950 likes | 2.76k Views
บทที่ 8 วัตถุดิบอาหารสัตว์และการแปรรูป. วัตถุดิบอาหารสัตว์และการแปรรูป.
E N D
บทที่ 8วัตถุดิบอาหารสัตว์และการแปรรูป
วัตถุดิบอาหารสัตว์และการแปรรูปวัตถุดิบอาหารสัตว์และการแปรรูป • ในบทนี้นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง การแบ่งประเภทของวัตถุดิบอาหารสัตว์ การปรับปรุงคุณภาพ การเก็บรักษา และการแปรรูปวัตถุดิบอาหารสัตว์ รวมถึงสารพิษหรือสารต้านโภชนะที่สำคัญในอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
วัตถุดิบอาหารสัตว์คืออะไรวัตถุดิบอาหารสัตว์คืออะไร • คือ สารต่างๆ ที่สามาถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ (feed) ได้ เนื่องจากมีโภชนะที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์ • ในอาหารสัตว์อาจประกอบด้วยวัตถุดิบอาหารสัตว์เพียงชนิดเดียวหรือมากกว่า 1 ชนิดมาผสมรวมกัน เพื่อให้มีโภชนะต่างๆตามความต้องการของสัตว์ได้ • วัตถุดิบอาหารสัตว์แต่ละชนิดจะมีโภชนะเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่แตกต่างกันไป
องค์ประกอบทางเคมีของอาหารองค์ประกอบทางเคมีของอาหาร น้ำ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไวตามิน อินทรีย์สาร อาหาร วัตถุแห้ง เถ้า อนินทรีย์สาร
หน้าที่ของโภชนะ โภชนะ หน้าที่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ดำรงชีพ เจริญเติบโตให้ผลผลิต สืบพันธุ์ แหล่งพลังงาน น้ำ แร่ธาตุ ไวตามิน การเกิดปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย ไม่ให้พลังงาน
วัตถุดิบอาหารสัตว์มี2 ประเภท • 1.อาหารหยาบ (roughage) : วัตถุดิบอาหารสัตว์หรืออาหารสัตว์ที่มีลักษณะฟ่าม (bulky) มีปริมาตรสูง แต่มีน้ำหนักน้อย มีปริมาณเยื่อใย(crude fiber) สูงกว่า 18 % และ มีโภชนะที่ย่อยได้ต่ำ เช่นหญ้า และถั่วอาหารสัตว์ • 2.อาหารข้น (concentrate) : วัตถุดิบอาหารสัตว์หรืออาหารสัตว์ที่มีเยื่อใยต่ำกว่า 18 % หรือไม่เกิน 18 % และมีโภชนะที่ย่อยได้สูงเช่น รำละเอียด มันเส้น กากถั่วเหลือง • อาหารผสมเสร็จ (total mixed ration, TMR) คืออาหารผสมที่นำอาหารข้นรวมกับอาหารหยาบ มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
อาหารหยาบแบ่งออกเป็น 3 ประเภท • อาหารหยาบสด (pasture and green forage)เช่นหญ้าและถั่วอาหารสัตว์ • อาหารหยาบแห้ง (dry forage and roughage) เช่น หญ้าแห้ง ฟางข้าว(กลุ่มของวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร) มีคุณค่าทางอาหารต่ำ มีเยื่อใยโดยเฉพาะส่วนของผนังเซลล์สูง • อาหารหยาบหมัก (silage) เช่นข้าวโพดหมัก หญ้าหมัก
อาหารหยาบสด (pasture and green forage)คืออะไร • พืชอาหารสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งที่ตัดสดมาให้กิน หรือพืชอาหารสัตว์ที่อยู่ในแปลงหญ้า(pasture) ที่สัตว์เข้าไปแทะเล็มเอง Soilage ไม่ใช่ silage • แปลงหญ้าหรือทุ่งหญ้า มี 2 ชนิด : แปลงหญ้าธรรมชาติ(natural pasture) : แปลงหญ้าที่ปลูกสร้างขึ้นมา (cultivated pasture) แปลงหญ้ากินนี
หญ้าหรือถั่วที่ปลูกควรมีคุณสมบัติอย่างไรหญ้าหรือถั่วที่ปลูกควรมีคุณสมบัติอย่างไร 1.เป็นพืชที่สัตว์ชอบกิน 2.ขยายพันธุ์ได้เร็วหรือหลายวิธี เช่นขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และใช้ท่อนพันธุ์ 3.มีคุณค่าทางอาหารสูง : มีCPสูง และ ADF และ ADL ต่ำ 4.เป็นพืชที่ให้ผลผลิตต่อพื้นที่สูง 5.มีความทนทานต่อการเหยียบย่ำได้ดี แตกตัวเร็ว
จะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไรจะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไร • 1.ปล่อยให้สัตว์เข้าแทะเล็มในแปลงพืชอาหารสัตว์ (grazing)
จะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไรจะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไร • 2. ตัดพืชอาหารสัตว์จากแปลงเพื่อนำมาให้สัตว์กินในคอก เกี่ยวหญ้า ตัดหญ้าด้วยเครื่องมือชนิดต่างๆ การตัดหญ้าในแปลงด้วยเครื่องจักร โคที่เลี้ยงขังรวมในคอก
จะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไรจะใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบสดอย่างไร 3. เก็บถนอมพืชไว้ใช้ในช่วงที่ขาดแคลน เช่นทำหญ้าแห้ง หรือหญ้าหมัก พืชอาหารสัตว์ที่เกี่ยวเพื่อเตรียมใช้ทำหญ้าแห้ง
อาหารหยาบแห้ง (dry forage and roughage)คืออะไร • พืชอาหารสัตว์ที่นำมาทำแห้งด้วยวิธีต่างๆ เรียกว่าหญ้าแห้ง (hay) • รวมถึงเศษเหลือจากการเกษตร เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพดหลังเก็บเมล็ด ซังข้าวโพด เปลือกฝักถั่วเหลืองต้นถั่วเหลือง ต้นถั่วลิสง เป็นต้น
จะใช้อาหารหยาบแห้งที่มีคุณภาพต่ำให้เกิดประโยชน์อย่างไรจะใช้อาหารหยาบแห้งที่มีคุณภาพต่ำให้เกิดประโยชน์อย่างไร • 1 การปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของอาหารหยาบแห้ง • 2.การเสริมแหล่งแหล่งพลังงานให้จุลินทรีย์ในการเพิ่มประชากร เช่นการเสริมกากน้ำตาล รำละเอียด อาหารข้น • 3.การเสริมแหล่งโปรตีน หรือการเสริมโปรตีนไหลผ่าน (bypass protein) เช่นใบกระถิน ใบกระถินเทพา หรือเสริม NPN
การปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของอาหารหยาบแห้งการปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของอาหารหยาบแห้ง • ก.วิธีกล (mechanical treatment) เช่นทำให้มีขนาดเล็กลง หรือแช่น้ำ • ข.วิธีทางเคมี (chemical treatment) หรือใช้สารเคมีเช่นแช่ฟางข้าวในสารละลายNaOH, KOH, NH4OH การใช้ก๊าซ NH3 เป็นต้น
การปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของอาหารหยาบแห้ง(ต่อ)การปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของอาหารหยาบแห้ง(ต่อ) • ค.วิธีกลร่วมกับวิธีทางเคมี (mechanical and chemical treatment) • ง.วิธีทางชีววิทยา (biological treatment) เป็นการใช้เอนไซม์จากเชื้อรา และเห็ดในการย่อยพันธะของลิกนินที่เกาะกับเซลลูโลสหรือเฮมิเซลลูโลส
หญ้าแห้ง หรือ เฮย์ (hay)คืออะไร พืชอาหารสัตว์ที่ตัดมาทำให้แห้งให้มีความชื้นเหลืออยู่ไม่เกิน 15 % • ทำหญ้าแห้งจากหญ้า ถั่วหรือจากหญ้าผสมถั่วก็ได้ • พืชควรเป็นพืชที่มีใบมาก ใบมีขนาดเล็ก และมีลำต้นที่ไม่อวบน้ำ • วิธีในการทำแห้งมี 3 วิธีคือ : การตัดและตากให้แห้งในแปลง : การตัดแล้วนำมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม : การตัดแล้วนำมาผ่านลมร้อน
หญ้าหมัก (silage)คืออะไร : พืชอาหารสัตว์ที่เก็บเกี่ยวที่อายุเหมาะสม มีความชื้นพอเหมาะ นำมาหมักเก็บรักษาไว้ในสภาพสุญญากาศภายในถังหมัก (silo) หลักสำคัญ คือ - เลือกพืชที่มีความชื้นเหมาะสม (65-75%) - มีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่ายสูง - เก็บรักษาในที่ที่ไม่มีอากาศให้เร็วที่สุด อาหารหยาบหมักที่ดี คือข้าวโพดหมัก ข้าวฟ่างหมัก และหญ้าหมัก • อาจเรียกหญ้าหมักว่าอาหารหยาบหมัก
Haylage คืออะไร : อาหารหยาบหมักจากพืชที่มีความชื้น 40 –50 % เช่น ต้นข้าวโพดหลังจากเก็บฝัก หรือเก็บเมล็ดแล้ว มีวิธีการเช่นเดียวกับการทำอาหารหยาบหมักทั่วไป • ตัดพืชให้มีขนาดเล็ก • บรรจุลงในถังหมักที่มีหรือถุงพลาสติก • ทำให้อยู่ในสภาพสุญญากาศ เพื่อให้เกิดขบวนการหมักโดยจุลินทรีย์
มันเส้น (cassava chips)คืออะไร คือหัวมันสำปะหลังสดที่นำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วตากให้แห้ง • เป็นแหล่งพลังงานราคาถูก • การเลือกซื้อ :ให้สังเกตการปนปลอมจากทราย กิ่ง และลำต้นแห้งและเชื้อรา • การใช้เป็นอาหารโคไม่ควรนำไปบดหรือป่น เนื่องจากจะเป็นฝุ่นมาก • ในภาคเหนือก็หาซื้อได้ยาก มันเส้น มันอัดเม็ด
ใช้มันเทศ (sweet potato)ในอาหารโคได้หรือไม่ • ใช้เป็นแหล่งพลังงานในอาหารโคได้ หาซื้อได้ในเขตภาคเหนือ โดยทั่วไปมันเทศจะเป็นอาหารพลังงานสำหรับมนุษย์ การนำมันเทศมาใช้เป็นอาหารโค • เลือกช่วงเวลาที่มีราคาถูก • ใช้มันที่มีขนาดเล็ก • ควรมีการนำมาแปรรูปก่อน เช่นการนำมาตากแห้ง หรือ หมัก
รำ (rice bran หรือ rice meal)คืออะไร • ผลพลอยได้จากการสีข้าวเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในการเลี้ยงโคในภาคเหนือหาได้ง่าย มีคุณค่าทางอาหารดีพอควร แบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ รำละเอียด รำหยาบ และรำสกัดน้ำมัน • ปัญหาของการใช้รำในอาหารสัตว์ คือ การเหม็นหืนของไขมัน โดยเฉพาะในรำละเอียดที่ไม่ได้สกัดน้ำมัน • การเลือกซื้อ: เลือกรำที่ไม่เป็นรา รำที่ไม่เป็นก้อน และไม่มีกลิ่นหืน
ข้าวโพด (maize)ใช้เป็นอาหารโคได้อย่างไร • หาซื้อได้ง่ายในภาคเหนือ • ในอาหารโค : ควรบดก่อนที่จะใช้ เนื่องจากเมล็ดย่อยยาก และแป้งข้าวโพดมีการสลายตัวต่ำในกระเพาะรูเมน แต่ถูกย่อยได้ดีในลำไส้เล็ก • เป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับสัตว์เคี้ยวเอื้องที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตและให้ผลผลิต เมล็ดข้าวโพด
ข้าวฟ่าง ใช้เป็นอาหารได้หรือไม่ • เป็นอาหารพลังงานที่หาซื้อได้ในภาคเหนือเช่นกัน แต่ไม่นิยมใช้ • ข้าวฟ่างบางสายพันธุ์เช่นข้าวฟ่างที่มีเมล็ดสีแดง หรือน้ำตาล มีสารพิษคือ tannin เป็นสารที่มีผลทำให้การย่อยได้ของโปรตีนต่ำลง • ควรใช้ข้าวฟ่างเมล็ดสีเหลือง หรือขาว และบดก่อนใช้เลี้ยงโค เมล็ดข้าวฟ่าง
กากน้ำตาล (molasses)คืออะไร • ผลพลอยได้จากการหีบอ้อยเพื่อทำน้ำตาลทราย • กากน้ำตาล- มีลักษณะเหนียว มีน้ำน้อย มีความหวาน มีกลิ่นหอม มี NFE และ K สูง แต่ขาดโภชนะสำคัญ เช่น S และ N • การใช้กากน้ำตาล - ไม่ควรใช้เกิน 25 % เนื่องจากจะทำให้สัตว์เกิดอาการท้องร่วง และจะทำให้สัตว์ได้รับโภชนะมีเพียงพอต่อความต้องการ
การใช้กากน้ำตาลในอาหารโคการใช้กากน้ำตาลในอาหารโค • ใช้ผสมในอาหารข้น • ใช้เสริมอาหารในรูปอื่นได้ เช่นในรูปสารละลายยูเรีย-กากน้ำตาล -นำสารละลายมาราดฟางข้าวหรือวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรอื่นๆ ที่มีคุณค่าทางอาหารต่ำ - ตั้งสารละลายทิ้งให้สัตว์เลียกินเองในคอก - ผสมกับแร่ธาตุทำเป็นอาหารก้อนให้สัตว์เลียกินอย่างอิสระ
อะไรคืออาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนอะไรคืออาหารที่เป็นแหล่งโปรตีน • อาหารที่เป็นแหล่งโปรตีน (protein supplement)เป็นอาหารที่มีเยื่อใยไม่เกิน 18 % แต่มีโปรตีนสูงกว่า 16 % • เป็นกลุ่มอาหารที่ทำให้ต้นทุนค่าอาหารสูง • แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ -โปรตีนจากสัตว์ -โปรตีนจากพืช -แหล่งโปรตีนที่เป็นสารประกอบไนโตรเจนที่ไม่ใช่โปรตีน
กากถั่วเหลือง (soybean meal)คืออะไร • คือ ผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมันถั่วเหลือง ใช้เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญในอาหารสัตว์ • ในปัจจุบันเป็นกากถั่วเหลืองที่ผ่านการสกัดน้ำมันโดยใช้สารละลาย (solvent extract) มีโปรตีนสูงแต่มีไขมันต่ำกว่ากากถั่วเหลืองแบบอัดน้ำมัน (extrude extract) และแบบใช้สารเคมีสกัด (chemical extract) โดยทั่วไปมีโปรตีนเฉลี่ยประมาณ 40-45% การปนปลอม: ปนเปลือกถั่วเหลือง เปลือกถั่วลิสง กากถั่วลิสง เมลามีนและยูเรีย
ปัญหาในการใช้กากถั่วเหลืองปัญหาในการใช้กากถั่วเหลือง • : มีราคาแพง • : มีการปลอมปน • : มีสารพิษตกค้าง - antitrypsin หรือ trypsin inhibitor ซึ่งยับยั้งการย่อยโปรตีน ทำให้ตับอ่อนทำงานมากเกินไป - haemagglutenin ทำให้มีการตกตะกอนของเซลล์เม็ดเลือดแดง
กากถั่วลิสง (peanut meal)คืออะไร(ต่อ) • ปัญหาที่มักพบ คือการเหม็นหืน การมีเชื้อรา และการมีสารพิษalfatoxin • ไม่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในสูตรอาหารข้นลูกโค เนื่องจากความสมดุลของกรดอะมิโนมีน้อยกว่ากากถั่วเหลือง กากถั่วลิสงอัดน้ำมัน เมล็ดถั่วลิสง
กากถั่วลิสง (peanut meal) • เป็นแหล่งโปรตีนที่เป็นผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมัน • กากถั่วลิสง มีราคาถูกกว่ากากถั่วเหลืองมาก • มีข้อเสียในด้านคุณภาพ :จากการปนปลอมเปลือกฝัก : จากขบวนการผลิตที่ไม่มีคุณภาพ
กากเมล็ดฝ้าย (cottonseed meal) • คือผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมัน • : ไม่นิยมใช้ในอาหารลูกโค เนื่องจากขาด methionine, lysine และ cystine :มีแคลเซียมต่ำ • :อาจมีสารพิษ gossypol หลงเหลือได้ • แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นพิษในสัตว์เคี้ยวเอื้อง เมล็ดฝ้าย กากเมล็ดฝ้าย
ใบกระถิน (ipil ipil )ใช้เป็นอาหารสัตว์ได้หรือไม่ • ใช้เป็นแหล่งโปรตีนจากพืช วิธีใช้ - ตัดสดมาให้กิน - หรือใช้ใบแห้งผสมอาหารข้น • ปัญหาการใช้ใบกระถิน : การปลอมปนก้าน กิ่ง และใบพืชชนิดอื่น : มีสารพิษ mimosine และ tannin ใบกระถินสด
อาหารที่เป็นแหล่งแร่ธาตุ (mineral supplement) • คือ อาหารที่เสริมแหล่งแร่ธาตุให้แก่สัตว์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม : อาหารเสริมแร่ธาตุหลัก : อาหารเสริมแร่ธาตุรอง • ในอาหารโคส่วนใหญ่การเสริมแร่ธาตุนิยมใช้ - แร่ธาตุก้อน - แร่ธาตุผง -กระดูกป่น ผสม เกลือ
กระดูกป่น (bone meal) คืออะไร • คือผลพลอยได้จากโรงฆ่าสัตว์ • โดยทั่วไปจะมี Caและ Pในอัตราส่วน 2 :1 วิธีการใช้ : ตั้งทิ้งให้เลียกินเองอย่างอิสระ : ผสมกับเกลือเม็ดหรือเกลือป่นในอัตราส่วน 2 :1 : ผสมในอาหารข้น ใช้ในอัตรา 1-2 % : ผสมกับแร่ธาตุอื่นแล้วอัดเป็นก้อนแร่ธาตุ • การซื้อกระดูกป่นควรคำนึงถึงการปนปลอมเปลือกหอย ทราย และ ดิน
กำมะถันผง (sulphur) ใช้เป็นอาหารโคได้หรือไม่ ใช้เป็นแหล่งของธาตุกำมะถัน ในสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ได้รับอาหารหยาบที่มีคุณภาพต่ำ เช่นฟางข้าว จะช่วยทำให้จุลินทรีย์สามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนที่จำเป็นได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การเสริมกำมะถัน • ใช้ผสมในอาหารข้นในอัตราส่วน 0.1-0.2 %ในสูตรอาหาร • ผสมในแร่ธาตุก้อน • ผสมในอาหารที่มีกากน้ำตาลมากๆ
การแปรรูปอาหารสัตว์ 1.ป้องกันการเลือกกินวัตถุดิบอาหารสัตว์ 2.เพิ่มความน่ากินของอาหาร เช่นการเสริมกากน้ำตาลในสูตรอาหารข้นเพื่อเพิ่มรสชาติ 3.เพิ่มความหนาแน่นของอาหาร เช่นการอัดอาหารเป็นเม็ด 4. เพิ่มการย่อยได้หรือการใช้ประโยชน์จากโภชนะในอาหาร เช่นการสับฟางข้าวให้มีขนาดเล็กลง
การแปรรูปอาหารข้น • ใช้วิธีการบด • ผสมอาหาร • การอัดเม็ดอาหาร ประโยชน์ - ช่วยเพิ่มความน่ากิน - เพิ่มการใช้ประโยชน์จากโภชนะในอาหาร
อาหารหยาบมีการแปรรูปอย่างไรบ้างอาหารหยาบมีการแปรรูปอย่างไรบ้าง • 1.การสับและการบดอย่างหยาบๆ • 2.การอัดเม็ดอาหารหยาบ • 3.การอัดก้อนอาหารหยาบ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดความยาวและความหนาของก้อนแตกต่างกันไป • 4.การแช่อาหารหยาบ หรือการอบอาหารหยาบ เช่นฟางอบยูเรีย
อาหารหยาบมีการแปรรูปอย่างไรบ้างอาหารหยาบมีการแปรรูปอย่างไรบ้าง หญ้าแห้งอัดฟ่อน หญ้าแห้งอัดเม็ด ฟางอบยูเรีย
สารต้านโภชนะ (antinutritional factor) • คือ กลุ่มของสารพิษที่อยู่ในอาหารสัตว์ หรือในพืชอาหารสัตว์ ที่เกิดขึ้นเองในพืชตามธรรมชาติ สารต้านบางชนิดจะแสดงความเป็นพิษ เมื่ออยู่ในตัวสัตว์ แต่บางชนิดอาจสลายตัวไปได้เองเมื่อถูกกับอากาศ หรือตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง • สารต้านโภชนะที่สำคัญได้แก่ protease inhibitor , lectin,tannin gossypol, mimosin, alfatoxin, oxalic acid, alkaloids และ hydrocyanic acid เป็นต้น
ไมโมซิน (mimosin) คืออะไร คือ สารพิษที่พบมากในใบกระถิน • ไมโมซินสามารถเปลี่ยนเป็น 3,4 – Dihydroxypyridine ในกระเพาะรูเมน สารนี้มีผลทำให้ thyroxin ลดลง ต่อมไธรอยด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น สัตว์จะกินอาหารลดลง การเจริญเติบโตลดลง และมีอาการขนร่วง เกิดขึ้น การทำลายพิษของไมโมซิน - การทำให้แห้ง การอบที่ 70 ๐ซ และ การแช่น้ำ
อัลฟ่าท๊อกซิน(alfatoxin)คืออะไรอัลฟ่าท๊อกซิน(alfatoxin)คืออะไร • สารพิษที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิดเช่น Aspergillus flavus, Aspergilus niger และ Pinicilium citrinum พบในถั่วลิสง และข้าวโพดที่มีความชื้นสูง • สารพิษทำให้เกิดตับอักเสบ หรือ ความสมบูรณ์พันธุ์ต่ำได้ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง หรือเกิดไฟโบรซีส (fibrosis) ในตับของโค alfatoxin B1 จะยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนในตับ ทำให้กรดอะมิโน leucine รวมตัวกับกรดอะมิโนอื่นเพื่อเป็นโปรตีนได้น้อยลง
ออกซาเลส(oxalate)คืออะไร คือ สารพิษที่พบมากในฟางข้าว • การใช้ฟางข้าวเป็นอาหารหยาบหลักนานๆ : สัตว์จะมีอาการกระดูกเสื่อม เนื่องจาก oxalate จะไปเกาะกับ Caทำให้เกิด Ca-oxalate ร่างกายจึงไม่สามารถนำแคลเซียมจากอาหารไปใช้ประโยชน์ได้ : มีผลให้สมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายเสียไป
กรดไฮโดรไซยานิก(HCN)คืออะไรกรดไฮโดรไซยานิก(HCN)คืออะไร • สารพิษที่พบในมันสำปะหลัง พบทั้งในหัวมัน ใบมัน และต้น มันสำปะหลังจะให้สารที่สามารถเปลี่ยนเป็น HCN ได้ 2 ชนิดคือ • - linamarin • - lotaustralin สารทั้งสองชนิดเป็นกลุ่มของ glucosides ถูกเปลี่ยนให้เป็น HCNHCN มีผลให้ O2ในเลือดไม่สามารถถูกนำไปในประโยชน์ได้