1.02k likes | 1.11k Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Acts 17 Thessalonica, Berea, and Athensกิจการ 17เมืองเธสะโลนิกาเมืองเบโรอาและกรุงเอเธนส์นั้น Paul and Silas in Thessalonica verses 1-9 เปาโลและสิลาสที่เมืองเธสะโลนิกาข้อที่ 1-9
1Now when they had passed through Amphipolis and Apollonia, they came to Thessalonica, where there was a synagogue of the Jews. 1ครั้นเปาโลกับสิลาสข้ามเมืองอัมฟีบุรี และเมืองอปอลโลเนียแล้วจึงมา ยังเมืองเธสะโลนิกา ที่นั่นมีธรรมศาลาของพวกยิว
2And Paul went in, as was his custom, and on three Sabbath days he reasoned with them from the Scriptures, 2เปาโลจึงเข้าไปในธรรมศาลานั้นตามอย่างเคย และท่านได้อ้างข้อความในพระคัมภีร์ โต้ตอบกับเขาได้สามวันสะบาโต
3explaining and proving that it was necessary for the Christ to suffer and to rise from the dead, and saying, “This Jesus, whom I proclaim to you, is the Christ.” 3และไขข้อความชี้แจงให้เห็นว่า จำเป็นที่พระคริสต์ต้องทนทุกข์ทรมานแล้วทรงคืนพระชนม์ และกล่าวต่อไปว่า “พระเยซูองค์นี้ที่เราประกาศแก่ท่านทั้งหลายคือพระคริสต์”
4And some of them were persuaded and joined Paul and Silas, as did a great many of the devout Greeks and not a few of the leading women. 4บางคนในพวกเขาเห็นด้วย และสมัครเข้าเป็นพรรคพวกของเปาโลและสิลาส รวมทั้งชาวกรีกที่ถือพระเจ้าอีกหลายคน และสุภาพสตรีที่เป็นคนสำคัญๆก็มิใช่น้อยด้วย
5But the Jews were jealous, and taking some wicked men of the rabble, they formed a mob, set the city in an uproar, and attacked the house of Jason, seeking to bring them out to the crowd.
5แต่พวกยิวก็อิจฉาไปคบคิดกับคนพาลตามตลาด รวบรวมกันมาเป็นอันมากก่อการจลาจลในบ้านเมือง เข้าบุกบ้านของยาโสน ตั้งใจจะพาท่านทั้งสองออกมาให้คนทั้งปวง
6And when they could not find them, they dragged Jason and some of the brothers before the city authorities, shouting, “These men who have turned the world upside down have come here also,
6ครั้นไม่พบ จึงฉุดลากยาโสนกับพวกพี่น้องบางคนไปหาเจ้าหน้าที่ผู้ครองเมือง ร้องว่า “คนเหล่านั้นที่เป็นพวกคว่ำโลกมนุษย์มาที่นี่ด้วย
7and Jason has received them, and they are all acting against the decrees of Caesar, saying that there is another king, Jesus.” 7ยาโสนรับรองเขาไว้ และบรรดาคนเหล่านี้ได้กระทำผิดคำสั่งของซีซาร์ โดยเขาสอนว่ามีกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง คือ พระเยซู”
8And the people and the city authorities were disturbed when they heard these things. 8เมื่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ครองเมืองได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจ
9And when they had taken money as security from Jason and the rest, they let them go. 9จึงเรียกประกันตัวยาโสนกับคนอื่นๆ แล้วก็ปล่อยไป
I Thessalonians 1 เธสะโลนิกา 1 – 2:13 1Paul, Silvanus, and Timothy,To the church of the Thessalonians in God the Father and the Lord Jesus Christ: Grace to you and peace. 1เปาโล สิลวานัสและทิโมธี เรียน คริสตจักรของชาวเมืองเธสะโลนิกา ในพระบิดาเจ้าและพระเยซูคริสตเจ้า ขอให้พระคุณและสันติสุขดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
2We give thanks to God always for all of you, constantly mentioning you in our prayers, 2เราขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านทั้งหลาย และเมื่ออธิษฐานเราก็เอ่ยถึงท่านเสมอ
3remembering before our God and Father your work of faith and labor of love and steadfastness of hope in our Lord Jesus Christ.
3ต่อพระพักตร์พระบิดาเจ้าของเรา เรารำลึกถึงความเชื่อของท่านที่แสดงออกเป็นการกระทำ และความรักที่ท่านเต็มใจทำงานหนัก และความพากเพียรซึ่งเกิดจากความหวังในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
4For we know, brothers loved by God, that he has chosen you, 4ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า เราทราบแน่ว่าพระเจ้าได้ทรงสรรท่านทั้งหลายไว้แล้ว
5because our gospel came to you not only in word, but also in power and in the Holy Spirit and with full conviction. You know what kind of men we proved to be among you for your sake.
5และข่าวประเสริฐของเราที่มาถึงท่านมิใช่มาด้วยถ้อยคำเท่านั้น แต่ด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยความไว้ใจอันเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้อยู่แล้วว่า เราเป็นคนอย่างไรในหมู่พวกท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
6And you became imitators of us and of the Lord, for you received the word in much affliction, with the joy of the Holy Spirit, 6และท่านก็ทำตามอย่างของเรา และขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยที่ท่านได้รับถ้อยคำนั้นด้วยความยากลำบากเป็นอันมาก แต่ท่านยังเปรมปรีดิ์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
7so that you became an example to all the believers in Macedonia and in Achaia. 7เพราะเหตุนั้นท่านจึงเป็นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อแล้ว ในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายา
8For not only has the word of the Lord sounded forth from you in Macedonia and Achaia, but your faith in God has gone forth everywhere, so that we need not say anything.
8เพราะว่า พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้เลื่องลือออกไปจากเธสะโลนิกา ไม่ใช่แต่ในแคว้นมาซิโดเนียและในแคว้นอาคายาเท่านั้น แต่ความเชื่อของท่านในพระเจ้าได้ลือไปทุกแห่งหน จนเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก
9For they themselves report concerning us the kind of reception we had among you, and how you turned to God from idols to serve the living and true God,
9เพราะคนเหล่านั้นก็ได้รายงานเกี่ยวกับเราว่า เราได้รับการต้อนรับจากพวกท่านอย่างไร และกล่าวถึงการที่ท่านได้ละทิ้งรูปเคารพและหันมาหาพระเจ้า เพื่อรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่และเที่ยงแท้
10and to wait for his Son from heaven, whom he raised from the dead, Jesus who delivers us from the wrath to come. 10และรอคอยพระบุตรของพระเจ้าจากสวรรค์ ซึ่งพระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นมาจากความตาย คือพระเยซูผู้ทรงช่วยให้เราพ้นจากพระอาชญาที่จะมีมาภายหน้านั้น
1For you yourselves know, brothers, that our coming to you was not in vain. 1ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านเองก็ทราบว่า การที่เรามาเยี่ยมท่านนั้นไม่ไร้ประโยชน์เลย
2But though we had already suffered and been shamefully treated at Philippi, as you know, we had boldness in our God to declare to you the gospel of God in the midst of much conflict.
2ถึงแม้ว่าเราต้องทนการยากลำบาก และได้รับการอัปยศต่างๆมาแล้วที่เมืองฟีลิปปี ซึ่งท่านก็ทราบอยู่ เราก็ยังมีใจกล้าในพระเจ้าของเรา ที่ได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่ท่านทั้งหลาย ทั้งๆที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย
3For our appeal does not spring from error or impurity or any attempt to deceive, 3เพราะว่าคำเตือนสติของเรามิได้เกิดมาจากความคิดผิด หรือการโสโครกหรืออุบายใดๆ
4but just as we have been approved by God to be entrusted with the gospel, so we speak, not to please man, but to please God who tests our hearts. 4แต่ว่าพระเจ้าทรงเห็นชอบที่จะมอบข่าวประเสริฐไว้กับเรา เราจึงประกาศไป ไม่ใช่เพื่อให้เป็นที่พอใจของมนุษย์ แต่ให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ผู้ทรงชันสูตรใจเรา
5For we never came with words of flattery, as you know, nor with a pretext for greed—God is witness. 5เพราะว่าเราไม่ได้ใช้คำยกยอใดๆเลย ซึ่งท่านก็รู้อยู่ หรือมิได้ใช้คำพูดเคลือบคลุมเพื่อความโลภเลย พระเจ้าทรงเป็นพยานฝ่ายเรา
6Nor did we seek glory from people, whether from you or from others, though we could have made demands as apostles of Christ. 6และแม้ในฐานะเป็นอัครทูตของพระคริสต์ เราจะเรียกร้องก็ได้ แต่เราก็ไม่แสวงหาศักดิ์ศรีจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นจากท่านหรือจากคนอื่น
7But we were gentle among you, like a nursing mother taking care of her own children. 7แต่ว่าเราอยู่ในหมู่พวกท่าน ด้วยความสุภาพอ่อนโยน เหมือนมารดาที่เลี้ยงดูลูกของตน
8So, being affectionately desirous of you, we were ready to share with you not only the gospel of God but also our own selves, because you had become very dear to us. 8เมื่อเรารักท่านอย่างนี้แล้ว เราก็มีใจพร้อมที่จะเผื่อแผ่เจือจาน มิใช่แต่เพียงข่าวประเสริฐของพระเจ้าเท่านั้น แต่อุทิศตัวเราให้แก่ท่านด้วย เพราะท่านเป็นที่รักยิ่งของเรา
9For you remember, brothers, our labor and toil: we worked night and day, that we might not be a burden to any of you, while we proclaimed to you the gospel of God.
9ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านคงจำได้ถึงการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย และความยากลำบากของเรา เมื่อเราประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า ให้ท่านฟัง เราทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเราจะไม่เป็นภาระแก่ผู้ใดในพวกท่าน
10You are witnesses, and God also, how holy and righteous and blameless was our conduct toward you believers. 10ท่านทั้งหลายเป็นพยานฝ่ายเรา และพระเจ้าก็ทรงเป็นพยานด้วยว่าเราได้ประพฤติตัวบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และปราศจากข้อตำหนิในหมู่พวกท่านที่เชื่อ
11For you know how, like a father with his children, 11ดังที่ท่านรู้แล้วว่า เราได้เตือนสติหนุนใจและกำชับท่านทุกคนดังบิดากระทำต่อบุตร
12we exhorted each one of you and encouraged you and charged you to walk in a manner worthy of God, who calls you into his own kingdom and glory. 12เพื่อให้ท่านประพฤติอย่างสมควรต่อพระเจ้า ผู้ทรงเรียกท่านให้เข้ามาในแผ่นดิน และพระสิริของพระองค์
13And we also thank God constantly for this, that when you received the word of God, which you heard from us, you accepted it not as the word of men but as what it really is, the word of God, which is at work in you believers.
13เราขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้รับพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งท่านได้ยินจากเรา ท่านไม่ได้รับไว้อย่างเป็นคำของมนุษย์ แต่ได้รับไว้ตามความเป็นจริง คือเป็นพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งกำลังทำงานอยู่ภายในท่านทั้งหลายที่เชื่อ
II Thessalonians 2 เธสะโลนิกา 1:1-3 1Paul, Silvanus, and Timothy, to the church of the Thessalonians in God our Father and the Lord Jesus Christ: 1เปาโล สิลวานัสและทิโมธี เรียน คริสตจักรของชาวเมืองเธสะโลนิกา ในพระบิดาเจ้าของเราและพระเยซูคริสตเจ้า
2Grace to you and peace from God our Father and the Lord Jesus Christ. 2ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้า และจากพระเยซูคริสตเจ้าดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
3We ought always to give thanks to God for you, brothers, as is right, because your faith is growing abundantly, and the love of every one of you for one another is increasing.
3ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านทั้งหลายอยู่เสมอ และเป็นการสมควรเพราะความเชื่อของท่านก็จำเริญยิ่งขึ้น และความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นมากด้วย
I Thessalonians เธสะโลนิกา 4:13-17 13But we do not want you to be uninformed, brothers, about those who are asleep, that you may not grieve as others do who have no hope.
13ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่ทราบความจริงเรื่องคนที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้า อย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง
14For since we believe that Jesus died and rose again, even so, through Jesus, God will bring with him those who have fallen asleep. 14เพราะในเมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำบรรดาคนที่ล่วงหลับไปแล้วนั้น มากับพระองค์