1 / 21

การออกแบบการวิจัย

การออกแบบการวิจัย. ดร. ไพศาล กาญ จนวงศ์. ความหมายทั่วไป. การออกแบบงานวิจัย หมายถึง การจำกัดขอบเขตและวางรูปแบบการวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบที่เหมาะสมกับปัญหาที่วิจัย ผลจากการออกแบบวิจัยทำให้ได้ตัวแบบที่เรียกว่า แบบการวิจัย ซึ่งเปรียบเหมือนพิมพ์เขียวของการวิจัย.

liang
Download Presentation

การออกแบบการวิจัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การออกแบบการวิจัย ดร. ไพศาล กาญจนวงศ์

  2. ความหมายทั่วไป • การออกแบบงานวิจัย หมายถึง การจำกัดขอบเขตและวางรูปแบบการวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบที่เหมาะสมกับปัญหาที่วิจัย ผลจากการออกแบบวิจัยทำให้ได้ตัวแบบที่เรียกว่า แบบการวิจัย ซึ่งเปรียบเหมือนพิมพ์เขียวของการวิจัย

  3. แบบการวิจัย และ เค้าโครงการวิจัย • เค้าโครงการวิจัย หมายถึง รายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ ของการทำวิจัย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปัญหาการวิจัย จนถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้ช่วยผู้วิจัยสามารถดำเนินงานวิจัยให้สำเร็จลุล่วงได้ แต่มิได้รับประกันว่าผลที่ได้จะถูกต้องเม่นยำ

  4. สรุปความหมายของการออกแบบวิจัยสรุปความหมายของการออกแบบวิจัย • การกำหนดรูปแบบของการจัดกระทำกับตัวแปรอิสระที่ต้องการศึกษา การควบคุมอิทธิพลของตัวแปรเกิน รวมถึงวิธีการวัดค่าตัวแปรที่เป็นผลมาจากการกระทำของตัวแปรอิสระนั้นๆ

  5. ปัจจัยที่ทำให้การเรียนวิชาวิจัยให้ได้ A วิธีการวัด ตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียน ระยะเวลาเดินทาง ระยะเวลาเดินทาง ระยะเวลาเดินทาง เวลาเรียน เวลาเรียน เวลาเรียน เวลาเรียน เรียนได้ A ส่งงานครบ ส่งงานครบ ส่งงานครบ ทำข้อสอบได้ ทำข้อสอบได้

  6. วัตถุประสงค์ของการออกแบบการวิจัยวัตถุประสงค์ของการออกแบบการวิจัย • เพื่อให้ได้คำตอบที่ทำการวิจัยอย่างถูกต้อง แม่นยำ เป็นปรนัยและด้วยวิธีการที่ประหยัดที่สุด • เพื่อควบคุมหรือขจัดอิทธิพลของตัวแปรเกินหรือตัวแปรแทรกซ้อนที่จะส่งผลมารบกวนการทดลองทำให้ผลการวัดค่าตัวแปรตามคลาดเคลื่อนไป ผลการควบคุมจะทำให้สามารถสรุปได้ว่า ตัวแปรตามนั้น เกิดจากตัวแปรอิสระที่ศึกษาจริงหรือไม่

  7. ประโยชน์ของแบบการวิจัยประโยชน์ของแบบการวิจัย • ช่วยทำให้ผู้วิจัยสามารถวางแผนควบคุมตัวแปรเกินหรือตัวแปรแทรกซ้อนได้ • ช่วยในการกำหนดและสร้างเครื่องมือเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล • ช่วยให้ผู้วิจัยสามารถเลือกใช้วิธีการทางสถิติที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ • ช่วยในการประเมินเกี่ยวกับงบประมาณ แรงงานและระยะเวลาในการทำวิจัย • ช่วยในการประเมินผลวิจัยที่ได้ว่ามีความถูกต้องเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด

  8. ประสิทธิภาพของการออกแบบการวิจัยประสิทธิภาพของการออกแบบการวิจัย • ความแม่นยำ (Accuracy) • ความประหยัด (Economy) • ความถูกต้อง (Validity)

  9. หลัก Max : Maximization of Systematic Variance หลัก Min : Minimization of Systematic Variance หลัก Con : Control of Extraneous Systematic Variance หลักเกณฑ์ที่เป็นข้อพิจารณาประสิทธิภาพของการออกแบบการวิจัย Max-Min-Con

  10. Max : Maximization of Systematic Variance • หมายถึง การเพิ่มค่าความแปรปรวนของตัวแปรอิสระให้มีค่าสูงสุด หรือค่าของตัวแปรอิสระที่ต้องการศึกษาให้มีความแตกต่างกันมากที่สุด เพื่อที่สามารถวัดและสังเกตได้ชัดเจนแน่นอน เช่น การศึกษาวิธีการสอน 2 วิธี ว่าวิธีไหนทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีกว่ากัน

  11. Min : Minimization of Systematic Variance • หมายถึง การลดค่าความแปรปรวนของความคลาดเคลื่อนต่างๆ ให้มีค่าน้อยที่สุด โดยความคลาดเคลื่อนดังกล่าวอาจเกิดจากหน่วยที่ศึกษา เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา เชื้อชาติ จะต้องมีการควบคุมให้มีความแตกต่างกันน้อยที่สุด เช่น การศึกษาวิธีการสอน 2 วิธี ว่าวิธีไหนทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีกว่ากัน

  12. ลักษณะการเกิดความคลาดเคลื่อนลักษณะการเกิดความคลาดเคลื่อน • ความคลาดเคลื่อนอย่างสุ่ม (random error) เกิดจากความไม่เท่าเทียมกันของโอกาสอันเกิดขึ้นของตัวแปรแทรกซ้อน ที่มักจะเป็นตัวแปรจากภายในกลุ่มตัวอย่าง เช่น เพศ อายุ • ความคลาดเคลื่อนอย่างมีระบบ (systematic error) เป็นความคลาดเคลื่อนที่มีผลต่อกลุ่มตัวอย่างโดยเท่าเทียมกัน ได้แก่ เครื่องมือ หรือจากผู้ใช้เครื่องมือ

  13. Con : Control of Extraneous Systematic Variance • หมายถึง การควบคุมค่าความแปรปรวนของตัวแปรเกินที่อาจส่งผลกระทบต่อการทดลองให้มีน้อยที่สุด การกำจัดตัวแปรออก การสุ่ม การออกแบบวิจัย การเพิ่มตัวแปร การจับคู่ การใช้เทคนิคทางสถิติ การใช้เครื่องจักรกล

  14. คุณภาพงานวิจัย • ความตรงภายใน (Internal Validity) • ความตรงภายนอก (External Validity)

  15. ความเที่ยงตรงภายใน (internal validity) ความเที่ยงตรงที่เกิดจากการดำเนินการทดลอง หรือการดำเนินการศึกษาโดยตรง หรือ แบบการวิจัยที่ทำให้ผลการวิจัยที่ได้เกิดจากการกระทำของตัวแปรอิสระที่ศึกษาโดยตรงไม่มีตัวแปรอื่นหรือเหตุการณ์อื่นแทรกซ้อนเข้ามา

  16. องค์ประกอบที่ทำให้การวิจัยขาดความเที่ยงตรงในองค์ประกอบที่ทำให้การวิจัยขาดความเที่ยงตรงใน • ประวัติของกลุ่มตัวอย่าง (History): ความแตกต่างกันมาก • วุฒิภาวะ (Maturation) : เวลาทดลองนานเกินไป • ทักษะในการสอบวัด (testing): คุ้นเคยก่อนและหลัง • เครื่องมือที่ใช้วัด (Instrumentation) : ตัวเครื่องมือและผู้ใช้ • การถดถอยทางสถิติ (Statistical regression) : คะแนนสูง->ต่ำ • การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง (Selection): เลือกกลุ่มไม่ดีและ กลุ่มเปรียบเทียบไม่เหมาะสม • การขาดหายไปของกลุ่มตัวอย่าง (Experimental mortality) : ตาย • ผลของปฏิสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ (Interaction effect): เช่นการทดสอบ กับ เครื่องมือ

  17. ความเที่ยงตรงภายนอก (external validity) • ความเที่ยงตรงของแบบการวิจัยหรือแบบแผนการทดลองที่ผลสรุปจากการวิจัยที่ความเชื่อถือได้ สามารถอ้างอิง (Generalization) ไปสู่มวลประชากรตามเป้าหมาย (target population) ได้

  18. ประชากร ตัวอย่าง

  19. ประชากร ตัวอย่าง ตัวอย่าง (Generalization)

  20. องค์ประกอบที่มีผลต่อความคลาดเคลื่อนภายนอกองค์ประกอบที่มีผลต่อความคลาดเคลื่อนภายนอก • ปฏิกิริยาร่วมระหว่างการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างกับตัวแปรทดลอง: กลุ่มตัวอย่างที่เลือกมาไม่เป็นตัวแทนที่ดี และตัวแปรทดลองที่เลือกมาศึกษาไม่เหมาะสม • ปฏิกิริยาร่วมระหว่างการสอบครั้งแรก กับตัวแปรทดลอง: การสอบครั้งแรกจะมีผลทำให้กลุ่มตัวอย่างเกิดความจำข้อความได้ เมื่อนำมาทดลองและทดสอบใหม่อาจจำได้ • ปฏิกิริยาเนื่องจากการจัดสภาพของการทดลอง ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป • ผลร่วมของการได้รับตัวแปรทดลองหลายๆ ตัวติดต่อกัน ทำให้ผลสรุปเปรียบเทียบไม่ชัดเจน

More Related