1 / 9

Recordset Object

Recordset Object. Seree Chinodom seree@buu.ac.th. Recordset. Recordset หมายถึงกลุ่มของเรคอรฺดซึ่งอาจเป็นบางเรคอร์ดหรือทั้งหมดที่อยู่ในฐานข้อมูล Recordset ใช้รองรับการทำงานทั่วไปที่เกิดจากฐานข้อมูล การอ่านเรคอร์ด การเปลี่ยนแปลง การลบ การค้นหา การเรียงลำดับ. การเตรียมการใช้งาน Recordset.

sora
Download Presentation

Recordset Object

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Recordset Object Seree Chinodom seree@buu.ac.th Computer Science, BUU

  2. Recordset • Recordset หมายถึงกลุ่มของเรคอรฺดซึ่งอาจเป็นบางเรคอร์ดหรือทั้งหมดที่อยู่ในฐานข้อมูล • Recordset ใช้รองรับการทำงานทั่วไปที่เกิดจากฐานข้อมูล • การอ่านเรคอร์ด • การเปลี่ยนแปลง • การลบ • การค้นหา • การเรียงลำดับ

  3. การเตรียมการใช้งาน Recordset • 1. สร้าง ODBC Data Source Name • 2. กำหนด User Identification และPassword • ระบุ UserID • รหัสผ่าน • 3. ทำความเข้าใจกับโครงสร้างของระบบฐานข้อมูล

  4. ชุดคำสั่งเบื้องต้นสำหรับการทำงานกับRecordsetชุดคำสั่งเบื้องต้นสำหรับการทำงานกับRecordset 1. Dim oRSc 2. Set oRSc = Server.CreateObject(“ADODB.Recordset”) 3. oRSc.open “ชื่อตาราง”, “DSN=ชื่อdata source; UID=ชื่อผู้ใช้; PWD=รหัสผ่าน” บรรทัด 1 ประกาศตัวแปรเพื่อรองรับ Recordset บรรทัดที่ 2 เป็นการสร้าง recordset object โดยให้ตัวแปร oRSc เป็นตัวอ้างอิงถึง บรรทัดที่ 3 เป็นการใช้เมธอด open กำหนดการติดต่อฐานข้อมูล

  5. การเขียนข้อมูลRecordsetลงในHTMLการเขียนข้อมูลRecordsetลงในHTML • ใช้คำสั่ง Response.Write เขียนในแท็ก <% %>ดังนี้ <%Response.write ชื่อobject(“ชื่อฟิลด์ในตาราง”) %> • หรือ <%=ชื่อobject(“ชื่อฟิลด์ในตาราง”)%> • หรือ Response.Write ชื่อobject(“ชื่อฟิลด์ในตาราง”).value

  6. การนำข้อมูลจากRecordsetเก็บลงตัวแปรการนำข้อมูลจากRecordsetเก็บลงตัวแปร • นำข้อมูลเก็บลงตัวแปรเพื่อเตรียมค่าสำหรับนำไปดำเนินการ ชื่อตัวแปร= ชื่อ object(“ชื่อฟิลด์ในตาราง”) เช่น sContractID = oRSc (“ContractID”) หรือ sContractID = oRSc (“FirstName”) &” “& oRSc (“LastName”)

  7. การนำข้อมูลจากRecordsetเพื่อเปรียบเทียบการนำข้อมูลจากRecordsetเพื่อเปรียบเทียบ • ใช้เป็นเงื่อนไขในข้อความสั่ง if/then/else หรือ Do … Loop if oRSc (“ContractName”) =“DBA” Then ‘คำสั่งที่ให้ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขจริง End If หรือ Do While oRSc.EOF ‘คำสั่งที่ให้ดำเนินการในลูป Loop

  8. การนำข้อมูลจากRecordsetใช้เป็นอาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชันการนำข้อมูลจากRecordsetใช้เป็นอาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชัน • นำข้อมูลมาเป็นค่า อาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชัน vFirstName = Left(oRSc(“FirstName”), 5) vPassword = Ucase(oRSc(“FirstName”))

More Related