคิดราคาขายสินค้ากับผู้บริโภคแต่ละคนเท่ากับราคาสูงสุดที่ผู้บริโภคยินดีจ่าย เช่นการตั้งราคาของหมอ • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 2 การตั้งราคาเป็นช่วง ๆ คล้ายขั้นบันไดเช่นร้านขายเสื้อผ้ามีนโยบายขายเต็มราคาในชิ้นแรก และชิ้นต่อไปลด 50 % • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 3ตั้งราคาขายที่แตกต่างกันกับกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกัน เช่นเก็บค่าชมพิพิธภัณฑ์ คนไทยและต่างชาติคนละราคา