400 likes | 783 Views
The cytoskeleton. เป็นโครงสร้างภายในเซลล์ ประกอบด้วยเส้นใยโปรตีนที่ประสานกันเป็นร่างแห แทรกตัวอยู่ภายใน cytoplasm ทำหน้าที่เป็นโครงร่างภายในเพื่อรักษารูปทรงหรือเปลี่ยนรูปทรง และทำให้เกิดการเคลื่อนไหวภายใน cytoplasm และการเคลื่อนที่ของเซลล์บางชนิด. The cytoskeleton.
E N D
The cytoskeleton เป็นโครงสร้างภายในเซลล์ประกอบด้วยเส้นใยโปรตีนที่ประสานกันเป็นร่างแหแทรกตัวอยู่ภายในcytoplasmทำหน้าที่เป็นโครงร่างภายในเพื่อรักษารูปทรงหรือเปลี่ยนรูปทรงและทำให้เกิดการเคลื่อนไหวภายในcytoplasm และการเคลื่อนที่ของเซลล์บางชนิด
Motor molecules and the cytoskeleton • Cytoskeletonทำงานร่วมกับ motor proteinsทำให้เกิดการเคลื่อนที่ภายในเซลล์ เช่น การเคลื่อนที่ของflagellumหรือ ciliaรวมทั้งการหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อ
Motor molecules นำvesicles หรือorganelles ไปยังตำแหน่งเป้าหมาย โดยผ่านไปตามcytosleleton
Cytoskeleton ประกอบด้วยเส้นใยโปรตีน 3 ชนิดได้แก่ Microfilaments (Actin Filaments) Intermediate Filaments Microtubules
Structure of Microtubules โครงสร้าง : เป็นท่อตรงและกลวงประกอบด้วย tubulin protein ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 25 nm องค์ประกอบ :-tubulin และ -tubulin
Function of Microtubules • รักษารูปทรงและพยุงเซลล์ • เป็นเส้นทางเคลื่อนที่ให้กับ organelles อื่น • เกี่ยวข้องกับการแยกของโครโมโซมขณะที่มีการแบ่งเซลล์
Microtubules ถูกสร้างมาจากcentrosomeซึ่งอยู่ใกล้nucleus ในเซลล์สัตว์ บริเวณcentrosome มีcentrioles อยู่ 1 คู่
Centrosome and centrioles • ในเซลล์หลายชนิดมีการสร้าง microtubules จากบริเวณ centrosome ที่อยู่ใกล้ๆกับนิวเคลียส • ในบริเวณ centrosome ของเซลล์สัตว์มี centrioles อยู่ 1 คู่แต่ละ centriole ประกอบด้วย microtubules จำนวน 3 ท่อจำนวน 9 ชุดเรียงตัวเป็นวงกลม • ในขณะที่เซลล์แบ่งตัวจะมีการเพิ่ม centrioles เป็น 2 ชุด • แม้ว่า centrioles จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้าง microtubules แต่ก็ไม่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกยูคาริโอตทุกชนิดในพืชไม่มี centrioles
Microtubules เป็นแกนของflagellum และcilia
โครงสร้างของ flagellum หรือ cilia ที่ศึกษาภายใต้กล้อง EM (a) ภาพตัดตามยาว (b) ภาพตัดตามขวางแสดงให้เห็นโครงสร้างภายในประกอบด้วยแกนของ microtubules อยู่ภายในเยื่อหุ้มเซลล์ที่ยื่นยาวตามขึ้นไปเรียงกันเป็น pattern "9+2" คือแกนกลางประกอบด้วย microtubules 2 ท่อ (doublets) จำนวน 9 ชุดเรียงตัวรอบเป็นวงกลมและตรงกลางมี microtubules อีก 2 ท่อแต่ละท่อคู่ของรอบนอกมีแขน 1 คู่ (dynein) ยื่นยาวออกไปสัมผัสกับท่อคู่ที่อยู่ใกล้เคียงและมี radial spoke ยื่นเข้าไปติดต่อกับท่อคู่ตรงกลาง ( c) แสดง basal body ซึ่งอยู่ที่ฐานของ flagellum หรือ cilia มีโครงสร้างเหมือนกับ centriole ประกอบด้วย microtubules 3 ท่อเรียงกันเป็นวงกลม
How dynein” walking” moves cilia and flagella การเคลื่อนตัวของ dynein ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของ flagellum หรือ cilia การเคลื่อนตัวของ dynein arm ที่เกาะกับท่อคู่ของ microtubulesหนึ่งไปเกาะที่อีกท่อคู่หนึ่งโดยการเกาะและปล่อยสลับกันไปนี้มีผลทำให้ flagellum หรือ cilia เบนโค้งเคลื่อนที่ไปได้การทำงานของ dynein ใช้พลังงานจาก ATP
Structure of Microfilaments โครงสร้าง :เป็นเส้นใยทึบ 2 สายพันกันเป็นเกลียว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 7 nm องค์ประกอบ : Actin
Function of Microfilaments • รักษารูปทรงของเซลล์และการเคลื่อนไหวภายในเซลล์ • การหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อ • ทำให้เกิดการคอดตัวเป็นร่องขณะที่มีการแบ่งเซลล์สัตว์
A structure role of microfilaments Microvilli Intermediate filaments Microvilli ที่เซลล์ลำไส้คงรูปอยู่ได้เนื่องจากมี microfilaments เป็นแกน ชึ่งเชื่อมต่อกับ intermediate filaments Microfilaments (Actin filaments)
Microfilaments and motility ในเซลล์กล้ามเนื้อactin filaments เรียงกันอย่างเป็นระเบียบทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อ
ในเซลล์อมีบา การยื่นpseudopodium ออกไปเกิดจากการยืดและหดตัวของactin filaments
ในเซลล์พืช การทำงานร่วมกันของactin และmyosin ทำให้เกิดการไหลภายในcytoplasm
Structure of Intermediate Filaments โครงสร้าง :ประกอบด้วยมัดของหน่วยย่อยโปรตีนที่พันกันเป็นเกลียว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 6-12 nm องค์ประกอบ :โปรตีนหลายชนิดแล้วแต่ชนิดของเซลล์ตย. เช่น keratin
Microvilli Microfilaments (Actin filaments) Intermediate filaments Function of Intermediate Filaments • ทำให้ organelles อยู่ประจำที่ • รักษาโครงสร้างของเซลล์
Plant cell walls cell wall เป็นผนังเซลล์ของพืชที่อยู่ภายนอกของเยื่อหุ้มเซลล์มีโครงร่างเป็นผนังหนาประกอบด้วย cellulose ฝังตัวอยู่ในโปรตีนและ polysaccharides
เซลล์พืชติดต่อกับเซลล์ที่อยู่ข้างเคียงโดยทางช่อง plasmodesmata
Extracellular matrix (ECM) เซลล์สัตว์ไม่มี cell wall แต่มีสารที่ถูกสร้างออกมาอยู่ด้านนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เรียกว่า extracellular matrix
Fibronectin Extracellular matrix (ECM) of an animal cell
องค์ประกอบและโครงสร้างของ ECM จะแตกต่างกันในเซลล์แต่ละชนิดเซลล์ในตัวอย่างที่แสดงนี้ ECM ประกอบด้วยสารพวก glycoprotein 3 ชนิดได้แก่ 1. collagen fiber ที่ฝังตัวอยู่ในร่างแหของ proteoglycans ซึ่งประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 95 % 2. fibronectin เป็น glycoprotein ที่เกาะอยู่กับ receptor protein ที่อยู่ที่เยื่อหุ้มเซลล์ (integrin) 3. integrin จะเชื่อมโยงระหว่าง ECM กับ microfilament ใน cytoplasm ซึ่งมีบทบาทสำคัญเกี่ยวข้องกับการนำสัญญาณการถูกกระตุ้นระหว่างสิ่งแวดล้อมภายนอกกับภายในเซลล์ได้
Intercellular junctions in animal tissues มี 3 ชนิด คือ 1. Tight junctions 2. Desmosomes 3. Gap junctions
Cellular junction ในเซลล์สัตว์ (a) tight junctionพบอยู่ใต้ผิวเซลล์ด้านที่เป็นอิสระเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ที่อยู่ติดกันมีการเชื่อมติดกันแต่ไม่เชื่อมกันตลอดมีส่วนที่ไม่เชื่อมกันเกิดช่องเป็นระยะๆ (b) desmosomeพบในเซลล์เนื้อเยื่อทุกชนิดเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ที่อยู่ติดกันไม่เชื่อมติดกันและบริเวณนี้มี filament มาเกาะอยู่ด้านในของเซลล์ทั้งสอง (c) gap junctionช่องว่างระหว่างเซลล์แคบกว่าที่อื่นหรือเกือบไม่มีเลยโดยมีความกว้างประมาณ 20 Aoบริเวณนี้เป็นที่ให้โมเลกุลของสารต่างๆที่มีขนาดเล็กผ่านไปมาได้
เซลล์เป็นหน่วยของสิ่งมีชีวิตที่มีorganellesต่างๆทำงานร่วมกันเซลล์เป็นหน่วยของสิ่งมีชีวิตที่มีorganellesต่างๆทำงานร่วมกัน
ตัวอย่างเช่น เซลล์macrophage ยื่นpseudopodia ออกไปจับแบคทีเรีย โดยการยืดและหดของactin filament • Food vacuoles ถูกย่อยโดยlysosomeซึ่งlysosome สร้างมาจากER และGolgi • เอ็นไซม์ของlysosomes และโปรตีนของcytoskeletonถูกสร้างขึ้นที่ribosomes • โปรตีนถูกแปรรหัสมาจากmRNA ที่ถอดรหัสมาจากDNA ในนิวเคลียส • กระบวนการทั้งหมดเหล่านี้ต้องการพลังงานในรูปของATP ซึ่งส่วนใหญ่สร้างมาจากmitochondria