830 likes | 992 Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. Easter - the crucifixion and resurrection of Jesus วันเทศกาลอีสเตอร์ภาวะที่ถูก ตรึงบนกางเขนการคืนชีพ ของพระเยซู.
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Easter - the crucifixion and resurrection of Jesus วันเทศกาลอีสเตอร์ภาวะที่ถูก ตรึงบนกางเขนการคืนชีพ ของพระเยซู
John 18:28-3828Then they led Jesus from the house of Caiaphas to the governor's headquarters. It was early morning. They themselves did not enter the governor's headquarters, so that they would not be defiled, but could eat the Passover.
ยอห์น18:28-38 28เขาก็ได้พาพระเยซูออกไปจากบ้านของคายาฟาส ไปยังศาลปรีโทเรียมเป็นเวลาเช้าตรู่ พวกเขาเองไม่ได้เข้าไปในศาลปรีโทเรียม เพื่อไม่ให้เป็นมลทินและจะได้กินปัสกาได้
29So Pilate went outside to them and said, “What accusation do you bring against this man?” 29ปีลาตจึงออกมาหาเขาเหล่านั้น แล้วถามว่า “พวกท่านมีเรื่องอะไรมาฟ้องคนนี้”
30They answered him, “If this man were not doing evil, we would not have delivered him over to you.” 30เขาตอบท่านว่า “ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ร้าย พวกข้าพเจ้าก็คงจะไม่มอบเขาไว้กับท่าน”
31Pilate said to them, “Take him yourselves and judge him by your own law.” The Jews said to him, “It is not lawful for us to put anyone to death.”
31ปีลาตกล่าวแก่เขาว่า “พวกท่านจงเอาคนนี้ไปพิพากษาตามกฎหมายของท่านเถิด” พวกยิวจึงเรียนท่านว่า “การที่พวกข้าพเจ้าจะประหารชีวิตคนใดคนหนึ่งนั้น เป็นการผิดกฎหมาย”
32This was to fulfill the word that Jesus had spoken to show by what kind of death he was going to die. 32ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามพระดำรัสของพระเยซู ซึ่งตรัสไว้ว่าพระองค์จะทรงสิ้นพระชนม์อย่างไร
33So Pilate entered his headquarters again and called Jesus and said to him, “Are you the King of the Jews?” 33ปีลาตจึงเข้าไปในศาลปรีโทเรียมอีก และเรียกพระเยซูมาทูลถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ”
34Jesus answered, “Do you say this of your own accord, or did others say it to you about me?” 34พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านถามอย่างนั้นตามความเข้าใจของท่านเองหรือ หรือว่าคนอื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา”
35Pilate answered, “Am I a Jew? Your own nation and the chief priests have delivered you over to me. What have you done?” 35ปีลาตทูลตอบว่า “เราเป็นยิวหรือ ชนชาติของท่านเอง และพวกมหาปุโรหิตได้อายัดท่านไว้กับเรา ท่านทำผิดอะไร”
36Jesus answered, “My kingdom is not of this world. If my kingdom were of this world, my servants would have been fighting, that I might not be delivered over to the Jews. But my kingdom is not from the world.”
36พระเยซูตรัสตอบว่า “ราชอำนาจของเรามิได้เป็นของโลกนี้ ถ้าราชอำนาจของเรามาจากโลกนี้ คนของเราก็คงจะได้ต่อสู้ไม่ให้เราตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกยิว แต่ราชอำนาจของเรามิได้มาจากโลกนี้”
37Then Pilate said to him, “So you are a king?” Jesus answered, “You say that I am a king. For this purpose I was born and for this purpose I have come into the world—to bear witness to the truth. Everyone who is of the truth listens to my voice.”
37ปีลาตจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านก็เป็นกษัตริย์น่ะซี” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์ เพราะเหตุนี้เราจึงเกิดมาและเข้ามาในโลกเพื่อเป็นพยานให้แก่สัจจะ คนทั้งปวงซึ่งอยู่ฝ่ายสัจจะย่อมฟังเสียงของเรา”
38Pilate said to him, “What is truth?”After he had said this, he went back outside to the Jews and told them, “I find no guilt in him. 38ปีลาตทูลถามพระองค์ว่า “สัจจะคืออะไร” เมื่อถามดังนั้นแล้วท่านก็ออกไปหาพวกยิวอีก และบอกเขาว่า “เราไม่เห็นคนนั้นมีความผิด
Pilate Delivers Jesus to Be Crucified พระเยซูถูกพิพากษาประหารชีวิต Luke ลูกา23:18-2518But they all cried out together, “Away with this man, and release to us Barabbas”— 18แต่คนทั้งปวงร้องขึ้นพร้อมกันว่า “กำจัดคนนี้เสีย และจงปล่อยบารับบัสให้เราเถิด”
19a man who had been thrown into prison for an insurrection started in the city and for murder. 19บารับบัสนั้นติดคุกอยู่ เพราะการจลาจลที่เกิดขึ้นในเมืองและการฆ่าคน
20Pilate addressed them once more, desiring to release Jesus, 20ฝ่ายปีลาตยังมีน้ำใจจะใคร่ปล่อยพระเยซูจึงพูดกับเขาอีก
21but they kept shouting, “Crucify, crucify him!” 21แต่คนเหล่านั้น กลับตะโกนร้องว่า “ตรึงเสียเถิด ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
22A third time he said to them, “Why, what evil has he done? I have found in him no guilt deserving death. I will therefore punish and release him.” 22ปีลาตจึงถามเขาครั้งที่สามว่า “ตรึงทำไม เขาได้ทำผิดประการใด เราไม่เห็นเขาทำผิดอะไรที่สมควรจะมีโทษถึงตาย เหตุฉะนั้นเมื่อเราเฆี่ยนเขาแล้วก็จะปล่อยเสีย”
24So Pilate decided that their demand should be granted. 24ปีลาตจึงสั่งให้เป็นไปตามที่เขาทั้งหลายปรารถนา
25He released the man who had been thrown into prison for insurrection and murder, for whom they asked, but he delivered Jesus over to their will.
25ท่านจึงปล่อยคนที่เขาขอนั้น ซึ่งติดคุกอยู่เพราะการจลาจลและการฆ่าคน แต่ท่านได้มอบพระเยซูไว้ตามใจเขา
The Crucifixion 23:26-31 26And as they led him away, they seized one Simon of Cyrene, who was coming in from the country, and laid on him the cross, to carry it behind Jesus.
พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน Luke ลูกา23:26-31 26 เมื่อเขาพาพระองค์ออกไป เขาเกณฑ์ซีโมนชาวไซรีนที่มาจากบ้านนอก แล้วเอากางเขนวางบนเขาให้แบกตามพระเยซูไป
27And there followed him a great multitude of the people and of women who were mourning and lamenting for him. 27มีคนเป็นอันมากตามพระองค์ไป ทั้งพวกผู้หญิงที่พิลาปและคร่ำครวญเพราะพระองค์
29For behold, the days are coming when they will say, ‘Blessed are the barren and the wombs that never bore and the breasts that never nursed!’ 29ด้วยว่า ดูเถิด จะมีเวลาหนึ่งที่เขาทั้งหลายจะว่า 'ผู้หญิงเหล่านั้นที่เป็นหมันและครรภ์ที่มิได้ปฏิสนธิ และหัวนมที่มิได้ให้ดูดเลย ก็เป็นสุข'
30Then they will begin to say to the mountains, ‘Fall on us,’ and to the hills, ‘Cover us.’ 30คราวนั้นเขาจะเริ่มว่าแก่ภูเขาทั้งหลายว่า 'จงพังลงทับเรา' และแก่เนินเขาว่า 'จงคลุมเราไว้'
31For if they do these things when the wood is green, what will happen when it is dry?” 31เพราะว่าถ้าเขาทำอย่างนี้เมื่อไม้สด อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไม้แห้งแล้วเล่า”
Two Criminals were crucified with Him สองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะฆ่าเสียพร้อมกับพระองค์Luke ลูกา23: 32-4332Two others, who were criminals, were led away to be put to death with him. 32มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะฆ่าเสียพร้อมกับพระองค์
33And when they came to the place that is called The Skull, there they crucified him, and the criminals, one on his right and one on his left. 33เมื่อมาถึงตำบลหนึ่งที่เรียกว่ากระโหลกศีรษะ เขาจึงตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนที่นั่นพร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง
34And Jesus said, “Father, forgive them, for they know not what they do.” And they cast lots to divide his garments. 34ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า “โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร” เขาก็เอาฉลองพระองค์ จับฉลากแบ่งปันกัน
35And the people stood by, watching, but the rulers scoffed at him, saying, “He saved others; let him save himself, if he is the Christ of God, his Chosen One!” 35คนทั้งปวงก็ยืนมองดู พวกขุนนางก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ ให้เขาช่วยตัวเองเถิด”
36The soldiers also mocked him, coming up and offering him sour wine 36พวกทหารก็เย้ยหยันพระองค์ด้วย เข้ามาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์
37and saying, “If you are the King of the Jews, save yourself!” 37แล้วว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด”
38There was also an inscription over him, “This is the King of the Jews.” 38และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า “ผู้นี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว”
39One of the criminals who were hanged railed at him, saying, “Are you not the Christ? Save yourself and us!” 39ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า “ท่านเป็นพระคริสต์มิใช่หรือ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด”
40But the other rebuked him, saying, “Do you not fear God, since you are under the same sentence of condemnation? 40แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน
41And we indeed justly, for we are receiving the due reward of our deeds; but this man has done nothing wrong.” 41และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่”
42And he said, “Jesus, remember me when you come into your kingdom.” 42แล้วคนนั้นจึงทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในแผ่นดินของพระองค์”
43And he said to him, “Truly, I say to you, today you will be with me in Paradise.” 43ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม”
Romansโรม 3:23 for all have sinned and fall short of the glory of God, เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า
Grieving Women Find the Empty Tombพหูพจน์ของระกำใจพบหลุมศพว่างLuke ลูกา 24:1-12
1But on the first day of the week, at early dawn, they went to the tomb, taking the spices they had prepared. 1ตั้งแต่เช้ามืดของวันอาทิตย์ พวกผู้หญิงก็นำเครื่องหอมที่จัดเตรียมไว้มาถึงอุโมงค์
2And they found the stone rolled away from the tomb, 2พวกนางพบว่าก้อนหินกลิ้งออกจากปากอุโมงค์แล้ว
3but when they went in they did not find the body of the Lord Jesus. 3และเมื่อเข้าไปหาก็ไม่พบพระศพของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า
4While they were perplexed about this, behold, two men stood by them in dazzling apparel. 4ขณะกำลังฉงนสนเท่ห์เพราะเหตุการณ์นั้น นี่แน่ะ มีชายสองคนยืนอยู่ใกล้พวกนาง เครื่องนุ่งห่มแพรวพราวจนพร่าตา
5And as they were frightened and bowed their faces to the ground, the men said to them, “Why do you seek the living among the dead? 5ผู้หญิงเหล่านั้นก็หวาดกลัวและซบหน้าลงถึงดิน ชายสองคนนั้นจึงพูดกับพวกนางว่า “พวกท่านแสวงหาคนเป็นในพวกคนตายทำไม?