N E T W O R K

1. N E T W O R K Home Networking

2. การเตรียมการสำหรับติดตั้งระบบเครือข่ายการเตรียมการสำหรับติดตั้งระบบเครือข่าย N E T W O R K ก่อนที่คุณจะวางแผนในการสร้างระบบเครือข่ายของคุณ คุณต้องมีความรู้พื้นฐานคร่าวๆก่อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมที่คุณต้องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆที่คุณต้องใช้กับระบบเครือข่ายของคุณในอนาคต โดยพิจารณาจากความจำเป็นของคนที่อยู่ในบ้าน ก่อนหน้าการวางแผนการทำระบบเครือข่ายของคุณ คุณต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ก่อน จุดมุ่งหมาย ช่วยให้คุณกำหนดและสร้างระบบการเชื่อมต่อของเครือข่ายทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ของคุณได้ โดยที่คุณต้องพิจารณาเกี่ยวค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ ความเร็วของเครือข่าย โครงสร้าง ระยะทาง และความต้องการของคนในบ้าน

3. N E T W O R K ภาพแสดง : การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายของคุณเข้ากับฮับ

4. พิจารณาตามความต้องการของคนในครอบครัวพิจารณาตามความต้องการของคนในครอบครัว N E T W O R K • คุณต้องคำนึงถึงความต้องการของแต่ละคนในบ้าน หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ ปัญหาไหนที่สำคัญที่สุด เราต้องเพ่งเล็งไปที่จุดนั้นก่อน • เริ่มพิจารณาจากระบบปฏิบัติการก่อน เพราะทุกคนต่างก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์กันอยู่แล้ว windows และ Macs มีการสร้างการเชื่อมต่อเครือข่ายซอฟท์แวร์มากที่สุด คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีกเพราะมีการสร้าง e-mail และ web- browser การจัดการข้อมูล applets และอื่นๆ คุณสามารถผสมผสานระบบที่เกี่ยวกับเน็ตเวิร์คได้ • คุณควรจะมีรายการอุปกรณ์เกี่ยวกับเครือข่ายในบ้าน เช่นเครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน ซีดี ดีวีดี zip drives , modems และอื่นๆ บางทีคุณอาจต้องใช้เครื่องพิมพ์ก่อนติดตั้งเครือข่าย แต่พิจารณาแล้วระบบเครือข่ายทำให้การพิมพ์สะดวกมากขึ้น และคุณอาจจะต้องการซื้อเครื่องพิมพ์ใหม่เพื่อใช้ในระบบเครือข่าย

5. N E T W O R K การพิจารณาจากงบประมาณ ในการซื้ออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในเครือข่ายขึ้นอยู่กับเหตุผลหลายประการว่ามีความสำคัญกับชีวิตประจำวันของคนในครอบครัวหรือไม่ หรืออาจจะขึ้นอยู่กับความสะดวกสบาย และนำไปใช้อย่างมีประโยชน์อย่างไร ถ้าคุณจ่ายเป็นชั่วโมง คุณต้องวางแผนการใช้จ่ายให้ดี ถ้าคุณเล่นทุกๆวันวันละหลายชั่วโมงแต่ต้องจ่ายเงินกับการเชื่อมต่อที่ช้ามาก อันไหนสิ้นเปลืองกว่ากัน ถ้าคุณหรือใครต้องใช้งานทุกวัน คุณควรจะยอมลงทุนมากกว่าเพื่อการติดต่อที่เร็วกว่าและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า

6. การพิจารณาด้านความปลอดภัยการพิจารณาด้านความปลอดภัย N E T W O R K คอมพิวเตอร์เริ่มมีความสามารถมากขึ้น มนุษย์ทำการเจาะระบบเข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อขโมย ข้อมูลเกี่ยวกับเงิน ข้อมูลต่างๆ หรือข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งมันเป็นปัญหาสำหรับคุณ ทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย ปัญหาอีกอันนึงก็คือ ไวรัสไวรัสจะเข้ามาโดยผ่าน e-mail คุณคงไม่อยากติดไวรัสหรอก ทุกครั้งที่มีเมล์ตอบกลับมาที่หน้าเว็ปของคุณโดยตรง ก็ไม่มีอะไรหยุดมันได้นอกจากโปรแกรม antivirus มีอีกหลายวิธีที่จะช่วยคุณป้องกันไวรัสอันดับแรก โปรแกรม antivirus อย่างเช่นNorton antivirus หรือ McAfee’s virusScanเป็นการลงทุนที่สำคัญ คุณสามารถเลือกโปรแกรมฟรี หรือโปรแกรมที่มีลิขสิทธ์ จะโดยวิธีใดก็ตามมันก็ไม่ได้รู้เองโดยอัตโนมัติเราต้องรู้ข่าวสารใหม่ๆของไวรัสว่ามีไวรัสตัวใหม่ที่จะเข้ามารุกรานเครื่องของคุณทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ดั้งนั้นคุณจะต้องลงทุนเพื่อความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ถ้าคุณจะใช้ Internet และ e-mail

7. เมื่อคุณต้องบันทึกข้อมูลของครอบครัวของคุณใหม่ หรือบางคนลบข้อมูลออก เขียนทับข้อมูลเก่า ทำให้ข้อมูลบางอย่างเสียหาย ทางที่ดีที่คุณจะดูแลแต่ละปัญหา คุณต้องแน่ใจกับข้อมูลที่คุณสำรองไว้มันเป็นสิ่งสำคัญกับคุณการสำรองข้อมูลเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการคัดลอกข้อมูล โฟลเดอร์และข้อมูลอื่นๆที่ต้องการเก็บ คุณสามารถสำรองข้อมูลด้วยการ Zip ,CD ,tape drive และคุณต้องทำการสำรองข้อมูลเป็นประจำ N E T W O R K การพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาอื่นๆในเครือข่าย งบประมาณและความต้องการของคนในบ้าน คุณต้องเริ่มคิดว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อสองเครื่อง สามเครื่องหรือมากกว่านั้น ใช้งานเครื่องพิมพ์หนักมากเพียงใด ดูจากรูป 5-3 แสดงตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามเครื่องในเครือข่าย แต่ละเครื่องจะเชื่อมต่อกับ เครื่องสแกน เครื่องพิมพ์หมึกสี เครื่องพิมพ์เลเซอร์ และ CD burn ซึ้งได้ต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย

8. ถ้าเราพิจารณาเกี่ยวกับการจัดเตรียมเครือข่ายในบ้านของคุณ บริเวณไหนที่คุณต้องการให้มีคอมพิวเตอร์ ต้องการจะติดตั้งเครื่องพิมพ์ไว้ตรงไหน ใครต้องการเครื่องพิมพ์มากที่สุด พื้นที่ในบ้านต้องทำยังไงบ้าง จะมีคอมพิวเตอร์สองเครื่องหรือมากกว่านั้นในห้อง N E T W O R K รูป 5-3 แสดงตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามเครื่องในเครือข่าย

9. การออกแบบ Network N E T W O R K • ต้องพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับ ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และการเชื่อมต่อเครือข่าย คุณต้องมีความรู้มากพอก่อนที่คุณจะลงมือทำ ข้อมูลในหนังสือเล่มนี้ครอบคลุมถึงเรื่องที่คุณต้องการ เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งที่ทำให้เครือข่ายคุณเป็นไปตามความต้องการของคุณ • ระบบปฏิบัติการซึ่งควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำในคอมพิวเตอร์(memory) hard disks ต้องมั่นใจว่าสภาพเครื่องของคุณดีแล้วก่อนที่จะเริ่มทำงานบนเครือข่าย • ควรจะลองหาอุปกรณ์ในบ้านนั่งร่างแบบการต่อสายไฟในบ้าน และบริเวณที่จะทำการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ รูป 5-4 แสดงรายการที่เราต้องการใน word การเก็บรายการที่ง่ายต่อการปรับปรุงแก้ไข

10. การวาดแผนที่Network N E T W O R K • เป็นข้อมูลสำคัญที่เป็นเส้นทางของการเดินสายไฟในบ้าน การเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ การใช้ซอฟท์แวร์ทุกระบบ เมื่อคุณใช้เอกสารที่วาดขึ้นมาประกอบการสร้างระบบของคุณโดยตลอดแล้ว ต่อไปคุณก็จะสามารถใช้เอกสารแผนที่นี้อ้างอิงได้ เมื่อคุณต้องการเพิ่มเติมเครือข่ายหรือปรับปรุงแก้ไข หรือเป็นช่างซ่อมได้ • คุณอาจจะร่างในกระดาษหรือใช้โปรแกรมทำ คุณสามารถทำรายการข้อมูลในเครือข่าย บน note pad หรือ ใน word มันเป็นแนวทางที่ทำให้คุณสะดวกขึ้น ที่สำคัญการทำแผนที่ง่ายมาก จากรูป 5-5 เป็นตัวอย่างแผนที่ Network ที่แสดงคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่อยู่ในห้อง และที่ตั้งของอุปกรณ์ต่อเชื่อมต่างๆ

11. ส่วนหนึ่งของNetwork map และเอกสารเพิ่มเติม N E T W O R K • > ข้อมูลข่าวสารคอมพิวเตอร์ > อุปกรณ์ต่อเชื่อมข้อมูลคอมพิวเตอร์ • > แอปพลิเคชั่น > การเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ • > สายเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสาร > เครือข่ายแอปพลิเคชั่นที่ต้องใช้ • > ลักษณะพิเศษของกลไกระบบปฏิบัติงาน > ISP และ สถานที่ติดตั้ง Internet รูป5-6 แสดงความแตกต่างของ network map แต่ละประเภทใช้การวาดและเขียนข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องไว้ด้วย ทำให้ง่ายต่อการแบ่งแยกอุปกรณ์

12. สิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจ Network N E T W O R K อุปกรณ์แต่ละอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณ ความต้องการของคุณ และงบประมาณของคุณ โดยทั่วไปจะด้วยวิธีใดก็ตามคุณต้องการ network cards การเดินสายสัญญาณ อุปกรณ์อื่นๆเช่นเดียวกับ ฮับ หรือสายโทรศัพท์คุณสามารถเลือกการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยเครือข่ายผ่านสายสัญญาณ หรือเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ wireless คุณอาจจะใช้สายโทศัพท์แทนการติดตั้งด้วยสายสัญญาณ รูป 5-7 แสดงเครือข่าย workgroup กับเครื่องพิมพ์ ฮับ และ อินเตอร์เน็ต แอคเซส เครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ขณะนั้นก็ทำการshared โดยอาศัยเครือข่าย Hub เชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ cable/DSL router ก็เชื่อมต่ออยู่กับ hub และเคเบิล โมเด็ม

13. Client/Server N E T W O R K ถ้าคุณวางแบบแผนการสร้าง client/server network ขั้นแรกต้องคำนึงถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ได้มา คุณสามารถใช้ระบบปฏิบัติการWindows 98 ,XP สำหรับเรื่องง่ายๆ ของเครือข่าย client/server การใช้เซิร์ฟเวอร์มีผลต่อเครื่องคอมพิวเตอร์มากสำหรับระบบปฏิบัติการในเครือข่าย ความต้องการของคอมพิวเตอร์ขึ้นอยู่กับประเภทของระบบปฏิบัติการในเครือข่าย รูป 5-8 แสดง client/server network ใช้เครือข่าย windows2000ในระบบปฏิบัติการ จัดเตรียม ไฟล์ การshareการพิมพ์ และ Internet access สำหรับ clients เช่นเดียวกัน cable/DSL router ก็ติดต่อกับฮับจากนั้นก็เชื่อมต่อกับสายDSL สำหรับ Internet access ระบบปฏิบัติการของ clients ใช้ Windows XPและ Windows 98

14. Server เป็นฮาร์ดแวร์หลักที่แตกต่างกันระหว่าง client/server และเครือข่ายworkgroup การเพิ่มเครื่องเซิร์ฟเวอร์ คุณต้องการทุกสิ่งที่อ้างถึงก่อนหน้านั้นแล้วสำหรับเครือข่าย workgroup ถ้าคุณเลือกใช้ Windows 98 หรือ XP กับเซิร์ฟเวอร์ คุณก็จะต้องการความน่าเชื่อถือ ของระบบปฏิบัติการ มีRAMเพียงพอ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ และ UPS ถ้าคุณเลือก คอมพิวเตอร์Windows 98 หรือ XP ซึ่งปกติใช้เครือข่ายที่บ้านหรือที่ทำงานคุณต้องเพิ่ม RAM อย่างน้อย 128MB อย่างมากก็ 256MB ถึงจะดี ฮาร์ดดิสก์ก็เช่นกันต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 20 GB สำหรับบันทึกความจำ สำรองข้อมูล และใช้งานอื่นๆในคอมพิวเตอร์ N E T W O R K รูป 5-9 แสดงเครือข่าย client/server network ที่สร้างด้วย Windows 98 คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ shares printer, file, Internet account คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

15. การวางแผนหัวข้อเนื้อหาคอมพิวเตอร์การวางแผนหัวข้อเนื้อหาคอมพิวเตอร์ N E T W O R K คุณต้องวางแผนโครงสร้าง โฟลเดอร์ สำหรับคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ถึงแม้ว่าแต่ละเครื่องจะมีโฟลเดอร์อยู่แล้ว คุณอาจจะสร้างโฟลเดอร์ที่อธิบายถึงโครงสร้าง เฉพาะของข้อมูล ผู้ใช้ และอื่นๆ คุณอาจจะต้องการวางแผนสำหรับการ share foldersและ files ถ้าคุณสร้างแนวทางการ share ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ไฟล์และโฟลเดอร์ที่ใช้ คุณจะสูญเสียไฟล์น้อยกว่า และจะทำให้ทุกคนมีประสบการณ์เกี่ยวกับเน็ตเวิร์คง่ายกว่า การจัดการกับโฟลเดอร์ ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนชื่อwindows folder ตัวอย่างเช่น ระบบปฏิบัติการซึ่งควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้ไม่นาน รหัสเฉพาะที่อยู่ภายในการลงทะเบียนของวินโดวส์ นำไปยังชื่อและที่อยู่ของโฟลเดอร์ การเปลี่ยนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโฟลเดอร์จำต้องมีออกจาโฟลเดอร์นั้นก่อน

16. รูป 5-10 แสดง โฟลเดอร์บนคอมพิวเตอร์ วินโดวส์ 98 ถัดมาเป็นโฟลเดอร์ที่คุณไม่ควรจะshare ย้าย หรือเปลี่ยนชื่อ คือ Ahdw, Bus, Gwci, Dc220260, Download, Program Files, psfonts, Windows และโฟลเดอร์ที่ประกอบด้วย โปรแกรม โครงสร้างภายนอก และข้อมูลอื่นๆที่สำคัญในการ run windows, applications,และฮาร์ดแวร์ต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็น CD-ROM drive,Zip drive และอุปกรณ์อื่นๆ N E T W O R K

17. โฟลเดอร์ ข้อมูล เกมส์ การสำรองข้อมูล และอื่นๆ เมื่อคุณสร้างโฟลเดอร์ หรือเครือข่ายบนเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ต้องมั่นใจว่าชื่อโฟลเดอร์ง่ายพอที่จะจำได้ เช่นเดียวกัน ไม่ควรทำโฟลเดอร์ซ้อนโฟลเดอร์ซ้อนอีกโฟลเดอร์ ถ้าคุณต้องการใช้งานบ่อย N E T W O R K การจัดการเกี่ยวกับ Shares รูป 5-11 โครงสร้างของโฟลเดอร์ที่ประกอบด้วย ไฟล์และอื่นๆ ถ้าคุณใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเครือข่ายของคุณ ทุกๆการshare ไฟล์ โฟลเดอร์ และอุปกรณ์อื่นๆปรากฏบนเซิร์ฟเวอร์ ถ้าคุณใช้ เวิร์คกรุ๊ป เน็ตเวิร์ค share แหล่งที่มาปรากฏบนเครื่องอื่นๆ โดยปกติ การตั้งชื่อ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคน

18. โฟลเดอร์ในวินโดวส์ N E T W O R K การตั้งชื่อโฟลเดอร์ในวินโดวส์มีหลักเกณฑ์คือ คุณสามารถใช้ชื่อไฟล์ยาวๆหรือเว้นระยะห่างได้ อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ Linux และmacintosh สามารถอ่านชื่อไฟล์ที่ยาวๆได้ หลักการหรือข้อกำหนดอื่นๆที่ระบุไว้ในการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ในวินโดวส์ - ชื่อโฟลเดอร์จะเรียงตามตัวอักษร - ชื่อโฟลเดอร์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข จะแสดงรายการก่อนตัวอักษร - ชื่อโฟลเดอร์ที่ขึ้นต้นด้วยสัญลักษณ์ เช่น@,#,$,% จะแสดงรายการ ก่อหน้าตัวเลข - คุณสามารถใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็กในชื่อโฟลเดอร์ก็ได้ - ความยาวของชื่อทำให้ยากต่อการอ่านและมองเห็นรายละเอียดเพียง แค่ครึ่งเดียว

19. N E T W O R K รูป5-12 แสดงหลักการการทำงานของชื่อโฟลเดอร์ บันทึกโฟลเดอร์ที่เริ่มต้นด้วยสัญลักษณ์ก่อน ตามด้วยโฟลเดอร์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวเลขและตัวอักษรเป็นลำดับสุดท้าย

20. โฟลเดอร์ในแมกอินทอช โฟลเดอร์ในลีนุก N E T W O R K ลีนุก แสดงโฟลเดอร์ใน directories การตั้งชื่อไฟล์และไดเรคตอรี่ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากชื่ออื่นๆ ไม่ได้ประกอบด้วยการเรียงตัวเลข ตัวอักษรมากกว่า256ตัวอักสร และไม่ได้สำรองไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงอักษร การตั้งชื่อในmacsให้หลีกเลี่ยงการใช้สัญลักษณ์ % & * ( ) < > ในชื่อไฟล์หรือชื่อโฟลเดอร์ แต่ไม่จำกัดว่าจะเป็นการเรียงตามตัวเลขหรือตัวอักษร a ถึง z และ 0-9 ถ้าเป็นไปได้คุณควรจะใช้ชื่อไฟล์เป็นตัวพิมพ์เล็ก รูป5-13 แสดงหลักการตั้งชื่อโฟลเดอร์เมื่อสร้างเพื่อการshare ตำแหน่งของโฟลเดอร์ที่เป็นสัญลักษณ์จะอยู่บนสุด

21. สองอุปกรณ์หลักที่จำเป็นสำหรับระบบเครือข่ายของคุณคือ Network Interface Card (หรือเรียกอีกอย่างว่า Network Card หรือNetwork adapter) และ Hub Network card ได้ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ Driver เฉพาะในการทำงานกับคอมพิวเตอร์ของคุณและระบบเครือข่ายเพราะว่าสายเคเบิ้ลเครือข่าย Hub เป็นอุปกรณ์ที่ส่งผ่านสัญญาณและเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่ในระบบเครือข่ายคุณอาจะใช้ switch หรือ router แทนที่จะเป็น hub switch และ router ฉลาดกว่า hub แต่ทำหน้าที่ได้เหมือนกัน N E T W O R K การเลือกโทโปโลยี โทโปโลยี คือรูปแบบของการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์ระบบเครือข่ายต่างๆ โทโปโลยี หมายความว่า เมื่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อมีผลต่อ กัน เมื่อเลือกโทโปโลยี พิจารณาจากจำนวนประชากร ในระบบเครือข่าย จำนวนห้องหรืออาคารและการเชื่อโยงในอนาคตและอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

22. พื้นฐานของโทโปโลยีมีอยู่ 4 อย่าง N E T W O R K ✦ Bus✦ Star✦ Ring✦ Mesh Network packets การส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ส่งข้ามเครือข่ายอยู่ในแพ็คเก็ตหรือบล็อก ในแต่ละแพ็คเก็ตไม่ได้มีเพียงแค่ข้อมูลที่จะส่งเท่านั้น แต่จะมีชื่อของผู้ส่งและผู้รับและส่งและส่วนที่ป้องกันข้อผิดพลาดของข่าวสารที่ทำให้แพ็คเก็ตส่งไปถึงปลายทาง

23. N E T W O R K แพ็คเก็ตสามารถระบุความยาวตายตัวหรือความยาวที่เปลี่ยนแปลงได้ แต่ละแพ็คเก็ตประกอบด้วยข้อมูลที่แบ่งออกเป็นส่วนเพื่อที่จะส่ง ซอฟแวร์ระบบเครือข่ายของคุณจะทำการแยกข้อมูลออกการจัดวางแพ็คเก็ต และการส่งข้ามเครือข่าย เมื่อแพ็คเก็ตไปถึงคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้แพ็คเก็ตจะรวมข้อมูลที่ถูกส่งมาให้เหมือนเดิมการทำนี้จะเสร็จในทันที จำนวนแพ็คเก็ตที่เดินทางข้ามเน็ตเวิร์คการสร้างการจราจรของเครือข่าย ตัวอย่างเช่น เเพ็คเก็ตมีการสูญหายหรือการเดินทางถูกขัดขวาง คอมพิวเตอร์ผูรับแจ้งถึงคอมพิวเตอร์ที่ส่ง และ แพ็คเก็ตต้องมีการส่งข้อมูลใหม่โทโปโลยีที่แตกต่างและเทคโนโลยีในการส่งที่แตกต่างของแพ็คเก็ต เราต้องหาการแก้ไขข้อผิดพลาดและวิธีควบคุมที่มั่นใจได้ว่าแพ็คเก็ตจะถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทาง

24. BUS N E T W O R K คุณสามารถใช้ บัสโทโปโลยี ในระบบเครือข่ายระดับบ้านของคุณ โทโปโลยีนี้ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องโดยมีสายเคเบิ้ลหนึ่งสายเป็นแนวไว้ คุณสามารถเชื่อมต่อกับ 30 ผู้ใช้บนเครือข่ายพื้นฐานนี้ การติดตั้งเครือข่ายเมื่อเทียบกับแบบอื่นแบบนี้ประหยัดกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ บัสโทโปโลยี คือเกิดการช้าของเครือข่าย โทโปโลยีนี้ในเวลาหนึ่งสามารถส่งแพ็คเก็ตเดียวในระบบเครือข่ายเท่านั้น เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารของเครือข่าย สายเคเบิ้ลที่เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่องยากที่จะเชื่อมต่อกัน เครือข่ายทั้งหมดจะล่มลงจนกระทั่งสายจะตายตัว สุดท้ายปัญหาเกี่ยวกับ บัสโทโปโลยีนั้นถ้าคุณต้องขยายเครือข่ายในอนาคต ยากที่เพิ่มอุปกรณ์เข้าไปทางทีจะติดตั้งแทนที่เพิ่มคอมพิวเตอร์เข้าไปตรงกลาง คุณต้องเพิ่มเข้าไปที่ส่วยท้ายเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นบัสโทโปโลยีต้องการโหนด การเพิ่มโหนดนั้นยากและซับซ้อน

25. Twisted Pair Cable  N E T W O R K เป็นสายส่งสัญญาณที่ประกอบไปด้วยสายทองแดง 2 เส้น ขึ้นไปบิดกันเป็นเกลียว (Twist) แล้วหุ้มด้วยฉนวน โดยแบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบมี Shield และ แบบไม่มี Shield จะมีฉนวนในการป้องกันสัญญาณรบกวนหรือระบบป้องกันสัญญาณรบกวน โดยเรียกสาย Cable ทั้งสองนี้ว่า "Shielded Twisted Pair(STP)" และ "Unshielded Twisted Pair (UTP)" Token ring เครือข่ายแบบ token ring เป็นระบบเครือข่ายแบบ LAN ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อด้วย topology แบบ star และระบบเลขฐานสอง (หรือ token) เป็นแบบแผนการส่งที่ใช้ในการป้องกันการชนกันของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ที่ต้องการส่ง message ในเวลาเดียวกัน โปรโตคอลของ token ring ได้รับการใช้เป็นอันดับที่สองในระบบ LAN รองจาก Ethernet โปรโตคอล โดย IBM token ring ได้นำไปสู่มาตรฐานของ IEEE 802.5 ซึ่งโปรโตคอลทั้งสองได้รับการใช้และคล้ายกันมาก การส่งข้อมูลของเทคโนโลยี IEEE 802.5 token ring ให้อัตราการส่งข้อมูล 4 –16 Mbps

26. Ethernet N E T W O R K เป็นชื่อเรียกวิธีการสื่อสารในระดับล่างหรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ของระบบ LAN ชนิดหนึ่งคะ พัฒนาขึ้นโดย 3 บริษัทใหญ่คือบริษัท Xerox Corporation, Digital Equipment Corporation (DEC) และ Intel ในปี ค.ศ. 1976 ตามมาตรฐานIEEE802.3  การเชื่อมเครือข่ายแบบ Ethernet สามารถใช้สายเชื่อมได้ทั้งแบบ Co-Axial และ UTP (Unshielded Twisted Pair) โดยสายสัญญาณที่ได้รับความนิยม คือ UTP 10 Base-T คะ  โดยปกติสามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 10 Mbps ผ่าน Hub  แต่ถ้าเป็นการส่งข้อมูลของระบบเครือข่ายที่ความเร็ว 100Mbps จะเรียกว่า Fast Ethernet  หากความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 1000Mbps หรือ 1Gbpsจะเรียกว่า Gigabit Ethernet   ทั้งนี้การเชื่อมคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ไม่ควรเกิน 30 เครื่องต่อหนึ่งวงเครือข่าย เนื่องจากอุปกรณ์ใน Ethernet LAN จะแข่งขันในการส่งข้อมูล หากส่งข้อมูลพร้อมกัน และสัญญาณชนกัน จะทำให้เกิดการส่งใหม่ (CSMD/CD: Carrier sense multiple access with collision detection) ทำให้เสียเวลารอ

27. 10Base-T, 100Base-T, and 1000Base-T N E T W O R K Ethernet ในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มีความเร็วเพิ่มจาก 10 Mbps ขึ้นเป็น 100 และ 1000 Mbps หรือกว่านั้น ซึ่งถูกนำมาใช้กับการส่งข้อมูลขนาดใหญ่หรือภาพ (Image) รวมทั้งข้อมูลที่ต้องรับส่งให้ได้ตามเวลาจริง (Real-time) เช่น ภาพเคลื่อนไหวและเสียง โดยมาตรฐานของ Ethernet ความเร็วสูงจัดเป็นกลุ่มดังนี้ 100Base-Tเป็นระบบที่พัฒนาโดยใช้สายที่ดีขึ้นกว่า 10Base-T เดิม คือ ใช้เป็นสาย   UTP ที่ดีกว่า เช่นสาย CAT5+ หรือ CAT5e โดย Hub ต้องรองรับความเร็ว 100Mbps ด้วย ระบบเครือข่าย LAN รุ่นใหม่จะใช้มาตรฐานนี้เป็นหลัก โดยสายที่ใช้กับระบบ 100Base-T นี้จะแยกรับส่งข้อมูลเป็น 4 คู่สาย ด้วยความเร็วคู่สายละ 25 Mbps รวมเป็น 25 x 4 = 100Mbps

28. N E T W O R K Gigabit Ethernet  หรือเรียกกันเป็น 1000Base-T (สาย UTB) หรือ 1000Base-F (สาย Fiber optic) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ในระดับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbpsซึ่งกำลังจะเป็นมาตรฐานใหม่ของระบบเครือข่ายสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูงมาก เช่น งานกราฟิก 10 Gigabit Ethernet เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะสามารถรับส่งข้อมูล ได้ในระดับความเร็ว 10000 Mbps หรือ 10 Gbpsคาดว่าระยะแรกจะใช้กับการเชื่อมต่อระหว่างเมือง หรือ WAN แต่ต่อไปก็คงเข้ามาอยู่ในระดับเครื่องเซิร์ฟเวอร์และเดสก์ท็อปตามลำดับ

29. ถ้าคุณสับสนเกี่ยวกับการเลือกชนิดของสายสัญญาณ ในที่นี้เราจะช่วยบอกประโยชน์ซักเล็กน้อยเกี่ยวกับการเลือกสายสัญญาณแบโคแอ็กเชียล ถ้าทั้งหมดตรงตามนี้ก็เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ - มีเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยกว่า 4 เครื่อง - ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กอยู่บนเครือข่ายด้วย - ไม่ได้คิดว่าจะวางแผนในการขยายเครือข่ายต่อหรือไม่ใช้ในการส่งข้อมูล ขนาดใหญ่หากัน เช่น การส่งไฟล์กราฟิก เป็นต้น N E T W O R K การเลือกระบบเครือข่าย 10 BASE-T - มีเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยกว่า 10 เครื่อง - เครื่องคอมพิวเตอร์มีความห่างไม่เกิน 300 ฟุต หรือราวๆนั้น - คุณมีคอมพิวเตอร์แบบเดียวกันที่จะเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย - เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณอาจจะเพิ่มคอมพิวเตอร์เข้าไปในเครือข่ายของคุณได้

30. การเลือกระบบเครือข่าย100 BASE-TX N E T W O R K - คุณวางแผนในการส่องข้อมูลไฟล์ขนาดใหญ่ - คุณต้องการเครือข่ายที่มีความเร็วในการแลกเปลี่ยนข้อมูล - คุณมีคอมพิวเตอร์แบบเดียวกัน - ในอนาคตคุณวางแผนเพื่อที่จะเพิ่มคอมพิวเตอร์เข้าไปอย่างมาก การดูหัวตัวเชื่อมที่สายสัญญาณ นอกจากนี้ ในการใช้สายสัญญาณ คุณต้องมีอุปกรณ์ตัวหนึ่งซึ่งใช้ในการต่อระหว่างสายสัญญาณกับการ์ดแลน และฮับ และสิ่งอื่นๆที่จะทำให้การต่อเชื่อมเสร็จสมบูรณ์ ไปถึงการทำสายสัญญาณให้ประสบความสำเร็จและการตัดสินใจที่แน่นอน บางอุปกรณ์นี้ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์บางส่วนก็ไม่จำเป็นในการใช้งาน

31. N E T W O R K การเลือกซื้อหัวเชื่อมต่อนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสายที่คุณใช้ถึงจะสามารถเลือกได้เหมาะสม หัวเชื่อมต่อ( terminators ) นั้น จำเป็นสำหรับสายสัญญาณมาก เพราะเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างสายสัญญาณกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกันกับการ์ดแลน ฮับ สวิทซ์ และอุปกรณ์ตัวอื่นๆอีก สำหรับสายสัญญาณแบบคู่ตีเกลียวนั้น หัวเชื่อมต่อ( connector ) นั้นจำเป็นมากสำหรับสายสัญญาณชนิดคู่ตีเกลียว ซึ่งจะคล้ายกับสายสัญญาณโทรศัพท์รวมทั้งหัวเชื่อมต่อด้วย แต่แตกต่างกันในการวางสายบางเล็กน้อย คุณสามรถใช้แผ่น Plate ติดกับผนังห้องสำหรับการเชื่อมต่อสายสัญญาณหรืออุปกรณ์ที่มีช่องสัญญาณหลายช่องสำหรับการเชื่อมต่อสายสัญญาณ โดยวางไว้ที่จุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ ซึ่งมีจำนวนพอร์ตอยู่ที่ 8, 12, 24 หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของสายสัญญาณ แล้วยังมีความปลอดภัยในการเดินสายสัญญาณมากกว่า โดยไม่จำเป็นต้องเจาะกับกำแพงและได้ผลดีอีกด้วย

32. เคล็ดลับ : คุณสามรถชื้อชุดเครื่องมือสำหรับใช้และหัวต่อเชื่อมได้อย่างมากมาย และคุณยัง สามารถซื้อสายสัญญาณแบบสำเร็จรูปได้จากร้านค้าขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป ซึ่งสายสัญญาณแบบสำเร็จรูปเหล่านี้มีความยาวถึง 100 ฟุต และยังทำการเชื่อมต่อหัว connectors มาเรียบร้อยแล้วอีกด้วย ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย N E T W O R K การใช้หัวเชื่อมต่อสายโคแอ็ก สำหรับสายสัญญาณโคแอ็กนั้น มีหลายหลากรูปแบบ ซึ่งดูคล้ายกับ สายสัญญาณสายของทีวี เมื่อคุณใช้ หัวเชื่อมต่อแบบ BNC Connectors ซึ่งเป็นทั้งเต้ารับและเต้าเสียบ ดังนั้นคุณตัองใช้ connectors เปรียบเสมือนเต้าเสียบเข้ากับเต้ารับของกับการ์ดแลน หรือฮับ T-Connectors จะถูกใช้ซึ่งมีสายสัญญาณที่ต้องใช้ร่วมกัน จากนั้นก็จัดเตรียมการเชื่อมต่อสำหรับการ์ดแลนเพื่อติดต่อกับเครือข่าย

33. การใช้สายสัญญาณคู่ตีเกลียวในการเชื่อมต่อการใช้สายสัญญาณคู่ตีเกลียวในการเชื่อมต่อ N E T W O R K การใช้สายคู่ตีเกลียวจะใช้หัวเชื่อมต่อแตกต่างกับสายโคแอ็กเชียล คุณสามารถเชื่อมต่อต่อเข้ากับการ์ดแลนหรือฮับ หรืออีกอย่างคุณสามารถเชื่อมต่อเข้ากับปลั๊กช่องสัญญาณที่ติดอยู่กับกำแพงหรือเรียกว่า ตัวเชื่อมต่อ รางพลาสติกมีไว้เพื่อเก็บสายสัญญาณเพื่อไม่ให้สายสัญญาณเกิดการบิดงอ ชำรุด หรือทำให้เก็บสายเป็นระเบียบ การเชื่อมต่อกับการ์ดแลน และฮับ สายสัญญาณคู่ตีเกลียวนี้ใช้หัวเชื่อมต่อแบบเฉพาะ คือถ้าต้องการเชื่อมต่อเข้า กับการ์ดแลนหรือ ฮับต้องใช้หัวเชื่อมต่อแบบ RJ-45 หัวเชื่อมต่อแบบ RJ-45 คือมีเส้นทองแดง 8 เส้น ที่มีเปลือกพลาสติกห่อหุ้มและมีรหัสสี และเป็นสายสัญญาณแบบ UTP

34. หัวเชื่อมต่อ RJ-45 จะคล้ายหับหัวเชื่อมแบบ RJ-11 แต่ที่แตกต่างกันเพราะว่า RJ-11 มีเส้นทองแดง 6 เส้น คือ การเชื่อมต่อโดยใช้หัว RJ-11 จะใช้ในการสื่อสารแบบเสียง หรือใช้ขนย้ายข้อมูล ( เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับโมเด็ม ) ส่วน RJ-45 ใช้ได้มากมายกว่า แต่ใช้ในการขนย้ายข้อมูลเท่านั้น N E T W O R K ภาพที่ 6-7 แสดงหัวเชื่อมต่อแบบ RJ-45 และ RJ-11 สำหรับเชื่อมต่อกับ การ์ดแลนและฮับ

35. การใช้ jack และชนิดของสายสัญญาณ N E T W O R K ถ้าคุณเชื่อมสายสัญญาณโดยตรงกับการ์ดแลนหรือฮับ ระหว่างทางถ้าสายของคุณเกิดการบิดหรืองอ อาจทำให้การส่งข้อมูลผิดเพี้ยนหรือหยุดการเชื่อมต่อทั้งหมด มีอีกหนึ่งวิธีในการแนะนำคือการเดินสายผ่านกำแพงแบบช่องเสียบที่ติดกับกำแพง โดยทั่วไปการเชื่อมต่อระหว่างการ์ดแลนหรือฮับ ระยะทางได้ประมาณ 3-5 ฟุต และเปลี่ยนแปลงได้ตามที่คุณสามารถย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือรอบๆบริเวณฮับ หรือปราศจากการที่สายสัญญาณชำรุด หรือที่ที่มีการเชื่อมต่อ รูปภาพที่ 6-8 แสดงตัวอย่างอุปกรณ์ เช่น Jack , Face plate , patch cable

36. N E T W O R K รูปภาพที่ 6-9 แสดงการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับฮับ • โดยใช้สายสัญญาณแบบ CAT 5 และใช้หัวเชื่อมต่อแบบ RJ-45 ซึ่งตัวอย่างบนสุดนี้เป็นวิธีการต่อง่ายที่สุด ต่อมา เป็นการเชื่อต่อจากฮับโดยเชื่อมต่อผ่านกับกำแพง(wall jack) และใช้อุปกรณ์ face plat เป็นตัวเชื่อมต่อเมื่อนำสายสัญญาณจากคอมพิวเตอร์มาต่อเชื่อม ต่อมาตัวอย่างสุดท้ายเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดการต่อเชื่อม ซึ่งจะแตกต่างจากตัวอย่างที่สองคือมีการผ่าน patch cable ก่อนที่จะเข้า Hub

37. เคล็ดลับ : ในการใช้ face plate ,jack และชนิดของสายสัญญาณ ไม่เฉพาะช่วย ปกป้องสายของคุณเท่านั้น และในการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ ยัง ทำให้การวางสายดูเป็นระเบียบ อีกด้วย N E T W O R K การใช้เครื่องมือทำระบบเครือข่าย ถ้าคุณคิดวางแผนถึงการดูแลรักษาสายเคเบิลของคุณด้วยตัวคุณเอง คุณจะต้องวางขอบเขตของสายเคเบิล และคุณสามารถใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับการยกเลิกสายเคเบิล และเครื่องมือจำนวนมากมายที่ใช้สำหรับการทดสอบสายเคเบิลที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณได้ใส่หรือต่อสายเคเบิลอย่างถูกต้อง และคุณยังสามารถทำสายเคเบิลด้วยตัวของคุณเอง เหมือนกับสายสัญญาณโคแอ็กซ์และสายสัญญาณแบบตีเกลียว แต่ละเครื่องมือมีประโยชน์ต่างกัน

38. เคล็ดลับ : ถ้าคุณไม่วางแผนในการจัดตั้งสายเคเบิลอย่างมืออาชีพมากกว่าที่ เป็นอยู่ ในบ้านของคุณขณะนี้ เช่นเดียวกันคุณควรจะเลือกซื้อชุด เครื่องมือสำหรับการใช้งาน การเลือกซื้อชนิดสายสัญญาณ หรือ มีใครบางคนมีความรู้และทักษะในการที่จะจัดตั้งสายเคเบิลทำงาน สำหรับคุณ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าคุณจะใช้เครื่องมืออย่างไรในทันที คุณควรจะให้ผู้เชี่ยวชาญทำสายเคเบิล N E T W O R K การทำงานกับเครื่องมือสายโคแอ็กเชียล การทำงานกับสายโคแอ็กเชียล คุณจะต้องซื้อคีมเข้าหัวสายสัญญาณและเครื่องมือการบีบอัด ซึ่งมีเครื่องมือที่มีหลากหลายรูปแบบสำหรับตัวเชื่อมซึ่งแตกต่างกัน ซึ่งที่คุณควรจะซื้อส่วนที่เหลือคือ ตัวเชื่อมและเครื่องมือที่จะทำสายเคเบิลในลักษณะตามสถานที่ เพื่อว่าคุณอาจได้รับความช่วยเหลือและบางทีอาจได้รับการสอนเล็กๆน้อยๆ

39. เคล็ดลับ: คุณสามารถลอกและตัดสายสัญญาณกับมีดที่แหลมคมที่ดี และใช้คู่กับกรรไกรที่ดี N E T W O R K ลองเข้าไปดูที่ www.I-com.comสำหรับคำแนะนำของเครื่องมือของสายโคแอ็กเชียลก่อนที่คุณจะไปซื้อที่ร้านค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าในที่นี้อาจให้คุณเกิดความคิดที่ดีกว่านั้นว่าคุณต้องการอะไร การทำงานกับเครื่องมือ Ethernet Ethernet และ Fast Ethernet เป็นที่นิยมกันมากสุดในการเดินสายวางระบบเครือข่ายภายในบ้าน นอกจากนี้แล้วยังมีเครือข่ายแบบไร้สาย คุณสามารถใช้คีมเข้าหัวสายสัญญาณที่จะลอก ตัด และกดสายไฟที่ใส่เข้าไปในปลั๊ก ซึ่งปลั๊กในขณะนั้นต้องเหมาะสมกับตัวเชื่อมต่อ เข้าไปใน patch panel หรือเข้าไปในด้านหลังของคอมพิวเตอร์ของคุณที่ซึ่งมีการ์ดแลนเชื่อมติดอยู่ คุณจะต้องมี CAT 5 RJ-45 Connectors , Jack และPlate สำหรับติดกับผนัง คุณสามารถหาสิ่งของทั้งหมดเหล่านี้ได้ที่ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

40. เคล็ดลับ : ดูให้แน่ใจว่าคุณได้สายสัญญาณ CAT 5 ซึ่งมีลวดหรือสายไฟอยู่ข้าง ใน การดึงสายไฟปลอกสายจะสะดวกกว่าและเร็วกว่า บางคนที่ไม่รู้ เกี่ยวกับการดึงสายไฟ คนอื่นๆจะพยามขายให้คุณในทุกๆทาง N E T W O R K หลังจากที่คุณทำสายสัญญาณของคุณแล้ว คุณควรจะทดสอบความน่าจะเป็นไปได้ของสายสัญญาณ คุณสามารถซื้ออุปกรณ์ทดสอบสายสัญญาณและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสัญญาณเสียง สำหรับราคาประมาณ $50 คุณแทนที่อุปกรณ์ทดสอบสายสัญญาณที่ปลายสายของสายสัญญาณและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสัญญาณเสียงจะสร้างสัญญาณไปบนสายไฟ และคุณสามารถใช้อุปกรณ์อื่นๆในการทดสอบสายสัญญาณได้ และเมื่อเสียงสัญญาณผ่านไปได้ คุณก็จะมีการติดต่อสื่อสารได้

41. การพิจารณาสำหรับการใช้เครื่องมือเครือข่ายการพิจารณาสำหรับการใช้เครื่องมือเครือข่าย N E T W O R K คุณสามารถหาซื้อชุดเครื่องมือ ทั้งสำหรับ Ethernet 10 mbps และ Fast Ethernet 100 mbps ถึงแม้ว่า Fast Ethernet 100 mbps จะมีราคาแพงมากว่าแต่จะมี แบนด์วิดที่ใหญ่มากกว่า ควรพิจารณาราคา ความเร็ว การส่งถ่ายข้อมูล และอื่นๆอีก ก่อนที่คุณจะซื้อชุดเครื่องมือ ถ้าคุณวางแผนในการส่งข้อมูลประมวลผล ตารางคำนวณ และแฟ้มเอกสารเล็กๆบนเครือข่าย ตัวอย่างเช่น 10 mbps ดีสำหรับโรงงาน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณวางแผนไปถึงการส่งไฟล์กราฟฟิดขนาดใหญ่และแฟ้มงานมัลติมีเดียหรือแฟ้มเสียง( เหมือนแฟ้มเพลง )บนเครือข่าย คุณควรจะใช้ความเร็วที่ 100 mbps เพื่อที่ว่าในการขนย้ายข้อมูลจะมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากกว่า หมายเหตุ: เมื่อซื้อชุดเครื่องมือสำหรับใช้ สนใจพอร์ตจำนวนหนึ่งของฮับHub ที่มี 4 พอร์ทจะเหมาะสมกับคอมพิวเตอร์จำนวนสี่เครื่อง ถ้าคุณต้องการคอมเจ็ดหรือแปดเครื่องบนระบบเครือข่ายของคุณ ควรซื้อ Hub ที่มีจำนวน 8พอร์ท

42. พิจารณาที่ข้อดีของเครื่องมือพิจารณาที่ข้อดีของเครื่องมือ N E T W O R K ถ้าคุณอ่านส่วนก่อนหน้านี้ที่อธิบายถึงการทำสายสัญญาณของคุณเอง คุณจะต้องเปรียบเทียบข้อดีของเครื่องมือสำหรับการใช้งานก่อนการเลือกซื้อเครื่องมือของระบบเครือข่าย ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถหาซื้อการ์ดแลนแบบต่างๆและชนิดสายสัญญาณเพื่อมาเพิ่มในชุดเครื่องมือสำหรับใช้งานเมื่อคุณต้องการพวกเขา ผลประโยชน์อื่นๆที่ได้ของชุดเครื่องมือสำหรับใช้คือการได้รับความช่วยเหลือจากช่างเทคนิค และคุณยังจะรับคำแนะนำสำหรับการติดตั้งระบบเครือข่าย แต่โดยปกติคุณจะได้รับการบริการและหมายเลขฟรี ที่คุณสามารถโทรหาได้ถ้าคุณมีปัญหา

43. การใช้ชุดเครื่องมือ N E T W O R K ชุดเครื่องมือสำหรับระบบเครือข่ายแบบ Ethernet บรรจุอุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณต้องการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องในเครือข่ายบ้านของคุณ เช่นเดียวกันกับ การ์ดแลน 2 ตัว , Hub ,สายสัญญาณ , และหัวเชื่อมต่อ (Connector) ที่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยบนสายสัญญาณแล้วโดยปกติ คุณซื้อชุดเครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องเข้าด้วยกัน เมื่อคุณซื้อชุดเครื่องมือสำหรับใช้ในเครือข่าย ให้คุณสนใจในข้อจำกัดของระบบเครือข่าย ตัวอย่างเช่น ความเร็วของการ์ดแลนและฮับรองรับที่ความเร็ว 10 mbps หรือ 100 mbps ถ้าการ์ดแลนของคุณเป็น 10/100 แล้วฮับเป็น 10 mbps ดังนั้นการ์ดแลนก็จะอยู่ที่ 10 mbps ตามที่ฮับเป็น 10 mbps แต่ถ้าฮับของคุณเป็น 100 mbps แล้วการ์ดแลนของคุณเป็น 10/100 ก็จะสามารถใช้ได้ทั้ง 10 mbps หรือ 100 mbps ถึงแม้ว่า 100 mbps จะให้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพดีกว่า

44. N E T W O R K คุณต้องการจดบันทึกชนิดของสายสัญญาณในรูปแบบ CAT3 หรือ CAT5 ,UTP หรือ STP และอื่นๆ( UTP คือ unshielded twisted-pair และ STP คือ shielded twisted-pair) สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาในเครือข่าย คุณควรซื้อสายสัญญาณชนิดเดียวกันกับที่คุณใช้ในปัจจุบันของชุดเครื่องมือ คุณสามารถซื้อสายสัญญาณสำเร็จรูปที่มีการตัดแบ่งอยู่ที่ 6,10,15,20,25,50 และ 100 ฟุต รวมทั้งตัวเชื่อม (Connector) เมื่อคุณพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ของคุณเพิ่มเข้าไปกับเครือข่าย คุณจำเป็นต้องซื้อการ์ดแลนและความยาวของสายสัญญาณสำหรับคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง คุณต้องการให้มั่นใจว่าการ์ดแลนของคุณอยู่ในความเร็วเดียวกันและอาจจะเป็นไปได้ที่เท่ากันเพราะอยู่ในชุดเครื่องมือเดียวกัน

45. การดูที่ชุดเครื่องมือสำหรับใช้ทำเครือข่าย Ethernet N E T W O R K ชุดเครื่องมือในการทำเครือข่าย Ethernet ที่มีความเร็ว 10 mbps จะมีชุดเครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้นในการทำเครือข่ายจะประกอบไปด้วยคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง การ์ดแลน 2 อัน สายสัญญาณและฮับ4 พอร์ต ต่อมาคุณสามารถซื้อการ์ดแลน และสายสัญญาณเพิ่มเติมสำหรับคอมพิวเตอร์แต่ละอัน ที่คุณเพิ่มเข้ามาในเครือข่ายของคุณ โดยไม่จำกัดว่าชุดเครื่องมือนั้นจะประกอบไปด้วยการ์ดแลนอัตโนมัติแบบใดและและซอฟแวร์ติดตั้งซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญของการติดตั้งการ์ดแลน และมีซอฟแวร์ในการวิเคราะห์อีกมากมาย หมายเหตุ: น้อยนักที่ชุดเครื่องมือสำหรับเครือข่ายจัดเตรียมหา ซอฟแวร์ คุณต้องการแชร์อินเตอร์เน็ตบนเครือข่าย คุณควรตรวจสอบอุปกรณ์อย่างระมัดระวัง และถ้าคุณ กำลังมองหาการทำวิธีนี้อยู่ ให้คุณลองดูในบทที่ 16 ซึ่ง อธิบายการแชร์อินเตอร์เน็ตบนเครือข่ายและสิทธิ์หรือ โอกาสในการใช้

46. การเชื่อมต่อ Fast Ethernet N E T W O R K การเชื่อมต่อ กลายเป็นชุดเครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้นโดยราคาประมาณ $75 รวมถึงชุดเครื่องมือสำหรับใช้ในการปฏิบัติตาม - การ์ดแลน( NIC ) 2 ตัว ความเร็ว 10/100 และ Hub 1 ตัวแบบ 5 พอร์ต ความเร็ว 10/100 - สายสัญญาณ 2 เส้น ยาว 15 ฟุต - ซอฟแวร์( Driver ) สำหรับสนับสนุนระบบปฏิบัติการ - lavbridgeสิ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง สามารถแชร์โมเด็มกันได้ การเลือกชุดเครื่องมือแบบ 10/100 สำหรับราคาประมาณ $40 คุณสามารถได้ชุดเครื่องมือที่แบบ10/100สิ่งที่ได้คล้ายกันกับชุดเครื่องมือสำหรับใช้การเชื่อมต่อประกอบด้วย - การ์ดแลน( NIC ) 2 ตัว ความเร็ว 10/100 และ Hub 1 ตัวแบบ 5 พอร์ต ความเร็ว 10/100 - สายสัญญาณแบบ CAT5 2 เส้น ยาว 10 ฟุต

47. ADS เทคโนโลยีแบบ USB จนถึง ชุดเครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ Ethernet N E T W O R K สิ่งนี้คือชุดเครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งรวมถึงการรับประกันถึง 5 ปีและใช้ได้กับระบบปฏิบัติการต่างๆ และมันยังรวมถึงของดังต่อไปนี้ - การ์ดแลนแบบ Fast Ethernet 2 ตัว - สวิตช์ 4 พอร์ท รองรับความเร็วที่ 10/100 - สายสัญญาณแบบ CAT5 ยาว 15 ฟุต - Driver และคำแนะนำในการติดตั้ง การติดตั้งสายสัญญาณ การติดตั้งสายสัญญาณนั้นจะง่ายหรือจะยากขึ้นอยู่กับคุณติดตั้ง คุณสามรถวางสายสัญญาณผ่านกำแพงเหมือนสายโทรศัพท์หรือใต้พรมเพื่อจะซ่อนมัน และคุณสามารถวางสายเคเบิ้ลใต้หลังคาบ้านหรือข้างหลังตู้หนังสือหรือรอบๆบานหน้าต่าง คุณอาจจะต้องการหาซื้อที่วางสาย (ray-way) ซึ่งทำด้วยพลาสติกเพื่อคลุมสายสัญญาณและแนบมันติดกับกำแพง

48. N E T W O R K แน่นอน ถ้าคุณไม่ต้องการติดตั้งสายสัญญาณด้วยตัวของคุณเอง คุณสามารถจ้างใครบ้างคนมาติงตั้ง สำหรับราคา ให้ตรวจสอบจากสุดโทรศัพท์ฉบับโฆษนาสินค้าสำหรับการติดต่อสื่อสารหรือการบริการทางโทรศัพท์เครือข่าย con sultantsหรือเครือข่าย technicians เคล็ดลับธุรกิจเล็กๆ : คุณควรจะตรวจสอบเกี่ยวกับค่าจ้างของคนที่คุณ เช่าสายสัญญาณมาติดตั้ง สำหรับสำนักงาน ธุรกิจของคุณ ถ้าคุณไม่แน่ใจในการเชื่อมต่อ สัญญาณเข้ารหัส การวางตำแหน่งของ ac power line และเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังเช่าพื้นที่ใน สำนักงาน

49. การวางแผนก่อนลงมือ N E T W O R K ในขั้นตอนแรกคุณควรจะวาดภาพวางแผนก่อนที่คุณจะย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ อาจเป็นไปได้ที่คุณจะย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณมาอยู่ในบ้านของคุณ ห้องนั่งเล่น หรือโดยเฉพาะห้องนอน คุณอาจจะวาดภาพร่างๆถึงการนำคอมพิวเตอร์ของคุณมาไว้ในห้องให้เหมาะสมก่อน ต่อไปก็ตัดสินใจอย่างไรในสถานที่ที่คุณต้องการเดินสายสัญญาณและที่วางสำหรับฮับฮับควรจะอยู่ในสถานที่เป็นศูนย์กลาง ไปถึงได้ง่ายสำหรับห้องอื่นๆ คุณสามารถวาดภาพบ้านจากด้านข้าง ดั่งที่แสดงในรูป 6-10 คุณสามรถแสดงภาพทั่วๆไปของสายสัญญาณนี้ในมุมมองต่างๆ อย่างเช่น การวางตำแหน่งของฮับและการเชื่อมต่อมายังฮับ รูปภาพที่ 6-10 สร้างแผนภาพสำหรับการเดินสายสัญญาณในบ้าน(ด้านข้าง)

50. N E T W O R K รูปภาพ 6- 11 แสดงภาพวาดเครือข่ายในด้านบน เคล็ดลับธุรกิจเล็กๆ : ถ้าคุณต้องการว่าจ้างใครสักคนให้ทำการติดตั้งสายสัญญาณให้คุณ การที่จะทำให้มั่นใจในสิ่งที่คุณบอกเขาหรือเธอ ว่า คุณต้องการแบบแปลนในการเดินสายที่สมบูรณ์หลังจากที่เขาหรือเธอทำการเดินสายสัญญาณเสร็จสิ้นแล้ว และคำถามเกี่ยวกับการติดตั้งคือ การใช้สายชนิดใด ตัวเชื่อมชนิดใด การวางตำแหน่ง และสิ่งอื่นๆที่คุณต้องการจากงานการวางสายสัญญาณ