860 likes | 1.09k Views
Joomla !. เครื่องมือสร้างเว็บสำเร็จรูป. การสร้าง เว็บไซต์ในอดีต.
E N D
Joomla! เครื่องมือสร้างเว็บสำเร็จรูป
การสร้างเว็บไซต์ในอดีตการสร้างเว็บไซต์ในอดีต • การสร้างเว็บไซต์โดยใช้ Software เป็นงานที่ยากพอสมควร ผู้ที่จะสร้างเว็บไซต์ได้ต้องฝึกเขียนภาษา HTML ซึ่งเป็นภาษาพื้นฐานในการสร้างเว็บไซต์ และยังต้องเรียนภาษาการเขียนเว็บอื่นๆ อีกด้วย รวมถึงยังต้องศึกษาการใช้ตัวโปรแกรม สรุปคือ • เมื่อก่อนเราต้องเรียนรู้ภาษาที่จะเขียน และโปรแกรมที่ใช้เขียน • แต่ปัจจุบัน แค่เรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรมก็เพียงพอแล้ว
ทำความรู้จัก CMS • Content Management System หรือ CMS ถ้าแปลตามตัว Content = เนื้อหา,บทความ Management = การจัดการ System = ระบบ เพราะฉะนั้นจะได้ความหายตามตัวคือ ระบบบริหารการจัดการเนื้อหา แต่ที่จริงแล้ว CMS นี้ถูกนำมาใช้เรียกงานทางด้านเว็บไซต์ซะส่วนใหญ่ เ ขาจึงเรียกระบบนี้ว่าเป็นระบบบริการการจัดการเว็บไซต์ โดยที่ระบบนี้ นั้นนควาหมาย จะรวมไปถึงการจัดการข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ ไฟล์งานต่างๆด้วยแล้วแต่ผู้ใช้งานจะเลือกหรือกำหนดความต้องการของตัวเอง
ประเภทของ CMS • 1. เว็บท่า ผู้คนมักจะสับสนว่า เว็บท่า หรือ พอร์ทัล (portal) คือระบบจัดการเนื้อหาของเว็บ แต่จริงๆแล้ว เว็บท่าเป็น CMS ประเภทที่รวมระบบจัดการเนื้อหาเว็บที่เน้นการทำเว็บทั่วไปเป็นหลัก โดยที่ผู้ใช้ระบบเว็บท่าสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยได้อย่างง่ายดาย แทนที่จะใช้โปรแกรมออกแบบหน้าตาเว็บอื่น ๆ เช่น ดรีมวีฟเวอร์ โกไลฟ์ หรือไมโครซอฟท์ ฟรอนท์เพจ ที่มีเนื้อหาแบบนิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโมดูล หรือคอมโพเนนท์หลากหลายไว้เสริมความสามารถของเว็บท่าอีกด้วย ตัวอย่างของโปรแกรมเว็บท่าที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ Mambo (CMS) Joomla! PhpNukePostnuke
ประเภทของ CMS • 2. บล็อก บล็อก หรือ blog ย่อมาจาก weblog เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้สมัครเป็นสมาชิก และได้พื้นที่บล็อกตามที่กำหนด จากนั้นสมาชิกจะสามารถปรับปรุงเนื้อหาในบล็อกของตนได้อย่างง่ายดาย กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นในขณะนี้สำหรับเขียนไดอารี่ส่วนตัว เป็นต้น ตัวอย่างของโปรแกรมบล็อก ได้แก่ Wordpress
ประเภทของ CMS • 3. อี-คอมเมิร์ซ เป็นโปรแกรมสำหรับบริหารจัดการ การขายสินค้าบนอินเทอร์เน็ต มีหน้าร้านสำหรับแสดงสินค้า ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่ต้องการใส่ตะกร้า และจ่ายเงินได้ภายหลังผ่านทางบัตรเครดิตเป็นต้น ตัวอย่างของโปรแกรมอี-คอมเมิซ ได้แก่ PhpShop, osCommerceและ Zen cart (ที่พัฒนาจาก osCommerce)
ประเภทของ CMS • 4. อี-เลิร์นนิง เรียกอีกอย่างว่า LMS หรือ ระบบจัดการเนื้อหาเพื่อการเรียนการสอน สามารถอัปโหลดเนื้อหาของรายวิชาขึ้นระบบได้ ให้ผู้ที่เป็นสมาชิกสามารถเข้ามาดูเนื้อหาได้ ตัวอย่างของโปรแกรมอี-เลิร์นนิง ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ Moodle ATutor Blackboard WebCT
ประเภทของ CMS • 5. แกลลอรีภาพ เป็นโปรแกรมบริหารจัดการที่เน้นการแสดงภาพเป็นหลัก ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพขึ้นระบบเพื่อแสดงผลได้ ตัวอย่างของโปรแกรมแกลลอรีภาพ ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ Coppermine
ประเภทของ CMS • 6. กรุ๊ปแวร์ เป็นโปรแกรมสำหรับการประสานงานร่วมกันผ่านระบบเครือข่าย มีฟังก์ชันการทำงานสนับสนุนการทำงานร่วมกันของทีมงาน เช่นปฏิทินนัดหมาย อีเมล กลุ่มผู้ทำงาน การบริหารโครงการ การแลกเปลี่ยนไฟล์เอกสาร เป็นต้น โดยทั่วไปแล้ว สามารถรองรับการทำงานในสำนักงานทั่วๆไปได้ถึงร้อยละ 80 ตัวอย่างของโปรแกรมกรุปแวร์ ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ dotProjecteGroupwareMoreGroupwarephpCollabphpProjekt
ประเภทของ CMS • 7. วิกิ เป็นระบบบริหารจัดการเนื้อหาเว็บที่มีแนวความคิดใหม่ โดยเปิดกว้างให้ทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกสามารถแก้ไขเนื้อหาได้ แทบจะทุกส่วนของเว็บ ตัวอย่างของโปรแกรมวิกิ ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ มีเดียวิกิ Docuwiki
ประเภทของ CMS • 8 กระดานข่าว กระดานข่าว เป็นสถานที่แปะข้อความกระทู้ ในผู้ที่เป็นสมาชิก หรือบุคคลทั่วไปสามารถแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ เป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากทำให้เกิดชุมชนของผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน สามารถมาพูดคุยแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกันได้ ตัวอย่างของโปรแกรมกระดานข่าว ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่ PhpBBFudForumInvision Power Board vBulletin
ประเภทของ CMS • 9. ไลท์ เป็นโปรแกรมบริหารจัดงานเนื้อหาเว็บที่เปรียบเสมือนโมดูลย่อยๆ โมดูลเดียวของเว็บท่า เน้นที่การบำรุงรักษาง่าย สามารถลงระบบได้โดยไม่ต้องใช้ฐานข้อมูล แต่เก็บข้อมูลเป็นไฟล์อักขระธรรมดา ตัวอย่างของโปรแกรมไลท์ เช่น phpFreeNews Limbo
ประเภทของ CMS • 10. อื่น ๆ ตัวอย่างของโปรแกรมระบบจัดการเนื้อหาเว็บอื่นๆ เช่น ระบบบริหารจัดการองค์ความรู้ ปฏิทินออนไลน์ เป็นต้น ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/CMS
Joomla! คืออะไร • เป็นระบบบริหารจัดการเว็บไซต์ (Content Management System: CMS) • ช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว • สามารถติดตั้งใช้งานและอัพเดทข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา (ที่มีอินเตอร์เน็ต) • เป็นระบบจัดการเนื้อหาเว็บแบบ Open Source และ Free • พัฒนาด้วย PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL
ความสามารถของ Joomla! • เว็บไซต์ส่วนตัว หรือเว็บไซต์ครอบครัว • เว็บท่า (Portal Websites) • เว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Website) • เว็บไซต์องค์กรทางธุรกิจขนาดเล็ก • เว็บไซต์หน่วยงานหรือองค์การที่ไม่หวังผลกำไร • เว็บไซต์อินทราเน็ตที่ใช้งานเฉพาะภายในองค์กร • เว็บไซต์ชุมชน • เว็บแอปพลิเคชันขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ต่างๆเช่น ระบบแจ้งข่าวสารประชาสัมพันธ์ ระบบการจัดการเอกสาร การจัดการอัลบั้มรูปออนไลน์ ระบบกระดานสนทนา ระบบสมุดเยี่ยม ฯลฯ
ทำไมเลือกใช้ Joomla! • โหลดฟรี ใช้ฟรี ใช้หาเงินได้ด้วย • ติดตั้งง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ง่ายสุดๆ..จริงๆ • มี Extension เสริมการทำงานที่หลากหลายรูปแบบ • มีระบบบริหารจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เรียบง่าย • ยืดหยุ่นในการออกแบบตามความต้องการ โดยการใช้รูปแบบ Template • เปลี่ยนภาษาได้ตามต้องการ • ความปลอดภัยสูง • ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML, XML, DHTML, PHP ก็ทำได้ชิวๆ
Joomlaในปัจจุบัน • Joomla 1.0.xxx เป็นเวอร์ชั่นที่ถูกพัฒนาต่อมาจาก Mambo 4.5.x โดยแยกตัวออกมาทำเป็นเวอร์ชั่นของJoomlaโดยรูปแบบการใช้งานยังคล้ายคลึงกับ Mambo 4.5.x อยู่ • Joomla 1.5.xxx เป็นเวอร์ชั่นที่ถูกพัฒนาแตกต่าง ออกไปจาก Joomlaเวอร์ชั่น 1.0.xxx อย่างสิ้งเชิงทั้งเมนู การใช้งานรวมถึงขั้นตอนการติดตั้ง และโครงสร้างการทำงาน จากการทดสอบ ในการโหลดหน้าเว็บไซต์ Joomla1.5.xxx สามารถทำงานได้เร็วขึ้น • Joomla1.6 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยทั่วไปของระบบจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างบางส่วน และยังเป็นรุ่น Beta ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอน รอดูต่อไปละกันครับ
ความต้องการระบบสำหรับJoomla!ความต้องการระบบสำหรับJoomla! • ระบบปฏิบัติการ Linux Mac OS Windows
Web Server และระบบฐานข้อมูล PHP Server-side Scripting language Apache web server MySQL Database Server Apache/2.2.4 (Win32) หรือสูงกว่า ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.apache.org PHP 4.3 หรือสูงกว่า ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.php.net Mysql Database 3.23 หรือสูงกว่า ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.mysql.com
การเตรียมตัวติดตั้งบน Windows • ระบบปฏิบัติการ Windows • Appserv (จะติดตั้งphp, MySQL ให้อัตโนมัติ) • ตัว Install ของ Joomla
ขั้นตอนการติดตั้ง • ติดตั้ง web server หรือ Appservก่อนเลย • ติดตั้ง Joomla • ตั้งค่าคอนฟิคพื้นฐานของเว็บ
การติดตั้ง Appserv • ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ appserv-win32-2.5.10.exe เพื่อทำการติดตั้ง
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • เข้าสู่ขั้นตอนเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม โดยโปรแกรม AppServได้แจกจ่ายในรูปแบบ GNU License หากผู้ติดตั้ง อ่านเงื่อนไขต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว และยอมรับเงื่อนไขให้กด Next เพื่อเข้าสู่การติดตั้งในขั้นต่อไป
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกปลายทางที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นปลายทางที่ติดตั้งจะเป็น C:\AppServ หากต้องการเปลี่ยนปลายทางที่ติดตั้ง ให้กด Browse แล้วเลือกปลายทางที่ต้องการ กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • เลือก Package Components ที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นนั้นจะให้เลือกลงทุก Package กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • กำหนดค่าคอนฟิกของ Apache Web Server มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน localhost 80 Your e-mail
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • กำหนดค่าคอนฟิกของ MySQL Database 12345 12345 Utf-8 unicode
การติดตั้ง Appserv (ต่อ) • สิ้นสุดขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม AppServสำหรับขั้นตอนสุดท้ายนี้จะมีให้เลือกว่าต้องการสั่งให้มีการรัน Apache และ MySQL ทันทีหรือไม่ จากนั้นกดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม AppServ
การทดสอบ Web Server ...ติดตั้งผ่านหรือไม่ • เปิดโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต • พิมพ์ URL ที่ช่อง Addreesตามนี้ • http://localhost/หรือ • http://127.0.0.1กด Enter
ถ้าผ่านแล้ว..จะต้องขึ้นแบบนี้ถ้าผ่านแล้ว..จะต้องขึ้นแบบนี้
ขั้นตอนการติดตั้ง Joomla! • Download จากเว็บ www.joomla.orgมาไว้ที่เครื่องเราก่อน จะได้ไฟล์ชื่อ ดังนี้ • Joomla_1.5.18-Stable-Full_Package.zip • ทำการ copy ไปไว้ที่ C:\Appserv\www\ • ทำการแตกไฟล์ • เปลี่ยนชื่อโฟเดอร์เป็น Joomla • เริ่มการติดตั้ง
การ Download Joomla • ก่อนทำการติดตั้งนั้นต้องทำการดาวน์โหลดสตริปสำหรับติดตั้งก่อนครับ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่http://www.joomla.org เลือกเวอร์ชันล่าสุด ตามรูป
โหลดไฟล์ Full Package • คลิกที่ ZIP
เลือก Save File ไว้ในเครื่อง • เก็บไว้ที่ไหนก็ได้ ที่เราจำได้ หรือเตรียมไว้แล้ว
รอจนดาวน์โหลดเสร็จสิ้นรอจนดาวน์โหลดเสร็จสิ้น
เมื่อโหลดเสร็จแล้ว...ทำไงต่อเมื่อโหลดเสร็จแล้ว...ทำไงต่อ • Copy ไฟล์ Zip ไปไว้ที่ C:\Appserv\www\
ทำการแตกไฟล์ ด้วยโปรแกรมบีบอัดต่างๆ • Winzip • Winrar • 7zip คลิกขวาที่ไฟล์ Zip เลือกเป็น Extract File
เปลี่ยนชื่อ โฟเดอร์ ให้จำง่ายขึ้น • เปลี่ยนจาก Joomla_1.5.18-Stable-Full_Package • เป็น Joomla
เริ่มการติดตั้ง Joomla! • เปิดโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต • พิมพ์ที่ Address เป็น http://localhost/joomla/ ได้ดังนี้ เลือกภาษา
กรอกข้อมูลให้ครบทุกช่องกรอกข้อมูลให้ครบทุกช่อง MySQL localhost root 12345 (แล้วแต่จะตั้ง) Joomladb (ชื่อสอดคล้องกับชื่อเว็บ)
กรอกข้อมูลตามที่แนะนำ ให้ครบ ชื่อเว็บ ภาษาไทยได้เลย Email ผู้ดูแลเว็บ รัหัสและยืนยันรหัส ไม่ต้องติดตั้งข้อมูลตัวอย่าง
อ่านข้อความสีแดงให้เข้าใจก่อนอ่านข้อความสีแดงให้เข้าใจก่อน
ลบหรือเปลี่ยนชื่อโฟเดอร์ Installation • ที่อยู่ของโฟเดอร์ • C:\appserv\www\joomla\ ลบ หรือ เปลี่ยนชื่อ installation
คลิกที่ ดูหน้าเว็บไซต์ จะได้ดังนี้ (หน้าเว็บเปล่าๆ)
หลักการใช้ section(S) และ category (C) • ข้อมูลที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะไม่ต้องสร้าง S/C • เช่น คติพจน์, วิสัยทัศน์, เกี่ยวกับเรา, พันธกิจ เป็นต้น • ข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง ควรสร้าง S/C • เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์, ข่าวประกาศ เป็นต้น • ต้องสร้าง S ก่อน ตามด้วย C (บทความสร้างเมื่อไรก็ได้) • S/C จะต้องไปคู่กันตลอด (สร้างอันใดอันหนึ่ง ก็จะใช้งานไม่ได้)
Plugin คือ ฟังก์ชั่น ที่ใช้งานร่วมกับส่วนต่างๆ ในJoomla