820 likes | 4.63k Views
กรดนิวคลีอิก ( Nucleic acid ). กรดนิวคลีอิก ( Nucleic acid ). เป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมและถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิต. แบ่งออกเป็น 2 ชนิด. กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก ( Deoxyribonucleic acid) “DNA”. กรดไรโบนิวคลีอิก (Ribonucleic acid) “RNA ”. DNA. พบใน นิวเคลียส ของเซลล์
E N D
กรดนิวคลีอิก (Nucleic acid) • เป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมและถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ชนิด • กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก(Deoxyribonucleic acid) “DNA” • กรดไรโบนิวคลีอิก(Ribonucleic acid) “RNA”
DNA • พบในนิวเคลียสของเซลล์ • ทำหน้าที่เป็นสารพันธุกรรม RNA • พบในนิวเคลียสและไซโทพลาซึม • สร้างโปรตีนภายในเซลล์
DNA RNA protein
โครงสร้างของกรดนิวคลีอิกโครงสร้างของกรดนิวคลีอิก สายของกรดนิวคลีอิก (nucleic acid)ประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) • 1.เบสที่มีธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ ( nitrogenous base) • 2.น้ำตาลที่มีคาร์บอน 5 อะตอม (pentose sugar) • * น้ำตาลไรโบส(RNA) • * น้ำตาลดีออกซีไรโบส(DNA) • 3.หมู่ฟอสเฟต (phosphate group) แต่ละ nucleotide ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ แต่ละนิวคลีโอไทด์มาต่อกันเป็นสายยาวเชื่อมด้วยพันธะไฮโดรเจน กรดนิวคลีอิก
1. เบสที่มีธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ ( nitrogenous base) • เบสพิริมิดีน(PyrimidinesBase) มี 3 ชนิด คือ • ไซโทซีน (Cytosine: C) • ไทมีน (Thymine : T ) (in DNA) • ยูราซิล (Uracil : U ) (in RNA) • เบสพิวรีน(Purines Base) มี 2 ชนิด คือ • อะดีนีน (Adenine: A) • กวานีน (Guanine : G)
Pyrimidines Purines Nitrogenous base
ใน DNA และ RNA มีเบสอยู่ 4 ชนิด • DNA มีเบส A, G, C, T • RNA มีเบส A, G, C, U
2. น้ำตาลที่มีคาร์บอน 5 อะตอม (pentose sugar) ใน RNA คือ ribose ใน DNA คือ deoxyribose น้ำตาลดีออกซีไรโบส น้ำตาลไรโบส
Nucleotideหลายโมเลกุลมาเชื่อมต่อกัน ได้สายยาวของ polynucleotideที่มีหมู่ phosphate และ pentose เรียงต่อกันเป็นสาย โดย nitrogenous base ยื่นออกมาจากส่วนยาวของ nucleic acid • Bondที่มาเชื่อมต่อระหว่าง nucleotide 2 โมเลกุล เรียกว่า Phosphodiester linkage
สรุปโครงสร้างของกรดนิวคลีอิกสรุปโครงสร้างของกรดนิวคลีอิก • ประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า.............ซึ่งประกอบด้วย • 1............................... • 2............................... • 3............................... • เบสพิวรีน ได้แก่.................................... • เบสพิริมิดีน ได้แก่................................... • ที่พบเฉพาะใน DNA คือ............................... • ที่พบเฉพาะใน RNA คือ............................... • น้ำตาลไรโบส พบใน……………… • น้ำตาลดีออกซีไรโบส พบใน.........................
DNA (Deoxyribonucleic acid) • ประกอบด้วยสายpolynucleotide 2 สายเรียงต่อขนานกันและมีโครงสร้างเป็นเกลียวเรียกว่าdouble helix
The structure of part of a DNA double helix ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Image:DNA_Overview.png
การจับคู่ของเบสใน DNA A จับกับ T ใช้พันธะไฮโดรเจน 2 พันธะ G จับกับ C ใช้พันธะไฮโดรเจน 3 พันธะ
RNA (Ribonucleic acid) • 1. Ribosomal RNA (rRNA) • 2. Messenger RNA (mRNA) • 3. Transfer RNA (tRNA) RNA แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. Ribosomal RNA (rRNA) - 80-90 % ของ RNAที่พบภายในเซลล์ จัดเป็น rRNA -สร้างจาก DNA โดยกระบวนการถอดรหัส ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบของไรโบโซมโดยอาร์เอ็นเอรวมกับโปรตีนกลายเป็น หน่วยของไรโบโซม
2. Messenger RNA (mRNA) - 2-4 % ของ RNA ที่พบภายในเซลล์ - เป็น RNA ที่ได้จากกระบวนการถอดรหัส ( transcription ) ของสายใดสายหนึ่งของ DNAซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรหัสพันธุกรรมที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน
3. Transfer RNA (tRNA) • RNA ชนิดนี้ผลิตจาก DNA เช่นเดียวกัน ทำหน้าที่ในการนำกรดอะมิโนต่างๆ ไปยังไรโบโซม ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการสังเคราะห์โปรตีน ในไซโทพลาซึม
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง DNA กับ RNA