660 likes | 766 Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. 2 Peter 2 False Prophets and Teachers part 2 2 เปโตร 2 จอมปลอมและเป็นส่วนหนึ่งครู 2.
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
2 Peter 2 False Prophets and Teachers part 22 เปโตร 2 จอมปลอมและเป็นส่วนหนึ่งครู 2
1 But false prophets also arose among the people, just as there will be false teachers among you, who will secretly bring in destructive heresies, even denying the Master who bought them, bringing upon themselves swift destruction.
1 แต่ว่าได้มีคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะเกิดขึ้นในชนชาตินั้น เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนผิดเกิดขึ้นในพวกท่านทั้งหลาย ซึ่งจะลอบเอามิจฉาลัทธิอันจะให้ถึงความพินาศเข้ามาเสี้ยมสอน จนถึงกับปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่เขาไว้ ซึ่งจะทำให้เขาพินาศโดยเร็วพลัน
2 And many will follow their sensuality, and because of them the way of truth will be blasphemed. 2 จะมีคนหลายคนประพฤติชั่วตามอย่างเขาและเพราะคนเหล่านั้นเป็นเหตุ ทางของสัจจะจะถูกกล่าวร้าย
3 And in their greed they will exploit you with false words. Their condemnation from long ago is not idle, and their destruction is not asleep. 3 และด้วยใจโลภเขาจะกล่าวตลบตะแลงค้ากำไรจากท่านทั้งหลาย การลงโทษคนเหล่านั้นที่ได้ถูกพิพากษานานมาแล้วจะไม่เนิ่นช้า และความวิบัติที่จะเกิดกับเขาก็หาสลายไปไม่
4 For if God did not spare angels when they sinned, but cast them into hell and committed them to chains of gloomy darkness to be kept until the judgment; 4 เพราะว่าถ้าพระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักเขาลงไปสู่ทุคติ และได้ขังเขาไว้ในขุมนรกมืด คุมไว้จนกว่าจะถึงเวลาทรงพิพากษา
5 if He did not spare the ancient world, but preserved Noah, a herald of righteousness, with seven others, when He brought a flood upon the world of the ungodly; 5 และไม่ได้ทรงยกเว้นมนุษย์โลกครั้งโบราณ แต่ได้ทรงช่วยโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรม กับคนอื่นอีกเจ็ดคน เมื่อคราวที่พระองค์ได้ทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรม
6 if by turning the cities of Sodom and Gomorrah to ashes He condemned them to extinction, making them an example of what is going to happen to the ungodly; 6 และได้ทรงลงโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ ให้พินาศเป็นเถ้าถ่าน เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งหลายที่ประพฤติอธรรม
7 and if He rescued righteous Lot, greatly distressed by the sensual conduct of the wicked 7 และได้ทรงช่วยโลทผู้ชอบธรรมให้รอด ผู้มีความทุกข์ใหญ่หลวง เพราะการประพฤติลามกของคนชั่วเหล่านั้น
8 (for as that righteous man lived among them day after day, he was tormenting his righteous soul over their lawless deeds that he saw and heard); 8 (เพราะเมื่อคนชอบธรรมอยู่ในหมู่คนชั่ว ความประพฤติของคนชั่วที่ท่านได้เห็นและได้ยิน ทำให้จิตใจที่ชอบธรรมของท่านรุ่มร้อนเป็นทุกข์ทุกวันคืน)
9 then the Lord knows how to rescue the godly from trials, and to keep the unrighteous under punishment until the day of judgment, 9 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทราบว่า จะช่วยคนชอบธรรมให้รอดพ้นจากการทดลองได้อย่างไร และทรงทราบวิธีกักขังคนชั่วไว้ ให้รับโทษเมื่อถึงวันพิพากษา
10 and especially those who indulge in the lust of defiling passion and despise authority. Bold and willful, they do not tremble as they blaspheme the glorious ones, 10 โดยเฉพาะคนเหล่านั้นที่ปล่อยตัวหลงระเริงไปตามกิเลสตัณหา และหมิ่นประมาทอำนาจของผู้ใหญ่ คนเหล่านี้กล้าและประพฤติตามอำเภอใจ เขาไม่สะทกสะท้านที่จะกล่าวประณามศักดิ์สิริเทพ
11 whereas angels, though greater in might and power, do not pronounce a blasphemous judgment against them before the Lord. 11 แต่ฝ่ายทูตสวรรค์แม้ว่ามีฤทธิ์และกำลังมากกว่า ก็หาได้กล่าวประณามคนเหล่านั้นหน้าพระที่นั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่
12 But these, like irrational animals, creatures of instinct, born to be caught and destroyed, blaspheming about matters of which they are ignorant, will also be destroyed in their destruction, 12 แต่ว่าคนเหล่านั้น เป็นเหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ปราศจากความคิด เป็นสัตว์ที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า เขากล่าวประณามสิ่งที่เขาไม่เข้าใจเลย เขาจะต้องพินาศอย่างสัตว์ร้ายนั้น
13 suffering wrong as the wage for their wrongdoing. They count it pleasure to revel in the daytime. They are blots and blemishes, reveling in their deceptions, while they feast with you. 13 เขาจะได้รับทุกข์เป็นโทษแห่งการอธรรมของเขา เขาทั้งหลายถือการเสเพลเฮฮาในเวลากลางวันเป็นความเพลิดเพลิน เขาด่างพร้อยและมลทิน และประพฤติการเสเพลเฮฮา เมื่อกำลังกินเลี้ยงรวมกับท่านทั้งหลาย
14 They have eyes full of adultery, insatiable for sin. They entice unsteady souls. They have hearts trained in greed. Accursed children! 14 ตาของเขามีแววที่เปี่ยมด้วยความใคร่ ในการล่วงประเวณี ไม่สิ้นความกระหายในบาป เขาล่อลวงคนที่ใจไม่มั่นคง ใจของเขาชินกับการโลภ เขาเหล่านั้นเป็นคนที่ถูกสาปแช่งเลยหนอ
15 Forsaking the right way, they have gone astray. They have followed the way of Balaam, the son of Beor, who loved gain from wrongdoing, 15 เขาสละทิ้งทางชอบ หลงไปในทางผิด ดำเนินตามทางของบาลาอัมบุตรเบโอร์ ผู้ซึ่งชอบสิ่งที่ได้มาจากการอธรรม
16 but was rebuked for his own transgression; a speechless donkey spoke with human voice and restrained the prophet's madness. 16 แต่บาลาอัมก็ได้ถูกบริภาษ ในการที่เขาได้กระทำการละเมิดนั้น ลาใบ้ตัวนั้นพูดเป็นภาษามนุษย์ และได้ยับยั้งอาการคลุ้มคลั่งของผู้พยากรณ์คนนั้น
Numbers 22 Prophet for Hireกันดารวิถี 22 บีสำหรับเช่า
1Then the people of Israel set out and camped in the plains of Moab beyond the Jordan at Jericho. 1แล้วคนอิสราเอลก็ยกออกไปตั้งค่ายอยู่ณที่ราบโมอับฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนที่เมืองเยรีโค
2And Balak the son of Zippor saw all that Israel had done to the Amorites. 2ฝ่ายบาลาคบุตรศิปโปร์ได้เห็นการทั้งปวงซึ่งอิสราเอลได้กระทำต่อคนอาโมไรต์
3And Moab was in great dread of the people, because they were many. Moab was overcome with fear of the people of Israel. 3ทั้งโมอับก็ครั่นคร้ามต่อชนชาตินั้นนักหนาเพราะเขามีคนมากด้วยกันโมอับกลัวคนอิสราเอลลานทีเดียว
4And Moab said to the elders of Midian, “This horde will now lick up all that is around us, as the ox licks up the grass of the field.” So Balak the son of Zippor, who was king of Moab at that time, 4จึงพูดกับพวกผู้ใหญ่ของเมืองมีเดียนว่า “คนเหล่านี้ทั้งสัตว์ของเขาจะมากินพืชผลที่ล้อมรอบเราอยู่หมดเหมือนวัวกินหญ้าในนา” ดังนั้นบาลาคบุตรศิปโปร์ผู้เป็นกษัตริย์เมืองโมอับในเวลานั้น
5sent messengers to Balaam the son of Beor at Pethor, which is near the River in the land of the people of Amaw, to call him, saying, “Behold, a people has come out of Egypt. They cover the face of the earth, and they are dwelling opposite me. 5ใช้ผู้สื่อสารไปยังบาลาอัมบุตรเบโอร์ที่เปโธร์ใกล้แม่น้ำในแผ่นดินอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของท่านโดยกล่าวว่า “ดูเถิดชนชาติหนึ่งออกมาจากอียิปต์เข้าแผ่คลุมผิวโลกกำลังพักอยู่ตรงข้ามข้าพเจ้า
6Come now, curse this people for me, since they are too mighty for me. Perhaps I shall be able to defeat them and drive them from the land, for I know that he whom you bless is blessed, and he whom you curse is cursed.”
7So the elders of Moab and the elders of Midian departed with the fees for divination in their hand. And they came to Balaam and gave him Balak's message. 7ดังนั้นพวกผู้ใหญ่ของเมืองโมอับกับพวกผู้ใหญ่ของเมืองมีเดียนก็ถือค่าการทำอาถรรพ์นั้นออกไปครั้นเขาทั้งหลายมาถึงบาลาอัมก็บอกคำของบาลาคแก่เขา
8And he said to them, “Lodge here tonight, and I will bring back word to you, as the LORD speaks to me.” So the princes of Moab stayed with Balaam. 8บาลาอัมกล่าวแก่คนเหล่านั้นว่า “คืนนี้จงค้างที่นี่ก่อนเมื่อพระเจ้าตรัสอย่างไรแก่ข้าแล้วข้าจึงจะนำคำนั้นมาแจ้งแก่ท่านทั้งหลาย” ดังนั้นเจ้าเมืองแห่งโมอับจึงยับยั้งอยู่กับบาลาอัม
9And God came to Balaam and said, “Who are these men with you?” 9และพระเจ้าเสด็จมาหาบาลาอัมตรัสว่า “คนที่มาอยู่กับเจ้าคือผู้ใด”
10And Balaam said to God, “Balak the son of Zippor, king of Moab, has sent to me, saying, 10บาลาอัมทูลพระเจ้าว่า “บาลาคบุตรศิปโปร์กษัตริย์เมืองโมอับได้ใช้เขาทั้งหลายมาแจ้งแก่ข้าพระองค์ว่า11‘Behold, a people has come out of Egypt, and it covers the face of the earth. Now come, curse them for me. Perhaps I shall be able to fight against them and drive them out.’” 11'ดูเถิดชนชาติหนึ่งออกจากอียิปต์มาแผ่คลุมผิวโลกขอเชิญมาเถิดขอสาปแช่งเขาทั้งหลายให้แก่ข้าพเจ้าชะรอยข้าพเจ้าจะรบชนะเขาและขับไล่เขาออกไปได้' ”
12God said to Balaam, “You shall not go with them. You shall not curse the people, for they are blessed.” 12พระเจ้าตรัสกับบาลาอัมว่า “เจ้าอย่าไปกับเขาทั้งหลายเจ้าอย่าแช่งชนชาตินั้นเพราะเขาทั้งหลายเป็นคนที่ได้รับพร”
20And God came to Balaam at night and said to him, “If the men have come to call you, rise, go with them; but only do what I tell you.” 20และพระเจ้าเสด็จมาหาบาลาอัมในกลางคืนตรัสแก่เขาว่า “ถ้ามีผู้ชายมาเรียกเจ้าจงลุกขึ้นไปกับเขาแต่เจ้าจงกระทำตามที่ข้าพระองค์ สั่งเจ้าเท่านั้น”
21So Balaam rose in the morning and saddled his donkey and went with the princes of Moab. 21ดังนั้นรุ่งเช้าบาลาอัมก็ลุกขึ้นผูกอานลาไปกับเจ้านายแห่งโมอับ
22But God's anger was kindled because he went, and the angel of the LORD took his stand in the way as his adversary. Now he was riding on the donkey, and his two servants were with him. 22แต่พระเจ้าทรงกริ้วต่อบาลาอัมเพราะเขาไปดังนั้นทูตสวรรค์ของพระเจ้ามายืนเป็นผู้สกัดทางบาลาอัมไว้ฝ่ายบาลาอัมขี่ลามีคนใช้สองคนไปกับเขา
23And the donkey saw the angel of the LORD standing in the road, with a drawn sword in his hand. And the donkey turned aside out of the road and went into the field. And Balaam struck the donkey, to turn her into the road. 23เมื่อลานั้นเห็นทูตสวรรค์ของพระเจ้าถือดาบยืนอยู่ในหนทางลาก็เลี้ยวออกนอกทางเข้าไปในทุ่งนาบาลาอัมจึงตีลาให้กลับไปทางเดิม
24Then the angel of the LORD stood in a narrow path between the vineyards, with a wall on either side. 24แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้ามายืนอยู่ในทางแคบระหว่างสวนองุ่นมีกำแพงทั้งสองข้างทาง
25And when the donkey saw the angel of the LORD, she pushed against the wall and pressed Balaam's foot against the wall. So he struck her again. 25เมื่อลาเห็นทูตสวรรค์ของพระเจ้ามันก็ดันไปติดกำแพงหนีบเท้าของบาลาอัมเข้ากับกำแพงบาลาอัมก็ตีลาอีก
26Then the angel of the LORD went ahead and stood in a narrow place, where there was no way to turn either to the right or to the left. 26แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้าก็เดินไปข้างหน้ายืนอยู่ในที่แคบไม่มีทางที่จะหลีกไปข้างขวาหรือข้างซ้าย
27When the donkey saw the angel of the LORD, she lay down under Balaam. And Balaam's anger was kindled, and he struck the donkey with his staff. 27เมื่อลาเห็นทูตสวรรค์ของพระเจ้ามันก็หมอบลงบาลาอัมยังคงนั่งอยู่บนหลังบาลาอัมก็โกรธจึงเอาไม้เท้าของเขาตีลา
28Then the LORD opened the mouth of the donkey, and she said to Balaam, “What have I done to you, that you have struck me these three times?” 28แล้วพระเจ้าเปิดปากลามันจึงพูดกับบาลาอัมว่า “ข้าพเจ้าได้กระทำอะไรแก่ท่านท่านจึงได้ตีข้าพเจ้าถึงสามครั้ง”
29And Balaam said to the donkey, “Because you have made a fool of me. I wish I had a sword in my hand, for then I would kill you.” 29บาลาอัมพูดกับลาว่า “เพราะเจ้าได้แกล้งเราเราอยากจะมีดาบอยู่ในมือเดี๋ยวนี้เราจะได้ฆ่าเจ้าเสีย”
30And the donkey said to Balaam, “Am I not your donkey, on which you have ridden all your life long to this day? Is it my habit to treat you this way?” And he said, “No.” 30ลาก็พูดกับบาลาอัมว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ลาของท่านที่ท่านขับขี่อยู่ทุกวันตลอดชีวิตจนบัดนี้ดอกหรือข้าพเจ้าได้เคยกระทำเช่นนี้แก่ท่านหรือ” บาลาอัมก็บอกว่า “ไม่เคย”
31Then the LORD opened the eyes of Balaam, and he saw the angel of the LORD standing in the way, with his drawn sword in his hand. And he bowed down and fell on his face. 31แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาบาลาอัมเขาจึงเห็นทูตสวรรค์ของพระเจ้าถือดาบยืนอยู่ในหนทางบาลาอัมก็ก้มศีรษะซบหน้าลงกราบ
32And the angel of the LORD said to him, “Why have you struck your donkey these three times? Behold, I have come out to oppose you because your way is perverse before me. 32และทูตสวรรค์แห่งพระเจ้าพูดกับบาลาอัมว่า “ทำไมเจ้าจึงตีลาของเจ้าถึงสามครั้งดูเถิดเรามาห้ามเจ้าเพราะเจ้าขัดขืนเรา
33The donkey saw me and turned aside before me these three times. If she had not turned aside from me, surely just now I would have killed you and let her live.” 33ลาได้เห็นเราและหลีกไปต่อหน้าเราถึงสามครั้งถ้ามันมิได้หลีกไปจากเราเราจะได้ฆ่าเจ้าเสียแล้วเมื่อตะกี้นี้แน่และให้ลารอดตายไป”
34Then Balaam said to the angel of the LORD, “I have sinned, for I did not know that you stood in the road against me. Now therefore, if it is evil in your sight, I will turn back.”
34แล้วบาลาอัมพูดกับทูตสวรรค์ของพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าได้กระทำบาปเพราะข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านยืนอยู่ในหนทางกั้นข้าพเจ้าฉะนั้นถ้าท่านไม่เห็นชอบข้าพเจ้าจะกลับไปเสีย”
35And the angel of the LORD said to Balaam, “Go with the men, but speak only the word that I tell you.” So Balaam went on with the princes of Balak. 35แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้าพูดกับบาลาอัมว่า “จงไปกับชายเหล่านั้นเถิดแต่เจ้าจงพูดเฉพาะคำที่ข้าพระองค์ ให้เจ้าพูด” ดังนั้นบาลาอัมก็ไปกับเจ้านายของบาลาคต่อไป
Numbers กันดารวิถี 31:16 16Behold, these, on Balaam's advice, caused the people of Israel to act treacherously against the LORD in the incident of Peor, and so the plague came among the congregation of the LORD.