Troubleshooting with Sniffer Pro

1. Troubleshooting withSniffer Pro

2. เนื้อหาของการเรียนและการใช้ Sniffer Pro • ปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา • บทนำและแนวทางการทำงานของ Sniffer Pro • การติดตั้ง Sniffer Pro • ตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพในการใช้งานของเครือข่ายด้วย 7 Monitor Applications • การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่ายด้วย Sniffer Troubleshooting Tools (Expert System) • การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จาก Sniffer • ทำความเข้าใจและเรียนรู้การทำงานของระบบเครือข่ายแบบ Ethernet • การแก้ไขปัญหาในระบบเครือข่ายแบบ Ethernet

3. ปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา • นอกเหนือไปจากข้อมูลที่ได้จาก Protocol Analyzer แล้ว สิ่งอื่นๆที่ควรมีเพื่อใช้ประกอบในการแก้ไขปัญหามีดังต่อไปนี้ • ความเข้าใจระบบเครือข่ายที่เราดูแลอยู่ • แผนผังของระบบเครือข่าย และ ตำแหน่งที่อยู่ของอุปกรณ์นั้นๆ • Protocols, Applications และ OS ที่ใช้งาน • ความเข้าใจหลักการทำงานและคู่มือของอุปกรณ์นั้นๆ • แหล่งข้อมูลความรู้จากภายนอก • Internet, Web site ของผู้ผลิตอุปกรณ์ • Whitepaper, RFC • ความขยันหมั่นเพียรและ ความกระตือรือร้นในการศึกษาหาความรู้ ของผู้ดูแลระบบ

4. หนังสือและ Web site ที่น่าสนใจ • หนังสือ • Network Analysis and Troubleshooting (Haugdahl) • Network ProformanceBaselining (Nassar) • MS Optimizing network Traffic (Note from Field) • Novell Netware’s Guide to LAN WAN analysis with IP/IPX • Web site ที่น่าสนใจ • http://www.mycnx2000.com • http://www.net3group.com • http://www.protocols.com

5. บทนำและแนวทางการทำงานของ Sniffer Pro

6. Sniffer Pro คืออะไร • Sniffer Proคือ ซอร์ฟแวร์ที่ใช้ในการตรวจสอบ,วิเคราะห์, และแนะนำแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบเครือข่ายให้ดีขึ้นและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบเพื่อใช้ในการวางแผนเพื่อรองรับกับการขยายตัวในอนาคต ข้อมูลที่ได้จาก Sniffer ประกอบด้วย: • Proactive tools • 7 Monitor application ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเป็นไป ณ ขณะนั้นของระบบเครือข่าย • ช่วยในการทำ Network Baseline (รายงานถึงสภาพความเป็นไปของระบบเครือข่าย ณ ขณะที่มีสภาพปกติ) • Reactive tools • Capture, Decode & Expert system เก็บข้อมูลจากเครือข่ายแล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย พร้อมกับคำแนะนำและแนวทางในการแก้ไข

7. องค์ประกอบต่างๆของ Sniffer Monitor Troubleshoot Decode Manage Alarms Capture Frames Expert Analysis Expert Options Filters Triggers • Display Frames • Summary • Detail • Hex • Navigation • Select frames • Find frames • Filters • Display Setup • Address Book • Packet Generator • User Tools • Ping • Trace Route • DNS lookup • Finger • Who Is • Scripts • Monitor Apps • Dashboard • Host Table • Matrix • History Samples • Protocol Distribution • Global Statistics

8. การทำงานของ Sniffer Pro Adapter Tools Ping Trace Route DNS Lookup Finger Who Is Alarms Trigger Monitor Filters Name Discovery Capture Filters Monitor Applications Dashboard Host Table Matrix History Samples Protocol Distribution Global Statistics Display Filters Probe Dir Profiles Configs Addr Bk Database Traces Exported Data Displays Decode Matrix Host Table Protocol Dist Statistics

9. สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ก่อนการติดตั้งสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ก่อนการติดตั้ง • Windows 98, NT (SP3, 4, 5 หรือ 6a) หรือ 2000 • Sniffer ProCD-ROM • CPU: Pentium 400MHz, RAM: 128 MB, Disk space: 200 MB • Network Interface Card ของ NAI • NIC-ENTB-NA-100 • Enhanced NAI drivers ซึ่งอยู่ใน CD ROM แผ่นเดียวกับซอฟท์แวร์ Sniffer Pro หรือหลังจากที่ติดตั้ง Sniffer Pro แล้ว จะมี Directory ของ driver ปรากฏขึ้นดังต่อไปนี้ • Windows 98 จะอยู่ที่ c:\program files\nai\sniffer\drivers\xircom\win95 • Windows NT จะอยู่ที่ c:\program files\nai\sniffernt\drivers\xircom\winnt

10. Sniffer Pro ช่วยให้เราทราบถึง • Monitor applications: • ตรวจสอบสภาพความเป็นไปและประสิทธิภาพการใช้งานของระบบเครือข่าย ณ ขณะนั้น • Dashboard, Host Table, Matrix, History Samples, Protocol Distributions, Global Statistics, Alarm • Troubleshooting tools: • เพื่อช่วยแนะนำในการแก้ไขปัญหา • Capture และ Expert system • Analyze traffic: • ใช้วิเคราะห์การทำงานของระบบเครือข่าย • Data display -> Summary View, Detail View และ Hex View • Tests the Network และ Reports: • ใช้ทดสอบระบบเครือข่าย • Active tools (Ping, Trace route, Nslookup, Whois, Finger) และ Packet Generator • สามารถนำข้อมูลที่ได้จาก Sniffer Pro มาแปลงเป็นไฟล์นามสกุล .CSV

11. Allows users to transfer files, send mail, etc. Only layer that users can communicate with directly Key features are ease of use and functionality 7 Application Provides Services Standardized data encoding and decoding Data compression Data encryption and decryption 6 Presentation Manages user sessions Reports upper-layer errors Supports Remote Procedure Call activities 5 Session Connection management Error and flow control Provides reliable, efficient service 4 Transport Connects processes Internetwork packet routing Minimizes subnet congestion Resolves differences between subnets 3 Network Network access control Packet framing Error and flow control 2 Data Link Moves Data Moves bits across a physical medium Interface between network medium and network devices Defines electrical and mechanical characteristics of LAN 1 Physical OSI Reference Model

12. การติดตั้ง Sniffer Pro

13. ขั้นตอนในการติดตั้ง Sniffer Pro • ยังไม่ต้องใส่ NIC ของ NAI ที่ PCMCIA slot • Click ‘Yes’ เพื่อเลือกใช้ Enhanced Driver ของ Sniffer pro • Double click ที่ File setup.exe และดำเนินตาม Wizard • ให้ติดตั้ง Sniffer Pro ที่ Default directory • Windows 98 -> c:\program files\nai\sniffer • Windows NT -> c:\program files\nai\sniffernt • Click ‘No’ หลังจากการติดตั้งเรียบร้อย (ให้ add adapter ก่อนการ Boot) • Add adapter ด้วย have disk และให้ใช้ driver จาก Directory • Windows 98 -> c:\program files\nai\sniffer\drivers\xircom • Windows NT -> c:\program files\nai\sniffernt\drivers\xircom • ปิดเครื่อง และ เสียบ NIC และเปิดเครื่องอีกครั้ง • หลังจาก boot เครื่องใหม่ Windows จะพบ NAI adapter และจะให้เรา Boot เครื่องอีกครั้ง ก็จะเสร็จสิ้นการติดตั้ง Sniffer Pro

14. Directory ไดรเวอร์ ของ NIC Directory ของ Sniffer Pro หลังจากการติดตั้ง

15. เริ่มการใช้งาน Sniffer Pro • Double click ที่ Icon ของ Sniffer pro หรือเรียกโปรแกรม Sniffer จาก Start -> Programs -> Sniffer Pro -> SNIFFER • Sniffer จะแสดงรายชื่อของ LAN card ที่ติดตั้งอยู่ดังรูป • Click ‘OK’ เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน • เมื่อมีการเปิดโปรแกรมเพื่อใช้งาน Sniffer ใหม่ Sniffer จะเปิดโปรแกรมด้วย Profile สุดท้ายที่ใช้งานให้อัตโนมัติ

16. Agent1(for user A) Configurations Address Book Profiles (Filters) Agent2(for Segment B) Configurations Address Book Profiles (Filters) NIC Agent คืออะไร • Agent เป็น Profiles ที่ใช้สำหรับการเก็บการกำหนดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ที่เราปรับแต่งขณะใช้งาน Sniffer Pro ยกตัวอย่างเช่น Address book, สีที่ใช้ในการแสดงผลของแต่ละ Protocol และ Filter ต่างๆ • เราสามารถกำหนดชื่อของ Agent • แต่ละ Agent จะสัมพันธ์กับ Directory ภายใต้ c:\program files\nai\sniffer\program\local_X (X หมายถึง ลำดับของการสร้าง Agent) • การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะถูกเก็บใน Active Agent

17. Directory ที่สัมพันธ์กับ Profile

18. กำหนดชื่อของAgent Active Agent“ At my office NAI adapter ” เลือก NIC ที่ใช้งาน Click”Select Setting” to create new Agent Copy จาก profiles ที่มีอยู่แล้ว การสร้าง Agent และการนำ Agent ไปใช้งาน การนำ Agent ไปใช้งาน 1. กรณีที่มีผู้ใช้งานหลายคน 2. แยกการใช้งาน Agent สำหรับแต่ละ Segment หรือ แต่ละ Branch - Address book ควรใช้แยกกันเนื่องจากแต่ละ Branch ย่อมมีชื่อเครื่อง หรือ IP address ที่เหมือนกันซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้

19. Smart Screen (ATM only) AddressBook Capture Panel Alarms Global Statistics Protocol Distribution History samples Application Response Time Matrix Hosts Table Dashboard ยกเลิกการพิมพ์ พิมพ์ บันทึกไฟล์ เปิดไฟล์ ความหมายของ Icon บน Toolbar

20. เริ่ม Capture หยุด แสดงผล Capture Filter ที่ใช้งาน ณ ขณะนั้น หยุดCapture ชั่วขณะ Shortcut เพื่อกำหนด Capture Filter หยุด และ แสดงผล Icon ที่เกี่ยวข้องกับการ Capture บน Toolbars

21. จำนวนของ Alarm ที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนNetwork ซึ่งเกินกว่าจุดที่กำหนดไว้(Threshold) โดยสามารถกำหนดค่า Threshold ได้ที่Tools -> Options ->Threshold 100 25 จำนวนเฟรมที่ สร้างจาก Sniffer Packet Generator จำนวนของเฟรมที่ capture ได้จาก network ความหมายของ ICON บน Status Bar

22. การใช้ Help เราสามารถใช้ Help ได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้: 1. ClickHelp บน Menu bar 2: ใช้ Context sensitive help - ใช้ Mouseclick บริเวณที่ต้องการแล้วกด F1 3: Click ที่ Help Icon

23. การตรวจสอบสถานะ และประสิทธิภาพในการใช้งานของเครือข่ายด้วย 7 Monitor Applications

24. องค์ประกอบของ Sniffer (Monitor Applications) Monitor Troubleshoot Decode Manage Alarms Capture Frames Expert Analysis Expert Options Filters Triggers • Display Frames • Summary • Detail • Hex • Navigation • Select frames • Find frames • Filters • Display Setup • Address Book • Packet Generator • User Tools • Ping • Trace Route • DNS lookup • Finger • Who Is • Scripts • Monitor Apps • Dashboard • Host Table • Matrix • History Samples • Protocol Distribution • Global Statistics

25. All information are real time 7 Sniffer Pro’s Monitor Applications ข้อมูลที่ได้จาก Monitor applications ช่วยให้เรา • Segment ใดของ เครือข่าย ที่มีการใช้งานมากเกินไป (Traffic overloads) • ระบุถึงอุปกรณ์ที่มีการทำงานผิดปกติหรือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นบนเครือข่าย • จัดทำ performance baselines เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ข้อมูลที่ได้จาก Monitor application ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนด การจัดสรรการใช้งาน ทรัพยากรของเครือข่าย ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละ Segment, การวางตำแหน่งของ Server, การแบ่ง VLAN เป็นต้น

26. History Samples Global Statistics Dashboard Matrix Host Table Application Response Time Protocol Distribution 7 Sniffer Pro’s Monitor Applications Monitor Applications จะเริ่มเก็บข้อมูลทางสถิติทันทีที่เราเปิดโปรแกรม ไม่มีปุ่ม Start หรือStop ยกเว้น History Samples เท่านั้นที่ต้อง Click Sample ใด ๆ ที่เรา ต้องการเพื่อสั่งให้เริ่มทำงาน

27. Dashboard - Gauge Tab Utilization percentage จำนวน Packets ต่อวินาที จำนวน Errors ต่อ second พื้นที่สีแดง แสดงปริมาณของ Traffic ที่เกินกว่าThresholds

28. Dashboard - Detail Tab ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ NIC และ Driver ของ NAI จะเป็นสาเหตุทำให้ไม่พบ Error • จำนวน Tab และรายละเอียดจะเพิ่มขึ้นตามแต่ละ Topology ที่ใช้งาน • Ethernet ประกอบด้ายDetail tab • Token ring จะเพิ่มLLC and MAC tabs • WAN/Synchronous adapters (LM2000, HSSI, or WANBook) จะเพิ่มWAN, Line Status, SDLC, U-Frame, LAPB, Frame Relay, และHDLC tabs

29. การกำหนดค่า Threshold ของ Dashboard เราสามารถกำหนดค่าของ Threshold ได้ด้วยกัน 2 วิธี 1. Tools -> Options -> MAC Threshold tab 2. Click ที่ Set Thresholds... บน Dashboard

30. 1 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของเครือข่าย • ค่ามาตราฐานที่ใช้ประเมินสภาพของ เครือข่าย • Utilization ไม่เกิน 38% (EN) หรือไม่เกิน 80% (TR) และไม่เกิน 80% (WAN link) • จำนวน Collision ต้องน้อยกว่า 0.1% และปริมาณ Error ต้องไม่เกิน 1% • CRC error ต้องน้อยกว่า 1 ต่อการส่งข้อมูล 1 MB • ปริมาณ Broadcast/Multicast ต้องไม่เกิน 20% • Response Time น้อยกว่า 10 ms (local segment) • ขั้นตอนของการทำ Proactive: • 1. ใช้ Monitor และ Display options ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ผิดปกติ (เกินกว่าค่า Thresholds) • 2. ใช้ Capture กับเฉพาะอุปกรณ์ที่ผิดปกตินั้นๆและใช้ Expert system ในการช่วยในการแก้ปัญหา • 3. อาจใช้ TDR scope ในการตรวจสอบความผิดปกติของสาย Cable

31. Details Timeline คลิกเลือกรายละเอียดเพื่อเปิดดู Detail Timeline

32. Timeline Details Timeline (Short Term) แสดงเหตุการณ์ช่วงเวลาต่อเนื่องกัน 25 นาที คลิกเพื่อเลื่อน Timeline ครั้งละ +/- 30 วินาที สามารถเลื่อน Timeline เพื่อดูค่าสถิติ ณ เวลานั้นได้ โดยคลิกตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งวัน เวลา และค่าสถิติจะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งของ Timeline

33. Timeline Details Timeline (Long Term) แสดงเหตุการณ์ช่วงเวลาต่อเนื่องกัน 24 ชั่วโมง คลิกเพื่อเลื่อน Timeline ครั้งละ +/- 30 นาที หมายเหตุ เวลาที่แสดงอยู่ใน window จะเป็นเวลาต่อเนื่องกัน 24 ชั่วโมง 30 นาที

34. เลื่อนเมาส์ไปบนประเภทของข้อมูล เพื่อ Highlight ดูค่าสถิติของข้อมูลนั้น ๆ Detail Timeline - Highlight

35. History Samples ข้อมูลที่ได้จาก History Samples 1. Network performance baseline 2. ใช้อ้างอิงในการกำหนดค่า Threshold ของ Alarm เพื่อเตือนให้ เราทราบล่วงหน้าถึงปัญหาที่อาจเกิด ขึ้น 3. ประกอบการวางแผนเพื่อรองรับกับ การขยายตัวของเครือข่ายในอนาคต

36. เริ่ม Sampling Large Icons Small Icons List View Detail View สร้าง Multiple History samples Properties History Samples และ ความหมายของ Icon ต่าง ๆ

37. แสดงผลเป็น สีแดงเมื่อ ค่าที่ Sampling ได้ เกินกว่า Threshold การปรับแต่งคุณสมบัติของ History samples Click เพื่อเปลี่ยนแปลง คุณสมบัติของ History Samples

38. ตัวอย่างของ History Samples ไฟล์จาก History Samples จะถูกบันทึกเป็นนามสกุล .HST

39. Multiple History Samples Multiple History Samples เราสามารถสร้าง Multiple History Samples เพื่อแสดงผลหลายๆ Samples ได้ แต่สูงสุด ณ ขณะใดขณะหนึ่งได้ไม่เกิน 10 Samples

40. การกำหนด Multiple History Samples 1 2 1. กำหนดชื่อของ History samples และอัตราในการ Sampling 2.เลือก Samples ที่ต้องการสูงสุด ได้ไม่เกิน 10 และควรจัดลำดับก่อนหลังของ การ Sampling ด้วย

41. ตัวอย่างของ Multiple History Samples

42. สิ่งที่ได้จาก History Samples • ข้อมูลและสภาพ ณ ขณะนั้นของเครือข่าย • บันทึกข้อมูลและทำรายงาน • บันทึกสภาพความเป็นไปของเครือข่ายในสภาวะการทำงานในสภาพปกติ • ตรวจสอบแนวโน้มการใช้งานเครือข่ายในระยะยาว, สภาพสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น, ปริมาณ Broadcast และ Multicast, ขนาดของ Frame ที่ใช้ในเครือข่าย ทำให้เราทราบและวางแผนเพื่อรองรับกับการขยายตัวในอนาคต

43. Host Table Host tables จะให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบและวิเคราะห์ เฉพาะเจาะจงกับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งบนเครือข่าย ณ ขณะนั้น โดยข้อมูลที่ได้จะแสดงผลในรูปแบบที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้ • Outline table view • รายละเอียดเฉพาะอุปกรณ์ในระดับของDatalink layer และ Network layer เช่น CRC, Packet in/out, Broadcast/Multicast , จำนวน IP packet ที่ ส่งและรับ ของอุปกรณ์นั้นๆ • Detail table view • ข้อมูลในระดับ Network layer ( Protocol ที่ใช้งานกับเครื่องที่ใช้ Protocol นั้นๆ) • Bar chart • แสดงผล 10 อันดับแรกของอุปกรณ์ ที่ใช้งานมากที่สุดในเครือข่าย เป็นกราฟแท่ง • Pie chart • แสดงผล 10 อันดับแรกของอุปกรณ์ ที่ใช้งานมากที่สุดในเครือข่าย เป็นกราฟวงกลม

44. Outline view Detail view กราฟแท่ง กราฟวงกลม Capture ข้อมูล กำหนด Filter เฉพาะอุปกรณ์นั้น เพื่อใช้ในการ Capture หยุด updates ข้อมูลชั่วคราว Refresh display Restart data collection Export ข้อมูลที่ได้เป็นไฟล์นามสกุล .CSV(เฉพาะ Outline และ Detail view) Properties แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์นั้นๆ ความหมายของ Toolbars ที่เกี่ยวข้องกับ Host Table

45. Host Table - Outline Table View Outline table view ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณข้อมูลที่รับเข้าและส่งออกของอุปกรณ์นั้นๆในระดับDatalink layer และ Network layer Click ที่ Column ใดๆ เพื่อเรียงลำดับข้อมูล สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ

46. Host Table - Detail Table View Detail table viewให้ข้อมูลเกี่ยวกับhigher-layer protocol ปริมาณข้อมูล ที่รับเข้าและส่งออกของอุปกรณ์นั้นๆ

47. Host Table - Bar Chart & Pie Chart View Bar chart และ Pie chartให้ข้อมูลของอุปกรณ์ 10 อันดับแรกที่ใช้รับ-ส่ง ข้อมูล สูงสุดในเครือข่าย โดยแสดงผลเป็น กราฟแท่ง และ กราฟวงกลม ตามลำดับ

48. สิ่งที่ได้จาก Host Table • ข้อมูลเฉพาะของแต่ละอุปกรณ์ • อุปกรณ์ใดควรหรือไม่ควรติดตั้ง Protocol ใด • ระบุถึงอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Protocol ที่ไม่ถูกต้อง • อุปกรณ์ที่ส่งข้อมูลสูงสุดบนเครือข่าย • สามารถระบุถึงอุปกรณ์ที่ส่ง Broadcast ออกมามากผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว • กำหนด Filter เฉพาะเจาะจงแต่ละอุปกรณ์ • Export ข้อมูลที่ได้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และจัดทำ Network Baseline

49. Matrix - Traffic Map Matrix จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ Connection ของคู่สนทนานั้นๆ ในลักษณะ Real time ซึ่งเราสามารถแสดงผลได้หลายรูปแบบ เหมือน Host table เช่นการแสดงผลเป็นกราฟแท่งหรือกราฟวงกลม

50. วาง Mouse เหนือ address ใดๆเพื่อขยายการแสดงผล address นั้นๆ ใช้ Mouse เลือกอุปกรณ์ที่ ต้องการและกด CTRL เพื่อ เลือกหลายๆ อุปกรณ์ และ Click ที่ Filter หรือ Capture เพื่อ เริ่มจับข้อมูล ของอุปกรณ์นั้นๆ วาง Mouse บนเส้น เพื่อแสดงปริมาณข้อมูลที่รับส่งระหว่างคู่สนทนา Matrix - Traffic Map