1 / 48

ตลาดน้ำมันโลก : การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1

ตลาดน้ำมันโลก : การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1. เอกสารอ้างอิง. Peirce, W.S., Economics of the Energy Industries . บทที่ 9 Dahl, C. International Energy Markets: Understanding Pricing, Policies and Profits . บทที่ 6. เอกสารอ้างอิง.

Download Presentation

ตลาดน้ำมันโลก : การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ตลาดน้ำมันโลก: การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1

  2. เอกสารอ้างอิง • Peirce, W.S., Economics of the Energy Industries. บทที่ 9 • Dahl, C. International Energy Markets: Understanding Pricing, Policies and Profits. บทที่ 6

  3. เอกสารอ้างอิง • Pindyck R.S. and Rubinfeld D.L. Microeconomics, Fifth Edition. บทที่ 2, 10 และ 12 (Cartels) 3

  4. เค้าโครงการบรรยาย พัฒนาการอุตสาหกรรมน้ำมันโลก OPEC กับวิกฤตการณ์น้ำมันโลก วิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับอิทธิพลและบทบาทของ OPEC 4

  5. พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • หลุมน้ำมันแรกของโลก (1859 ในสหรัฐฯ โดย Edwin Drake ทำน้ำมันจุดตะเกียง) • พบและผลิตน้ำมันมากขึ้นในสหรัฐฯ และส่วนอื่นของโลก (มากในตะวันออกกลาง) เพื่อใช้ในรถยนต์ • ในสหรัฐฯ ผูกขาดโดย Standard Oil (SO) ของ John D. Rockefeller

  6. พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • ราคาผันผวนในช่วงแรก และมีแนวโน้มลดต่ำจนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง • ก่อน OPEC บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ 7 แห่ง มีอิทธิพลต่อกิจการน้ำมันโลก (Seven sisters: Exxon, Gulf, Mobil, Standard Oil of California, Texaco, British Petroleum และ Shell) ทั้งสำรวจ ผลิต กลั่น และขาย

  7. พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • สหรัฐฯ เปลี่ยนจาก net oil exporter เป็น net oil importer หลัง WW2 เพราะใช้น้ำมันมากขึ้น • ราคาน้ำมันยังตกต่ำ ทำให้รัฐบาลของประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่เรียกร้องเพิ่มส่วนแบ่งจากบริษัทน้ำมัน • Venezuela, Saudi Arabia, Iran, Iraq, Kuwait ร่วมกันจัดตั้ง OPEC ในปี 1960 และต่อมาเพิ่มเป็น 13 ประเทศ

  8. OPEC • Organization of Petroleum Exporting Countries มี 13 ประเทศสมาชิก ได้แก่ Algeria, Angola, Indonesia*, Iran, Iraq, Kuwait, Libya, Nigeria, Qatar, Saudi Arabia, United Arab Emirates, Venezuela และ Ecuador * เลิกเป็นสมาชิกเพราะไม่เหลือให้ส่งออกแล้ว

  9. OPEC • องค์กรผูกขาดขาย (cartel) วัตถุประสงค์เพื่อพยุงราคาน้ำมัน • เมื่อรวมกัน มีอำนาจผูกขาด โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 30%- 55% ของโลก มีปริมาณการส่งออกกว่า 50% ของทั้งหมด และมีกว่า 70% ของปริมาณสำรองทั้งหมดของโลก (ซาอุฯ มีมากที่สุด)

  10. Crude Oil

  11. Crude Oil

  12. Production Share of OPEC

  13. วิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 1 • ราคาน้ำมันโลกเริ่มแพงขึ้นมากในปี 1973 เมื่อกลุ่มประเทศอาหรับใน OPEC ลดการส่งออกน้ำมันเพื่อประท้วงประเทศตะวันตกที่เข้าข้างอิสราเอลในสงครามตะวันออกกลาง ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งจาก $3 ต่อบาเรล เป็น $12 ต่อบาเรล • OPEC ตระหนักถึงอำนาจเหนือตลาดของตน

  14. วิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 2 • ในปี 1979 การปฏิวัติในอิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มเป็น $35 ต่อบาเรล และสงครามอิรัค-อิหร่าน ปี 1981 ดันราคาสูงขึ้นไปอีก

  15. ภายหลังวิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 2 • ต่อมาสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง + การใช้อำนาจผูกขาดของ OPEC ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น สงครามอ่าว และสงครามสหรัฐฯ บุกอิรัค ( ทำให้เกิดความผันผวนด้านการผลิต หรือ supply disruptions)

  16. EC478 Slide Set 1

  17. บทบาทของ OPEC ลดลงใน 1985- 2002 • ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 OPEC มีผลต่อราคาน้ำมันน้อยลง เพราะ • เศรษฐกิจโลกหันไปใช้พลังงานอื่นๆ มากขึ้น เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ • มีแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่น เช่น รัสเซีย เม็กซิโก และทะเลเหนือ • ทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวมาโดยตลอดช่วง 1985-2002

  18. อุปสงค์ที่ผู้ผูกขาดเผชิญ ก็คือ อุปสงค์ตลาด ทบทวนแนวคิดการผูกขาด (monopoly) เนื่องจากในตลาดผูกขาดมีหน่วยผลิตเพียงรายเดียว ดังนั้น อุปสงค์ที่มีต่อสินค้าและบริการของตลาดเป็นเช่นไร อุปสงค์ผู้ผูกขาดเผชิญย่อมเป็นเช่นนั้นด้วย

  19. ทบทวนแนวคิดการผูกขาด (monopoly) ตัวอย่างเช่น ถ้าฟังก์ชั่นของอุปสงค์ตลาด คือ Q = 1600 – 100P อุปสงค์ที่ผู้ผูกขาดเผชิญย่อมมีฟังก์ชั่น เป็นแบบเดียวกับอุปสงค์ของตลาดนี้ด้วย

  20. เส้นอุปสงค์และรายรับที่ผู้ผูกขาดเผชิญเส้นอุปสงค์และรายรับที่ผู้ผูกขาดเผชิญ ราคา (บาท/กิโลกรัม) Q = 1600 - 100P 16 14 12 10 8 6 4 2 D MR ปริมาณ(Q) (พันกิโลกรัม/วัน) 0 200 1,200 1,600 400 600 800

  21. กำไร ระดับผลผลิตที่ทำให้มีกำไรสูงสุด รายรับ, ต้นทุน (บาท) TC A TR C B Q* Q 0 Q0

  22. TR TC = Q Q MR=MC เงื่อนไขจำเป็นของการมีกำไรสูงสุด ที่ระดับผลผลิตที่ทำให้มีกำไร (TR - TC) สูงสุด หรือที่ระดับ Q*จะได้ว่า ความชันของเส้น TR = ความชันของเส้น TC

  23. dTR dTC dQ dQ dMR dMR dMC dMC dQ dQ dQ dQ MR = MC Slope ของ MC > Slope ของ MR เงื่อนไขของการมีกำไรสูงสุด (เชิงคณิตศาสตร์) - TR(Q) TC(Q) = • Second -Order Condition คือ • First-Order Condition คือ < 0 = 0 - = - < นั่นคือ 0 - = MR MC = 0 < หรือ

  24. MR =MC Slope ของMC> Slope ของMR เงื่อนไขที่ทำให้หน่วยผลิตผูกขาดมีกำไรสูงสุด ก็คือ หน่วยผลิตจะต้องผลิตและขายสินค้า จนถึงระดับปริมาณผลผลิตที่ทำให้ และ

  25. ดุลยภาพของตลาดผูกขาด(Monopoly Equilibrium) ราคา (บาท/กิโลกรัม) 16 Q* = 500 P* = $11 14 MC 12 A C 11 ATC 10 8 B F 6 E 4 2 D MR ปริมาณ(Q) (พันกิโลกรัม/วัน) 0 200 1,200 1,600 500 400 800

  26. การหาดุลยภาพของหน่วยผลิตการหาดุลยภาพของหน่วยผลิต dTR MR = = 16 – 0.02Q dQ dC MC = = 6 dQ (ในเชิงคณิตศาสตร์) • กำหนดให้ฟังก์ชันอุปสงค์และต้นทุนการผลิตที่ผู้ผูกขาดเผชิญเป็นดังนี้ อุปสงค์ : P = 16 - 0.01 Q ------------- (1) ต้นทุน : C = 1,000 + 6Q------------- (2) จาก (1) หา TR เอา Q คูณตลอด TR = P x Q = 16Q – 0.01Q2 จาก (2) หา MC ให้MR = MC 16 - 0.02Q = 6 Q = 500

  27. แทนค่า Q ใน (1) P = 16 - 5 = 11 ราคา = 11 บาท/หน่วย หากำไร = 5,500- 4,000 = 1,500 กำไรรวม = 1,500 บาท

  28. การตั้งราคาของผู้ผูกขาดการตั้งราคาของผู้ผูกขาด : กรณีไม่ทราบ AR, MR d(P x Q) dTR dQ dQ P dQ . Q dP dQ dQ P x Q dP P dQ P(1 + 1 ) EP P(1 + 1 ) EP MC 1 1 + ( ) EP (Rule of Thumb for pricing) : Markup Pricing = = MR = + = P + = MR = P = MC =

  29. การวัดอำนาจในการผูกขาดการวัดอำนาจในการผูกขาด (P- MC) P 1 - EP (Measuring Monopoly Power) ดัชนีที่ใช้วัดอำนาจการผูกขาด เรียกว่า Lerner’s Degree of Monopoly Power หรือLerner Index L = หรือ = ความยืดหยุ่นยิ่งต่ำ อำนาจการผูกขาดยิ่งสูง

  30. 1 P (1 + ) EP 1 P (1 + ) . EP . . P + P EP P - EP 1 P - MC - EP P พิสูจน์ MR = ที่กำไรสูง MR =MC = MC = P -MC = =

  31. Elasticity of Demand and Price Markup กรณีความยืดหยุ่นต่ำ กรณีความยืดหยุ่นสูง MC MC P P P -MC P -MC D = AR D = AR MC MC MR MR 0 0 QA Q QB Q

  32. อำนาจผูกขาดของ OPEC • อำนาจผูกขาดของ OPEC ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีผลต่อความยืดหยุ่นของ demand and supply สำหรับน้ำมัน

  33. อำนาจผูกขาดของ OPEC DO คือ demand สำหรับน้ำมันจาก OPEC DMคือ demand ทั้งหมดสำหรับน้ำมัน SNคือ supply ของน้ำมันจาก non OPEC

  34. อำนาจผูกขาดของ OPEC

  35. อำนาจผูกขาดของ OPEC หารด้วย dP/P

  36. อำนาจผูกขาดของ OPEC คูณด้วย -1 เพื่อให้มีค่าบวก

  37. อำนาจผูกขาดของ OPEC

  38. อำนาจผูกขาดของ OPEC eMD(ความยืดหยุ่นของ demand ที่มีต่อน้ำมัน) ที่มีค่าต่ำลง ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลงด้วย และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น

  39. อำนาจผูกขาดของ OPEC eNS(ความยืดหยุ่นของ supply จาก non-OPEC) ที่มีค่าต่ำลง ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลงด้วย และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น

  40. อำนาจผูกขาดของ OPEC OPEC Share ที่สูงขึ้น ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลง และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น

More Related