150 likes | 331 Views
HOME. location. HISTORY. Venezia. Tourist. NEXT. Italy. BACK. นางสาวพัชริดา คุมพล รหัส 56010214 กลุ่ม 5 คณะพยาบาลศาสตร์. HOME. location. location.
E N D
HOME location HISTORY Venezia Tourist NEXT Italy BACK นางสาวพัชริดา คุมพล รหัส 56010214 กลุ่ม 5 คณะพยาบาลศาสตร์
HOME location location เวนิส(อังกฤษ: Venice)หรือเวเนเซีย(อิตาลี: Venezia)เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก(Queen of the Adriatic),เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลอาเดรียติก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในเทอร์ราเฟอร์มา (Terraferma) และ 31,000 คนในเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME HISTORY location เมืองเวนิสเดิมเป็นชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณลากูนที่รวมตัวเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้านอันตรายจากชนลอมบาร์ด,ชนฮั่น และกลุ่มชนอื่นที่เริ่มเข้ามารุกรานหลังจากอำนาจของจักรวรรดิโรมันตะวันตกเริ่มลดถอยลงในบริเวณทางตอนเหนือของอิตาลี ในเวลาระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 ชุมชนในบริเวณลากูนก็เลือกตั้งผู้นำคนแรกออร์โซ อิพาโต (OrsoIpato) ที่ได้รับการอนุมัติจากไบแซนเทียมและได้รับตำแหน่ง “Hypatos” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้ในจักรวรรดิไบแซนไทน์ที่เทียบเท่ากับ “กงสุล” และ “Dux” ที่ต่อมาแผลงมาเป็น “ดยุค” ออร์โซ อิพาโตเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นดยุคแห่งเวนิส (Doge of Venice) คนแรก แต่ในหลักฐานจากคริสต์ศตวรรษที่ 11 กล่าวว่าชาวเวนิสประกาศให้เพาโลลูชิโอ อนาเฟสโต (Paolo LucioAnafesto) เป็นดยุคในปี ค.ศ. 697 แต่หลักฐานนี้ก็เป็นเพียงบันทึกของจอห์นผู้เป็นดีคอนของเวนิส แต่จะอย่างไรก็ตามดยุคแห่งเวนิสก็มีอำนาจอยู่ที่เอราเคลีย HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location เวนิสเป็นเมืองอิสระแห่งอาณาจักรโรมันตะวันออกตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ในช่วงยุคกลาง เวนิสได้ขยายอำนาจและอิทธิพลแผ่ออกไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงคอนสแตนติโนเปิล(ปัจจุบันคือ อีสตันบูล) เป็นเมืองเชื่อมทางการค้ากับทางตะวันออก มีความมั่งคั่งอย่างมหาศาล มีทรัพย์สมบัติทางศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมายตลอดเมือง แค่ความงามของ St. Mark’s อย่างเดียวก็สามารถเผยความจริงของเมืองเวนิสประจักษ์ต่อชาวโลก โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง 14 ค่ะ ในปีต่อๆ มาผืนดินก็ค่อยๆ แตกแยกแปลสภาพเป็นรัฐต่างๆ จนกระทั่งปี 1797 ตกไปอยู่ในการปกครองของนโปเลียน และท้ายที่สุดเวนิสเข้าร่วมกลุ่มราชอาณาจักรของอิตาลีในปี 1866 ซึ่งเป็นการนำความเป็นหนึ่งอันเดียวกันเป็นครั้งแรกในประศาสตร์ของประเทศ ปัจจุบันเวนิสมีบทบาทใหม่ ซึ่งอาคารโบราณต่างๆ นั้นได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า โรงแรม และอพาร์ทเมนท์ อย่างไรก็ตาม มนตร์ขลังของความเก่านั้นยังไม่จืดจางเลย HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME Tourist location เวนิสเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตลอดปี เนื่องจากมีการจัดงานตามเทศ กาล คอนเสิร์ต โอเปร่า ละคร งานประกวดภาพยนตร์นานาชาติ งานเทศกาลสินค้า ตลาดนัด นิทรรศการงานศิลปะ การประชุมสัมมนา การแข่งขันกีฬา และกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอื่นๆ เฉลี่ยตลอดทั้งปี งานเทศกาลเก่าแก่และที่มีชื่อได้แก่ งาน Carnevalediveneziaจัดประมาณกุมภาพันธ์ทุกปี การแข่งเรือ (Vogalonga)จัด ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี นอกจากนี้ งานเทศกาลสำคัญอื่นๆ ได้แก่ La festadellaSensa , Il Redentore , La RegataStorica , La festadella Salute ,La stagioneremiera , ฯลฯ HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location เรือกอนโดลา (Gondola)อีกสัญลักษณ์หนึ่งของเวนิส มีความเชื่อมาว่า ถ้าคู่รักได้จูบกัน เมื่อตอนระฆังปาไนล์ดังตอนเย็น ขณะลอดข้ามสะพานถอนหายใจ ถือว่าคนนั้นจะรักกันยืนนาน HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sigh)สะพานนี้ใช้เดินข้ามเพื่อไปเข้าคุกที่อยู่อีกฝั่ง วิวที่เห็นจากสะพานนี้จะเป็นวิวที่สวยงามของเมืองเวนิส แสงสว่างที่เห็นจากช่องสะพาน นักโทษจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ยก่อนเข้าคุก และจะถอนหายใจด้วยเหตุผลนี้ เพราะรู้ตัวว่าจะไม่มีโอกาสเดินออกมาเห็นแสงสว่างอีกแล้ว ตามประวัติมีอยู่คนเดียวที่ได้ออกมาเขาคือ… คาสโนว่า นักรักผู้ยิ่งใหญ่ HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location วิหาร เซนต์ มาร์ค (St Mark's Cathedral - Basilica di San Marco )มหาวิหารและจตุรัสซานมาร์โก้ (San Marco) ที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นอาคารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ อาหรับ โรมันเนสก์เรอเนซองซ์ เข้าไว้ด้วยกัน มียอดโดมแบบอาหรับ ในมหาวิหารนี้เชื่อว่าบรรจุศพของเซนต์มาร์ก (หรือที่ชาวแคทอลิกในเมืองไทยรู้จักในนามว่ามาระโกผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพันธสัญญาใหม่บทที่ 3) ที่ (เชื่อกันอีกว่า) ชาวเวนิสไปโขมยมาจากเมืองอเลกซานเดรีย HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location เทศกาลคาร์นิวาล ทุกปีในช่วงกลางเดือนกุมภาฯ งานคาร์นิวาลที่เมืองเวนิส จัดว่าเป็นงานที่ไม่ควรพลาดเป็นที่สุด ปกติในเทศกาลคาร์นิวาล คนที่มาร่วมงานก็จะแต่งชุด Custumeแปลกๆ สีสันสดใส แต่ในเวนิสไม่เพียงแค่นั้น ที่สำคัญและขาดไม่ได้ คือ ทุกคนต้องสวมหน้ากากด้วย เทศกาลคาร์นิวาล เป็นประเพณี ตั้งแต่สมัยที่เวนิสรุ่งเรืองแล้ว คนที่มาร่วมงานคาร์นิวาลจะต้องสวมหน้ากาก ด้วยเหตุผลที่ว่า คนที่มีฐานะสูงๆในเวนิส เวลามาร่วมสนุกในงาน ต้องการปกปิดฐานะของตนเอง ในงานก็จะสามารถฉลองได้อย่างเต็มที่ (บางครั้งก็อาจไม่ค่อยถูกศีลธรรมมากนัก) จะได้ไม่ต้องกลัวคนรู้จัก และเสื่อมเสียชื่อเสียงภายหลัง HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location ร้านหน้ากาก มีอยู่ทั่วเมืองเวนิส บ้างร้านก็เปิดโชว์วิธีการทำให้ดู ตั้งแต่ การทำแบบ จนถึง ลงสี และลวดลาย ราคาก็มีตามระดับคุณภาพ ตั้งแต่หน้ากาก mass product ราคาไม่กี่สิบยูโร จนถึงแบบ ต้นตำหรับ ราคาหลักร้อยยูโรเป็นต้นไป เพนต์หน้า เป็นอีกทางเลือกนึง สำหรับคนที่ไม่ชอบใส่หน้ากาก ธุรกิจเพนต์หน้า ในช่วงคาร์นิวาล จะเฟื่องฟูมาก มีแผงลอย มากกว่าสิบแผงให้เลือก เพนต์ ได้ตามอัธยาศัย HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location HISTORY Tourist NEXT BACK
HOME location HISTORY Tourist NEXT BACK