290 likes | 377 Views
Who is handicapped?. (Music: “Walking left and right”). ใครพิการกันแน่ ?. Ksd.thsmc@gmail.com September 2010. 那年八月的暗夜,晚上要回家時正下著雨。. ฝนตกหนักมาก ตอนที่ผมเริ่มขับรถกลับบ้านในคืนวันนั้น ทั้งลม ทั้งฝน กระหน่ำลงที่ตัวรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย. 我開到一條少有人走的路時, 狂風驟雨擊打我的車子, 突然手上的方向盤猛然一震, 車子失控突然偏向右邊。.
E N D
Who is handicapped? (Music: “Walking left and right”) ใครพิการกันแน่? Ksd.thsmc@gmail.com September 2010
那年八月的暗夜,晚上要回家時正下著雨。 ฝนตกหนักมาก ตอนที่ผมเริ่มขับรถกลับบ้านในคืนวันนั้น ทั้งลม ทั้งฝน กระหน่ำลงที่ตัวรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย
我開到一條少有人走的路時, 狂風驟雨擊打我的車子, 突然手上的方向盤猛然一震, 車子失控突然偏向右邊。 ..ขณะที่ผมขับมาตามถนนสายเปลี่ยวสายหนึ่งในชนบท ทันใดนั้น พวงมาลัยรถเกิดอาการสั่นอย่างแรง และรถถลาออกข้างทางทันที
同時我聽到可怕的爆炸聲,我奮力把車停在雨滑的路肩同時我聽到可怕的爆炸聲,我奮力把車停在雨滑的路肩 想到整個情況便愕然不知所措,我不可能獨立換下爆胎 完全不可能。 มีเสียงระเบิดดังปัง ผมรีบประคองรถจอดข้างทางทันที ทำไงดีล่ะ ผมงงเป็นไก่ตาแตก จะให้ผมเปลี่ยนยางท่ามกลางพายุฝนคนเดียวรึ เป็นไปไม่ได้ ผมทำไม่ได้หรอก (สงสัยเป็นตุ๊ด)
因為我的運動神經受到感染,病情逐漸惡化,起先是感染因為我的運動神經受到感染,病情逐漸惡化,起先是感染 到右手右腳,然後是另一邊,雖然生病,但是車上裝了特別 器具的輔助,我還是一樣開車上下班。 Because I became afflicted with a slowly progressive disease of the motor nerves, affecting first my right arm and leg, and then my other side...In spite of my disease I still drove to and from work each day, with the aid of special equipment installed in my car. เพราะผมเพิ่งบาดเจ็บจากอาการกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง เดิมเริ่มจากแขนและขาขวา ต่อมาลามไปถึงตัวอีกซีกหนึ่ง แม้จะยังป่วยอยู่ ผมก็ยังฝืนมาทำงาน โดยมีไม้เท้าติดมาในรถด้วย (อ้อ ไม่ใช่ตุ๊ด เข้าใจผิด ขอโทษ)
後來我想到,也許路過的車子會停下來,但我隨後就打消了後來我想到,也許路過的車子會停下來,但我隨後就打消了 這種想法,為什麼它們要停下來? A thought that a passing motorist might stop was dismissed at once. Why should anyone? ตอนนั้น ผมหวังว่าคงมีรถวิ่งผ่านมาสักคัน และหยุดช่วยผมเปลี่ยนยาง แต่ผมก็เลิกหวัง.. ใครเขาจะยอมหยุด และทำไมต้องหยุด เพราะถ้าเป็นผม ก็คงไม่หยุด (แน้ ไอ้หมอนี่มองโลกในแง่ร้าย สงสัยไม่เคยช่วยคน)
我知道連我自己都不會停,然後我記起路邊不遠處有棟房子,我知道連我自己都不會停,然後我記起路邊不遠處有棟房子, 於是我發動車子,緩緩砰然前進,開進泥土地。 I knew I wouldn't! Then I remembered that a short distance up a little side road was a house. I started the engine and thumped slowly along, keeping well over on the shoulder until I came to the dirt road, where I turned in … ทันใดนั้น ผมนึกขึ้นได้ว่า มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากนี้นัก ผมเริ่มสตาร์ทรถ ค่อยๆพยุงรถ คลานตามไหล่ถนน จนกระทั่งสามารถกลับเข้าสู่ทางลูกรังเดิมอีกครั้ง
幸運地,房子的燈光正歡迎我,我開進車道,按了喇叭,幸運地,房子的燈光正歡迎我,我開進車道,按了喇叭, 有個小女孩開了門,站在那裡看著我。 …- thankfully. Lighted windows welcomed me to the house and I pulled into the driveway and honked the horn. The door opened and a little girl stood there, peering at me. ..ขอบคุณพระเจ้า แสงที่ลอดออกจากช่องหน้าต่างช่องนั้น นำทางผมไปจนถึงบ้านหลังนั้น ผมกดแตรรถดังลั่น ประตูบ้านเปิดออก เด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงประตู มองมาที่ผม
我搖下車窗,大聲說:「車胎爆了!需要有人替我更換,我搖下車窗,大聲說:「車胎爆了!需要有人替我更換, 因為我跛腳,無法自己更換。」 I rolled down the window and called out that I had a flat and needed someone to change it for me because I had a crutch and couldn't do it myself. ผมหมุนกระจกรถลง และตะโกนบอกไปว่า รถของผมยางแตก และต้องการความช่วยเหลือ ตัวผมเองต้องใช้ไม้เท้ายัน จึงทำเองไม่ได้
他進入屋內,一會兒出來時裹著雨衣,戴雨帽,後面跟著他進入屋內,一會兒出來時裹著雨衣,戴雨帽,後面跟著 一個男人,愉快地跟我打招呼。 เธอกลับเข้าไปในบ้าน สักครู่.. ก็กลับออกมาพร้อมกับเสื้อฝนและหมวก มีผู้ชายอีกคนตามออกมาด้วย พร้อมกับทักทายต้อนรับอย่างใจดี
舒適而乾爽地坐在車內,覺得在暴風雨中奮鬥的男人和小女孩很可憐,沒關係,我會付錢給她們。舒適而乾爽地坐在車內,覺得在暴風雨中奮鬥的男人和小女孩很可憐,沒關係,我會付錢給她們。 I sat there comfortable and dry, and felt a bit sorry for the man and the little girl working so hard in the storm. Well, I would pay them for it. ผมนั่งอยู่ในรถ สบายและตัวแห้ง รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่ชายคนนั้นและเด็กผู้หญิง ต้องทำงานกันอย่างหนักท่ามกลางพายุฝน ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะจ่ายค่าสินน้ำใจให้เอง
雨勢稍減,我搖下車窗看換胎過程,他們似乎動作很慢,雨勢稍減,我搖下車窗看換胎過程,他們似乎動作很慢, 我開始有點不耐煩。 The rain seemed to be slackening a bit now, and I rolled down the window all the way to watch. It seemed to me that they were awfully slow and I was beginning to become impatient. ระหว่างนั้น ฝนเริ่มซาลง ผมหมุนกระจกลงและดูการทำงานของพวกเขาตลอดเวลา พวกเขาทำงานช้ามาก จนผมเริ่มมีอาการหมดความอดทน
我聽到車的後邊,傳來金屬的清脆碰撞聲和女孩的聲音:我聽到車的後邊,傳來金屬的清脆碰撞聲和女孩的聲音: 「爺爺,這是千斤頂手把。」老人低聲含糊地回答。 I heard the clank of metal from the back of the car and the little girl's voice came clearly to me. "Here's the jack-handle, Grandpa." She was answered by the murmur of the man's lower voice … ผมได้ยินเสียงโครมครามข้างหลังรถ และได้ยินเสียงของเด็กหญิงชัดเจน “คุณปู่ นี่ค่ะ คันยกแม่แรง” แล้วคุณปู่ก็ตอบด้วยน้ำเสียงต่ำ แต่พึมพำ
車子慢慢被頂了上來,接下來是一連串的聲響,搖動及車子慢慢被頂了上來,接下來是一連串的聲響,搖動及 車後低聲的對話,最後終於完工了,千斤頂移開時,我感到 車子撞到地面,接著行李箱門關閉的聲音。 …and the slow tilting of the car as it was jacked up. There followed a long interval of noises, jolts and low conversation from the back of the car, but finally it was done. I felt the car bump as the jack was removed, and I heard the slam of the trunk lid, …. ..รถค่อยๆเอียงขึ้น ขณะที่แม่แรงเริ่มยกรถ ตามด้วยเสียงดังเป็นระยะๆ เสียงกระแทก เขย่า และเสียงพูดคุยจากด้านหลังรถ จนในที่สุด ก็เปลี่ยนยางเสร็จ ผมรู้สึกถึงตัวรถกระแทกกับพื้น ตอนที่ยกแม่แรงออก
他們就站在車窗口,老人有點嶇僂,寬大雨衣下的他,他們就站在車窗口,老人有點嶇僂,寬大雨衣下的他, 看起來很虛弱,小女孩大概八歲或十歲他往上看我時 快樂的臉龐帶著微笑! … and then they were standing at my car window. He was an old man, stooped and frail-looking under his slicker. The little girl was about 8 or 10, I judged, with a merry face and a wide smile as she looked up at me. .. และแล้ว พวกเขาก็มายืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างรถผม เขาเป็นคนแก่ ก้มหน้าและดูบอบบางในชุดเสื้อฝนของเขาเด็กผู้หญิง ประมาณ 8-10 ขวบ ยืนหน้าบานและยิ้มให้ผม
他說: 「這樣的天氣,車子出毛病很糟糕,不過,都修理好了。」 「謝謝」,我說:「那我該付你多少錢呢?」 He said, "This is a bad night for car trouble, but you're all set now." "Thanks," I said, "thanks. How much do I owe you?" ชายผู้นั้นพูดว่า “แย่นะ รถมีปัญหากลางคืนแบบนี้ แต่ซ่อมให้เรียบร้อยแล้วหละ” “ขอบคุณมาก” ผมตอบ “ขอบคุณจริงๆ ผมต้องให้ค่าตอบแทนลุงเท่าไหร่ล่ะ”
他搖搖頭說:「不用,蒂喜雅告訴我,你的腳不方便,我很樂意幫忙他搖搖頭說:「不用,蒂喜雅告訴我,你的腳不方便,我很樂意幫忙 ,我知道如果是你,你也會幫我忙的,不用收費,朋友。」 He shook his head. "Nothing. Cynthia told me you were a cripple - on crutches. Glad to be of help. I know you'd do the same for me. There's no charge, friend." เขาส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกครับ ซินเธียบอกผมว่า คุณเป็นง่อย ต้องใช้ไม้เท้าพยุง ดีใจที่ได้ช่วยเหลือครับ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณเป็นผม คุณก็ต้องช่วยเหลือผมเหมือนกัน ..ฟรีครับ เพื่อน”
我拿出一張五元紙鈔:「不!不,付賬是應該的。」我拿出一張五元紙鈔:「不!不,付賬是應該的。」 I held out a five-dollar bill. "No! I like to pay my way." ผมยื่นธนบัตรใบละ 5 เหรียญให้เขา “ขอโทษครับ ผมอยากตอบแทนในแบบของผม”
他沒有意思要拿錢,小女孩靠近車窗,低聲的對我說:「爺爺看不見。」他沒有意思要拿錢,小女孩靠近車窗,低聲的對我說:「爺爺看不見。」 He made no effort to take it and the little girl stepped closer to the window and said quietly, "Grandpa can't see it." เขาไม่ได้พยายามที่จะรับเงินนั้นเลย เด็กหญิงเลยก้าวเข้ามาใกล้หน้าต่างรถ แล้วกระซิบกับผมว่า “คุณปู่มองไม่เห็นค่ะ”
接下來幾秒鐘,我只感到羞愧和震驚,我從未有過那種強烈的感覺,接下來幾秒鐘,我只感到羞愧和震驚,我從未有過那種強烈的感覺, 一個盲人和小孩,在黑暗中用濕冷的手指,去摸索螺栓和工具。 In the next few frozen seconds the shame and horror of that moment penetrated, and I was sick with an intensity I had never felt before. A blind man and a child! Fumbling, feeling with cold, wet fingers for bolts and tools in the dark ... วินาทีนั้น ความรู้สึกทั้งอับอาย ทั้งสยอง ประดังมาที่ผม ผมรู้สึกเศร้าใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อะไรกันเนี่ย ชายตาบอดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องใช้เครื่องมือทั้งคลำทั้งควาน ทำงานท่ามกลางสายฝนที่เย็นหนาวและคืนมืด
而他的盲眼所帶來的黑暗,恐怕至死才能終止,他們卻仍願幫我在而他的盲眼所帶來的黑暗,恐怕至死才能終止,他們卻仍願幫我在 風雨中更換輪胎,而我卻坐在暖活舒適的車中。 ….- a darkness that for him would probably never end until death. They changed a tire for me - changed it in the rain and wind, with me sitting in snug comfort in the car with my crutch. ..ในความมืด ที่อาจไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับเขาจนกว่าจะตาย พวกเขาเปลี่ยนยางรถให้ผม – เปลี่ยนท่ามกลางสายฝนและลมพายุ โดยที่ผมนั่งสบายอย่างอบอุ่นอยู่ในรถพร้อมไม้เท้า
ใครพิการกันแน่ 誰是殘障? (Who is handicapped?)
他們道晚安離開之後,我不記得自己坐在那裡多久,但時間長到他們道晚安離開之後,我不記得自己坐在那裡多久,但時間長到 足以讓我好好的探索自己的內心深處,找出所有恐懼不安的癥結。 I don't remember how long I sat there after they said good night and left me, but it was long enough for me to search deep within myself and find some disturbing traits. ผมจำไม่ได้ว่าผมนั่งอึ้งอยู่ในรถนานแค่ไหนหลังจากพวกเขากล่าวอำลาและกลับเข้าบ้านไป แต่มันนานพอที่ทำให้ผมสามารถมองลึกลงไปในตัวผมเองและพบเห็นกมลสันดานบางอย่าง
我了解到以前的自己,心中只充滿了自憐,自私,對別人的需要我了解到以前的自己,心中只充滿了自憐,自私,對別人的需要 很冷漠,不體諒別人,我坐在那兒禱告,謙卑的祈求力量。 I realized that I was filled to overflowing with self-pity, selfishness, indifference to the needs of others and thoughtlessness. I sat there and said a prayer. In humility I prayed for strength, …. ผมตระหนักดีว่า ผมมีแต่การเข้าข้างตัวเอง เห็นแก่ตัว ไม่สนใจความต้องการของผู้อื่น และสิ้นคิด.. ผมนั่งอยู่ตรงนั้น และเริ่มสวดอ้อนวอนอย่างนอบน้อม ..ขอให้ผมมีพลังด้วยเถิด
祈求更能瞭解與透徹洞悉自己的缺點,也祈求信心,以克服這些缺點祈求更能瞭解與透徹洞悉自己的缺點,也祈求信心,以克服這些缺點 …. for a greater understanding, for keener awareness of my shortcomings and for faith to continue asking in daily prayer for spiritual help to overcome them. ..ขอให้ผมเป็นคนเข้าใจคน มีสติในความโชคร้ายที่ได้รับ ..และขอให้ผมเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ..ขอพร เพื่อที่ให้ได้ชนะมันด้วยเทอญ
我祈求上帝,降福給這位眼盲者和他的孫女。 I prayed for blessings upon the blind man and his granddaughter. ผมสวดขอพรให้กับคนแก่ตาบอดและหลานสาวของเขาด้วย
最後我把車子開走,心裡仍然顫抖,精神上卻滿是謙卑。最後我把車子開走,心裡仍然顫抖,精神上卻滿是謙卑。 Finally I drove away, shaken in mind, humbled in spirit. สุดท้าย ผมขับรถจากมา ..ด้วยใจที่สั่นสะท้าน และความรู้สึกที่ถ่อมตนยิ่งขึ้น
誰是殘障 ?值得大家深思。 (Who is handicapped? Something to ponder upon deeply ) ..ใครพิการกันแน่ บางสิ่งที่ต้องใคร่ครวญอย่างแท้จริงซะแล้ว
遇到困難不能自認殘障,因為還有很多人更需要您的幫忙。遇到困難不能自認殘障,因為還有很多人更需要您的幫忙。 Try not to see only your own handicap in times of difficulty, because there’re so many people who are more needy of help. Isn’t it? May God bless you with peace and joy. อย่าเกี่ยงแต่ความเสียเปรียบที่คุณมีเมื่อยามลำบาก เพราะยังมีผู้คนอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือ ใช่ไหมครับ 不是嗎?願 神賜福您 喜樂 平安