1 / 45

วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง21102

วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง21102. คอมพิวเตอร์เบื้องต้น. 1. ความหมาย บทบาทและความสำคัญของคอมพิวเตอร์ ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ ยุคของคอมพิวเตอร์ ความหมายของคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์. ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์.

Download Presentation

วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง21102

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง21102

  2. คอมพิวเตอร์เบื้องต้น • 1. ความหมาย บทบาทและความสำคัญของคอมพิวเตอร์ • ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ • ยุคของคอมพิวเตอร์ • ความหมายของคอมพิวเตอร์ • หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ • บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

  3. ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ • คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็นผลมาจากการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือในการคำนวณซึ่งมีวิวัฒนาการนานมาแล้ว เริ่มจากเครื่องมือในการคำนวณเครื่องแรกคือ "ลูกคิด" (Abacus) ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน เมื่อประมาณ 2,000-3,000 ปีมาแล้ว • จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2376 นักคณิตศาสต์ชาวอังกฤษ ชื่อ ชาร์ล แบบเบจ (Charles Babbage)ได้ประดิษฐ์เครื่องวิเคราะห์ สามารถคำนวณค่าของตรีโกณมิติ ฟังก์ชั่นต่างๆ ทางคณิตศาสตร์

  4. การทำงานของเครื่องนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนเก็บข้อมูล ส่วนคำนวณ และส่วนควบคุม ใช้ระบบพลังเครื่องยนต์ไอน้ำหมุนฟันเฟือง มีข้อมูลอยู่ในบัตรเจาะรู คำนวณได้โดยอัตโนมัติ และเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ ก่อนจะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ ด้วยหลักการนี้เองเราจึงยกย่องให้แบบเบจ เป็น “บิดาแห่งเครื่องคอมพิวเตอร์”

  5. บุคคลสำคัญในวงการคอมพิวเตอร์บุคคลสำคัญในวงการคอมพิวเตอร์ Charles Babbageชาร์ลส์ แบบเบจ บิดาแห่งคอมพิวเตอร์ (1791-1871) ผลงาน : เครื่องคำนวณหาผลต่าง differential machine และเครื่องวิเคราะห์ analytical machine

  6. ยุคของคอมพิวเตอร์ • หลังจากนั้นเป็นต้นมา ได้มีผู้ประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมามากมายหลายขนาด ทำให้เป็นการเริ่มยุคของคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง   โดยสามารถจัดแบ่งคอมพิวเตอร์ออกได้เป็น 5 ยุค ดังนี้ • ยุคที่หนึ่ง (First Generation Computer) พ.ศ. 2489-2501 • ยุคที่สอง (Second Generation Computer) พ.ศ. 2502-2506 • ยุคที่สาม (Third Generation Computer) พ.ศ. 2507-2512 • ยุคที่สี่ (Fourth Generation Computer) พ.ศ. 2513-2532 • ยุคที่ห้า (Fifth Generation Computer) พ.ศ. 2533 - ปัจจุบัน

  7. ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2489 - 2501) • คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ใช้หลอดสูญญากาศ (Vacuum tube) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยังมีขนาดใหญ่มาก ใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้เครื่องมีความร้อนสูงจึงมักเกิดข้อผิดพลาดง่าย

  8. ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2489 - 2501) (ต่อ) • จอห์น ดับลิว มอชลีย์ (John W. Mauchly) และ เจ เพรสเพอร์ เอคเกิรต (J. Prespern Eckert) ได้รับทุนอุดหนุนจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ในการสร้างเครื่องคำนวณ ENIAC ย่อมาจากคำว่า”Electronics Numerical Integrator and Compute”เมื่อปี 1946 นับว่าเป็น "เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลก หรือคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก"

  9. คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก

  10. ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502 – 2506) • คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และใช้วงแหวนแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกว่ายุคแรก ต้นทุนต่ำกว่า ใช้กระแสไฟฟ้าและมีความแม่นยำมากกว่า

  11. ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502 – 2506) (ต่อ) • [ พ.ศ.2506] ประเทศไทยเริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้เป็นครั้งแรก โดยที่คอมพิวเตอร์เครื่องแรกในประเทศไทยได้ติดตั้งที่ ภาควิชาสถิติ คณะพานิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้คือ IBM 1620 ซึ่งได้รับมอบจากมูลนิธิเอไอดี และบริษัทไอบีเอ็ม แห่ง ประเทศไทยจำกัด ปัจจุบันหมดอายุการใช้งานไปแล้ว จึงได้มอบให้แก่ศูนย์บริภัณฑ์การศึกษาท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ • [ พ.ศ.2507] เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองของประเทศไทยติดตั้งที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในเดือนมีนาคม 2507

  12. คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทยคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทย IBM 1620

  13. คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทยคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทย IBM 1620

  14. ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2507 – 2512) • คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มต้นภายหลังจากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง 5 ปี เนื่องจากได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับวงจรรวม (Integrated-Circuit) หรือเรียกกันย่อๆ ว่า "ไอซี" (IC) ซึ่งไอซีนี้ทำให้ส่วนประกอบและวงจรต่างๆ สามารถวางลงได้บนแผ่นชิป (chip) เล็กๆ เพียงแผ่นเดียว จึงมีการนำเอาแผ่นชิปมาใช้แทนทรานซิสเตอร์ทำให้ประหยัดเนื้อที่ได้มาก

  15. ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2513 - 2532) • เป็นยุคที่นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก ซึ่งสามารถย่อส่วนไอซีธรรมดาหลายๆ วงจรเข้ามาในวงจรเดียวกัน และมีการประดิษฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor)ขึ้น ทำให้เครื่องมีขนาดเล็ก ราคาถูกลง และมีความสามารถในการทำงานสูงและรวดเร็วมาก จึงทำให้มีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ถือกำเนิดขึ้นมาในยุคนี้

  16. ยุคที่ 5 (พ.ศ. 2533 - ปัจจุบัน) • ในยุคนี้ ได้มุ่งเน้นการพัฒนา ความสามารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และ ความสะดวกสบายในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน มีการพัฒนาสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาขนาดเล็กขนาดเล็ก (Portable Computer) ขึ้นใช้งานในยุคนี้

  17. ความหมายของคอมพิวเตอร์ความหมายของคอมพิวเตอร์ • คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computareซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกลใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์" • สรุปได้ว่า คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูล ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์

  18. การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์ การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 5 หน่วย ได้แก่ • หน่วยรับเข้า (Input Device) • หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) • หน่วยความจำหลัก ( Main Memory ) • หน่วยความจำรอง ( Virtual Memory ) • หน่วยส่งออก (Output Device )

  19. หน่วยรับเข้า (Input Device) ทำหน้าที่รับโปรแกรมและข้อมูล เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์รับเข้าที่เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ได้แก่ คีย์บอร์ด (Keyboard) เม้าส์(Mouse) สแกนเนอร์(Scanner) เครื่องอ่านรหัสแท่ง (BarCode reader)

  20. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) • ทำหน้าที่ประมวลผลและควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดยมีหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างหน่วยความจำด้วย ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียูนี้จะประกอบด้วย

  21. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)(ต่อ) • 5.1.1 หน่วยคำนวณและตรรกะ ( Arithematic and Logic Unit : ALU ) ทำหน้าที่ในการคำนวณ เช่น บวก ลบ คูณ หาร และหน้าที่ในการเปรียบเทียบทางตรรกะโดยหน่วยควบคุมจะควบคุมความเร็วในการคำนวณ •  5.1.2 หน่วยควบคุม ( Control Unit ) ทำหน้าที่ในการควบคุมกลไกการทำงานของระบบทั้งหมด โดยจะทำงานประสานงานกับหน่วยคำนวณ และหน่วยความจำ และตรรกะซีพียูหลักที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน คือ ไมโครชิป หรือที่เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ ( Microprocessor )

  22. หน่วยความจำหลัก ( Main Memory ) ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่รอทำการประมวลผล และเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวล ในระหว่างที่รอส่งไปยังหน่วยแสดงผลลัพธ์ประเภทของหน่วยความจำสามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. ตามลักษณะของเก็บข้อมูล จะแบ่งได้เป็น • หน่วยความจำแบบลบเลือนได้ ( Volatile Memory ) คือในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือกำลังไฟฟ้าไม่เพียงพอข้อมูลที่เก็บไว้ก็จะหายหมด • หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน ( Nonvolatile Memory ) หน่วยความจำแบบนี้จะเก็บข้อมูลได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับไฟฟ้าที่เลี้ยงวงจร

  23. หน่วยความจำหลัก ( Main Memory ) (ต่อ) 2. ตามสภาพการใช้งาน จะแบ่งได้เป็น หน่วยความจำอ่านอย่างเดียว ( ROM ) หรือรอม เป็นหน่วยความจำชนิดไม่ลบเลือน คือซีพียูสามรถอ่านได้อย่างเดียว ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปได้ หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม ( RAM ) หรือแรม เป็นหน่วยความจำแบบลบเลือนได้ คือสามารถเขียนหรืออ่านข้อมูลได้ การเขียนหรืออ่านจะเลือกที่ตำแหน่งใดก็ได้

  24. หน่วยความจำหลัก ( Main Memory ) ROM RAM

  25. หน่วยความจำรอง ( Virtual Memory ) มีเพื่อเพิ่มความสามารถในการจดจำของคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น ตัวอย่างของหน่วย ความจำรองได้แก่ - แผ่นบันทึก หรือแผ่นดิสก์ ( Diskette ) - ฮาร์ดดิสก์ ( Harddisk ) - ซีดีรอม ( Compact Disk Read only Memory : CDROM )

  26. อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลข้อมูล อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ - จอภาพ (Monitor)  - ลำโพง (Speakers) - เครื่องพิมพ์ (Printers) 

  27. บทบาทของคอมพิวเตอร์ • การใช้คอมพิวเตอร์ในวงธุรกิจทั่วไป • การใช้งานคอมพิวเตอร์ในวงการธนาคาร • การใช้คอมพิวเตอร์กับธุรกิจโรงแรม • การใช้คอมพิวเตอร์ในวงการแพทย์ • คอมพิวเตอร์กับการศึกษา

  28. ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ • 1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก • 2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น • 3.เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ • 4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว • 5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง • 6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม

  29. ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ มี 2ประเภท 1. ประโยชน์ทางตรง • ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล 2. ประโยชน์ทางอ้อม • คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความบันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็น

  30. เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาจัดการให้เกิดประโยชน์ สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูลผ่านระบบการประมวลผลคำนวณ วิเคราะห์ และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

  31. เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

  32. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีลักษณะสำคัญของเทคโนโลยี • ช่วยเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการ ทางด้านเศรษฐกิจการค้า และการอุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสาร ได้เข้ามามีบทบาท ทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ มากขึ้น เช่น การใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

  33. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยี (ต่อ) 2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการให้กว้างขวางขึ้น เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูลและการใช้ข้อมูลได้ดีการบริการต่างๆจึงเน้นรูปแบบการบริการให้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ เป็นต้น

  34. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยี (ต่อ) 3. เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงาน ต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วย ระบบคอมพิวเตอร์ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาลระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษีในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้

  35. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยี (ต่อ) 4. เกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น ดังเห็นได้จากการพิมพ์เอกสารต่าง ๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ การถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอล และการใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ

  36. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ • การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่นใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น

  37. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 2. การเสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาสเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล การใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร ที่เรียกว่า โทรเวช

  38. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 3. การเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น

  39. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 4. การรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูลมีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่า โทรมาตร เป็นต้น

  40. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 5. การป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน

  41. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 6. การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นข้อมูลข่าวสารต้องหาวิธีการในการผลิต ให้ได้มากราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้เพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น

  42. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) 7. ความคิดและการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิต ประจำวันและมีแนวโน้มจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

  43. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) ผลกระทบทางเทคโนโลยี แบ่งเป็น 2 ด้านคือ 1.ด้านบวก ได้แก่ 1. ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ 6. ช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง 2. ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น 7. ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน 3.ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่ 8.ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย 4. ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น 5. ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์

  44. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อ) ด้านลบ ได้แก่ • ทำให้เกิดอาชญากรรม • ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย • ทำให้เกิดความวิตกกังวล • ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ • ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมาก • ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว

More Related