Printing Reports การออกรายงาน

1. Printing Reportsการออกรายงาน

2. วัตถุที่ยอมให้พิมพ์ข้อมูลลงได้ (Printable Objects) • แบบฟอร์ม (Forms) • เครื่องพิมพ์ (Printer) • กล่องรูปภาพ ((Picture Box) • หน้าต่างอิมมิเดียด ((Immediate Window)

3. คำสั่งพิมพ์ Form1.Print พิมพ์ลง Form1 Printer.Print พิมพ์ลง เครื่องพิมพ์ Picture1.Print พิมพ์ลง กล่องรูปภาพPicture1 Debug.Print พิมพ์ลง Immediate Window

4. รูปแบบคำสั่งพิมพ์ Object.Print varList or contList Object หมายถึง วัตถุที่สามารถสั่งพิมพ์ลงได้ ได้แก่ Form, PictuerBox, Printer, Debug (แทน Immediate Window) varList หมายถึงค่าตัวแปร ที่จะให้พิมพ์ออกมา ตั้ง แต่หนึ่งตัวขึ้นไป ถ้ามีมากกว่า 1 ตัว ต้อง คั่นด้วยเครื่องหมาย คอมมา ( , ) หรือเซมิ คอลอน ( ; )

5. contList หมายถึงค่าคงที่ ที่จะให้พิมพ์ออกมา ตั้ง แต่หนึ่งตัวขึ้นไป ถ้ามีมากกว่า 1 ตัว ต้อง คั่นด้วยเครื่องหมาย คอมมา ( , ) หรือเซมิ โคลอน ( ; )

6. การใช้เครื่องหมายคอมมาและเซมิโคลอน จะส่งผลถึงรูปแบบการพิมพ์ดังนี้ ถ้าคั่นด้วยเครื่องหมายเซมิโคลอน ค่าของตัวแปรหรือค่าคงที่ จะพิมพ์ชิดกัน ถ้าคั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา ค่าของตัวแปรหรือค่าคงที่ จะพิมพ์ลงที่จุดเริ่มต้นของเขตการพิมพ์ (Print Zone) โดยที่ 1 เขตการพิมพ์ = 14 ตัวอักษร

7. ตัวอย่าง ให้พิมพ์ข้อความลงบนแบบฟอร์ม Private Sub Form_Click() Form1.Print “I am studying VB” End Sub คีย์โปรแกรมย่อยนี้ลงที่ Form1 เมื่อสั่ง Run โปรแกรมแล้ว ทุกครั้งที่ใช้เมาส์คลิกที่แบบฟอร์ม ข้อความ I am studying VB จะพิมพ์ลงบนฟอร์ม

8. ตัวอย่าง การใช้เครื่องหมายเซมิโคลอน Private Sub Form_Click() Dim j as Integer Dim x as Single Dim t as String j = 1500 x = 12.25 t = “Thai” Form1.Print j;x;t End Sub

9. ตัวอย่าง การใช้เครื่องหมายคอมมา Private Sub Form_Click() Dim j as Integer Dim x as Single Dim t as String j = 1500 x = 12.25 t = “Thai” Form1.Print j,x,t End Sub

10. ฟังก์ชันช่วยการพิมพ์ ชื่อฟังก์ชั่น การทำงาน Spc(n) เว้นระยะไป n ตัวอักษร แล้วพิมพ์ Tab(n) เริ่มพิมพ์ตำแหน่งที่ n String(n,c) พิมพ์อักขระ c ต่อเนื่องไป n ครั้ง

11. ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชัน Spc และ Tab Private Sub Form_Click() Dim j as Integer Dim x as Single Dim t as String j = 1500 : x = 12.25 : t = “Thai” Form1.Print "Space using Spc” Form1.Print Spc(10); j ; Spc(10) ; x Form1.Print "Space using Tab" Form1.Print Tab(10) ; j ; Tab(20) ; x End Sub

12. ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชัน String สั่งพิมพ์จุดออกมาบนแบบฟอร์ม จำนวน 10 บรรทัด ๆ ละ 80 จุด Private Sub Form_Click() Dim I as Integer for I = 1 to 10 Form1.Print String(80,”.”) Next End Sub

13. คำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวนคำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวน ชื่อรูปแบบ การทำงาน Currency ใส่เครื่องหมายคอมมาที่หลักพัน และหลักล้าน Fixed แสดงตัวเลข อย่างน้อย 1 หลักที่หน้า และ 2 หลัก หลังจุดทศยนิยม

14. คำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวนคำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวน ชื่อรูปแบบ การทำงาน Standard ใส่เครื่องหมายคอมมาที่หลักพันและ หลักล้าน และแสดงตัวเลข อย่างน้อย 1 หลัก หน้าจุดทศนิยม และ 2 หลัก ที่หลังจุดทศนิยม Percent แสดงเครื่องหมายร้อยละ (%) Scientific แสดงเลขจำนวนที่มีอักษร E และ กำลังของ E

15. คำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวนคำสั่งจัดรูปแบบข้อมูลเลขจำนวน ชื่อรูปแบบ การทำงาน Yes/No แสดง Yes ถ้าค่าไม่ใช่ 0 และ No ถ้า ค่าเป็น 0 True/False แสดง Trueถ้าค่าไม่ใช่ 0 และ Falseถ้าค่า เป็น 0 On/Off แสดง Onถ้าค่าไม่ใช่ 0 และ Offถ้า ค่าเป็น 0

16. สั่งพิมพ์ตามปกติ Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double j = 1285547204 x = 0.000000456 y = 7562.2147 Form1.Print j Form1.Print x Form1.Print y End Sub

17. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Currency Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double j = 1285547204 x = 0.000000456 y = 7562.2157 Form1.Print Format(j, "Currency") Form1.Print Format(x, "Currency") Form1.Print Format(y, "Currency") End Sub

18. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Fixed Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double j = 1285547204 x = 0.000000456 y = 7562.2157 Form1.Print Format(j, "Fixed") Form1.Print Format(x, "Fixed") Form1.Print Format(y, "Fixed") End Sub

19. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Standard Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double j = 1285547204 x = 0.000000456 y = 7562.2157 Form1.Print Format(j, "Standard") Form1.Print Format(x, "Standard") Form1.Print Format(y, "Standard") End Sub

20. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Percent Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double x = 0.0245759 Form1.Print Format(x, ”Percent") End Sub

21. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Scientific Private Sub Form_Click() Dim j as Long Dim x,y as Double j = 1285547204 x = 0.000000456 y = 7562.2157 Form1.Print Format(j, "Scientific") Form1.Print Format(x, " Scientific ") Form1.Print Format(y, " Scientific ") End Sub

22. สั่งพิมพ์โดยใช้รูปแบบ Yes/No, True/False และ On/Off Private Sub Form_Click() Dim j,k,i as Integer j = 0 k = 2 l = 1 Form1.Print Format(j, Yes/No”") Form1.Print Format(k, " True/False ") Form1.Print Format(l, " On/Off ") End Sub

23. กำหนดตำแหน่งของเลขจำนวนตามที่ต้องการกำหนดตำแหน่งของเลขจำนวนตามที่ต้องการ สัญลักษณ์ การทำงาน 0 แสดงเลขจำนวน ถ้าไม่มี ให้ใส่ 0 # แสดงเลขจำนวน ถ้าไม่มี ให้ว่าง .ให้แสดงจุดทศนิยมที่ตำแหน่งนั้น ,ให้ใส่เครื่องหมายคอมมาที่ตำแหน่งนั้น % ให้ใส่เครื่องหมายร้อยละ

24. สัญลักษณ์ การทำงาน E-,E+,e-,e+ ใช้ E-, e- เมื่อต้องการให้แสดงเครื่อง หมายลบหน้ากำลังที่เป็นลบ ถ้ากำลังเป็น บวก ไม่ ต้องแสดงเครื่องหมาย และใช้ E+, e+ ถ้าต้องการให้แสดงเครื่องหมายทั้งบวก และลบ

25. การจัดกรูปแบบข้อมูลเวลาการจัดกรูปแบบข้อมูลเวลา ชื่อรูปแบบ การทำงาน Long Date พิมพ์วันที่ เดือน ปี Medium Date พิมพ์วันที่ เดือนย่อ และสองหลักสุด ท้ายของเลขท้ายปี Short Date พิมพ์วัน เดือน และสองหลักสุดท้าย ของปีเป็นตัวเลข โดยมีเครื่องหมาย ทับคั่น

26. ชื่อรูปแบบ การทำงาน Long Time ชั่วโมง:นาที:วินาที Medium Time ชั่วโมง:นาที:AM หรือ PM Short Time ชั่วโมง:นาที

27. ตัวอย่างโปรแกรมแสดงวันและเวลาตัวอย่างโปรแกรมแสดงวันและเวลา Private Sub Form_Click() Dim dateX As Date dateX = Now Form1.Print " General date ", dateX Form1.Print "Long Date ", Format(dateX, "Long Date") Form1.Print "Medium Date ", Format(dateX, & _"Medium Date") Form1.Print "Short Date ", Format(dateX, "Short Date") Form1.Print " Long Time ", Format(dateX, "Long Time") Form1.Print " Medium Time ", Format(dateX, "Medium Time") Form1.Print " Short Time", Format(dateX, "Short Time") End Sub

28. Working with Fonts การปรับปรุงแบบอักษร

29. คุณสมบัติเกี่ยวกับชื่อ ขนาด และรูปร่างของแบบอักษร คุณสมบัติ ความหมาย Name กำหนดชื่อแบบอักษรที่ต้องการ เช่น ถ้า ต้องการกำหนดชื่อแบบอักษรที่จะพิมพ์ บน Form1 เขียนคำสั่งดังนี้ Form1.Font.Name = “AngsanaUPC”

30. คุณสมบัติ ความหมาย Size กำหนดความสูงตัวอักษร มีหน่วยเป็นจุด เช่น Form1.Font.Size = 14 Picture1.Font.Size = 72 Bold กำหนดอักษรตัวหนา หรือยกเลิกอักษร ตัวหนา เช่น Form1.Font.Bold = True ให้อักษรหลังจากคำสั่งนี้เป็นตัวหนา

31. คุณสมบัติ ความหมาย Form1.Font.Bold = False ให้อักษรที่เป็นตัวหนาอยู่หลังจากคำสั่ง นี้ เป็นตัวปรกติ Italic กำหนดอักษรเป็นตัวเอียง หรือยกเลิก ตัวเอียงเช่น Form1.Font.Italice = True ให้อักษรหลังจากคำสั่งนี้เป็นตัวเอียง

32. คุณสมบัติ ความหมาย Underline กำหนดให้ขีดใต้ 1 เส้น หรือยกเลิก การขีดเส้นใต้ เช่น Picture1.Font.Underline = True ให้อักษรหลังจากคำสั่งนี้เป็นตัวที่มีขีด เส้นใต้ เช่น Picture1.Font.Underline = False ให้อักษรที่มีขีดเส้นใต้ หลังจากคำสั่งนี้ กลับมาเป็นเป็นตัวปรกติ

33. คุณสมบัติ ความหมาย StrikeThrough กำหนดให้ขีดเส้นทับ 1 เส้น หรือยกเลิก การขีดเส้นทับ เช่น Picture.Font.StrikeThrough = True ให้อักษรหลังจากคำสั่งนี้เป็นตัวที่มีขีด เส้นทับ เช่น Picure1.Font.StrikeThrough = False ให้อักษรที่มีขีดเส้นทับ หลังจากคำสั่งนี้ กลับมาเป็นเป็นตัวปรกติ

34. คุณสมบัติ ความหมาย Weight กำหนดความหนาของเส้นที่ใช้แสดงตัว อักษร มีหน่วยเป็นจุด เช่น Form1.Font.Weight = 400 เป็นตัวอักษรปรกติ Form1.Font.Weight = 700 เป็นตัวอักษรตัวหนา

35. ค่าคงที่เกี่ยวกับสี สีมาตรฐานของวิชวลเบสิก ค่าคงที่ สี vbBlack ดำ (Black) vbRed แดง (Red) vbGreen เขียว (Green) vbYellow เหลือง (Yellow) vbBlue น้ำเงิน (Blue) vbMagenta ม่วง (Magenta) vbCyan ฟ้า (Cyan) vbWhite ขาว ( White ) White

36. ฟังก์ชันแดงเขียวน้ำเงิน (RGB) รูปแบบ RGB(red, green, blue) redค่าของสีแดง เป็นเลขจำนวนเต็ม 0 - 255 greenค่าของสีเขียว เป็นเลขจำนวนเต็ม 0 - 255 blueค่าของสีน้ำเงิน เป็นเลขจำนวนเต็ม 0 - 255

37. สี ค่าสีแดง ค่าสีเขียว ค่าสีน้ำเงิน Black 0 0 0 Blue 0 0 255 Green 0 255 0 Cyan 0 255 255 Red 255 0 0 Magenta 255 0 255 Yellow 255 255 0 White 255 255 255 White ฟังก์ชันแดงเขียวน้ำเงิน RGB

38. ฟังก์ชันคิวบี (QBColor) รูปแบบ QBColor(color) colorเป็นค่าคงที่ของสีคิวบี เป็นเลขจำนวนเต็ม มีค่า 0 - 15

39. ค่าของสี สี ค่าของสี สีค่าของสี สี ค่าของสี สี 0 Black 8 Gray 1 Blue 9 Light Blue 2 Green 10 Light Green 3 Cyan 11 Light Cyan 4 Red 12 Light Red 5 Magenta 13 Light Magenta 6 Yellow 14 Light Yellow 7 White 15 Bright White

40. การกำหนดสีอักษรที่จะพิมพ์ลงบนวัตถุต่าง ๆ จะต้องกำหนด ForeColor ให้รับสีต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เช่น Form1.ForeColor = vbRed หรือ Form1.ForColor = RGB(255,0,0) หรือ Form1.ForColor = QBColor(4) Form1.Print “ภาษาวิชวลเบสิก” ข้อความ “ภาษาวิชวลเบสิก” ที่พิมพ์บน Form1 จะเป็นแดง

41. ตัวอย่าง พิมพ์ข้อความลงบนแบบฟอร์ม ให้มีขนาดและสีที่แตกต่างกัน กำหนดวัตถุ ชื่อโดยปริยาย ชื่อที่ตั้ง ข้อความเทกซ์ ข้อความแคพชัน Form1 Picture1 Picture1 Command1 cmdPrintForm พิมพ์บนแบบฟอร์ม Command3 cmdPrintPicture พิมพ์บนกล่องรูปภาพ Command3 cmdExit เลิก

43. เขียนโปรแกรมให้วัถุควบคุมเขียนโปรแกรมให้วัถุควบคุม

44. สั่ง Run โปรแกรม แล้วคลิก “พิมพ์บนแบบฟอร์ม” และ “พิมพ์บนกล่องรูปภาพ”

45. Displaying Graphic การแสดงผลกราฟิก

46. การกำหนดจุดโคออดิเนต การวาดรูป หรือพิมพ์ข้อความใด ๆ แบบกราฟิกลงบนวัตถุ ต้องมีการกำหนดระยะว่า จะวาดลงตำแหน่งใด การกำหนดตำแหน่งนี้ต้องอาศัยกฏเกณฑ์ของการสร้างกราฟ คือกำหนดจุดออริยินและจุดโคออดิเนตของกราฟ แล้วกำหนดระยะตามแนวแกน Xและ แกน Y

47. แกน X และ Y ของจอภาพ แกน X จุดออริยิน แกน Y

48. หน่วยวัด (ScaleMode) ทวิพ (Twip) 1 ทวิพ = 1440 นิ้ว หรือ 567 เซนติเมตร จุด (Point) 1 จุด= 72 นิ้ว พิกเซล (Picxel) จุดเล็กที่สุดในจอภาพ อักขระ (Character) ขนาดอักขระ 1 ตัว ที่กว้างระมาณ 120 ทวิพ สูงประมาณ 240 ทวิพ).

49. ค่าคงที่ของหน่วยวัด รูปแบบ object.ScaleMode = value ค่า ค่าคงที่ 1 VbTwips (ค่าโดยปริยาย) 2 VbPoints 3 VbPixels 4 vbCharacters 5 VbInches 6 VbMillimeters 7 VbCentimeters

50. Drawing Methods วิธีการการวาด