1 / 73

Chapter 2

Chapter 2. Information Technologies: Concepts and Management เทคโนโลยีสารสนเทศ : แนวความคิดและการจัดการ. Learning Objectives. อธิบายถึงระบบสารสนเทศต่าง ๆ วิวัฒนาการ และจัดแบ่งระบบจำเพาะตามที่สังเกตเห็น อธิบายถึง transaction processing และ functional information systems

nickolas
Download Presentation

Chapter 2

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Chapter 2 Information Technologies: Concepts and Managementเทคโนโลยีสารสนเทศ:แนวความคิดและการจัดการ Chapter 2

  2. Learning Objectives • อธิบายถึงระบบสารสนเทศต่าง ๆ วิวัฒนาการและจัดแบ่งระบบจำเพาะตามที่สังเกตเห็น • อธิบายถึง transaction processing และ functional information systems • บ่งชี้ถึง major internal support systems และ แสดงความสัมพันธ์กับ managerial functions. • อธิบายการสนับสนุนของ IT ตลอดทั้ง supply chain รวมทั้ง CRM • กล่าวถึง information infrastructure และ architecture. • เปรียบเทียบ client/server architecture, mainframe-based legacy systems, และ P2P architecture รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง • อธิบายถึงรูปแบบหลัก ๆ ของ Web-based information systems และทำความเข้าใจถึงฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง • อธิบายถึง new computing environments. • อธิบายว่า information resources บริหารจัดการอย่างไร และ บทบาทของ ISD และ end users คือ อะไร Chapter 2

  3. Building an E-Business At FedEx Corporation • The problem/opportunity: • ตั้งแต่แรก FedEx ไม่มีแรงกดดันใด ๆ ไม่ว่าจากตัวธุรกิจหรือคู่แข่งรายอื่น ๆ ต่อมามีแรงกดดันเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากความต้องการทางธุรกิจเพื่อให้ส่งของได้เร็วขึ้นในราคาที่ต่ำลง และ ปรับปรุงทางด้านการบริการลูกค้า • จะเห็นว่า ไม่ได้มีปัญหาทางธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของการอยู่เหนือคู่แข่ง โดยทำการ ปรับปรุงเพื่อสอดรับกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ • FedEx กำหนด Goal ขึ้นมาสองข้อ คือ • ก) 100% customer service • ข) 0% downtime Chapter 2

  4. IT Solution: • Software Application หลักที่ถูกนำมาใช้คือ e-Shipping Tools เป็น Web application ให้ลูกค้าตรวจสอบสถานะของการจัดส่งผ่านทาง Web • ต่อมาได้ทำ E-Commerce เต็มรูปแบบ Chapter 2

  5. Chapter 2

  6. Result: • รูปแบบทางธุรกิจที่สร้างขึ้นมาก่อมูลค่าให้แก่ลูกค้าหลายด้าน • สื่อสารและประสานงานกันได้ดีขึ้นตลอดการขายและsupply chain • ลดต้นทุน และ ลด Order cycle ลง • เพิ่มรายได้ และ มีกำไรมากขึ้น • เพิ่มการได้เปรียบในการแข่งขัน • FedEx ได้เปลี่ยนจาก old-economy shipping company มาเป็น e-business logistic enterprise Chapter 2

  7. Lesson Learned: • การเปลี่ยนเป็น e-business ต้องเปลี่ยนโครงสร้างและกระบวนการให้รองรับเทคโนโลยีด้วย • มุ่งเน้นที่ลูกค้า Chapter 2

  8. Application Hardware Software Data People 2.1 Information Systems: Concepts and Definitions • ระบบสารสนเทศ (Information System;IS):หมายถึงกระบวนการหนึ่ง ๆ ที่รวบรวมข้อมูล นำมาประมวลผล จัดเก็บในรูปแบบต่าง ๆ แล้วทำการวิเคราะห์ และ เผยแพร่สารสนเทศที่ได้ออกไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเพาะเจาะจง (specific purpose) • Computer Based Information System (CBIS): หมายถึงระบบสารสนเทศหนึ่ง ๆ ซึ่ง ใช้เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์เข้ามาจัดการกับงานที่ต้องการบางอย่าง หรือ ทั้งหมด • องค์ประกอบหลัก ๆ ของ IS ได้แก่ • Hardware • Software • Database • Network • Procedure • People Chapter 2

  9. Application Program • โปรแกรมประยุกต์ (Application Program)หมายถึงโปรแกรมหนึ่ง ๆ ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนงาน ๆ หนึ่งที่กำหนดขึ้นมา หรือ สนับสนุนกระบวนทางธุรกิจ กระบวนการหนึ่ง หรือ สนับสนุนโปรแกรมประยุกต์โปรแกรมอื่น ๆ ตามที่ออกแบบ • เมื่อทำการรวบรวมโปแกรมประยุกต์ต่าง ๆ เอาไว้ทีแผนกหนึ่ง มักจะพิจารณาแผนก นี้ว่าเป็น departmental information system เช่น เป็นแผนกที่รวบรวมโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคล (Human resources)ก็เรียกว่า Human resources information system (HRIS) • ระบบสารสนเทศเป็นการเชื่อมระบบโดยนัยของโครงข่ายอิเลคทรอนิคส์ (electronic networks) ซึ่งอาจอยู่ในรูปของการใช้สาย (wireline) หรือ ไร้สาย (wireless) ก็ได้ Chapter 2

  10. Enterprisewide information system (EIS) • ถ้าทั้งบริษัทถูกเชื่อมต่อด้วยเน็ตเวิร์ค และ พนักงานสื่อสารกันและกันผ่านเน็ตเวิร์คและเข้าถึงสารสนเทศได้ทั่วทั้งองค์กร เรียกว่า Enterprisewide information system • ส่วนคำว่า Interorganizational information systemจะหมายถึง ระบบสารสนเทศที่วิ่งอยู่ระหว่างองค์กรสององค์กรหรือมากกว่า แต่ยังคงเป็นบริษัทเดียวกัน • ระบบสารสนเทศถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับเป้าหมายหลายอย่าง หนึ่งในเป้าหมายหลักก็คือ จัดการกับข้อมูลให้อยู่ในรูปของสารสนเทศ หรือ องค์ความรู้ เราลองมานิยามความหมายของ ข้อมูล(data) สารสนเทศ(information) และ องค์ความรู้ (knowledge)กันก่อน Chapter 2

  11. Data, Information, and Knowledge • ความหมายของ Data / Information และ Knowledge • Data itemsหมายถึงองค์ประกอบรูปแบบหนึ่งที่ใช้อธิบายถึง สิ่งของต่างๆ หรือ เหตุ การณ์ต่าง ๆ หรือ การกระทำต่าง ๆ หรือ การทำธุรกรรมที่ถูกบันทึกไว้ อาจถูกแบ่งชั้นและเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการจัดแบ่งให้เป็นส่วน ๆ เพื่อให้บรรลุถึง ความหมายที่ต้องการ • Informationหมายถึงข้อมูลที่ถูกจัดกลุ่มแล้ว ซึ่งจะมีความหมายและมีมูลค่าต่อผู้รับ • Knowledgeหมายถึงข้อมูล และ/หรือ สารสนเทศที่ผ่านการจัดรูปแบบและถูกประ มวล อันแสดงถึง ความเข้าใจ ประสบการณ์ การเรียนรู้แบบสะสมมา และ ความ ชำนาญเป็นพิเศษ เพื่อให้เรานำเอามาใช้แก้ปัญหาหรือการกระทำในปัจจุบัน ตอนนี้ KM กำลังมาแรง เราจะคุยกันในบทที่ 10 • ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า จุดมุ่งหมายหลักของระบบสารสนเทศคือ การรวบรวมข้อมูล • ต่างๆ แล้วนำมาประมวล(กลั่น)ออกมาเป็นสารสนเทศ เพื่อนำไปใช้เป็นองค์ความรู้เฉพาะด้าน Chapter 2

  12. Information Systems Configurations • ระบบสารสนเทศหรือ IS จะประกอบด้วยองค์ประกอบ (components) ต่าง ๆ นำมาประกอบเข้าด้วยกันในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป(different configuration) ผลที่ได้จึงเป็นระบบ IS ที่มีการประยุกต์ใช้แตกต่างออกไปเช่นกัน • หรือมองในมุมกลับก็คือ ระบบที่ต้องนำใช้งานใน IT ย่อมหลากหลายและแตกต่างกัน นั่นหมายความว่า Configuration ของระบบย่อมแตกต่างกันไปด้วย ส่งผลให้ ขนาดและราคาของระบบย่อมแตกต่างกันออกไป Chapter 2

  13. 2.2 การจัดแบ่งและวิวัฒนาการของระบบสารสนเทศ • ระบบสารสนเทศ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นสองแบบคือ: • 1) แบ่งโดยอาศัยระดับในองค์กร (organizational level) • 2) แบ่งโดยอาศัยจุดมุ่งหมายในการให้การสนับสนุน (supportprovided) Chapter 2

  14. Level of Information Systems Chapter 2

  15. 1) แบ่งโดยอาศัยระดับในองค์กร • การจัดระบบสารสนเทศแบบนี้ เป็นจัดโดยมุ่งเน้นไปที่รูปแบบการใช้งานให้สอดคล้องกับโครงสร้างขององค์กรแบบเรียงลำดับชั้น จุดมุ่งหมายเพื่อให้การสนับสนุนการทำ งาน สามารถแยกออกได้เป็น • ก) Personal and Productivity Systemsเป็นระบบขนาดเล็กที่สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานเฉพาะคน บางทีจึงเรียกว่า personal information management (PIM) เช่น ระบบใน PDA อันประกอบด้วย calendars, calculators, schedulers และ บันทึกช่วยจำต่าง ๆ • ข) Transaction Processing System (TPS)สนับสนุนในเชิงการเฝ้าดู การรวบรวม การจัดเก็บ การประมวล และ การกระจาย เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางธุรกิจขององค์กร Chapter 2

  16. TPS ใช้กับงานประจำที่เป็นแบบอัตโนมัติและงานแบบซ้ำ ๆ งานเหล่านี้มีความ สำคัญต่อการดำเนินการขององค์กรเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การจัดเตรียมการ จ่ายเงินเดือน ส่งใบเก็บเงินไปยังลูกค้า Point-of-Sale และ การดำเนินงานในแวร์ เฮาส์ (Warehouse) • ข้อมูลที่ถูกรวบรวมจากงานข้างต้นจะเป็นข้อมูลสนับสนุนในส่วนของระบบ MIS และ DSS ที่ถูกใช้โดยผู้บริหารระดับกลาง (Middle Management) • การรวบรวมข้อมูลจะใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก นอกจากนั้นคอมพิวเตอร์จะถูกใช้ ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องสายโซ่แห่งคุณค่า(Value Chain) Chapter 2

  17. Chapter 2

  18. ค) Functional and Management Information Systems • แม้ว่า TPS จะครอบคลุมการดำเนินงานหลัก ๆ ขององค์กร แต่ functional area ยังมีการดำเนินการอีกหลายเรื่อง เช่น • Functional Management Information Systems ถูกนำมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่า กลยุทธ์ทางธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผล และรวมไปถึง การวางแผน การเฝ้าดู การควบคุม การดำเนินงานต่าง ๆ ด้วย • Functional information systems คือการจัดรูปแบบให้สอดคล้องกับฟังก์ชันการทำงานของแผนก(department)ที่ใช้กันทั่วๆไป หรือ เรียกว่า Departmental IS ซึ่งก็คือ IS ที่สนับสนุนการทำงานของแต่ละแผนก(department)ในองค์กรหนึ่ง ๆ(corporation) เช่นOperations, Accounting, Finance, Marketing, Human resources เป็นต้น Chapter 2

  19. ถ้ามองโดยกลุ่มคนผู้ใช้งานแล้ว Functional Information System แบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ สนับสนุนผู้บริหารและสนับสนุนพนักงานทั้งหลายที่อยู่ใน functional area ต่าง ๆ • ระบบที่ให้การสนับสนุนผู้บริหารเรียกว่า MIS (Management Information System) ระบบเหล่านี้เป็นการ เข้าถึง จัดรูปแบบ สรุปผล และ แสดงสารสนเทศเพื่อสนับ สนุนกระบวนการตัดสินใจตามฟังก์ชันของพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง MIS จะเกี่ยวพันกับผู้บริหารระดับกลาง ที่ใช้ MIS ในการทำรายงานที่ต้องสร้างขึ้นมาเป็นประจำ เช่น รายชื่อพนักงานรายวัน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน หรือ ค่าใช้จ่ายรายเดือน เมื่อเทียบกับตัวเงินที่มีอยู่ เป็นต้น Chapter 2

  20. Sale forecast by region, generated by marketing MIS Chapter 2

  21. Example of Functional/Enterprise System • 1) Computerized Analysis Helps Texas Collect $400 Million Additional Taxes. • 2) The Dallas Mavericks: Using OT for Successful Play and Business. • 3) Sate-of-Art Human Resources Management in China. • 4) Mobile Banking at Handelsbanken of Sweden • อ่านเพิ่มเติมในหน้าที่ 45 - 47 Chapter 2

  22. ง) Enterprise Information Systems • ในขณะที่ function system สนับสนุนกิจกรรมภายในแต่ละแผนกและแยกออกจากแผนกอื่น ๆ แผนกใครแผนกมันมันไม่เกี่ยวข้องกัน Enterprise System ให้การสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจต่าง ๆ (Business Processes) ที่ต้องเกี่ยวข้องกับสองสามแผนกขึ้นไป • กระบวนการทางธุรกิจ คือ การรวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกดำเนินการเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ • ดังนั้น Enterprise information systems จึงจัดรูปแบบเพื่อรองรับหลาย ๆ แผนก หรือ ทั่วทั้งองค์กร หรือ เรียกว่า Enterprisewide Information System (EIS) (เป็นการเชื่อมหลาย ๆ แผนกเข้าด้วยกัน แต่ยังถือว่าอยู่ในภูมิศาสตร์เดียวกัน) เช่น ระบบ ERP เป็นต้น Chapter 2

  23. Business processes across and beyond the enterprise Chapter 2

  24. จ) Inter-organizational systems (IOS)เป็นระบบที่เชื่อมต่อองค์สององค์กรหรือมากกว่าเข้าด้วยกัน ถือเป็นส่วนกลางที่เชื่อมพันธมิตรทางธุรกิจเข้าด้วยกันและมีบทบาทที่สำคัญใน e-commerce เช่น สนับสนุนในด้านการบริหารจัดการเรื่อง supply chain • First type of IT system ถูกพัฒนาขึ้นมาเมื่อ 1980 เพื่อปรับปรุงการสื่อสารระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจคือ electronic data interchange (EDI) • Web-based systems (many using XML) เป็นตัวช่วยส่ง business applications ผ่านทาง Internet โดยการใช้ browsers และ Internet ทำให้คนต่างองค์กรกันสามารถสื่อสาร ทำงานร่วมกัน เข้าถึงข้อมูลมากมายได้ Chapter 2

  25. Departmental, enterprise and interorganizational information system Chapter 2

  26. Inter-Organizational Systems (IOS) Two or more organizations Chapter 2

  27. ฉ) Global Information Systemหมายถึง IOS ทีเชื่อมต่อบริษัทต่าง ๆ ที่คนละประเทศกัน ตัวอย่างเช่นระบบ e-commerce หลาย ๆ ระบบเริ่มเป็น global • ฌ) Very Large and Special Systemเป็นระบบที่มีขนาดใหญ่และมักเป็น global ประกอบด้วยระบบย่อย ๆ หลายระบบ (ซึ่งระบบย่อยมักเป็น global Information System) อ่านเพิ่มเติมใน IT at Work 2.1 “Generating $62 Million per Employee at Western Petroleum” หน้า 49 • ดังนั้น ถ้าเรามองในเชิงการแบ่งตามระดับขององค์กร ระบบที่มีอยู่ใน IT ต้องสนับสนุนได้ตั้งแต่ระดับพนักงานไปจนกระทั่งเป็นระบบใหญ่แบบเชื่อมต่อบริษัทในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกเข้าด้วยกัน Chapter 2

  28. 2) แบ่งโดยอาศัยจุดมุ่งหมายในการให้การสนับสนุน (supportprovided) Chapter 2

  29. Chapter 2

  30. ขยายความตารางที่ 2.2 • ผู้บริหารระดับสูง (Executives)ทำหน้าที่ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ต้องใช้ Business Intelligence และ Corporate Performance Management • กลุ่มสนับสนุน (Staff Support) ซึ่งเป็นพนักงานมีความรู้ (Knowledge Workers) ต้องใช้ Intelligent System, Decision Support System (DSS), Business Intelligence Systems • ผู้บริหารระดับกลาง (Middle Manager)ทำหน้าที่ตัดสินใจทางยุทธ์วิธี (Tactical Decisions) ต้องใช้ Business Intelligence, Automated Decision Support (ADS), Function System, MIS • ผู้บริหารระดับต้น (Low-Level Managers) และพนักงานแถวหน้า (Frontline Employees)ทำหน้าที่ตัดสินใจในระดับปฏิบัติการ (Operation Decisions) ต้องใช้ Automated Decision Support (ADS) (Intelligence System), Functional IS, MIS • พนักงานธุรการ (Clerical Staff)ต้องใช้ Office Automation, Groupware, e-Mail, Personal Productivity Software Chapter 2

  31. ลองมาดูทีละตัว • Management Information System (MIS)ใช้โดยผู้บริหารระดับกลาง เพื่อจัดทำสารสนเทศที่ต้องใช้เป็นประจำ เช่น รายชื่อพนักงานรายวัน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน หรือ ค่าใช้จ่ายรายเดือน เมื่อ เทียบกับตัวเงินที่มีอยู่ เป็นต้น ซึ่งนำมาใช้ในการวางแผน จัดแบ่งการงาน และ ควบคุมการปฏิบัติงานในแผนกต่าง ๆ (Function Areas) จุดมุ่งหมายหลักคือประมวลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เราจะเรียนกันในบทที่ 7 • Office Automation System (OAS)ใช้โดยพนักงานออฟฟิศ เพื่อเพิ่มผลิตผลในการทำงาน ระบบสำนักงานอัตโนมัติหมายถึง การสื่อสารแบบอิเลคทรอนิคส์ต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในสำนักงาน รวมถึง word processing systems, document management systems และ desktop publishing systems เราจะเรียนกันในบทที่ 4 และ 7 Chapter 2

  32. CAD (Computer Aided Design)/CAM (Computer Aided Manufacturing)ใช้โดยวิศวกร เพื่อออกแบบและทดสอบงานต้นแบบ ถ่ายโอนข้อกำหนดต่าง ๆ ที่จำเป็นไปเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิต เราจะเรียนกันในบทที่ 7 • Communication and Collaboration Systems (เช่น e-Mail, Voice Mail)ใช้โดยพนักงานทุก ๆ คน เพื่อช่วยให้พนักงานและลูกค้าสื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเราจะเรียนกันในบทที่ 4 • Desktop Publishing Systemใช้โดยพนักงานออฟฟิศ เพื่อรวมข้อความ รูปภาพ รูปวาดเข้าด้วยกันและสร้างเป็นเอกสารที่คุณภาพอย่างมืออาชีพ เราจะเรียนกันในบทที่ 3 • Document Management System (DMS) ใช้โดยพนักงานออฟฟิศ เพื่อให้เอกสารอิเล็กทรอนิคส์ไปไปโดยอัตโนมัติ เราจะเรียนกันในบทที่ 3 Chapter 2

  33. Decision Support System (DSS)ใช้โดยผู้บริหารที่ต้องตัดสินใจ ระบบเหล่านี้รองรับการตัดสินใจที่ซับซ้อนและไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นประจำ (complex non-routine)และ “การวิเคราะห์ในเชิงจะเกิดอะไรขึ้นถ้า (what-if analysis)” ซึ่งเป็นปัญหาแบบกึ่งโครงสร้างเราจะเรียนกันในบทที่ 12 • Group Support System (GSS)ใช้โดยพนักงานที่ทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อสนับสนุนการทำงานเป็นกลุ่ม (รวมถึงการทำงานต่างพื้นที่กันด้วย) เราจะเรียนกันในบทที่ 12 • Expert System (ES) ใช้โดยพนักงานที่มีความรู้ แต่ยังไม่ชำนาญการ เพื่อจัดหาความรู้ในเรื่องความชำนาญการให้กับผู้ที่ยังไม่มีความชำนาญได้เรียนรู้และให้คำแนะนำในการตัดสินใจบนพื้นฐานของความชำนาญที่จัดเก็บเข้าไป เราจะเรียนกันในบทที่ 10, 12 Chapter 2

  34. Knowledge Work System (KWS)ใช้โดยผู้บริหารและพนักงานผู้มีความรู้ เพื่อสนับสนุนการเสาะหา จัดหมวดหมู่ และนำความรู้ขององค์กรมาใช้ เราจะเรียนกันในบทที่ 10 • Neural Network และ Data mining ใช้โดยพนักงานที่มีความรู้และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ จากอดีต แม้ว่าจะได้มาจากสารสนเทศขนาดใหญ่โตหรือไม่ครบถ้วนก็ตาม เราจะเรียนกันในบทที่ 9, 11, 12 • Business Intelligence ใช้โดยผู้มีหน้าที่ตัดสินใจ ผู้บริหาร พนักงานผู้มีความรู้ เพื่อรวบรวมและใช้ข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับทำการวิเคราะห์โดย Business Analytic และ Intelligence System เราจะเรียนกันในบทที่ 11, 12 • Mobile Computing Systemใช้โดยพนักงานที่ต้องไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนพนักงานที่อยู่นอกขอบเขตขององค์กร ไปทำงานร่วมกับลูกค้าหรือพันธมิตรธุรกิจ เราจะเรียนกันในบทที่ 6 Chapter 2

  35. Automated Decision Support (ADS) ใช้โดยพนักงานแถวหน้าและผู้บริหาร เพื่อสนับสนุนการเอาใจใส่ลูกค้า และพนักงานขาย ผู้ซึ่งต้องการทำอะไรที่รวดเร็ว ต้องการการตัดสินใจแบบทันทีทันใด เราจะเรียนกันในบทที่ 12 • ที่ผ่านมาเป็นการพัฒนาเพื่อสนับการใช้งานภายในองค์กร มีหลายสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับภายนอกองค์กร • Electronic Data Interchange (EDI)เพื่อให้คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ของพันธมิตรทางธุรกิจ สื่อสารกันโดยตรงผ่านเอกสารทางธุรกิจแบบมาตรฐาน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพื้นฐานของการตลาดอิเลคทรอนิคส์ (Electronic market) และพัฒนาต่อมา เป็น e-commerce • Customer Relationship Management (CRM)พัฒนาขึ้นมาเพื่อสนับสนุนลูกค้า • Web-based systemพัฒนาขึ้นมาเมื่อกลางปี 1990 และมาแรงเอาในปี 2000 Chapter 2

  36. How do different information system relate to each other? ถ้ามี 2 โมดูลรวมกัน เช่น ES-BI จะเรียกเป็น Integrated Support Systems Chapter 2

  37. 2.3) How IT Supports People and Organizational Activities • การแบ่งระบบสารสนเทศที่สำคัญอีกแนวทางหนึ่ง โดยการพิจารณาจากธรรมชาติของการดำเนินกิจกรรม ได้แก่ • ก) Operational Activitiesใช้กับการปฏิบัติงานรายวันขององค์กร เช่น การกำหนดงานให้พนักงานทำ บันทึกชั่วโมงทำงาน ออกใบสั่งซื้อ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มักเป็นงานสั้น ๆ ระบบที่นำมาใช่สนับสนุน คือ TPS, MIS และ Mobile System ระบบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานจะถูกใช้โดย Supervisors (first-line manager), operators และ clerical employees • ข) Managerial Activities (บางทีเรียก tactical activities หรือ decisions) ใช้กับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับกลาง (middle-management activities) เช่น การวางแผนการจัดองค์กร และการควบคุมในระยะสั้น ระบบบริหารโดยอาศัยคอมพิวเตอร์จะเทียบเท่ากับ MIS Chapter 2

  38. ตัวอย่าง S/W ที่สนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับการบริหารงาน Chapter 2

  39. ค) Strategic activitiesคือ กิจกรรมหรือการตัดสินใจในสถานการณ์ที่สำคัญต่อความเปลี่ยนแปลงของการทำธุรกิจ ถือเป็นกิจกรรมในระยะยาว เช่น การวางแผนระยะยาว การขยายธุรกิจโดยการซื้อกิจการเข้ามาสนับสนุนส่วนที่ขาดหายไป หรือ outsourcing • ในอดีตนั้นการวางแผนระยะยาว คือ แผนในอนาคต 5 ปี หรือ 10 ปี แล้วเอามาแบ่งย่อยออกเป็นแผนระยะสั้นในภายหลัง แต่ในยุค digital economy นั้นแผนเหล่านี้ลดลงเหลือ 1 ถึง 2 ปี (หรือ หลายๆเดือนแต่ไม่ถึงปี) กิจกรรมเชิงกลยุทธ์ช่วยให้ • 1) ดำเนินกิจกรรมสนองตอบเชิงกลยุทธ์อย่างรวดเร็วต่อการดำเนินกิจกรรมของคู่แข่ง หรือ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อสภาพแวดล้อมขององค์กร • 2) เป็นผู้เริ่มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน แทนที่จะรอให้คู่แข่งเริ่มก่อน Chapter 2

  40. Who performs what activities in Organizational, and how are they supported by IT? Chapter 2

  41. ก) Executives and Managersผู้บริหารระดับสูงหรือระดับวางกลยุทธ์ (the executive) จะอยู่ระดับสูงสุดของสามเหลี่ยมทำหน้าที่ในการตัดสินใจ เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในการ ดำเนินธุรกิจให้ลุล่วงไปสิ่งสนับสนุนได้มาจาก BI และ Corporate Performance Management ส่วนผู้บริหารระดับกลาง (Middle managers) คือผู้ตัดสินใจเชิงกลวิธี (tactical decision) จึงต้องการการสนับสนุนจาก Functional information system, MIS ในส่วนที่เขาทำงาน ท้ายที่สุดแล้วเขายังชอบใช้ BI และ Intelligence system ซึ่งมีให้ใช้บน intranet • ข) Knowledge Worker, Clerical Staff, and Data Worker • ระดับของ Staff support ถูกใส่เข้ามาอยู่ระหว่าง top กับ middle management Chapter 2

  42. The Knowledge workers • พนักงานเหล่านี้ได้แก่ระดับ advisor และ ผู้ช่วยต่าง ๆ ของผู้บริหารระดับกลางและ ระดับสูง และมักจะเป็นผู้ชำนาญงานในด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ พนักงานระดับ มืออาชีพต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกจัดอยู่ในประเภทพนักงานผู้ชำนาญ (knowledge workers)ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่สร้างสารสนเทศและองค์ความรู้ (ถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน ของพวกเขา และรวมสิ่งข้างต้นเข้าไปในธุรกิจ • IS ที่สนับสนุน Knowledge worker จะเป็นวงกว้างเริ่มจาก Internet Search engines (ช่วยค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ), expert system (ช่วยให้คำแนะนำและตีความสารสนเทศ) ไปจนถึง Web-based computer aided design (ปรับและเร่งกระบวนการออกแบบให้เร็วขึ้น) และ sophisticated data management system (ช่วยเพิ่มผลิตผลและคุณภาพในการทำงาน) Chapter 2

  43. The Clerical workers • พนักงานธุรการประกอบด้วยลูกจ้างจำนวนมากหลายระดับชั้น ทำหน้าที่สนับสนุน ผู้บริหารต่างๆในทุกระดับขั้นในบริษัท ในกลุ่มพนักงานธุรการเหล่านี้ ถ้าเขามีหน้า ใช้ หรือ จัดเตรียม หรือ เผยแพร่ข้อมูล จะถูกเรียกว่า data workers พนักงานเหล่านี้ ประกอบด้วยพนักงานบัญชีต่างๆ เลขานุการที่ใช้โปรแกรมประเภท word processors, electronic file clerks และ insurance claim processors. • บรรดา Data Workerจะได้รับการสนับสนุนโดย Office Automation และ Communication System อันประกอบด้วย document management, work flow, e-mail, และ coordination software Chapter 2

  44. The Operational Level • ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ หรือ first- line managers จะยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ องค์กรวันต่อวัน (ลักษณะงานเหมือนๆกันทุกวัน) ทำการตัดสินใจในงานที่ทำเป็น ประจำ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในรูปแบบทั่ว ๆ ไป เช่น การวางแผนระยะสั้น การปรับเปลี่ยนองค์กรและการควบคุมการปฏิบัติงาน • ค) Infrastructure for the Support Systemระบบสนับสนุนต่าง ๆ ด้านบน (สีเหลือง) สร้างอยู่บน information infrastructure เช่น internet, intranet, corporate portals, security systems และ corporate database Chapter 2

  45. 2.4) How IT Supports Supply Chains and Enterprise Systems • Supply chain • ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)ขององค์กรหนึ่ง ๆ อธิบายถึงการไหลของวัตถุดิบต่าง ๆ ข้อมูลทางการเงิน และ การบริการต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ขายวัตถุดิบทั้งหลายมาจน ถึงโรงงาน และ จากโกดังเก็บสินค้า (warehouse)ไปจนถึงลูกค้าท้ายสุด (end customer) และยังรวมถึง องค์กรและกระบวนการที่สร้างผลิตภัณฑ์ สารสนเทศ และ การบริการต่าง ๆ ที่ส่งไปยัง end customer ด้วย • Supply Chain แบ่งได้เป็นสามส่วน คือ • 1) Upstream supply chainการดำเนินงานขององค์กรตั้งแต่ First Tier ออกไป ส่วนมากคือ procurement Chapter 2

  46. 2) Internal supply chainคือ การดำเนินงานภายในองค์เพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นสินค้า ได้แก่ production management, manufacturing และ inventory control • 3) Downstream supply chainการดำเนินงานในการกระจายสินค้า การจัดเก็บ การขนส่ง และ การให้บริการหลังการขาย • นอกจาก IT จะต้องให้การสนับสนุนทั้งสามกรณีข้างต้นแล้ว ยังต้องรวมถึงการบริหารจัดการด้าน Supply Chain อีกด้วย ผ่านทางซอฟท์แวร์หลัก ๆ 2 ประเภทซึ่งเป็นคำตอบของการบริหารจัดการกับ การดำเนินการของห่วงโซ่อุปทาน ตัวแรกก็คือ enterprise resource planning ( ERP), และตัวที่สองก็คือ Supply Chain Management (SCM) ซึ่งเราจะคุยกันในบทที่ 8 Chapter 2

  47. Downstream SC Internal SC Upstream SC Chapter 2

  48. IT support of other systems • Industrial-Specific Systems • เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับในเชิงอุตสาหกรรม เช่น Banking, Transportation, oil, utilities หรือ Universities ระบบสามารถใช้โปรแกรมประยุกต์ที่จำเพาะเจาะจงสองสามโปรแกรมมาใช้งาน • Supporting E-Commerce Business Models • ใช้งานเกี่ยวกับ e commerce เช่น e-auctions, exchanges, e-procurement หรือ electronic meeting Chapter 2

  49. 2.5 Information Systems Infrastructure and Architecture • Information Technology Infrastructure • โครงสร้างของ IT จะประกอบด้วย: • สิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพต่าง ๆส่วนประกอบต่าง ๆ ของ IT การให้บริการ ด้านต่าง ๆ ของ IT, และการบริหารด้าน IT ที่สนับสนุนการปฏิบัติงานทั่วทั้งองค์กร • องค์ประกอบหลัก ๆ IT Infrastructureได้แก่เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์1) ด้านฮาร์ดแวร์ 2)ซอฟท์แวร์ 3) สิ่งอำนวยความสะด้วยในด้านโครงข่ายและการสื่อสาร 4) ฐานข้อมูล 5)บุคคลผู้ทำการบริหารจัดการสารสนเทศ และ รวมไปถึง การบริการด้าน ITประกอบ ด้วยการพัฒนาระบบบริหารข้อมูล และการรักษาความ ปลอดภัยในส่วนที่เกี่ยวข้อง • นอกจากนั้น IT Infrastructureยังประกอบด้วยทรัพยากรต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น รวมไปถึง การประกอบเข้าด้วยกัน การทำงานร่วมกัน การจัดทำเอกสารต่าง ๆ การดูแลรักษา และ การจัดการ Chapter 2

  50. Information Systems Function Information Infrastructure (สรุปได้ดังรูป) • 1) Hardware • 2) Software • 3) Networks & communication facilities • 4) Databases and data workers • 5) Information management personnel Chapter 2

More Related