1 / 25

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

S.N.P. NEWS. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. ข่าวสารฉบับที่ 150. Logistics Specialist and International Freight Forwarder. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. www.snp.co.th. CEO Articles. CEO Articles. Global News. Inside Customs. Supply & Demand. All about Logistics. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan.

Download Presentation

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. S.N.P. NEWS S.N.P. GROUP OF COMPANIES ข่าวสารฉบับที่ 150 Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com

  2. S.N.P. GROUP OF COMPANIES www.snp.co.th CEO Articles CEO Articles Global News Inside Customs Supply & Demand All about Logistics เที่ยวรอบโลกกับPeter Chan SNP Philosophy Tel. 0-2333-1199 ( 12 Line )

  3. สูตรการผลิต 3 ผมได้กล่าวถึงความสำคัญของ “สูตรการผลิต” และการร่วมกันทำ “บัญชีวัตถุดิบคงเหลือ”3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นไปแล้วในสองฉบับก่อนหน้านี้ ผมพยายามให้ผู้ประกอบการเห็นถึงข้อเสียที่จะได้รับจากการปล่อยให้ “สูตรการผลิต” และบัญชีวัตถุดิบคงเหลือดำเนินการไปตามตัวเลขทางบัญชีที่ปราศจากการบริหาร ในฉบับนี้ผมอยากกล่าวถึงคำว่า “ส่วนสูญเสีย” ที่เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งใน “สูตรการผลิต” CEO Articles การผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ ย่อมมีวัตถุดิบสูญเสียเกิดขึ้นมากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ลักษณะของการผลิตสินค้า การผลิตสินค้าบางประเภทอาจไม่มี “ส่วนสูญเสีย” เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่อาจเพราะคนงานไม่มีความชำนาญเพียงพอ ก็อาจทำให้เกิด “ส่วนสูญเสีย” ได้อย่างไม่ตั้งใจ “ส่วนสูญเสีย” ที่เกิดขึ้นจากการผลิต นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้ปริมาณสินค้าตามที่ต้องการแล้ว “ส่วนสูญเสีย” ยังเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลข “ส่วนสูญเสีย” ที่ปรากฎอยู่ในบัญชีวัตถุดิบคงเหลือ ย่อมกลายเป็นปริมาณวัตถุดิบที่ส่งออกไม่หมดทั้ง ๆ ที่ “ส่วนสูญเสีย” เหล่านี้ไม่อยู่ในสภาพวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตได้อีก ดังนั้นหาก “ส่วนสูญเสีย” ไม่ได้รับการอนุมัติให้ตัดออกบัญชีวัตถุดิบคงเหลือไป “ส่วนสูญเสีย” ก็จะทำให้บัญชีวัตถุดิบคงเหลือเพิ่มจำนวนมากขึ้นเกินความเป็นจริง “ส่วนสูญเสีย” ที่ได้รับความยินยอมจากหน่วยงานของรัฐให้ตัดออกจากบัญชีวัตถุดิบคงเหลือได้ ก็จะกลายเป็นข้อดีให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่ต้องแบกตัวเลขบัญชีวัตถุดิบคงเหลือเกินความเป็นจริง หากเป็นกรณีของ B.O.I. ผู้ประกอบการก็สามารถยื่นขออนุมัตินำเข้าวัตถุดิบได้มากขึ้น หรือหากเป็นกรณีขอคืนภาษีวัตถุดิบที่ชำระไปแล้วตามมาตรา 19 ทวิ ก็ย่อมทำให้ผู้ประกอบการได้รับการคืนภาษีมากขึ้นเช่นกัน อ่านต่อหน้า 2

  4. ในทางกลับกัน หาก “ส่วนสูญเสีย” ไม่ได้รับความยินยอมให้ตัดออกจากบัญชีวัตถุดิบคงเหลือได้ หรือตัดออกได้แต่ได้ในปริมาณที่น้อยกว่าความเป็นจริง อะไรจะเกิดขึ้นครับ ผลของตัวเลขบัญชีวัตถุดิบคงหลือที่มีมากกว่าความเป็นจริง ในกรณีของ B.O.I. ย่อมทำให้การขออนุมัตินำเข้าวัตถุดิบใหม่ลดลงไปด้วย และหากตัวเลข “ส่วนสูญเสีย” ที่ตกค้างและสะสมเป็นปี ๆ ก็ย่อมทำให้มีปริมาณสูงขึ้นกระทั่งถึงจุด ๆ หนึ่งที่ต้องตรวจสอบ ตัวเลข “ส่วนสูญเสีย” เหล่านี้ จะกลายเป็นปริมาณวัตถุดิบที่นำเข้าที่ตกค้างอยู่ในประเทศในทางบัญชีทั้ง ๆ ที่ของจริง ไม่อยู่ในสภาพวัตถุดิบ และเป็นตัวเลขทางบัญชีที่ยังไม่ได้ชำระภาษีขาเข้า ไม่มีการส่งออกตามที่ตกลงไว้ ผลก็คือ ผู้ประกอบการอาจต้องชำระภาษีขาเข้าพร้อมเบี้ยปรับอย่างไม่รู้ตัวทั้งที่วัตถุดิบนั้นเป็นเพียงเศษที่ใช้ไม่ได้แล้ว หากเป็นกรณีของการขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ ที่ภาษีขาเข้าได้ชำระไปแล้วล่วงหน้าขณะนำเข้า “ส่วนสูญเสีย” ที่ตัดบัญชีไม่ได้ ก็ย่อมทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้คืนภาษีในภายหลังเช่นกัน “ส่วนสูญเสีย” ในสูตรการผลิต จึงเป็นดาบสองคมที่ผู้ประกอบการในอดีตเคยถูกคมมีดอีกด้านหนึ่งบาดมือตัวเอง การบริหารและการจัดการกับ “สูตรการผลิต” และ “ส่วนสูญเสีย” จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่ต้องกระทำก่อนที่จะถูกคมมีดอีกด้านหนึ่งบาดเอาครับ สิทธิชัย ชวรางกูร กลับสู่หน้าหลัก

  5. Global News ตั้งเป้าส่งออกข้าวปีหน้ากว่า 9 ล้านตัน นางพรทิวานาคาศัย รมว.พาณิชย์กล่าวในงานสัมมนา ข้าวไทยปี 2554 จะไปทางไหนว่า ปีหน้ากระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ 8.5-9 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีนี้ ที่คาดว่าจะส่งออกได้ 8.5 ล้านตัน และแม้จะเกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นหลายพื้นที่ จนสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าว แต่มั่นใจจะไม่กระทบต่อการส่งออกข้าวโดยรวมของไทย เนื่องจากในแต่ละปีไทยมีการทำนาหลายฤดูกาล จึงสามารถปลูกข้าวทดแทนกันได้ สำหรับทิศทางราคาข้าวปีหน้าประเมินว่าจะทรงตัวระดับสูง แต่ก็ผันผวนมากเช่นกัน ดังนั้นยุทธศาสตร์ที่กระทรวงพาณิชย์ใช้เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาข้าว จะเน้นการแข่งขันเชิงคุณภาพเป็นหลักเพราะต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าคู่แข่ง จึงต้องทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในมาตรฐานและคุณภาพข้าวของไทย เพื่อรักษาแชมป์ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพของโลกขณะเดียวกันจะเน้นการสร้างความร่วมมือกับประเทศกลุ่มอาเซียน เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวในภูมิภาค เพราะไทยมีความเชี่ยวชาญทางด้านการตลาด ซึ่งจะลดปัญหาการขายข้าวตัดราคากันเองได้ อ่านต่อหน้า 2

  6. สถานการณ์ราคาข้าวปีหน้ายังมีความผันผวน เนื่องจากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเยอะทั้ง ความผันผวนของค่าเงินบาท ภาวะเศรษฐกิจโลก นโยบายการแทรกแซงของรัฐบาล รวมถึงคู่แข่งส่งออกเวียดนามและอินเดีย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาข้าวในระยะสั้น ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ยังมีแนวโน้มดีและปริมาณการซื้อขายยังเพิ่มต่อเนื่อง เพราะคู่แข่งยังไม่มีข้าวส่งออก สำหรับปริมาณส่งออกข้าวไทยในขณะนี้ สามารถส่งออกได้แล้วกว่า 7 ล้านตัน และในช่วงที่เหลือของปีน่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย 8.5 ล้านตัน ส่วนแนวโน้มปีหน้าไทยน่าจะส่งออกข้าวได้  9 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกกว่า  1.8–2 แสนล้านบาท โดยทั่วโลกมีปริมาณการค้าข้าวอยู่ที่ 30 ล้านตัน อ่านต่อหน้า 3

  7. พม่าสั่งแบน 8 สินค้านำเข้าจากไทยหวั่นทุบผู้ผลิตในประเทศพาณิชย์ดิ้นนัดถกปีหน้า นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้รายงานผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกับพม่า ในการพิจารณาสินค้าไทยที่พม่าห้ามนำเข้า 15 รายการ โดยพม่าแจ้งว่าได้มีการทบทวนและยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าแล้ว จำนวน 7 รายการ คือ 1.แอปเปิ้ล 2.สาลี่ 3.องุ่น 4.เชอร์รี่ 5.พุทรา 6.ส้ม และ 7.ทุเรียน แต่ไทยเห็นว่าผลไม้ที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกมีเพียงทุเรียนรายการเดียว จึงขอให้พม่าพิจารณาเพิ่มเติมอีก 4 รายการ ได้แก่ 1.เงาะ 2.มังคุด 3.ฝรั่ง และ 4.ลองกอง ซึ่งพม่าจะกลับไปพิจารณา โดยเห็นว่าลองกองอาจจะยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าได้ เนื่องจากไม่มีการผลิตภายในประเทศ ส่วนรายการที่เหลือ ทางพม่าได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องมีมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าและหลักเกณฑ์การนำเข้าในแต่ละรายการ ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และบะหมี่สำเร็จรูป เพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ โดยเครื่องดื่มจะอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะโรงแรมเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว 2.ผลิตภัณฑ์ผงชูรส เนื่องจากมีผลเสียต่อสุขภาพ 3.ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง ช็อกโกแล็ต หมากฝรั่ง เหล้า เบียร์ บุหรี่ ขนมเค็ก ขนมเวเฟอร์ และขนมปังกรอบ อนุญาตให้นำเข้าเฉพาะโรงแรมและร้านค้าปลอดภาษี และ 4.ผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับใช้ในครัวเรือนและใช้ส่วนตัว ทั้งนี้ส่งผลให้ยังเหลือสินค้าไทยที่พม่าห้ามนำเข้ารวม 8 รายการ อ่านต่อหน้า 4

  8. อย่างไรก็ตาม สินค้าทั้ง 15 รายการดังกล่าวมีสถิติการนำเข้าน้อย จึงไม่ได้ทำให้เพิ่มมูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศมากนัก ซึ่งไทยเห็นว่าควรเร่งส่งเสริมการค้าในสินค้าประเภทปูนซิเมนต์ กระเบื้อง และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการสินค้าห้ามนำเข้า เพราะพม่ากำลังอยู่ระหว่างพัฒนาประเทศ และมีความต้องการในสินค้าดังกล่าวจำนวนมาก โดยเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ไทยได้ ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2554 จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาข้อเสนอรายการสินค้าที่พม่าสามารถยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้า รวมทั้งได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้ทราบถึงรายการสินค้าที่พม่าได้ยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าไปแล้ว และสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกไปยังพม่าต่อไป อ่านต่อหน้า 5

  9. EUตรวจมาตรฐานคุมโรคสัตว์ปีกในไทยปีหน้าEUตรวจมาตรฐานคุมโรคสัตว์ปีกในไทยปีหน้า นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หน่วยงาน Food and Veterinary Officer (FVO) ของสหภาพยุโรป (อียู) จะเดินทางมาไทย ระหว่างวันที่ 21-25 มี.ค.54 และ 28 มี.ค.-1 เม.ย.54 ตามลำดับ เพื่อตรวจประเมินพิจารณาอนุญาต ให้นำเข้าเนื้อสัตว์ปีกสดแช่แข็ง ซึ่งปัจจุบัน EU ให้นำเข้าเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกจากไทย รวมทั้งมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคสัตว์ที่สำคัญ และตรวจประเมินด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีก ณ โรงฆ่า ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดี ของอุตสาหกรรมไก่ไทย ที่จะสามารถเพิ่มช่องทางส่งออก ได้มากขึ้น หลังจากประสบปัญหาไข้หวัดนก เมื่อปี 2547 โดยไทยเคยส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็ง ไปตลาดยุโรป ในช่วงก่อนปี 46 คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 25 รองจากตลาดญี่ปุ่น ที่มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 48 ของการส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งรวมทั้งหมดของไทย ส่วนในปีนี้คาดว่า จะส่งออกได้กว่า 4.2 แสนตัน มูลค่ากว่า 53,000 ล้านบาท อ่านต่อหน้า 6

  10. บีโอไอสลดการลงทุนต่ำกว่าเป้าบีโอไอสลดการลงทุนต่ำกว่าเป้า นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน จะหารือถึงเป้าการขอรับบีโอไอในปี 53 และปี 54 เนื่องจากที่แนวโน้มการขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้คงไม่ถึง 5 แสนล้านบาทที่ตั้งเป้าไว้ เพราะในช่วงที่ผ่านมาโครงการใหญ่ ๆ ที่มีมูลค่าสูงจำนวนมากชะลอการลงทุนในไทยหลังจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดย 10 เดือนที่ผ่านมา ม.ค.-ต.ค. มีโครงการขอรับบีโอไอมูลค่า 3.37 แสนล้านบาท 1,200 โครงการ มากกว่าปีก่อนเล็กน้อย ตัวเลขขอรับบีโอไอในปีนี้มากสุดจะอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท โดยคาดว่าเอสเอ็มอีเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังจากการประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ในวันที่ 24 พ.ย. จะเสนอขยายการส่งเสริมลงทุนให้เอสเอ็มอีจากเดิมกำหนดวงเงินลงทุนไว้ที่ 20 ล้านบาท นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทยจำกัดกล่าวว่า สนับสนุนการยกเลิกให้สิทธิประโยชน์บีโอไอเพื่อแลกกับภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ต้องลดลงเหลือ 18% และการยกเลิกภาษีบีโอไอจะช่วยทำให้นักลงทุนสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ไทยมีระบบภาษีที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาก มั่นใจว่าการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจะจูงใจนักลงทุนได้มาก ไทยรัฐออนไลน์ กลับสู่หน้าหลัก

  11. INSIDE CUSTOMS ตอน... ตะกร้อชายเดี่ยว ภาคต่อ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผมชมเชย (หรือด่ากันแน่) บทบาทของกรมศุลกากร ที่ทำตัวเป็นนักตะกร้อระดับโลก โชว์เพลงแข้งแบบชายเดี่ยว นั่งประชุม แก้ไข กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การนำเข้าโดยใช้สิทธิ์ C/O Form E ไปบ้างแล้วนะครับ ส่วนวันนี้ ผมจะขอพาเจาะลงเข้าไปดูในรายละเอียดบางส่วนกันว่า พวกท่านๆ เขาสุโค่ยกันขนาดไหนนะครับ โดยผมจะนำตัวอย่างที่เป็นมติจากที่ประชุมของพี่ๆ เค้ามาให้ดูกัน ดังนี้ครับ 1. ปัญหาที่เกิดขึ้นใน ช่อง 3 ของ Form E (รูปแบบการขนส่งและเส้นทาง) 1.1 ไม่ได้ระบุชื่อเรือ โดยระบุแค่ By Sea มติโดยนักตะกร้อชายเดี่ยว : ไม่ได้ Grey Comment : ถุย! ชีวิต! ผมอยากจะอุทานเป็นภาษาปาปัวนิวกีนีสัก 3 ประโยคซ้อนครับ ใครเคยเห็น Form E จะรู้ว่าในช่อง 3 ของ Form E จะวงเล็บไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า as far as known ที่แปลเป็นไทยสไตล์นักวิชาการสมองทึบอย่างผมได้ว่า “ใส่เท่าที่รู้” แต่สงกะสัยครับว่า ท่านๆ เค้าคงอยากได้ข้อมูลที่มากกว่านั้น โดยไม่สนซักกะนิดว่า วงเล็บในแบบฟอร์มดังกล่าวนั้น มีไว้ทำไม เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ค่าธรรมเนียมในการออกเอกสาร Form E ที่ฝั่งจีน สำหรับสินค้าควบคุมบางรายการนั้น มีอัตราที่สูงมากๆ ครับ ที่สำคัญ หากไปขอให้ออก Form E หลังวันเรือออก แล้วต้องมีการตีตรา Issue Retroactively รับรองแล้วด้วยนี่ ยิ่งไปกันใหญ่ครับ ค่าบริการจะถูก Charge เข้าไปอีก ผู้ส่งออกชาวจีนส่วนใหญ่ จึงอาศัยช่อง ทางที่แบบฟอร์มเปิดทางไว้ให้ โดยการใส่เงื่อนไขการขนส่งเท่าที่ตนเองรู้ลงไปใน Form E ก่อน คือผมอยากจะ บอกว่า ตอนเค้าเจรจากัน คนเจรจาเค้าคงเห็นว่า การไม่ใส่ชื่อเรือ หรือเที่ยวเรือ คงไม่ได้หมายความว่าสินค้า มันจะผลิตมาจากประเทศอื่นนี่เนอะ อ่านต่อหน้า 2

  12. 1.2 ระบุชื่อเรือ แต่ไม่ตรงกับที่สำแดงในใบขนฯและ B/L มติโดยนักตะกร้อชายเดี่ยว : สามารถผ่อนผันได้ ถ้าผู้นำเข้ายื่นคำร้องชี้แจงเหตุผลอันสมควร Grey Comment: จากข้อ 1.1 ถ้าไม่ใส่ชื่อเรือเลยไม่ได้ พอมาข้อ 1.2 ใส่ชื่อเรือมาแต่ผิด ดันผ่อนผันได้เว้ย! 2. กรณีในช่องที่ 7 ของ Form E (จำนวนหีบห่อ ชนิดของ และพิกัด) มีการระบุชนิดของ 1 รายการ โดยรวมยอดราคาและน้ำหนักไว้ในช่อง 9 แต่สำแดงสินค้าหลายรายการแยกไว้ในใบขนฯหรือ Invoice มติโดยนักตะกร้อชายเดี่ยว : ต้องแยกรายการตาม Invoice เท่านั้น Grey Comment : หากผู้ส่งออกท่านใดเคยขอ C/O กับ DFT มาบ้างจะพอรู้ว่า ก่อนการขอ C/O นั้น ผู้ส่งออกต้องทำการตรวจสอบคุณสมบัติทางด้านแหล่งกำเนิดของสินค้านั้นๆ เสียก่อนครับ โดยสินค้าพิกัดหนึ่ง ก็จะมีหลักเกณฑ์แยกเฉพาะกันไปตามแต่ละพิกัด คิดตามนะครับ หากผมส่งออกแปรงสีฟัน พิกัด XYZ ออกไป โดยคุณสมบัติฯ เป็นไปตามทีพิกัด XYZ กำหนดไว้เป๊ะ แต่ผมมีแปรงที่ส่งออกไปประมาณ 100 เฉดสี แตกต่างกันออกไป โดย L/C ระบุให้ผมแยก Invoice ตามรายการสี เพื่อสะดวกต่อผู้ซื้อในการ Check สินค้า แน่นอนครับว่า Invoice หนาหลายๆ หน้าตามที่ลูกค้าต้องการนั้น ผมยินดีทำให้ครับ เพราะไม่ได้เป็นการเพิ่มต้นทุนอะไรสักเท่าไหร่ แต่เวลาขอ C/O นั้น หากมีหน้าต่อเยอะๆ นั้น จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ผมจำเป็นต้องมาเสียค่าใช้จ่ายโง่ๆ แบบนี้ด้วยหรือครับ ในเมื่อไม่ว่าแปรงสีฟันผม มันจะเป็น สีแดง สีดำ สีส้ม หรือศรีษะเกศ มันก็ไม่ได้ทำให้มันเปลี่ยนแปลงพิกัดไปนี่ครับ มันก็ยังคงอยู่ภายใต้พิกัด XYZ อยู่ดี อ่านต่อหน้า 3

  13. บอกตามตรงครับผมเห็น C/O ในลักษณะแบบรวมรายการนี้ ออกจากประเทศไทยไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีที่หลายๆ ประเทศมาเป็นพันๆ ชุดแล้ว ยังไม่เคยมีชุดไหนที่ถูกต่างประเทศตีกลับมาด้วยเหตุผลข้างต้นเลยสักชุด แต่พอมาเป็นที่ไทย แหะๆ ใช้ไม่ได้ครับ รายการต้องตาม Invoice เท่านั้น ถุย! ชีวิต หลายท่านนะครับ ที่อาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกับงานเขียนผมวันนี้ เพราะเชื่อลึกๆ ว่าศุลกากรคงมีเหตุผลบางประการถึงได้สรุปออกมาเป็นแนวทางอย่างนี้ ผมก็ไม่ได้บอกว่าความเห็นของผมจะถูกนะครับ เพียงแต่ว่า หากท่านๆ ในกรมศุลกากรอยากให้ผู้นำเข้าปฏิบัติตามแนวทางนี้จริง ก็ออกประกาศคำสั่งจากกรมฯ ออกมาให้ชัดเจนสิครับ อย่าสวมบทนักตะกร้อ รับเอง ชงเอง กินเอง อย่างนี้เลยครับ โดย... ชิปปิ้งสีเทา กลับสู่หน้าหลัก

  14. Supply & Demand "สินค้าปีใหม่2554 VS Christmas World 2011" สวัสดีค่ะท่านผู้ประกอบการ เมื่อลอยกระทงผ่านไปแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงเวลาสิ้นปีอย่างเป็นทางการ เป็นที่แน่นอนว่าเป็นเทศกาลแห่งงานรื่นเริงทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการให้ของขวัญกันและกัน ปีนี้ก็เช่นเคยค่ะ กรมส่งเสริมการส่งออกได้จัดงานแสดงสินค้า “เทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2554” ขึ้นที่ อาคาร 1-5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 3 – 12 ธันวาคม 2553 งานนี้มีสินค้าตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ของขวัญ ของชำร่วย ของเล่น/เกม เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงามทุกชนิด สินค้า OTOP รวมถึงแพ็คเกจทัวร์ตามโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ เรียกได้ว่ารวมสินค้าทุกประเภทเลยทีเดียว อ่านต่อหน้า 2

  15. ผู้ประกอบการที่กำลังหาซื้อของขวัญสำหรับงานเทศกาล หรือต้องการหาไอเดียสินค้าเพื่อติดต่อซื้อขายส่งออกสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศ งานนี้พลาดไม่ได้นะคะ แต่หากอยากไปดูงานเก๋ๆระดับโลก ดิฉันของแนะนำที่งาน Christmas World 2011 ค่ะ งานนี้จัดขึ้นที่ Messe Fair Ground เมือง Frankfurt ประเทศ Germany ช่วงวันที่ 28 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2554 ค่ะ ซึ่งประเทศเยอรมนีขึ้นชื่อในเรื่องสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสเป็นอย่างมาก โดยในงานนี้จะมีสินค้าสำหรับตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมาจัดแสดงและจัดจำหน่ายจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียวค่ะ กลับสู่หน้าหลัก เพนกวิ้นตัวกลม

  16. All about Logistics โลจิสติกส์ (Logistics) อาวุธลับอันทรงพลังในการแข่งขัน ตอนที่ 1 ถ้าพิจารณาถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ จะพบว่าเป็นปีที่ต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก ในการดำเนินธุรกิจและวางกลยุทธ์ทางการแข่งขัน เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกส่งผลกระทบอย่างรุนแรงหลายประการ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยหลักทำให้สินค้าต้องปรับราคาสูงขึ้น หลายบริษัทพยายามแก้ไขปัญหาด้วยการปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์ และบริการให้มีความหลากหลายเพื่อช่วยลดต้นทุน นับตั้งแต่การลดปริมาณสินค้าแต่ราคาเท่าเดิม ขายเป็นแพ็กคู่ เพิ่มราคาเพิ่มปริมาณ การจ้างผู้อื่นผลิตแทน (Outsource) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถลดต้นทุนในระยะยาวให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่มักจะประสบกับปัญหาการรวบรวมวัตถุดิบจากแหล่งผลิต และกระจายสินค้า ความล่าช้าในการขนส่ง คุณภาพสินค้าลดลงเมื่อถึงมือผู้ซื้อที่ปลายทาง ความพึงพอใจของผู้บริโภคอยู่ในระดับที่ต่ำลง เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการทั้งหลายจึงแสวงหาเครื่องมือในการบริหารจัดการต่างๆ มาใช้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันของธุรกิจ และก็พบว่าเครื่องมือในการบริหารจัดการในปี 2005 ที่กำลังเป็นที่สนใจของธุรกิจทั้งหลาย ได้แก่ การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management : SCM) และการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) ซึ่งความหมายของ 2 คำนี้ มีความคล้ายคลึงกันมาก อ่านต่อหน้า 2

  17. โลจิสติกส์ หมายถึง กระบวนการวางแผนการดำเนินการเพื่อควบคุมประสิทธิภาพการไหลเวียนสินค้า/บริการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การจัดการคลังสินค้า บริหารต้นทุน การขนส่ง ห่วงโซ่แห่งคุณค่า ไปจนถึงจุดที่มีการใช้งานหรือถึงมือผู้บริโภค ส่วนการจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management) หมายถึง การจัดการในส่วนของกระบวนการที่เกิดขึ้น ระหว่างผู้ผลิต (ผู้ให้บริการ) กับผู้ขายปัจจัยผลิต (ซัพพลายเออร์) เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต อันนำไปสู่การเพิ่มผลกำไรของกิจการได้ในที่สุด โดยกระบวนการนี้จะเริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ (Procurement) การผลิต(Manufacturing) การจัดเก็บ (Storage) เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) การจัดจำหน่าย (Distribution) ตลอดจนการขนส่ง (Transportation) ซึ่งมีผลสำคัญต่อการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยสรุปแล้วกล่าวได้ว่า โลจิสติกส์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการจัดการซัพพลายเชน ที่จะช่วยในการวางแผน สนับสนุน การควบคุมการไหลของกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งการเก็บรักษาสินค้าจากจุดเริ่มต้น ไปสู่จุดสุดท้าย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ กลับสู่หน้าหลัก โดย สิทธิชัย ฝรั่งทองมติชนรายวัน วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9924

  18. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan ສາທາລະນະລັດປະຊາທິປະໄຕປະຊາຊົນລາວ สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยทุกสัปดาห์กับ เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan สัปดาห์นี้จะพาไปเที่ยวประเทศลาวครับ ท่านผู้อ่านคิดเหมือนผมมั๊ยครับว่าประเทศลาว เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักที่สุด เป็นบ้านพี่เมืองน้องของประเทศไทยเรามาช้านาน เป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง และรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้แต่วัยรุ่นลาวเอง ก็ยังนุ่งซิ่นกันโดยไม่คิดว่าล้าสมัย ประเทศลาว หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อักษรย่อ:ສປປ.ລາວ;อังกฤษ: Lao People's Democratic Republic) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเล นั่นหมายความว่า ถ้าจะส่งสินค้าไปประเทศลาว จะต้องส่งทางรถบรรทุกอย่างเดียว จะส่งออกทางเรือไม่ได้ ประเทศลาวมีพรมแดนติดจีนและพม่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดต่อกับเวียดนามทางทิศตะวันออก ติดต่อกับกัมพูชาทางทิศใต้ และติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก อ่านต่อหน้า 2

  19. ภาวะเศรษฐกิจของ สปป.ลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับ โดยในช่วง 20 ปีนับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาดเมื่อปี 2529 สปป.ลาวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2529 เป็น 491 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 10 ต่อปี โดยอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าเป็นสาขาหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ อย่างไรก็ดี ลาวยังคงประสบปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ที่สำคัญได้แก่ ปัญหาราคาน้ำมัน ที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาการขาดดุลการค้าในอัตราสูง ค่าเงินกีบไม่มีเสถียรภาพ การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง ทรัพยากรสำคัญของลาว ได้แก่ ไม้ ดีบุก ยิบซั่ม ตะกั่ว หินเกลือ เหล็ก ถ่านหินลิกไนต์ สังกะสี ทองคำ อัญมณี หินอ่อน น้ำมัน และแหล่งน้ำผลิตไฟฟ้า สินค้าส่งออกที่สำคัญของลาว ได้แก่เสื้อผ้าสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ไม้ สินแร่ เศษโลหะ ถ่านหิน หนังดิบ และหนังฟอก ข้าวโพด ใบยาสูบ กาแฟ โดยส่งออกไปยังประเทศไทยเวียดนามฝรั่งเศสญี่ปุ่นเยอรมนีสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกาเนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ส่วนการนำเข้าสินค้า ประเทศลาวได้นำเข้าสินค้าจากไทย จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี โดยสินค้าที่สำคัญได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่อง จักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน อาหาร ผ้าผืน สารเคมี และเครื่อง อุปโภคบริโภค อ่านต่อหน้า 3

  20. วัฒนธรรมของลาวมีความคล้ายคลึงกับคนภาคอีสานของไทยเป็นอย่างมาก ยังมีคำกล่าวที่ว่า “ มีลาวอยู่แห่งใด มีมัดหมี่ แลลายจกอยู่ที่นั้น ” ในด้านดนตรี ลาวมีแคนเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติ มีหมอขับ หมอลำ ลาวมีประเพณีทางพระพุทธศาสนาและอื่นๆ เช่น วันมาฆบูชา วันสงกรานต์ วันออกพรรษา บุญเข้าประดับดิน บุญเข้าฉลาก บุญส่วงเฮือ (แข่งเรือ) บุญธาตุหลวงเวียงจันทน์ ในเดือน 12 เป็นต้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบของลาว อยู่ระหว่าง 240-270 กีบ ต่อ 1 บาท การใช้จ่ายแม้จะใช้เงินบาทในการแลกได้ แต่ในลาวจากปีที่ผ่านมา มีการรณรงค์ให้ใช้เงินกีบในประเทศเราในฐานะ คนท่องเที่ยว คนที่จะไปท่องเที่ยวการแลกเงินกีบ ก็เป็นการเข้าใจวัฒนธรรม ถ้าท่านเดินทางท่องเที่ยวเอง ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ถ้าเดินทางไปถึงหลวงพระบาง หรือวังเวียงแลกเงิน กีบไว้ขั้นต่ำ 3000-4000 บาท ต่อคน ถ้าเป็นการท่องเที่ยว แบบทัวร์ ผมแนะนำให้ลุกทริป แลกได้ท่านละ 200-500 บาท การแลกเงินกีบ สะดวกที่สุดคือ ที่ด่านประเทศลาว อยู่ก่อนช่องทางเข้าเมืองของด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศลาว ส่วนอีกที่ คือ ด้านนอก มีตู้รับแลกเปลี่ยนของธนาคารอยู่ อัตราเดียวกัน ในจุดนี้ ส่วนในเมือง มีร้านรับแลกในถนนล้านช้าง มีร้านรับแลกเปลียนหลายร้าน ตอนแลกเปลี่ยนดูร้าน ที่มีเครื่องนับเงิน และควรตรวจสอบเงินในปึกว่าเป็นแบงค์ประเภทเดียวกันราคาเดียวกัน ตรวจสอบเงินที่แลกได้ ให้แน่นอน ก่อนออกจากร้าน เพราะมีความผิดพลาดบ่อยครั้ง กลับสู่หน้าหลัก Peter Chan

  21. S.N.P. Philosophy ความสุขอยู่หนใด " ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง "คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นแต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้นแต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้งและเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้ คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้นแต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อนบางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆและเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุดแต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที อ่านต่อหน้า 2

  22. ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน ? แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคตเราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบันชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญแต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กันดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน แล้วถึงจะมีความสุขได้เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่าถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุขถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุขถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุขถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุขถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตตอบคำถาม ต่อไปนี้1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์ อ่านต่อหน้า 3

  23. นึกไม่ออกใช่ไหม ? ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมดคนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลารางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า ตอบคำถาม ต่อไปนี้1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วยนึกออกง่ายกว่าใช่ไหม ? นั่นเป็นเพราะว่าคนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคนที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณและเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ... ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน อ่านต่อหน้า 4

  24. Thank You ! พบกันใหม่ฉบับหน้า Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com กลับสู่หน้าหลัก

More Related