1 / 32

ผลงานนักวิจัยไทยในฐานข้อมูล Science Citation Index ( SCI)

ผลงานนักวิจัยไทยในฐานข้อมูล Science Citation Index ( SCI). ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ หัวหน้ากลุ่มวิจัย P olymer PRO cessing and F low (P-PROF) www.kmutt.ac.th/p-prof มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) 22 กรกฎาคม 2547 ณ สวทช. King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT)

qamar
Download Presentation

ผลงานนักวิจัยไทยในฐานข้อมูล Science Citation Index ( SCI)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ผลงานนักวิจัยไทยในฐานข้อมูลScience Citation Index (SCI) ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ หัวหน้ากลุ่มวิจัยPolymerPROcessingandFlow (P-PROF)www.kmutt.ac.th/p-prof มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) 22 กรกฎาคม 2547 ณ สวทช. King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT) 91 Pracha U-tit Rd., Bangmod, Thuug-khru, Bangkok 10140, THAILAND

  2. ขอบเขตการนำเสนอ • บทนำ • วัตถุประสงค์ • ขอบเขตและวิธีการวิจัย • ผลการวิจัย • จำนวนผลงานตีพิมพ์ (Number of publications) • จำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิง (Times cited) • จำนวนความร่วมมือกับต่างประเทศ (Collaborations) • บทสรุป • สถานภาพ/ปัญหา (บางส่วน) ของการเผย • แพร่ผลงานระดับนานาชาติ

  3. วัตถุประสงค์ของงานวิจัยวัตถุประสงค์ของงานวิจัย • เพื่อจัดทำโปรแกรมบันทึกและแสดงข้อมูลผลงานตีพิมพ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ • และเทคโนโลยีของนักวิจัยภายในประเทศ ที่ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูล SCI • ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002 • เพื่อวิเคราะห์สถานภาพและแนวโน้มของผลงานตีพิมพ์ทางด้าน • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยในฐานข้อมูล SCI • ระหว่างปีค.ศ. 1995-2002 • เพื่อวิเคราะห์คุณภาพของผลงานตีพิมพ์ และประเมินความเข้มแข็งทางด้าน • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยในสาขาวิชาต่างๆ • เพื่อให้ทราบถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • ของประเทศไทยที่มีผลงานวิจัยปรากฏในฐานข้อมูล SCI • เพื่อวิเคราะห์ถึงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย • กับประเทศต่างๆ ที่ปรากฏในฐานข้อมูล SCI

  4. ISI Citation Databases • Science Citation Index ---> 5,876 science and technical journals • Social Science Citation Index--->1,700 journals • Arts and Humanities Citation Index--->1,130 journals

  5. ขอบเขตและวิธีการวิจัยขอบเขตและวิธีการวิจัย • สืบค้นบทความวิจัยที่เขียนโดยนักวิจัยไทยและตีพิมพ์ผลงานลงในวารสารวิชาการ • นานาชาติที่ปรากฏในฐานข้อมูล Science Citation Index (SCI) ระหว่างปี • 1995-2002 • ช่วงการสืบค้น ณ วันที่ 6 กันยายน 2546 • กำหนดสาขาวิชาของแต่ละบทความ ตามชื่อวารสาร โดยแบ่งสาขาวิชาออกเป็น • 3 ระดับตาม ISI Essential Science Indicators และ Science Citation Index • Expanded 2002 • สาขาวิชาหลัก จำนวน 22 สาขา • สาขาวิชารอง จำนวน 127 สาขา • สาขาวิชาย่อย จำนวน 58 สาขา

  6. ขอบเขตและวิธีการวิจัย(ต่อ)ขอบเขตและวิธีการวิจัย(ต่อ) • บันทึกบทความซึ่งแยกตามปีที่พิมพ์ จำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิง • สาขาวิชา ชื่อนักวิจัย หน่วยงานต้นสังกัด และประเทศที่มีความร่วมมือกับ • นักวิจัยไทย ลงในฐานข้อมูล ThaiSCI 2002 เพื่อทำการประมวลผล • สามารถเรียกดูข้อมูล และสืบค้นข้อมูลได้ 4 ส่วน คือ • รายชื่อนักวิจัยไทย • จำนวนบทความของนักวิจัยไทย • จำนวนครั้งที่บทความของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิง • จำนวนความร่วมมือระหว่างนักวิจัยไทยกับนักวิจัยต่างประเทศ • แต่ละส่วนสามารถทำการเรียกดูและสืบค้นได้ตาม • รายชื่อนักวิจัยไทย • สาขาวิชา(หลัก รอง และย่อย) • หน่วยงานต้นสังกัดของนักวิจัยไทย

  7. ผลการวิจัย • จำนวนผลงานตีพิมพ์ (Number of publications) • จำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิง (Times cited) • จำนวนความร่วมมือกับต่างประเทศ (Collaborations)

  8. จำนวนผลงานตีพิมพ์ จำนวนบทความของนักวิจัยไทยในฐานข้อมูล SCI

  9. จำนวนบทความของนักวิจัยไทยแบ่งตาม 5 อันดับแรกของ หน่วยงานต้นสังกัด *โปรดดูหน่วยงานย่อยของหน่วยงานที่ปรากฏในตารางข้างต้นนี้ได้ใน ภาคผนวก ค

  10. หน่วยงานย่อยที่มีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  11. จำนวนบทความวิจัยของนักวิจัย สวทช. ในฐาน SCI และ ThaiSci2002 จำนวนบทความของ BIOTEC (ได้รับข้อมูลจาก BIOTEC)

  12. สาขาวิชาหลัก (PrimaryField) ที่มีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยสูงสุด 10 อันดับแรกระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  13. สาขาวิชาย่อย (Subfield) ที่มีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยสูงสุด 10 อันดับแรกระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  14. ชื่อนักวิจัยที่มีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  15. จำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิงจำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิง จำนวนครั้งที่บทความของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิงจากวารสารวิชาการ นานาชาติในฐานข้อมูล SCI

  16. จำนวนครั้งที่บทความของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิงจากวารสารวิชาการจำนวนครั้งที่บทความของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิงจากวารสารวิชาการ นานาชาติในฐานข้อมูล SCIแบ่งตาม 5 อันดับแรกของหน่วยงานที่สังกัด

  17. หน่วยงานย่อยที่ถูกอ้างอิงสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  18. สาขาวิชาหลัก (PrimaryField) ที่มีการอ้างอิงสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  19. สาขาวิชาย่อย (Subfield) ที่มีการอ้างอิงสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  20. ชื่อนักวิจัยที่ถูกอ้างอิงสูงสุด 10 อันดับแรก ระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  21. จำนวนความร่วมมือกับต่างประเทศจำนวนความร่วมมือกับต่างประเทศ ประเทศที่มีจำนวนผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยไทยมากที่สุด 10 อันดับแรกระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002

  22. ประเทศที่มีเปอร์เซ็นต์ผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยไทยต่อจำนวนประเทศที่มีเปอร์เซ็นต์ผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยไทยต่อจำนวน ความร่วมมือทั้งหมด มากที่สุด 10 อันดับแรก

  23. สาขาวิชาหลัก (PrimaryField) ที่มีผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยต่างประเทศระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002 มากที่สุด 10 อันดับแรก

  24. สาขาวิชาย่อย (Subfield) ที่มีผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัย ต่างประเทศระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002 มากที่สุด 10 อันดับแรก

  25. หน่วยงานที่มีผลงานตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยต่างประเทศระหว่างปี ค.ศ. 1995-2002 มากที่สุด 10 อันดับแรก

  26. บทสรุป • จำนวนบทความวิจัยของนักวิจัยไทยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากจำนวน 700 ถึง 1804 บทความต่อปีจากปี ค.ศ. 1995 ถึงปี ค.ศ. 2002 • จำนวนบทความส่วนใหญ่มาจากนักวิจัยของ Ministry of University Affairs ประมาณ 90% • มหาวิทยาลัยมหิดล (31.42%) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (18.66%) • และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (9.28%) มีจำนวนทความวิจัยสูงสุด 3 อันดับแรก • สาขาวิชาที่มีจำนวนบทความวิจัยสูงสุดคือ Clinical medicine (สาขาวิชาหลัก) Chemistry (สาขาวิชารอง) และ Chemical engineering (สาขาวิชาย่อย)

  27. บทความวิจัยของนักวิจัยที่ลงพิมพ์ในปี ค.ศ. 1995-2002 ได้รับการอ้างอิงรวมทั้งสิ้น 37,712 ครั้ง โดยบทความที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1995 มีจำนวนครั้งที่ได้รับการอ้างอิงสูงสุด • จำนวนครั้งที่บทความวิจัยของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิงสูงสุด 3 อันดับแรกมาจาก มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • สาขาวิชาที่มีจำนวนครั้งที่บทความวิจัยของนักวิจัยไทยถูกอ้างอิงสูงสุด คือ สาขาวิชา Clinical medicine (สาขาวิชาหลัก) และ สาขาวิชา General & Internal Medicine (สาขาวิชาย่อย)

  28. USA เป็นประเทศที่มีจำนวนความร่วมมือกับนักวิจัยไทยในการตีพิมพ์ผลงานวิจัยมากที่สุด รองลงมาเป็น Japan และ UK ตามลำดับ • สาขาวิชาที่มีจำนวนความร่วมมือที่นักวิจัยไทยมีผลงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยต่างประเทศสูงสุด คือ Clinical medicine (สาขาหลัก) Chemistry (สาขารอง) และ General & Internal Medicine (สาขาย่อย) • จำนวนความร่วมมือที่นักวิจัยไทยตีพิมพ์ผลงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยในต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากนักวิจัยของ มหาวิทยาลัยมหิดล รองลงมาเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  29. สถานภาพการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยในระดับนานาชาติยังตกต่ำ (จริงหรือ?) #1 • เป็นนักวิจัยแต่ไม่ตีพิมพ์ (เผยแพร่) ผลงานวิจัย (บางที แย่กว่านักวิจัยที่ไม่ทำวิจัยเลยเสียอีก) • เผยแพร่ผลงานในแหล่งตีพิมพ์ที่ไม่มีการตรวจสอบต้นฉบับอย่างเข้มข้นก่อนรับลงพิมพ์ (เช่น ในวารสารภายในประเทศ และที่ประชุมวิชาการ) • มาตรฐานการกำหนดตำแหน่งทางวิชาการยังไม่เข้มข้น อาจารย์ (ส่วนใหญ่ของผลงานตีพิมพ์) เลือกใช้ปริมาณมากกว่าคุณภาพ • ระบบการประเมิน (ทางวิชาการ) ไม่เน้นการเผยแพร่ผลงานในระดับนานาชาติ (เกรงว่าการตั้งกติกานี้จะผูกมัดตนเอง)

  30. สถานภาพการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยในระดับนานาชาติยังตกต่ำ (จริงหรือ?) #2 5. อาจารย์/นักวิจัยมีภาระงานสอน (การถ่ายทอดความรู้) มากกว่างานวิจัย (การแสวงหาความรู้) และมีงานธุรการ/บริหารมากอีกด้วย 6. อ้างว่าปัจจัยเกื้อหนุน (เงินทุน อุปกรณ์วิจัย และเวลา) ไม่เพียงพอ และเมื่อไม่มีงานวิจัยก็ไม่มีการตีพิมพ์ 7. ติดตามความรู้และเทคโนโลยีใหม่ไม่ทัน ไม่กัดติดงานวิจัยเฉพาะทาง ทำให้ไม่รู้จริง และไม่สามารถตีพิมพ์ได้ 8. ไม่รู้วิธีการเขียนบทความวิจัย (ระดับนานาชาติ) เพื่อตีพิมพ์ นักวิจัยบางท่านมีข้อจำกัดทางภาษานานาชาติ 9. นักวิจัยไทยไม่ชอบทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะนักวิจัยที่อยู่สถานบันเดียวกัน

  31. สถานภาพการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยในระดับนานาชาติยังตกต่ำ (จริงหรือ?) #3 10. ยังไม่มีระบบนักวิจัยพี่เลี้ยง 11. นักวิจัยเน้นทำงานตามผู้อื่นมากกว่าเป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิก (ปริมาณการถูกอ้างอิงน้อย) 12.ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การเผยแพร่ผลงานระดับนานาชาติ ทำให้ผลงานมีผลกระทบน้อย 14. นักวิจัยบางกลุ่มมุ่งทำงาน industrial มากกว่า basic ทำให้ไม่สามารถตีพิมพ์ได้

  32. จบการนำเสนอ • รายชื่อคณะวิจัยในโครงการ (ภายใต้การสนับสนุนจาก สวทช.) • (จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) รศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์สมบัติสมภพ คณะพลังงานและวัสดุ ดร.นงเยาว์ เปรมกมลเนตร สำนักหอสมุด นางปรียานุช รัชตะหิรัญ คณะพลังงานและวัสดุ นายวุฒิสิทธิ์ ย่อชัย คณะพลังงานและวัสดุ นายธีระศักดิ์ หมากผิน คณะพลังงานและวัสดุ

More Related