760 likes | 906 Views
ITEC4610 Network Switching and Routing. ดร. ประวิทย์ ชุมชู หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร (ICE) MUT Email: prawit@mut.ac.th ห้องทำงาน : F402 เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน : (02)9883655 ต่อ 220 เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ : 065343850.
E N D
ITEC4610Network Switching and Routing ดร. ประวิทย์ ชุมชู หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร(ICE) MUT Email: prawit@mut.ac.th ห้องทำงาน: F402 เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน: (02)9883655 ต่อ 220 เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่: 065343850
Class IIการจัดการหมายเลขสำหรับการค้นหาเส้นทางและการสลับช่องสัญญาณ ดร. ประวิทย์ ชุมชู หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร(ICE) MUT Email: prawit@mut.ac.th ห้องทำงาน: F402 เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน: (02)9883655 ต่อ 220 เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่: 065343850
หัวข้อในการบรรยาย • ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • กล่าวนำการจัดการหมายเลข IP • การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท (Classful IP Addressing) • การแบ่งเครือข่ายย่อย(Subnetting) • การรวมเครือข่าย(Supernetting) • การจัดการหมายเลข IP แบบไม่แยกประเภท (Classless IP Addressing) • CIDR • Private address and Network Address Translation • DSN (Domain Name System)
ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • Hardware Address (Physical address) เช่น MAC address (ใช้ที่ Layer 2 (Data Link Layer)) • 00-11-2F-47-F3-CD • Logical Address เช่น IP Address(ใช้ที่ Layer 3 (Network Layer)) • 192.168.1.2 • Port Number(ใช้ที่ Layer 4 (Transport Layer)) • 0-65535
Physical Address เช่น MAC address • ใช้ในการสื่อสารระหว่างระดับชั้นที่ 2 ของอุปกรณ์เครือข่ายในเครือข่ายใด • ใช้นำส่งเฟรมภายในเครือข่ายใด ๆ • แบ่งเป็น • Unicast Address • Multicast Address • Broadcast Address
ประเภทของ MAC address (Ethernet) • Unicast Addresses • 00-11-2F-47-F3-CD • Multicast Addresses • Broadcast Addresses • FF-FF-FF-FF-FF-FF
ตัวอย่างการหมายเลขกายภาพ (Unicasting)
ตัวอย่างการหมายเลขกายภาพ (Unicasting)
ตัวอย่างการใช้หมายเลขกายภาพตัวอย่างการใช้หมายเลขกายภาพ -นำส่ง 1 แพ็คเก็ต จาก A ไป C
ตัวอย่างการหมายเลขกายภาพ (Multicastting)
ตัวอย่างการหมายเลขกายภาพ (Broadcasting)
Logical Address เช่น IP Address • ใช้ในการสื่อสารระหว่างระดับชั้นที่ 3 ของอุปกรณ์เครือข่าย • ใช้ในการนำส่งแพ็คเก็ตจากต้นทางไปยังปลายทาง • ต้นทางและปลายทางอาจจะอยู่คนละเครือข่ายหรือเครือข่ายเดียวกันก็ได้ • แบ่งเป็น • Unicast Address • Multicast Address • Broadcast Address
ตัวอย่างการใช้งาน IP address -ไม่เปลี่ยนแปลง เลขหมาย IP ของต้นทางและปลายทาง ในตัวอย่างนี้ไม่มี Network Address Translation (NAT)
หมายเลขพอร์ต (Port Address) • แยกตามประเภทของ Transport Protocol เช่น • UDP, TCP, STCP • ใช้ในการนำส่งเซ็กเม้นภายในอุปกรณ์เครือข่ายใด • Network layer---->Transport Layer • แต่ละโปรโตคอลมีหมายเลขระหว่าง 0-65535 (16 บิต) • การกำหนดหมายเลขพอร์ตที่ใช้กันแพร่หลาย เช่น Well-known UDP port
หมายเลขพอร์ต (Port Address) Well-known TCP port
ตัวอย่างการใช้งานหมายเลขพอร์ตตัวอย่างการใช้งานหมายเลขพอร์ต
หัวข้อในการบรรยาย • ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • กล่าวนำการจัดการหมายเลข IP • การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท( Classful IP Addressing) • การแบ่งเครือข่ายย่อย(Subnetting) • การรวมเครือข่าย(Supernetting) • การจัดการหมายเลข IP แบบไม่แยกประเภท (Classless IP Addressing) • CIDR • Private address and Network Address Translation • DSN (Domain Name System)
ทำไมต้อง มี IPAddress • ใช้เป็นหมายเลขแทนโฮสต์ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต - 1 IP address สามารถแทนได้โฮสต์เดียวเท่านั้น • ใช้ในหาเส้นทางในการนำส่งแพ็คเก็ตระหว่างเครือข่ายหรือภายในเครือข่าย
รุ่นของ IP addresses • IP version 4 • 32 บิต • เช่น 203.1148.152.9 • IP version 6 (IPng) • 64 บิต
พื้นฐานเกี่ยวกับหมายเลข IP • ใช้เป็นหมายเลขในการนำส่งแพ็คเก็ตจากต้นทางไปยังปลายทางในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต • หมายเลข IP สาธารณะ 1 หมายเลขไม่สามารถใช้กับโฮสต์มากกว่า 1 โฮสต์ในเวลาเดียวกัน • หมายเลข IP สามารถกำหนดให้กับโอสต์ใดแบบถาวรหรือแบบชั่วคราว • IPv4 ใช้ 32 บิต(4 octets) ซึ่งมีได้ทั้งหมด 2^32 หมายเลข = 4,294,967,296 หมายเลข
การแสดงหมายเลข IP • Binary (ฐาน 2 ) --- >11001011 10010100 10011000 1000011 • Dotted Decimal(ฐาน 10 ) --- >203.148.152.103 • Hexadecimal(ฐาน 16 ) --- >0xCB489867
การจัดการกับหมายเลข IP ที่มีจำกัด • Classful Addressing • Subnetting& Supernetting • Classless Adddressing
หัวข้อในการบรรยาย • ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • กล่าวนำการจัดการหมายเลข IP • การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท( Classful IP Addressing) • การแบ่งเครือข่ายย่อย(Subnetting) • การรวมเครือข่าย(Supernetting) • การจัดการหมายเลข IP แบบไม่แยกประเภท (Classless IP Addressing) • CIDR • Private address and Network Address Translation • DSN (Domain Name System)
การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท(Classful IP Addressing)
Netid (ส่วนที่ใช้ในการกำหนดหมายเลขเครือข่าย) และ Hostid (ส่วนที่ใช้ในการกำหนดหมายเลขโฮสต์)
ข้อมูลที่จำต้องใช้ในการหาหมายเลขเครือข่ายข้อมูลที่จำต้องใช้ในการหาหมายเลขเครือข่าย • การค้นหาเส้นทางของอินเตอร์เน็ตนั้นจะใช้หมายเลขเครือข่ายเป็นตัวกำหนดนำส่งแพ็คเก็ต • เช่นหมายเลข IP ปลายทางเป็น 66.102.7.147 ถามว่าหมายเลขเครือข่ายของโฮสต์นี้เป็นหมายเลขอะไร? • ตอบไม่ได้!!!!!!! • ถ้าบอกโจทย์บอกต่อว่า หมายเลข IP ของโฮสต์นั้นเป็นแบบ Classful • ตอบได้ คือ 66.0.0.0 เนื่องจาก 66.102.7.147 เป็นหมายเลข IP ของ class A ซึ่งใช้ไบต์แรกเป็นหมายเลขที่ใช้ในการกำหนดหมายเลขเครือข่าย
Network Mask • ใช้ในการคำนวนหาหมายเลขเครือข่ายจากหมายเลข IP ของโฮสต์ใดเช่น • หมายเลข IP: 66.102.7.147 • Network mask: 255.0.0.0 • หมายเลขเครือข่าย ? • 66.102.7.74&255.0.0.0=66.0.0.0
ตัวอย่างการใช้งานของ Classful Addresses
Direct Broadcast Address • เป็นหมายเลข IP ที่ถูกใช้โดยเร้าเตอร์ในการส่งแพ็คเก็ตไปยังทุกโฮสต์ในเครือข่ายท้องถิ่น(Local Network)
Limited Broadcast Address • เป็นหมายเลข IP ที่ถูกใช้โดยโฮสต์ในการส่งแพ็คเก็ตไปยังทุกโฮสต์ในเครือข่ายท้องถิ่น(Local Network)
This Host on This network A host that does not know its IP address uses the IP Address 0.0.0.0 as the source address and 255.255.255.255 as the destination address to send a message to bootstrap server
Specific Host on this network • This address is used by a router or host to send a message to a specific host on the same network
Private Address • โฮสต์ที่ไม่ต้องการติดต่อกับอินเตอร์สามารถใช้หมายเลข IP ส่วนตัวได้ • ถ้าต้องการติดต่อกับอินเตอร์เน็ตต้องใช้ Network Address Translation (NAT)
ปัญหาของ Classful Addressing • จำนวนเครือข่ายที่ใช้ได้มีน้อย • Class A #networks=2^8, #hosts=2^24 • Class B #networks=2^16, #hosts=2^16 • Class C #networks=2^24, #hosts=2^8 • การสูญเสียหมายเลข IP • Class A • Class B • Class C
หัวข้อในการบรรยาย • ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • กล่าวนำการจัดการหมายเลข IP • การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท( Classful IP Addressing) • การแบ่งเครือข่ายย่อย(Subnetting) • การรวมเครือข่าย(Supernetting) • การจัดการหมายเลข IP แบบไม่แยกประเภท (Classless IP Addressing) • CIDR • Private address and Network Address Translation • DSN (Domain Name System)
Sunetting • มีหมายเลขเครือข่าย 1 หมายเลขต้องการแบ่งเป็นเครือข่ายย่อยหลาย ๆ เครือข่ายโดยใช้เร้าเตอร์เป็นตัวแบ่งเครือข่ายย่อย • เครือข่ายภายนอกมองเห็นว่าเป็น 1 เครือข่ายเท่านั้น
เครือข่ายที่ไม่มีการแบ่งเครือข่ายย่อยเครือข่ายที่ไม่มีการแบ่งเครือข่ายย่อย
เครือข่ายเมื่อมีการแบ่งเครือข่ายย่อยเครือข่ายเมื่อมีการแบ่งเครือข่ายย่อย
Subnetid(หมายเลขเครือข่ายย่อย)Subnetid(หมายเลขเครือข่ายย่อย) • ตัวอย่างเช่นองกรค์หนึ่งได้หมายเครือข่ายมา 1 หมายเลขคือ 141.14.0.0สามารถแบ่งเป็นเครือข่ายย่อย
Subnet mask • ใช้ในการคำนวนหาหมายเลขเครือข่ายจากหมายเลข IP ใดที่เกิดจากการจัดแบ่งเครือข่ายย่อย
หัวข้อในการบรรยาย • ประเภทของหมายเลขที่ใช้สำหรับการ Switching และ Routing • กล่าวนำการจัดการหมายเลข IP • การจัดการหมายเลข IP แบบแยกประเภท( Classful IP Addressing) • การแบ่งเครือข่ายย่อย(Subnetting) • การรวมเครือข่าย(Supernetting) • การจัดการหมายเลข IP แบบไม่แยกประเภท (Classless IP Addressing) • CIDR • Private address and Network Address Translation • DSN (Domain Name System)