1 / 36

การทดลองที่ 4 โครงสร้างผลึก

การทดลองที่ 4 โครงสร้างผลึก. ทฤษฎี. การนับจำนวนอะตอมในยูนิตเซลล์ การคำนวณความหนาแน่น 3 .การหาปริมาตรของยูนิตเซลล์. 1/8. 1/2. 1. การนับจำนวนอะตอมในยูนิตเซลล์. (1) อะตอมซึ่งอยู่ที่มุม ให้นับ 1/8 เพราะว่ามีการใช้ร่วมกันแปดยูนิตเซลล์

Download Presentation

การทดลองที่ 4 โครงสร้างผลึก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การทดลองที่ 4 โครงสร้างผลึก

  2. ทฤษฎี • การนับจำนวนอะตอมในยูนิตเซลล์ • การคำนวณความหนาแน่น 3.การหาปริมาตรของยูนิตเซลล์

  3. 1/8 1/2 1. การนับจำนวนอะตอมในยูนิตเซลล์ (1) อะตอมซึ่งอยู่ที่มุม ให้นับ 1/8 เพราะว่ามีการใช้ร่วมกันแปดยูนิตเซลล์ (2) อะตอมซึ่งอยู่พื้นผิว ให้นับ 1/2 เพราะมีการใช้ร่วมกันสองยูนิตเซลล์

  4. 1 1. การนับจำนวนอะตอมในยูนิตเซลล์ (3) อะตอมซึ่งอยู่ตามขอบ ให้นับ 1/4 เพราะมีการใช้ร่วมกันสี่ยูนิตเซลล์ (4) อะตอมซึ่งอยู่ตรงกลาง ให้นับเต็มคือ 1 เพราะไม่มีการใช้ร่วมกันกับยูนิตเซลล์อื่น 1/4

  5. m = nM NA 2. การคำนวณความหนาแน่น ความหนาแน่นของสารr = m = มวลของยูนิตเซลล์ V ปริมาตรของยูนิตเซลล์ (มวลของยูนิตเซลล์)

  6. n เป็นจำนวนหน่วย ( unit) ในหนึ่งยูนิตเซลล์ M เป็นน้ำหนักตามสูตร (formula weight) ของธาตุหรือสารประกอบ NAเป็นเลขอาโวกาโดร (Avogadro’s number)

  7. 3.การหาปริมาตรของยูนิตเซลล์ Body-Centred Cubic l d a l a d เส้นทแยงมุมที่ผิวหน้าของยูนิตเซลล์ (l) l2 = a2 + a2 เส้นทแยงมุมของรูปลูกบาศก์ (d) เท่ากับ 4r

  8. l a d 4 3 4 3 3 a = r = r ปริมาตรของยูนิตเซลล์ d มีความสัมพันธ์กับ l และ a ดังนี้ d2 = l2 + a2 (4r)2 = 3a2

  9. a = 2 2r (2 2r)3 ปริมาตรของหน่วยเซลล์ = หน่วยเซลล์แบบ face-centred Cubic จากรูป l = 4r l2 = a2 + a2 (4r)2 = 2a2 8r2 = a2

  10. วิธีทดลอง -ในการทดลองนี้จะใช้ลูกปิงปองแทนอนุภาคในโครงผลึกซึ่งอาจเป็นอะตอมหรือไอออนอย่างใดอย่างหนึ่ง

  11. แบบ ก แบบ ข ตอนที่ 1 การจัดเรียงอะตอมในโครงสร้างผลึก ก. เปรียบเทียบการจัดเรียงอนุภาค 1. จัดเรียงลูกปิงปองชั้นเดียวแบบ ก และ ข ดังรูป

  12. แบบ ก แบบ ข 2. นับจำนวนลูกปิงปองที่ล้อมรอบลูกสีเหลือง ตรงกลาง บันทึกผลในตาราง • หา packing efficiency และเปอร์เซ็นต์ช่องว่าง • ของการจัดเรียงแบบ ก และ ข

  13. การหา packing efficiency ของ • การจัดเรียงอนุภาคชั้นเดียว • คำนวณปริมาตรบริเวณแท่ง • สี่เหลี่ยม ABCD (Y) • 2. คำนวณปริมาตรปิงปอง • ทรงกลม 1 ลูก(X)

  14. Packing efficiency = X 100 Y เปอร์เซ็นต์ช่องว่าง= 100- packing efficiency กำหนดให้ รัศมีของลูกปิงปองทรงกลม = r

  15. = 2R x 3R x 2R = 4 3 R3 E แบบ ก แบบ ก ปริมาตรของบริเวณ ABCD = CD x DE x f f = เส้นผ่านศูนย์กลางของอนุภาค

  16. แบบ ข แบบ ข ปริมาตรของบริเวณ ABCD = AB x BC x 2R = 8R3

  17. ช่องเททระ ฮีดรัล ช่องเททระ ฮีดรัล 4. วางลูกปิงปองในชั้นที่ 2 ของการจัดเรียงแบบ ก บนช่องว่างสามเหลี่ยมหัวตั้งดังรูป พิจารณาช่องเททระฮีดรัลและช่องออกตะฮีดรัล ช่องออกตะฮีดรัล ภาพด้านข้าง ภาพด้านบน

  18. ช่องลูกบาศก์ ด้านข้าง ด้านบน 5. เรียงลูกปิงปองในชั้นที่ 2 ของการจัดเรียงแบบ ข ==> พิจารณาช่องลูกบาศก์

  19. Hexagonal closest packing B A A ABC... แบบที่ 2 C B Cubic closest packing (Face-centred cubic) A ข. เปรียบเทียบโครงสร้างผลึก 1. เรียงแพปิงปองในชั้นที่ 3 ดังรูป ABA... แบบที่ 1

  20. 2. นับจำนวนช่องเททระฮีดรัลและช่องออกตะฮีดรัลต่อหนึ่งอะตอมโดย 2.1. จัดเรียงอนุภาคแบบ closest packing แบบที่ 1 ABAB ชั้นที่ 3 ชั้นที่ 2 ชั้นที่1

  21. 2.2. พิจารณาปิงปองลูกกึ่งกลางแพปิงปองหกเหลี่ยมใน ชั้นที่ 2 เป็นตัวแทนอะตอมในโครงสร้างผลึก 2.3. ปั้นดินน้ำมันเป็นก้อนกลมบรรจุในช่องเททระฮี ดรัลทุกช่องที่ล้อมรอบลูกปิงปองกลางของชั้นที่ 2 2.4 ใส่เม็ดพลาสติกในช่องออกตะฮีดรัลทุกช่อง ที่ล้อมรอบลูกปิงปองกลางของชั้นที่ 2

  22. จำนวนช่องเททระฮีดรัลต่อหนึ่งอะตอมจำนวนช่องเททระฮีดรัลต่อหนึ่งอะตอม = จำนวนก้อนดินน้ำมันทั้งหมดที่ล้อมรอบอะตอม 4 จำนวนช่องออกทะฮีดรัลต่อหนึ่งอะตอม = จำนวนเม็ดพลาสติกสีทั้งหมดที่ล้อมรอบอะตอม 6

  23. การนับจำนวนช่องเททระฮีดรัลและออกตะฮีดรัลการนับจำนวนช่องเททระฮีดรัลและออกตะฮีดรัล ในการจัดเรียงแบบที่ 2 ABCABC ดำเนินการทดลองเช่นเดียวกับแบบที่ 1 แต่จัดเรียงแพปิงปองสามเหลี่ยม 3 ลูกในชั้นที่สาม ให้หันมุมยอดไปด้านตรงกันข้าม ดังรูป ชั้นที่ 3 ชั้นที่ 2 ชั้นที่1

  24. 3. นับเลขโคออร์ดิเนชันและพิจารณายูนิตเซลล์ ที่เกิดจากการจัดเรียงอะตอมในโครงสร้าง ผลึกแบบ ABAB…และ ABCABC… • เลขโคออร์ดิเนชัน นับจำนวนลูกปิงปองทั้งหมดที่ • ล้อมรอบลูกปิงปองกลางของชั้นที่ 2 (ชั้น B) • ยูนิตเซลล์ที่เกิดขึ้นจากการจัดเรียงลูกปิงปอง • มี 2 แบบ คือ hcpและ fcc

  25. ชั้นที่ 3 ชั้นที่ 2 ชั้นที่ 1 Hexagonal(hcp)

  26. ชั้นที่ 4 ชั้นที่ 3 ชั้นที่ 2 ชั้นที่ 1 Face-centred cubic (fcc)

  27. 1. สร้างยูนิตเซลล์แบบ fccและ bcc • นับเลขโคออร์ดิเนชันและจำนวนอนุภาค • ในหนึ่งยูนิตเซลล์ 3. คำนวณ packing efficiency และ เปอร์เซ็นต์ช่องว่างของยูนิตเซลล์ แบบ fcc และ bcc

  28. การคำนวณ packing efficiency • กำหนดเส้นผ่านศูนย์กลางของลูกปิงปอง = 2r • 2.นับจำนวนอนุภาคในหนึ่งยูนิตเซลล์แบบ fcc และ bcc(n) • 3. คำนวณปริมาตรของอนุภาคในหนึ่งยูนิตเซลล์ (n x (r3)) • 4. คำนวณปริมาตรของยูนิตเซลล์ (V = a3)

  29. packing efficiency = n x 4/3( pr3) x 100 (a3) % ช่องว่าง =100 -packing efficiency

  30. C Cl- Na+ B A ตอนที่ 3 โครงสร้างผลึกของสารประกอบ ก. แบบ Rock salt - NaCl • ปั้นดินน้ำมันทรงกลมแทน Na+บรรจุในช่องออกตะฮีดรัลทั้งหมด

  31. 2. เปรียบเทียบกับแบบจำลองโครงสร้างประจำกลุ่ม 3. หาเลขโคออร์ดิเนชันของ NaCl โดยนับจำนวน Cl- ที่ล้อมรอบ Na+ และจำนวน Na+ ที่ล้อมรอบ Cl- 4. นับจำนวน Cl- และ Na+ ในหนึ่งยูนิตเซลล์ 5. หาจำนวนหน่วยสูตรและระบุสูตรอย่างง่ายของสาร

  32. C S2- B Zn2+ A ข. แบบ Zinc Blende - ZnS ทำการทดลองเช่นเดียวกับโครงสร้างแบบ Rock salt แต่ปั้นดินน้ำมันทรงกลมหรือใช้เม็ดพลาสติกแทน Zn2+ บรรจุในช่องเททระฮีดรัลช่องเว้นช่อง

  33. C B F- A ค. แบบ Fluorite - CaF2 Ca2+ ทำการทดลองเช่นเดียวกับโครงสร้างแบบ Rock salt แต่ปั้นดินน้ำมันทรงกลมหรือใช้เม็ดพลาสติกแทน F-บรรจุในช่องเททระฮีดรัลทุกช่อง

  34. Cl- Cs+ ง. แบบ Cesium Chloride ด้านบน ด้านข้าง สร้างยูนิตเซลล์คล้ายแบบ bcc โดยใช้ลูกปิงปองสีขาวแทน Cl- และลูกปิงปองสีแทน Cs+

  35. บท รศ. วลัยพรรณ เหลืองดิลก ผศ. วิไลวรรณ ถิรวณิชย์ อ.ดร. โสมวดี ไชยอนันต์สุจริต อ.ดร. ธรรมรัตน์ อารีย์

More Related