650 likes | 1.58k Views
ยุคกลาง ค.ศ.476 – ค.ศ.1453. ลักษณะเฉพาะของอารยธรรมสมัยกลาง เป็นพื้นฐานของการพัฒนาด้านต่างๆในยุโรปในเวลาต่อมา. สมัยแห่งความศรัทธา Ages of Faith. ทัศนคติและจุดมุ่งหมายของชีวิต คือความพยายามของมนุษย์ที่จะทำให้โลกนี้เป็นวิถีไปสู่โลกหน้า. อาณาจักรโรมันล่มสลาย. บ้านเมืองปั่นป่วน ระส่ำระสาย
E N D
ยุคกลางค.ศ.476 – ค.ศ.1453 ลักษณะเฉพาะของอารยธรรมสมัยกลาง เป็นพื้นฐานของการพัฒนาด้านต่างๆในยุโรปในเวลาต่อมา
สมัยแห่งความศรัทธาAges of Faith ทัศนคติและจุดมุ่งหมายของชีวิต คือความพยายามของมนุษย์ที่จะทำให้โลกนี้เป็นวิถีไปสู่โลกหน้า
อาณาจักรโรมันล่มสลาย บ้านเมืองปั่นป่วน ระส่ำระสาย ไม่แน่นอน ปรากฏโดยทั่วไป
คริสต์ศาสนา -อาณาจักรโรมันล่มสลาย แต่คริสต์ศาสนาไม่ได้ถูกทำลาย องค์สันตปาปา ยังคงประทับที่กรุงโรม -ชนเผ่าเยอรมัน ยอมรับนับถือศาสนาคริสต์ ศาสนาจึงมีอิทธิพลทั่วยุโรป
ช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 - 10 ปรากฏความเจริญ -อารยธรรมไบแซนไทน์(กรุงคอนสแตนติโนเปิล) -อารยธรรมของ Germanic Trives (ยุโรป) -อารยธรรมอิสลาม (ตะวันออกกลาง)
อารยธรรมยุโรปในยุคกลางอารยธรรมยุโรปในยุคกลาง เป็นการผสมผสานระหว่าง -อารยธรรมคลาสสิค -วัฒนธรรมชนเผ่าเยอรมัน -วัฒนธรรมคริสต์ศาสนา -ระบบฟิวดัล
Germanic Tribes อนารยชนเผ่าเยอรมัน มีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณทะเลแคสเปียน เร่ร่อนล่าสัตว์เข้ามาถึงอาณาจักรโรมัน มีหลายเผ่า เช่น Frank Alemanni Saxan Goth
ยุคมืดDark Ages ศาสนาคริสต์ มีบทบาทต่อวิถีชีวิต ท่ามกลางความระส่ำระสายของสังคม ศาสนาสามารถตอบสนองความปรารถนาทางจิตใจของคน สอนถึงความรักที่พระเจ้ามอบให้มนุษย์ การส่งพระบุตรลงมารับบาปของมนุษย์ รวททั้งความหวังที่จะอยู่กับพระเจ้าในโลกหน้า
คริสต์จักร 1.เป็นผู้ชี้ชะตาและอนาคตของมนุษย์ตั้งแต่เกิด-ตาย 2.สร้างความหมายในชีวิตให้มนุษย์ 3.สร้างความอบอุ่นและความหวังให้แก่มนุษย์ผู้ปราศจากที่พึ่ง 4.ชีวิตมนุษย์ เป็นการเตรียมตัวสำหรับชีวิตหน้า “วันพิพากษา”
อาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์Holy Roman Empire การสถาปนากษัตริย์ชาร์ลมาญ ของพวก แฟรงค์ เป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แสดงถึงอิทธิพลทางศาสนาอย่างมาก
การเสื่อมอำนาจของกษัตริย์การเสื่อมอำนาจของกษัตริย์ -ต่อมายุโรปถูก มุสลิม ฮั่น ไวกิ้ง รุกราน บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ทำให้อำนาจกษัตริย์ลดลง -ขุนนางมีบทบาทขึ้นแทน ได้รับมอบอำนาจจากกษัตริย์ให้ปกครองดูแลที่ดินและประชาชนFeudalism
ระบบฟิวดัล c 11-13 Lord - Vassal
ระบบฟิวดัล เกิดระบบผู้อุปการะ-ผู้รับอุปการะ ประชาชนละเลยอำนาจส่วนกลาง(กษัตริย์)และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้านาย(ขุนนาง)
ระบบฟิวดัล การปกครอง มีลักษณะเป็นการกระจายอำนาจขุนนาง นักรบ มีอำนาจในการปกครองที่ดินได้รับพระราชทาน มา(รับที่ดินมาในลักษณะเช่า) และปกครองผู้คนที่อพยพ เข้ามาอาศัย
ระบบฟิวดัล ด้านเศรษฐกิจ • ศูนย์กลางเศรษฐกิจคือคฤหาสน์หรือ manorial system • อาชีพหลักคือการทำการเกษตรปลูกพืช เลี้ยงสัตว์
ระบบฟิวดัล สภาพสังคม • พัฒนาคนเป็นไปตามแรงศรัทธา และทิศทางของคริสต์ศาสนา • ศูนย์รวมอยู่ที่วัด พระมีอำนาจและร่ำรวยจากการขายใบไถ่บาป
สงครามครูเสด ค.ศ.1095-1291 • สงครามครูเสด (Crusade War) ถือเป็น สงครามศาสนา อันยาวนานระหว่างกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ กับประเทศกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลาม • เริ่มขึ้นและจบลงในสมัยที่ชาวยุโรปเรียกกันว่ายุคกลาง อันเป็นยุคที่ศาสนาคริสต์มีบทบาทกับชีวิต ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชนชาติในยุโรปเกือบทุก ๆ ชาติ ที่ขณะนั้นมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 80 เชื้อชาติ และมีรัฐเล็กรัฐน้อยอยู่ไม่ต่ำกว่า 100 รัฐ สงครามเกิดขึ้น 8 ครั้งด้วยกันในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 11 ถึง 13 • กินเวลา 200 ปี
ปฏิบัติการณ์สงครามครั้งแรกยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรโรมันตะวันออกจึงไม่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการขาดเอกภาพในการนำทหารชาวยุโรปจากหลายอาณาจักร ทำให้ไม่สามารถโจมตีและยึดกรุงเยรูซาเล็มได้อย่างที่ต้องการ
ยุโรป ภายหลังสงครามครูเสด ใน c12 บ้านเมืองสงบ การค้าฟื้นตัว มีเส้นทางถนนค้าขายระหว่างเมืองต่างๆ และเส้นทางการค้าทางทะเลระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียน – ทะเลบอลติคสินค้าตะวันออกเป็นที่ต้องการ ทำให้พ่อค้าร่ำรวยมาก และมีบทบาททั้งทางเศรษฐกิจ มีบทบาททางสังคม เกิดชุมชนเมือง(bougeois)และขยายอำนาจเข้าสู่วงการเมือง