490 likes | 762 Views
ตลาดน้ำมันโลก : การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1. เอกสารอ้างอิง. Peirce, W.S., Economics of the Energy Industries . บทที่ 9 Dahl, C. International Energy Markets: Understanding Pricing, Policies and Profits . บทที่ 6. เอกสารอ้างอิง.
E N D
ตลาดน้ำมันโลก: การวิเคราะห์บทบาทของ OPEC ตอนที่ 1
เอกสารอ้างอิง • Peirce, W.S., Economics of the Energy Industries. บทที่ 9 • Dahl, C. International Energy Markets: Understanding Pricing, Policies and Profits. บทที่ 6
เอกสารอ้างอิง • Pindyck R.S. and Rubinfeld D.L. Microeconomics, Fifth Edition. บทที่ 2, 10 และ 12 (Cartels) 3
เค้าโครงการบรรยาย พัฒนาการอุตสาหกรรมน้ำมันโลก OPEC กับวิกฤตการณ์น้ำมันโลก วิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับอิทธิพลและบทบาทของ OPEC 4
พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • หลุมน้ำมันแรกของโลก (1859 ในสหรัฐฯ โดย Edwin Drake ทำน้ำมันจุดตะเกียง) • พบและผลิตน้ำมันมากขึ้นในสหรัฐฯ และส่วนอื่นของโลก (มากในตะวันออกกลาง) เพื่อใช้ในรถยนต์ • ในสหรัฐฯ ผูกขาดโดย Standard Oil (SO) ของ John D. Rockefeller
พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • ราคาผันผวนในช่วงแรก และมีแนวโน้มลดต่ำจนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง • ก่อน OPEC บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ 7 แห่ง มีอิทธิพลต่อกิจการน้ำมันโลก (Seven sisters: Exxon, Gulf, Mobil, Standard Oil of California, Texaco, British Petroleum และ Shell) ทั้งสำรวจ ผลิต กลั่น และขาย
พัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกพัฒนาการของอุตสาหกรรมน้ำมันโลก • สหรัฐฯ เปลี่ยนจาก net oil exporter เป็น net oil importer หลัง WW2 เพราะใช้น้ำมันมากขึ้น • ราคาน้ำมันยังตกต่ำ ทำให้รัฐบาลของประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่เรียกร้องเพิ่มส่วนแบ่งจากบริษัทน้ำมัน • Venezuela, Saudi Arabia, Iran, Iraq, Kuwait ร่วมกันจัดตั้ง OPEC ในปี 1960 และต่อมาเพิ่มเป็น 13 ประเทศ
OPEC • Organization of Petroleum Exporting Countries มี 13 ประเทศสมาชิก ได้แก่ Algeria, Angola, Indonesia*, Iran, Iraq, Kuwait, Libya, Nigeria, Qatar, Saudi Arabia, United Arab Emirates, Venezuela และ Ecuador * เลิกเป็นสมาชิกเพราะไม่เหลือให้ส่งออกแล้ว
OPEC • องค์กรผูกขาดขาย (cartel) วัตถุประสงค์เพื่อพยุงราคาน้ำมัน • เมื่อรวมกัน มีอำนาจผูกขาด โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 30%- 55% ของโลก มีปริมาณการส่งออกกว่า 50% ของทั้งหมด และมีกว่า 70% ของปริมาณสำรองทั้งหมดของโลก (ซาอุฯ มีมากที่สุด)
วิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 1 • ราคาน้ำมันโลกเริ่มแพงขึ้นมากในปี 1973 เมื่อกลุ่มประเทศอาหรับใน OPEC ลดการส่งออกน้ำมันเพื่อประท้วงประเทศตะวันตกที่เข้าข้างอิสราเอลในสงครามตะวันออกกลาง ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งจาก $3 ต่อบาเรล เป็น $12 ต่อบาเรล • OPEC ตระหนักถึงอำนาจเหนือตลาดของตน
วิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 2 • ในปี 1979 การปฏิวัติในอิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มเป็น $35 ต่อบาเรล และสงครามอิรัค-อิหร่าน ปี 1981 ดันราคาสูงขึ้นไปอีก
ภายหลังวิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 2 • ต่อมาสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง + การใช้อำนาจผูกขาดของ OPEC ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น สงครามอ่าว และสงครามสหรัฐฯ บุกอิรัค ( ทำให้เกิดความผันผวนด้านการผลิต หรือ supply disruptions)
บทบาทของ OPEC ลดลงใน 1985- 2002 • ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 OPEC มีผลต่อราคาน้ำมันน้อยลง เพราะ • เศรษฐกิจโลกหันไปใช้พลังงานอื่นๆ มากขึ้น เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ • มีแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่น เช่น รัสเซีย เม็กซิโก และทะเลเหนือ • ทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวมาโดยตลอดช่วง 1985-2002
อุปสงค์ที่ผู้ผูกขาดเผชิญ ก็คือ อุปสงค์ตลาด ทบทวนแนวคิดการผูกขาด (monopoly) เนื่องจากในตลาดผูกขาดมีหน่วยผลิตเพียงรายเดียว ดังนั้น อุปสงค์ที่มีต่อสินค้าและบริการของตลาดเป็นเช่นไร อุปสงค์ผู้ผูกขาดเผชิญย่อมเป็นเช่นนั้นด้วย
ทบทวนแนวคิดการผูกขาด (monopoly) ตัวอย่างเช่น ถ้าฟังก์ชั่นของอุปสงค์ตลาด คือ Q = 1600 – 100P อุปสงค์ที่ผู้ผูกขาดเผชิญย่อมมีฟังก์ชั่น เป็นแบบเดียวกับอุปสงค์ของตลาดนี้ด้วย
เส้นอุปสงค์และรายรับที่ผู้ผูกขาดเผชิญเส้นอุปสงค์และรายรับที่ผู้ผูกขาดเผชิญ ราคา (บาท/กิโลกรัม) Q = 1600 - 100P 16 14 12 10 8 6 4 2 D MR ปริมาณ(Q) (พันกิโลกรัม/วัน) 0 200 1,200 1,600 400 600 800
กำไร ระดับผลผลิตที่ทำให้มีกำไรสูงสุด รายรับ, ต้นทุน (บาท) TC A TR C B Q* Q 0 Q0
TR TC = Q Q MR=MC เงื่อนไขจำเป็นของการมีกำไรสูงสุด ที่ระดับผลผลิตที่ทำให้มีกำไร (TR - TC) สูงสุด หรือที่ระดับ Q*จะได้ว่า ความชันของเส้น TR = ความชันของเส้น TC
dTR dTC dQ dQ dMR dMR dMC dMC dQ dQ dQ dQ MR = MC Slope ของ MC > Slope ของ MR เงื่อนไขของการมีกำไรสูงสุด (เชิงคณิตศาสตร์) - TR(Q) TC(Q) = • Second -Order Condition คือ • First-Order Condition คือ < 0 = 0 - = - < นั่นคือ 0 - = MR MC = 0 < หรือ
MR =MC Slope ของMC> Slope ของMR เงื่อนไขที่ทำให้หน่วยผลิตผูกขาดมีกำไรสูงสุด ก็คือ หน่วยผลิตจะต้องผลิตและขายสินค้า จนถึงระดับปริมาณผลผลิตที่ทำให้ และ
ดุลยภาพของตลาดผูกขาด(Monopoly Equilibrium) ราคา (บาท/กิโลกรัม) 16 Q* = 500 P* = $11 14 MC 12 A C 11 ATC 10 8 B F 6 E 4 2 D MR ปริมาณ(Q) (พันกิโลกรัม/วัน) 0 200 1,200 1,600 500 400 800
การหาดุลยภาพของหน่วยผลิตการหาดุลยภาพของหน่วยผลิต dTR MR = = 16 – 0.02Q dQ dC MC = = 6 dQ (ในเชิงคณิตศาสตร์) • กำหนดให้ฟังก์ชันอุปสงค์และต้นทุนการผลิตที่ผู้ผูกขาดเผชิญเป็นดังนี้ อุปสงค์ : P = 16 - 0.01 Q ------------- (1) ต้นทุน : C = 1,000 + 6Q------------- (2) จาก (1) หา TR เอา Q คูณตลอด TR = P x Q = 16Q – 0.01Q2 จาก (2) หา MC ให้MR = MC 16 - 0.02Q = 6 Q = 500
แทนค่า Q ใน (1) P = 16 - 5 = 11 ราคา = 11 บาท/หน่วย หากำไร = 5,500- 4,000 = 1,500 กำไรรวม = 1,500 บาท
การตั้งราคาของผู้ผูกขาดการตั้งราคาของผู้ผูกขาด : กรณีไม่ทราบ AR, MR d(P x Q) dTR dQ dQ P dQ . Q dP dQ dQ P x Q dP P dQ P(1 + 1 ) EP P(1 + 1 ) EP MC 1 1 + ( ) EP (Rule of Thumb for pricing) : Markup Pricing = = MR = + = P + = MR = P = MC =
การวัดอำนาจในการผูกขาดการวัดอำนาจในการผูกขาด (P- MC) P 1 - EP (Measuring Monopoly Power) ดัชนีที่ใช้วัดอำนาจการผูกขาด เรียกว่า Lerner’s Degree of Monopoly Power หรือLerner Index L = หรือ = ความยืดหยุ่นยิ่งต่ำ อำนาจการผูกขาดยิ่งสูง
1 P (1 + ) EP 1 P (1 + ) . EP . . P + P EP P - EP 1 P - MC - EP P พิสูจน์ MR = ที่กำไรสูง MR =MC = MC = P -MC = =
Elasticity of Demand and Price Markup กรณีความยืดหยุ่นต่ำ กรณีความยืดหยุ่นสูง MC MC P P P -MC P -MC D = AR D = AR MC MC MR MR 0 0 QA Q QB Q
อำนาจผูกขาดของ OPEC • อำนาจผูกขาดของ OPEC ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีผลต่อความยืดหยุ่นของ demand and supply สำหรับน้ำมัน
อำนาจผูกขาดของ OPEC DO คือ demand สำหรับน้ำมันจาก OPEC DMคือ demand ทั้งหมดสำหรับน้ำมัน SNคือ supply ของน้ำมันจาก non OPEC
อำนาจผูกขาดของ OPEC หารด้วย dP/P
อำนาจผูกขาดของ OPEC คูณด้วย -1 เพื่อให้มีค่าบวก
อำนาจผูกขาดของ OPEC eMD(ความยืดหยุ่นของ demand ที่มีต่อน้ำมัน) ที่มีค่าต่ำลง ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลงด้วย และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น
อำนาจผูกขาดของ OPEC eNS(ความยืดหยุ่นของ supply จาก non-OPEC) ที่มีค่าต่ำลง ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลงด้วย และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น
อำนาจผูกขาดของ OPEC OPEC Share ที่สูงขึ้น ทำให้ demand สำหรับ น้ำมันจาก OPEC มีความยืดหยุ่นต่ำลง และอำนาจผูกขาดของ OPEC สูงขึ้น