Phylum Oomycota

1. Phylum Oomycota นางสาวสุณีย์ ตอแลมา รหัส 404552004 นางสาวรุซนานี โดตะเซะ รหัส 404552030

2. Stramenopilous Fungi • มี แฟลเจลลัมเทียม • Cristae ของ mitochondrial มีลักษณะเป็นหลอด • Cellulose มีอยู่ในผนังเซลล์ • การสังเคราะห์lysine โดย diaminiopimelic acid pathway(DAP)

3. Phylum Oomycota • 1 class (Oomycetes), 8 orders, 92 genera and 800 species • Orders to cover: • Leptomitales • ทัลลัสเป็นเส้นสายกับcellulin อุด • Rhipidiales • มีลักษณะโป่ง ทัลลัสแตกแขนงกับมี cellulin อุด • Saprolegniales • Holocarpic or eucarpic/ทัลลัสเป็นเส้นสาย • Lagenidiales • Holocarpic • Pythiales • ทัลลัสเป็นเส้นสาย • Peronosporales • ทัลลัสเป็นเส้นสาย

4. Characters • วัฏจักรชีวิตเป็นแบบdiploidอย่างเด่นชัด • Oogamous การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ: • Gametangia = oogonia และ อวัยวะสร้าง sperm ของพืช • Thick-walled, ยับยั้ง oospore formed ภายใน oogonium จาก ไข่ก่อนที่จะถูกผสม • การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ by heterokont zoospores with เทียม+ whiplash flagella

6. Characters • ภายในผนังเซลล์ประกอบด้วยbeta-glucans ซึ่งมี cellulose จำนวนเล็กๆ • ชนิดที่มีเป็นสายผลิต coenocytic hyphae • Principle storage compounds are ที่ละลายในน้ำได้mycolaminarins (beta-glucans) • เป็นสปีชีส์ที่เป็นพาราซิสกับพืช

7. Zoospores • Primary zoospores • First formed • รูปร่างคล้ายเมล็ด • มีแฟลเจลลาอยู่ด้านหน้า • ว่ายน้ำได้ช้าอยู่ในของเหลว • Secondary zoospores • ลักษณะรูปไตหรือรูปร่างเมล็ดถั่ว • แฟลเจลลามีลักษณะเป็นร่องๆอยู่ตรงด้านข้าง

8. Zoospores • Dimorphic • วัฎจักรชีวิตของprimaryและsecondaryของzoospores • ชีวิตในช่วงแรกของzoosporesอยู่ในzoosporangium • ชีวิตในช่วงที่สองของzoosporesจะอยู่บนgerminationของช่วงแรกของzoospores • Monomorphic • ช่วงsecondary-typeของzoosporesอยู่ภายในzoosporangium

9. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ • ส่วนใหญ่เซลล์สืบพันธ์เพศเมียจะโตกว่าเซลล์สืบพันธ์เพศผู้ • Hyphal-like antheridia • oogonium ดึงดูดโดย hormones และทำให้เจริญเติบโตในหลอด • oogonia เป็นรูปทรงกลม • One or more oospores .ใน เซลล์แม่ของไข่ • Simultaneous meiotic divisions เกิดขึ้นใน antheridia และoogonia เกิดขึ้นก่อนผสมพันธุ์ • Karyogamy เกิดขึ้นในoosphere to form oospore that เจริญเติบโตภายในoogonium

10. Oospore from APSnet

11. Oogonia & Oospores • ผนังของ Oospores เกิดมา 3 ส่วน • เยื่อหุ้มชั้นนอกของสปอร์ • ส่วนเยื่อหุ้มถุงสปอร์ • ส่วนชั้นในของสปอร์ • eriplasm = residual protoplasm • Plerotic = periplasm present • Aplerotic = lacking periplasm

12. Oogonium & Antheridium • Hypogynous • Antheridium อยู่ในก้านของ oogonial Paragynous • Antheridium attaches laterally to oogonium • Monoclinous—branch off oogonial stalk • Diclinous—branch off separate hypha • Amphigynous • Oogonium เจริญเติบโต antheridium

13. Hypogynous Paragynous/monoclinous Paragynous/diclinous Amphigynous Oosphere Oogonium Fertilization tube antheridium

14. Order Leptomitales • ส่วนใหญ่อยู่ในน้ำดำรงชีวิตโดยรับสารอินทรีย์จากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว • ทัลลัสเป็นเส้นสายกับ regular constrictions plugged by chitinous material called cellulin granules • การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของelongatedมีhyphaเหมือนzoosporangia • บางสปีชีส์จากชั้นแรกและชั้นที่สองของzoospores

15. Apodachlya http://plantbio.berkeley.edu/~taylor/pmb110/labpages/8leptopythi/index.htm

16. A, B. Leptomitus C-K. Apodachlya From Sparrow, 1960. Aquatic Phycomycetes.

17. Order Rhipidiales •จะพบในน้ำ เช่น Saprotophic โดยทั่วไปพบในน้ำนิ่งและในน้ำสกปรก • Thallus : • ตัวจะพองและมีกิ่งก้านสาขา • ติดกับ Substrate โดยใช้ Rhizoids • Oogonia, antheridia and zoosporangia ก่อให้เกิด terminally • การแตกแขนงและการจำลองสร้างรูปร่างใหม่และจะผสานด้วย cellulin granules • อยู่ในขั้น secondary zoospores • อยู่ในกระบวนการmetabolism

18. Zoosporangia • C. Sapromyces • Araiospora • Rhipidium • Mindeniella • Aqualinderella Thalli From Emerson and Weston, American Journal of Botany 54 (1967)

19. Order Lagenidiales • ส่วนใหญ่พบในน้ำและพาราสิกใน fungi,สาหร่ายและพบในทะเลพบในสัตว์ที่มีกระดองและมีเปลือก • เป็น Endobiotic, ส่วนใหญ่เป็น monocentric • Examples: • Olpidiopsis—obligate endoparasite of Saprolegniales • Lagenidium—endoparasites of algae and marine crustacean larvae

20. Lagenidium 1-4. การติดเชื่อในช่วง Spirogyra 5-10. Asexual reproduction 11-17. Sexual reproduction Karling, 1942. Simple Holocarpic Biflagellate Phycomycetes.

21. Order Saprolegniales • Saprotrophs (ได้จากน้ำและดิน), หรือจากพาราสิก (ในพืชและสัตว์) • Aphanomyces--น้ำตาลจากผัก, ผัก, หัวผักกาดแดง, พืชน้ำ • Achlya, Aphanomyces and Saprolegnia—ปลา, สัตว์ที่มีเปลือกและกระดอง • น้ำจะเกี่ยวข้องมากกับกลุ่มนี้ • รูปร่างจะอยู่ในช่วง Primary และ secondary zoospores • Filamentous thallus, จะแตกกิ่งก้านสาขา • แข็งแรง, coenocytic hyphae สามารถเพิ่มใน diameter • Gemmae = ข้อและปล้องเปลี่ยนแปลง โดยhyphae จะหนาแน่นไปด้วย cytoplasm

22. Saprolegniales—sexual reproduction • Oogonia เดี่ยว กับ multiple oospores • Oospores with prominent, granular, fluid ooplast (เรียงลำดับโดยการประสานของ vesicles) • ขนาดของ lipid coalescence ใช้แล้วมีลักษณะเฉพาะของtaxonomic • Centric—จะมีหยด lipid ล้อมรอบ ooplast • Eccentric—ooplast จะอยู่ใน oospore, จะมีลิพิดล้อมรอบแบบไม่สมบูณณ์โดย lipid globules

23. Sexual Reproduction • ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่เจริญ • การสืบพันธุ์จะเกิดขึ้นในทั้งสองแบบคือ self-fertileและมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับpheromones • Diffusible เป็นสารตั้งต้นของทั้งคุ่จะมีส่วนร่วมกัน โดยboth partners • John Raper (1940s)

24. Role of pheromones • Female produces และ secretes antheridiol (hormone A; sterol pheromone) ส่วนการหมักของ antheridial จะมีสายใน male strain • Male strain คือ stimulated จะหลั่ง oogonial (hormone B)คือเหตุผลในการขับสารออกมา ในการหมักของ oogonial • Antheridiol ในการใช้ chemotropic growth ในการเจริญโครงสร้างของถุง female

25. Asexual Reproduction • รูป ร่างในช่วงPrimary zoospore มีมากในspecies, แต่อาจจะเป็นน้อย: • Achlya and Aphanomyces • Uninucleate protoplasts จะโพล่ออกมาจากzoosporangium และถุงจะเปิดออกมาและจะปล่อยสารออกมา • Dictyuchus • ข้างในถุงจะมี zoosporangium • Saprolegnia • จะเคลื่อนที, ในช่วง primary zoospores จะเกิดขึ้นจากzoosporangium

26. Saprolegnia Proliferation of zoosporangium Secondary zoospore Primary zoospores

27. Achlya Uninucleate protoplastsจะถูกหุ้มด้วยรูปร่างคลายฟุตบอล จะมีปากของ zoosporangium Lateral proliferation of zoosporangium Secondary zoospores โพล่ออกมาจากถุง From Webster, 1980

28. Dictyuchus Primary cysts ข้างใน zoosporangium ที่แตกหน่อจะเข้าสู้ช่วง secondary zoospores From Webster 1980