490 likes | 1.2k Views
การตั้งท้องและการคลอดลูก (Gestation & Parturition). เนื้อหาที่ทำการสอน. การฝังตัวของลูก/การยอมรับของแม่ ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้อง สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง รก & การพัฒนาของตัวอ่อน การคลอด การเปลี่ยนแปลงมดลูกหลังคลอด การกลับมาเป็นสัดหลังคลอด. กลไกการเกาะตัว.
E N D
การตั้งท้องและการคลอดลูกการตั้งท้องและการคลอดลูก (Gestation & Parturition) เนื้อหาที่ทำการสอน • การฝังตัวของลูก/การยอมรับของแม่ • ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้อง • สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง • รก & การพัฒนาของตัวอ่อน • การคลอด • การเปลี่ยนแปลงมดลูกหลังคลอด • การกลับมาเป็นสัดหลังคลอด
กลไกการเกาะตัว • Zona hatching ---> Trophoblast cell ขยายตัวเข้า • เจาะ uterine epitherium โดยตัวอ่อนสร้าง protelytic • enzyme • ในสุกรเกิด Zona hatching วันที่ 7 และ endometrium • สัมผัสกับ Trophoblast วันที่ 12 การเกาะตัวสมบูรณ์ ใน • วันที่ 18-24 • ในสุกร chorion และ uterine epitherium จะทาบตลอด • แต่ในแกะ โค จะมี caruncle เป็นจุดๆเพื่อเกาะตัว
กลไกการเกาะตัว (ต่อ) • ในโคจะเริ่มเกาะวันที่ 20 และใช้เวลา 2-3 วัน เกาะเสร็จ • ในม้า blastocyst จะทาบกับผนังมดลูกโดยไม่เกาะ 2 เดือน • และจะเริ่มเกาะประมาณสัปดาห์ที่ 10 และเสร็จสัปดาห์ที่ 14
การฝังตัวของตัวอ่อน (implantation) • ในสัตว์ทั่วไป เป็นการทาบหรือเกาะ ส่วนคนและสัตว์ฟันแทะ เป็นลักษณะการฝังตัว • ระหว่างการเกาะตัวกับผนังมดลูกตัวอ่อนจะผลิตสารบางอย่างออกมาเพื่อป้องกันการหลั่ง/ลดการตอบสนองต่อ Prostaglandin (maternal recognition) • - สุกร ตัวอ่อนผลิต Estrogen หลังปฏิสนธิ 11-12 วัน • - ม้า ผลิต Estrogen หลังปฏิสนธิ 8-20 วัน และผลิตสาร • กลุ่ม protein ระหว่างวันที่ 12-14 • - โค ตัวอ่อนผลิต bovine trophoblast protein 1(bTP-1) • หลังปฏิสนธิ 15-21 วัน
ตัวลูกอ่อนถือเป็นเนื้อเยื่อแปลกปลอม ร่างกายแม่จะต่อต้านผ่าน T-cell แต่ทำไมลูกไม่ถูกกำจัดออกจนกว่าจะถึงกำหนดคลอด? จึงมีหลายทฤษฎีพยายามจะอธิบาย • - ตัวอ่อนเป็น antigen ไม่สมบูรณ์ • - ระบบภูมิคุ้มกันของแม่ไม่ทำงานหรือทำงานลดลงระหว่างการตั้งท้อง • - มดลูกเป็นบริเวณพิเศษนอกเหนือระบบภูมิคุ้มกันปกติ มีการสร้างฉนวนทางภูมิคุ้มกันระหว่างแม่กับลูก
สรีรวิทยาของแม่ขณะท้องสรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง • 1. Vulva & Vagina • ช่วงแรกจะแห้ง ซีด แต่หลัง5-6 เดือนจะมีระบบหมุนเวียนเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น • 2. Cervix • ปิดด้วย mucous plug / pregnancy plug • 3. มดลูก • ขยายตัวตามขนาด fetus และไม่บีบตัวจนกว่าใกล้คลอด • proliferation, growth and stretch
สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง (ต่อ) • 4. รังไข่ • CL จะคงอยู่จน สัปดาห์ที่ 2 ก่อนคลอด (โค สุกร แพะ) ส่วนในม้า CL จะหายไปในเดือนที่ 7 • 5. Pelvic ligament & Pubic symphysis • ใกล้คลอด Estrogen & Relaxin ---> คลายตัว
ฮอร์โมนในเลือด/ปัสสาวะขณะท้องฮอร์โมนในเลือด/ปัสสาวะขณะท้อง • Estrogen: • ต่างชนิดสัตว์ ต่างชนิดของ estrogen และมีระดับต่าง • กันตามระยะการตั้งท้อง • สัตว์ส่วนใหญ่จะมีการหลั่งเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้คลอด • Pregnant mare serum gonadotropin (PMSG) • หรือ Equine chorionic gonadotropin (eCG) • ผลิตโดย Trophoblastic cell พบ 40-130 วันของท้อง • ทำหน้าที่ให้มีการคงอยู่ของ 2nd CL
รกและบทบาทหน้าที่ (placenta & role) Amniotic cavity amniochorion พัฒนามาจาก Extraembryonic membrane หรือ Fetal membrane ประกอบด้วย 1. Amnion 2. Chorion 3. Yolk sac 4. Allantois 5. Umbilical cord chorion cotyledon Allantoic cavity
ชนิดของรก: แบ่งตามรูปร่าง โค แกะ ม้า Convex Concave Diffuse
ชนิดของรก : แบ่งตามรูปร่าง
ชนิดของรก แบ่งตามรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ของ placentomes
ชนิดของรก แบ่งตามการสูญเสียเนื้อเยื่อของแม่ระหว่างการคลอด 1. ไม่สูญเสีย (nondeciduate): สุกร ม้า 2. สูญเสียปานกลาง (moderate): สุนัข แมว 3. สูญเสียรุนแรง(extensive) : คน ลิง
หน้าที่ของรก ทำหน้าที่แทนระบบย่อยอาหาร ปอด ตับ ไต ต่อมไร้ท่อ และแยกเนื้อเยื่อแม่กับลูกออกจากกัน การแลกเปลี่ยนสารเคมีที่รก • Gas • Fluid to Fluid • O2 : Haemoglobin ของลูกมีประสิทธิภาพในการจับ • ได้ดีกว่าของแม่ • CO2 : แพร่ (diffuse) จากเลือดลูกสู่เลือดแม่ • เลือดแม่รวมตัวกับ CO2ได้ดีกว่า
การแลกเปลี่ยนโภชนะและของเสียการแลกเปลี่ยนโภชนะและของเสีย • Glucose, Vitamin & Amino acid Active transport & carrier system ที่รกมีการสร้าง glycogen และเปลี่ยน glucose เป็น fructose (70-80 % ของน้ำตาลในเลือดตัวอ่อน) • Free fatty acids & glycerol :diffusion • Polypeptide ผ่านได้ช้าๆ แต่โปรตีนผ่านไม่ได้ • ในคน immunoglobulin ผ่านหาตัวลูกอ่อนได้ • วิตามินที่ละลายในไขมันผ่านได้น้อยมาก • วิตามินละลายในน้ำผ่านได้สะดวก
บทบาทฮอร์โมนจากรก • ในช่วงท้ายของการตั้งท้องของม้า โค สุกร แกะ จะเปลี่ยน • P4 เป็น Estrogen มากขึ้น โดยการกระตุ้นของ Cortisol • จากตัวอ่อน • ผลิต Placental lactogen • (Chorionic somatomammotropin) • รกของม้าและแกะสามารถผลิต P4 ได้เพียงพอสำหรับอุ้มชู • การตั้งท้อง
การพัฒนาของลูกในท้อง แบ่งเป็น 3 ระยะ 1. Ovum period : ปฏิสนธิจนถึงเริ่มเกาะตัว 2. Embryonic period : โค วันที่ 15-45 ของการตั้งท้อง แกะ 12-34 “” ม้า 12-60 “” 3. Fetal period : โค วันที่ > 45 ของการตั้งท้อง แกะ > 34 “” ม้า > 60 “” ** ช่วง 1/3 เดือนสุดท้ายลูกโตเร็วมาก ส่วนหัว& ขาพัฒนาดีกว่ากล้ามเนื้อ
ระบบไหลเวียนเลือดของลูกในท้องระบบไหลเวียนเลือดของลูกในท้อง • เลือดไม่ผ่านตับโดยเปลี่ยนเส้นทางไปออก ductus venosus • ไม่ผ่านปอด แต่ตรงไปยัง ductus arteriosus • อัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าสัตว์เมื่อโตเต็มวัย • โค 120-140 ครั้ง/นาที • แกะ 170-220 ครั้ง/นาที
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้องปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้อง
ระยะเวลาตั้งท้อง(Gestation /Pregnancy)
ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้องปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้อง
การตรวจการตั้งท้อง 1. สังเกตการไม่กลับสัด : 60 หรือ 90 วันหลังผสม 2. สังเกตการเปลี่ยนแปลงสรีระของแม่ 3. มือล้วงตรวจทางทวารหนัก 4. ใช้ Radiography 5. Ultrasonograghy: คลื่นเสียง 1-10 MHz 6. ตรวจเนื้อเยื่อผนังช่องคลอด (vagina biopsy) 7. ตรวจหาฮอร์โมน : ม้า eCG, คน hCG, โค P4 สุกร prostaglandins, สัตว์ฟาร์ม estrone sulfate 8. Laparoscopy เจาะช่องท้อง
การคลอด (parturition) ลักษณะอาการเมื่อใกล้คลอด 1. การจัดตำแหน่งของลูก 2. การเปลี่ยนแปลงของเต้านม 3. กระดูกเชิงกรานขยาย อวัยวะเพศบวมน้ำ 4. โค แกะ แยกตัวออกจากฝูง/ พฤติกรรมสร้างรังในสุกร
ขบวนการคลอด การกระตุ้นเริ่มจากลูกและทำให้เสร็จสมบูรณ์โดยการทำงานร่วมกันของต่อมไร้ท่อและ ระบบประสาท ทฤษฎีเบื้องต้นของขบวนการคลอด • การลดลงของฮอร์โมน P4 • การเพิ่มขึ้นของ Estrogen • การหลั่งของ Oxytocin และ PGF 2alpha • การทำงานของ hypothalamic-pituitary-adrenal axis • ของลูก • ขนาดและน้ำหนักลูก
การขับลูกออก (stage of labor) แบ่งเป็น 3 ระยะ 1. การถ่างของคอมดลูก(dilation of the cervix) 2. การบีบลูกออก (expulsion of the fetus) 3. การขับรกออก (expulsion of the placenta) 1 2 3 มดลูกเข้าอู่ ม้า 1-4 0.2-0.5 1 - โค-กระบือ 2-6 0.5-1.0 6-12 35-45 แกะ 2-6 0.5-2.0 0.8-8 25-30 สุกร 2-12 2.5-3.0 1-4 25-28
การปรับตัวของลูกหลังคลอดการปรับตัวของลูกหลังคลอด 1. ระบบการไหลเวียนของเลือด/การทำงานของปอด 2. การควบคุมอุณหภูมิ 3. การสร้างพลังงาน:glycogen ที่ตับและกล้ามเนื้อ 4. ระบบภูมิคุ้มกัน:passive immunity หนู กระต่าย คน ผ่านรก แต่สัตว์ฟาร์มต้องรับจาก colostrum ภายใน 36 ชม.หลังคลอด
การคืนสู่สภาพปกติของแม่หลังคลอดการคืนสู่สภาพปกติของแม่หลังคลอด • 1. มดลูกเข้าอู่ (uterine involution) • กลับตำแหน่งและขนาดเดิม : การสลายตัว • ของ Caruncle, Myometrium (PGF2alpha) • บีบตัวเพื่อขับ bacteria, เมือก และเนื้อเยื่อเก่าออก • สร้าง uterine epithelium ใหม่ • สัตว์ที่มีรกแบบ diffuse placenta จะคืนสภาพเร็วกว่า แบบ cotyledonary placenta
2. การกลับมามีวงรอบการเป็นสัดหลังคลอด • โค : ภายใน 50 วันหลังคลอด ~ 95 %ของโคนม • ~ 40 %โคเนื้อ • ลูกดูดนม & รีดนมบ่อยครั้งขึ้น จะกลับสัดช้ากว่า • ม้า : ภายใน 6-13 วัน • สุกร : ระหว่างเลี้ยงลูกอาจเป็นสัดแต่ไม่มีการตกไข่ • จะเป็นสัด/ตกไข่ 3-5 วันหลังหย่านม ** การไม่เป็นสัดหลังคลอดส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการ GnRH ไม่หลั่ง/ gonadotropins หลั่งไม่มากพอ
การเหนี่ยวนำการคลอด สำหรับโค • การใช้ Corticosteriod :กระตุ้นการเปลี่ยนP4 เป็น • estrogen เพิ่มขึ้น ใช้ฉีด 2-3 wk ก่อนคลอด ส่วนใหญ่จะ • คลอดภายใน 72 ชม.หลังฉีด • การใช้ Prostaglandins : กำจัด CL, คลอด2-3 วันหลังฉีด • การใช้ P4 + PG :ลดบทบาทและทำลาย CL
การเหนี่ยวนำการคลอด (ต่อ) สำหรับสุกร • การใช้ Glucocorticoiod :กระตุ้นให้ผลิต PGF2alpha ใช้ • ฉีดเมื่อต้งท้อง>100 วัน ส่วนใหญ่จะเกิดรกค้าง ลูกตายมาก • การใช้ Oxytocin :ฉีด 2-3 ชม.ก่อนคลอดและมักฉีดหลัง PG • การใช้ PGF2alphaและ analogues (cloprosrenol): 2-3 • วันก่อนคลอด • การใช้ PG + Xylazine (rompun, alpha-2-adrenergic • agonist) • การใช้ estradiol+ PG