1 / 50

มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 : ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 33 : ต้นทุนการกู้ยืม

มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 : ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 33 : ต้นทุนการกู้ยืม. ขอบเขต. มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ไม่ครอบคลุมถึง - ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติอื่นซึ่งสามารถสร้างขึ้นทดแทนได้ - สัมปทานเหมืองแร่ การสำรวจและการขุดแร่ น้ำมัน

Sophia
Download Presentation

มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 : ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 33 : ต้นทุนการกู้ยืม

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 : ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 33 : ต้นทุนการกู้ยืม

  2. ขอบเขต มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ไม่ครอบคลุมถึง - ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติอื่นซึ่งสามารถสร้างขึ้นทดแทนได้ - สัมปทานเหมืองแร่ การสำรวจและการขุดแร่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติอื่นซึ่งไม่สามารถ สร้างขึ้นทดแทนได้

  3. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สินทรัพย์ที่มีตัวตนซึ่งเข้าเงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้ • กิจการมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิต เพื่อใช้ในการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ เพื่อให้เช่า หรือเพื่อใช้ในการบริหารงาน • คาดว่าจะใช้ประโยชน์มากกว่าหนึ่งรอบปีบัญชี

  4. การรับรู้รายการ รายการที่เป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ต้องรับรู้เป็นสินทรัพย์เมื่อเป็นไปตาม เงื่อนไขทุกข้อ ดังต่อไปนี้ • มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากสินทรัพย์นั้น • สามารถกำหนดราคาทุนของสินทรัพย์ได้อย่างสมเหตุสมผล

  5. การวัดมูลค่าและการได้มาการวัดมูลค่าและการได้มา การได้มาของที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ การซื้อสินทรัพย์ • ซื้อด้วยเงินสด • ซื้อโดยการผ่อนชำระ • ซื้อโดยการออกหุ้น สินทรัพย์ที่ ได้รับบริจาค การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ • สินทรัพย์ที่ไม่คล้ายคลึงกัน • สินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน สินทรัพย์ที่ ก่อสร้างเอง

  6. การวัดมูลค่าและการได้มาการวัดมูลค่าและการได้มา การวัดมูลค่า การวัดมูลค่าเริ่มแรก การวัดมูลค่าภายหลัง ราคาทุน ราคาทุน หรือ ราคาที่ตีใหม่

  7. การวัดมูลค่าเริ่มแรก มูลค่าเริ่มแรกของสินทรัพย์ ที่เข้าเกณฑ์การรับรู้รายการ ราคาทุน องค์ประกอบของราคาทุน • ราคาซื้อ • ต้นทุนทางตรงเพื่อให้สินทรัพย์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาหรือทำให้สินทรัพย์พร้อมใช้งาน • ต้นทุนการกู้ยืม • ค่าใช้จ่ายในการเริ่มเดินเครื่อง / ในการเตรียมผลิต บันทึกด้วย

  8. การวัดมูลค่าเริ่มแรก : 1.การซื้อสินทรัพย์ ราคาซื้อ+ ค่าภาษี + ภาษีซื้อที่เรียกคืนไม่ได้ + ต้นทุนทางตรงอื่น – ส่วนลดการค้า – ภาษีที่จะได้รับคืน 1.1ซื้อเงินสด 1.2ซื้อโดยผ่อนชำระ • บันทึกด้วยมูลค่าเทียบเท่ากับการซื้อด้วยเงินสด • ผลต่างระหว่างราคาเงินสดและราคาที่ต้องชำระจริงให้ตัดเป็นดอกเบี้ยจ่ายตลอดอายุของการได้สินเชื่อ 1.3ซื้อโดยการออกหุ้น • บันทึกด้วยราคาตลาดของหุ้นที่ออกให้ • หากไม่สามารถหาราคาตลาดของหุ้นได้ ให้ใช้ราคาตลาดของสินทรัพย์ที่ได้รับมา

  9. การวัดมูลค่าเริ่มแรก :2.การได้รับบริจาคสินทรัพย์ สินทรัพย์ที่ ได้รับบริจาค • บันทึกสินทรัพย์ที่ได้รับบริจาคด้วยราคายุติธรรมของสินทรัพย์ • บันทึกรายได้จากการรับบริจาคในงวดที่ได้รับสินทรัพย์

  10. การวัดมูลค่าเริ่มแรก : 3.การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ * BVของสินทรัพย์ที่โอนให้ไป ต้องไม่สูงกว่า FVของสินทรัพย์ที่ได้มา * ไม่รับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการแลกเปลี่ยน 3.1การแลกเปลี่ยน สินทรัพย์คล้ายคลึงกัน บันทึกด้วย BVของสินทรัพย์ที่โอนให้ไป • สินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน คือ - มีประโยชน์ใช้สอยแบบ เดียวกันในธุรกิจชนิดเดียวกัน - มี FVใกล้เคียงกัน

  11. การวัดมูลค่าเริ่มแรก : 3.การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ 3.2การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ ที่ไม่คล้ายคลึงกัน บันทึกด้วย FVของสินทรัพย์ที่ได้รับ = FV สินทรัพย์ที่นำไปแลก + เงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดที่กิจการโอน หรือได้รับโอนในการแลกเปลี่ยน *รับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนทันที

  12. การวัดมูลค่าเริ่มแรก : 4.การสร้างสินทรัพย์เอง ต้นทุนของสินทรัพย์ ที่สร้างขึ้นเอง • ค่าวัตถุดิบทางตรง • ค่าแรงงานทางตรง • ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้าง • ต้นทุนการกู้ยืม ( TAS 33)

  13. ต้นทุนการกู้ยืม (TAS#33) ต้นทุนการกู้ยืม หมายถึง ดอกเบี้ยและต้นทุนอื่นที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมของกิจการ เช่น • ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร และจากเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวรวมทั้งภาษีที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยดังกล่าวที่ผู้กู้ต้องรับภาระ • จำนวนที่ตัดบัญชีของส่วนลดหรือส่วนเกินที่เกี่ยวกับการกู้ยืม • จำนวนที่ตัดบัญชีของรายจ่ายที่เกี่ยวกับการจัดการกู้ยืม • ค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เกิดจากสัญญาเช่าทางการเงินที่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี เรื่อง การบัญชีสำหรับสัญญาเช่าระยะยาว • ผลต่างอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้และดอกเบี้ยที่เป็นเงินตราต่างประเทศ

  14. การรับรู้ต้นทุนการกู้ยืมการรับรู้ต้นทุนการกู้ยืม แนวทางที่อาจ เลือกปฏิบัติ แนวทางที่กำหนด ให้ถือปฏิบัติ • เป็นค่าใช้จ่าย • ในงวดบัญชีที่ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น เป็นราคาทุนของสินทรัพย์ หากต้นทุนนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับ การได้มา การก่อสร้าง หรือผลิต “สินทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข”

  15. Qualifying Assets ลักษณะของสินทรัพย์ ที่เข้าเงื่อนไข ทั้งนี้ไม่รวมถึง • เงินลงทุนอื่น • สินค้าที่ทำการผลิตเป็นประจำ สินค้าที่ผลิตเป็นจำนวนมาก โดยมีขั้นตอนการผลิตซ้ำ ๆ ในช่วงระยะเวลาสั้น • สินทรัพย์ที่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์หรือพร้อมที่จะ ขายทันทีที่ซื้อ • ใช้ระยะเวลานานในการเตรียมพร้อมก่อนนำไปใช้หรือนำไปขาย

  16. Capitalization period (1/2) • เมื่อเข้าเกณฑ์ทุกข้อ ต่อไปนี้ • รายจ่ายที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ได้เกิดขึ้น • ต้นทุนการกู้ยืมได้เกิดขึ้น • สินทรัพย์อยู่ระหว่างการดำเนินการที่จำเป็นในการเตรียมสินทรัพย์ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ตามประสงค์หรือจะขาย การเริ่มต้นการรวมต้นทุนการ กู้ยืมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ การหยุดพักการรวมต้นทุนการ กู้ยืมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ ต้องหยุดพักในระหว่างที่การดำเนินการพัฒนา สินทรัพย์หยุดชะงักลงเป็นเวลาต่อเนื่อง

  17. Capitalization period (2/2) • การดำเนินการส่วนใหญ่ที่จำเป็นในการเตรียมสินทรัพย์ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้หรือพร้อมที่จะขายได้เสร็จสิ้นลง • ในกรณีที่สินทรัพย์สร้างเสร็จเป็นบางส่วนและสามารถใช้งานได้ขณะที่สินทรัพย์ส่วนอื่นยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้หยุดรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ส่วนที่สร้างเสร็จหากการดำเนินการส่วนใหญ่ที่จำเป็นในการเตรียมสินทรัพย์บางส่วนให้พร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์หรือพร้อมที่จะขายของสินทรัพย์ส่วนนั้นเสร็จสิ้นลง การสิ้นสุดการรวมต้นทุนการ กู้ยืมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์

  18. สามารถรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของที่ดินได้ สามารถรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของที่ดินได้ ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.41 ถึง 30 เม.ย.41 ตัวอย่าง บริษัทแห่งหนึ่งมีการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน ดังนี้ 1 ม.ค.41 ทำสัญญาซื้อที่ดินเพื่อจัดสรรขาย โดยวางมัดจำ 500,000 บาท กำหนดจ่ายเงิน วันที่ 1 มี.ค.41 2 ม.ค.41 กู้เงิน 10 ลบ. มีค่าใช้จ่ายในการกู้ยืม 300,000 บาท 1 มี.ค.41 เบิกเงินกู้จากธนาคารเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าที่ดิน และเริ่มจ่ายดอกเบี้ย 7 เม.ย.41 ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเพื่อปรับพื้นที่ 30 เม.ย.41 รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเสร็จแต่ยังมิได้ปรับพื้นที่ 31 ธ.ค.41 ยังมิได้ปรับพื้นที่ โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจยังไม่ อำนวย จึงหยุดพักโครงการไว้ก่อน แต่ยังไม่ล้มเลิก

  19. สามารถรวมเป็นต้นทุนการกู้ยืมได้สามารถรวมเป็นต้นทุนการกู้ยืมได้ ทั้งจำนวน Amount to capitalize (1/2) เงินที่กู้มาโดยเฉพาะเพื่อ การจัดหาสินทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข รายได้ที่เกิดจากการนำ เงินกู้ดังกล่าวไปลงทุน เป็นการชั่วคราว ต้นทุนการกู้ยืมที่ เกิดขึ้นจริงระหว่างงวด ต้นทุนการกู้ยืม =

  20. Amount to capitalize (2/2) เงินที่กู้มาเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป และได้นำมาใช้จัดหาสินทรัพย์ที่ เข้าเงื่อนไข จำนวนต้นทุนการกู้ยืมที่รวมเป็น ราคาทุนของสินทรัพย์ในงวดนั้นต้อง ไม่เกินจำนวนต้นทุนการกู้ยืมทั้งสิ้น ที่เกิดขึ้นในงวดเดียวกัน อัตราการตั้งขึ้น เป็นทุนของสินทรัพย์ ต้นทุนการกู้ยืม = รายจ่ายของสินทรัพย์ X อัตราถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของต้นทุนการกู้ยืมในระหว่างงวดที่ ไม่รวมต้นทุนการกู้ยืมของเงินที่กู้มาโดยเฉพาะ

  21. ตัวอย่าง การคำนวณต้นทุนการกู้ยืมจากเงินกู้ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการจัดหา QA บริษัททำสัญญากู้ยืมเงิน 20 ล้านบาท เพื่อการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ อัตราดอกเบี้ย 12 % ต่อปี การก่อสร้างเริ่ม ณ วันที่ 1 มิ.ย.41 โดยได้รับเงินกู้ 3 งวด ดังนี้ งวดที่ วันที่ได้รับเงินกู้ จำนวนเงินกู้ 1 1 มิ.ย.41 4,000,000 2 1 ก.ย.41 10,000,000 3 1 ธ.ค.41 6,000,000 บริษัทได้ชำระค่าก่อสร้างโรงงานไปบางส่วนแล้วจำนวน 15 ล้านบาท และนำเงินกู้ส่วนที่เหลือไปลงทุนชั่วคราวได้รับผลตอบแทนทั้งสิ้น 300,000 บาท

  22. การคำนวณต้นทุนการกู้ยืมรวมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ ณ 31 ธ.ค.41 งวดที่ วันที่ได้รับเงินกู้ เงินกู้ ดอกเบี้ยจ่าย 1 1 มิ.ย.41 4,000,000 (4,000,000x12%x7/12) = 280,000 2 1 ก.ย.41 10,000,000 (10,000,000x12%x4/12) = 400,000 3 1 ธ.ค.41 6,000,000 (6,000,000x12%x1/12) = 60,000 รวม 20,000,000 740,000 หัก ผลตอบแทนจากการลงทุนชั่วคราว 300,000 ต้นทุนการกู้ยืมที่รวมเป็นราคาทุนสินทรัพย์ 440,000

  23. ตัวอย่าง การคำนวณต้นทุนการกู้ยืมจากเงินกู้ที่มีวัตถุประสงค์ทั่วไปแต่นำเงินกู้นั้นมาจัดหา QA บริษัทกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุน 3 แหล่งในปี 2541 ดังนี้ 1. เงินกู้ 10 ลบ. อายุ 5 ปี อัตราด/บ 10 % ต่อปี กู้มาเมื่อ 1 ม.ค. 41 2. เงินกู้ 20 ลบ. อายุ 20 ปี อัตราด/บ 8% ต่อปี กู้มาเมื่อ 1 เม.ย. 41 3. เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารถัวเฉลี่ย 3 ลบ. อัตรา ด/บ ผันแปร และมี ด/บ ทั้งสิ้น 450,000 บาท บริษัทมีราคาตามบัญชีของ QA ดังนี้ ยอดต้นงวด - 1 ม.ค. 40 0 บาท เพิ่มระหว่างงวด 6,000,000 บาท (รวมต้นทุนการกู้ยืม700,000 บาท) ยอดต้นงวด - 1 ม.ค. 41 6,000,000 บาท เพิ่มระหว่างงวด 16,000,000 บาท ยอดปลายงวด - 31 ธ.ค.41 22,000,000 บาท

  24. อัตราการตั้งขึ้นเป็นทุนและต้นทุนการกู้ยืม คำนวณดังนี้ อัตราการตั้งขึ้นเป็นทุน = [2,650,000/33,000,000]*100 = 8.03% ต้นทุนการกู้ยืมคำนวณจากรายจ่ายโดยประมาณ = 14,000,000 * 8.03% = 1,124,200 เงินต้นดอกเบี้ย เงินกู้ อายุ 5 ปี 10,000,000 (10,000,000x10%) = 1,000,000 เงินกู้ อายุ 20 ปี 20,000,000 (20,000,000x8%x9/12) = 1,200,000 O/D 3,000,000450,000 รวมทั้งสิ้น 33,000,0002,650,000 รายจ่ายโดยประมาณที่เชื่อถือได้ = 6,000,000 + 22,000,000 2 = 14,000,000 ต้นทุนการกู้ยืมจำนวน 1,124,200 นำมารวมเป็นราคาทุนของ สินทรัพย์ได้ทั้งจำนวน เนื่องจากมีจำนวนน้อยกว่าต้นทุนการกู้ยืม ที่เกิดขึ้นจริงจำนวน 2,650,000

  25. การเปิดเผยข้อมูล • กิจการต้องเปิดเผยถึงข้อมูลดังต่อไปนี้ • นโยบายการบัญชีที่ใช้สำหรับต้นทุนการกู้ยืม • จำนวนต้นทุนการกู้ยืมที่รวมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ในระหว่างงวด • อัตราการตั้งขึ้นเป็นทุนที่ใช้คำนวณต้นทุนการกู้ยืม ที่อนุญาตให้รวมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์

  26. About the revised IAS 23 : borrowing costs • ปรับปรุง IAS23 ให้มีความคล้ายคลึงกับ หลักปฏิบัติใน US GAAP มากขึ้น • การลดทางเลือกในการปฏิบัติในการรับรู้รายการ “ต้นทุนการกู้ยืม” โดย ยกเลิก แนวทางปฏิบัติที่ให้รับรู้ต้นทุนการกู้ยืมเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น หากต้นทุนการกู้ยืมนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมพร้อมเพื่อให้สามารถนำสินทรัพย์นั้นมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์หรือนำไปขาย (สินทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) • การปรับปรุงนี้ไม่รวมถึง เงินลงทุนอื่น, สินค้าที่ทำการผลิตเป็นประจำ, สินค้าที่ผลิตเป็นจำนวนมาก โดยมีขั้นตอนการผลิตซ้ำๆ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมพร้อมเพื่อให้สามารถนำมาใช้หรือนำไปขายก็ตาม • การปรับปรุง IAS23 นี้ให้ถือปฏิบัติกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลัง วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

  27. รายจ่ายภายหลังการได้มาซึ่งสินทรัพย์รายจ่ายภายหลังการได้มาซึ่งสินทรัพย์ รายจ่ายภายหลังของสินทรัพย์ ที่ได้มีการรับรู้รายการแล้ว รายจ่ายภายหลังประเภทอื่น บันทึกเป็นสินทรัพย์ เมื่อมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ ที่จะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ในอนาคตมากขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม ให้รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวด ที่เกิดรายการ

  28. ค่าเสื่อมราคา ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคา การกำหนดอายุการ ใช้งานของสินทรัพย์ วิธีการคิดค่า เสื่อมราคา มูลค่าเสื่อมสภาพ 1.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2. การชำรุดเสียหาย 3. ความล้าสมัยทางด้านเทคนิค 4. ข้อจำกัดในการใช้สินทรัพย์ 1.วิธีเส้นตรง 2.วิธียอดลดลง 3.วิธีจำนวนผลผลิต =ราคาทุน – ราคาซากที่ประมาณไว้ * ในกรณีที่กิจการตีราคาสินทรัพย์ใหม่กิจการต้องคำนวณค่าเสื่อมราคาจากราคาที่ตีใหม่ การทบทวนวิธีการ คิดค่าเสื่อมราคา การทบทวนอายุการใช้งาน

  29. การวัดมูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรกการวัดมูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรก • แนวทางที่กำหนดให้ปฏิบัติ • แสดงด้วย ราคาทุน หักค่าเสื่อมราคาสะสมและค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์(ถ้ามี) • แนวทางที่อาจเลือกปฏิบัติ • แสดงด้วย ราคาที่ตีใหม่

  30. การวัดมูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรกการวัดมูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรก FVณ วันตี ราคาใหม่ คสส.ที่คำนวณ จากFV Impairment ราคาที่ตีใหม่= - - • ควรกำหนดจากราคาประเมิน โดยผู้ประเมินราคาอิสระ • กิจการต้องตีราคา PP&Eทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับรายการที่เลือกตีราคาใหม่

  31. มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 ณ วันที่ตีราคาใหม่กิจการต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1.) กิจการต้องปรับค่าเสื่อมราคาสะสมและรับรู้ผลของการตีราคาใหม่ โดย 1.1) ต้องปรับค่าเสื่อมราคาสะสมตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้.... ปรับค่าเสื่อมราคาสะสมเป็นสัดส่วนกับการเปลี่ยนแปลงของ “ราคาตามบัญชี”หรือ นำค่าเสื่อมราคาสะสมหักจาก “ราคาตามบัญชี”เพื่อให้ได้ “ราคาตามบัญชีสุทธิ” แล้วนำ “ราคาตามบัญชีสุทธิ” มาปรับให้เป็น “ราคาที่ตีใหม่” การตีราคาใหม่ ประกาศสภาวิชาชีพ 25/2549 ณ วันที่ตีราคาใหม่ เมื่อมีการตีราคาเพิ่มขึ้น ต้องปฏิบัติดังนี้ (ตามเกณฑ์ราคาทุน) • 1.) ปรับปรุงราคาตามบัญชีของสินทรัพย์ให้มีราคาตาม “ราคาที่ตีใหม่” โดยบันทึกบัญชีที่ตีเพิ่มขึ้นไปยัง “บัญชีสินทรัพย์-ราคาที่ตีเพิ่ม” คู่กับ “บัญชีส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เพิ่ม”

  32. มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 1.2) การรับรู้ผลของการตีราคาใหม่ ตีราคาเพิ่ม รับรู้เป็น “ ส่วนเกินทุนจากการตีราคาใหม่” ( หากเคยตีราคาลดลง ส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาใหม่รับรู้เป็น “กำไรจากการตีราคาสินทรัพย์” ได้ไม่เกินจำนวนที่เคยรับรู้เป็นขาดทุนในงวดก่อนของรายการนั้น ) ตีราคาลดลง รับรู้เป็น “ ค่าใช้จ่าย” ทันทีในงวดนั้น ( หากเคยตีราคาเพิ่มขึ้นและยังมียอดคงค้างอยู่ในส่วนของเจ้าของ ส่วนที่ลดลงต้องนำไปหักออกจาก “ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์” ได้ไม่เกินจำนวนที่เคยตีราคาเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์รายการเดียวกัน ) การตีราคาใหม่ ประกาศสภาวิชาชีพ 25/2549

  33. มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 2.) ค่าเสื่อมราคาที่ตัดไปสู่บัญชีกำไรขาดทุนให้คำนวณตาม “ราคาที่ตีใหม่” 3.) และส่วนเกินทุนจากการที่ตีราคาสินทรัพย์ที่อยู่ในส่วนของเจ้าของ ต้องโอนไปยัง “กำไรสะสม” โดยตรง ต้องไม่ทำผ่านงบกำไรขาดทุน (ย่อหน้าที่ 38) 4.) ให้เปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (ย่อหน้าที่ 63) การตีราคาใหม่ ประกาศสภาวิชาชีพ 25/2549 • 2.) ค่าเสื่อมราคาที่ตัดไปสู่บัญชีกำไรขาดทุนให้คำนวณตาม “ราคาทุน” • 3.) และค่าเสื่อมราคาของส่วนที่ตีราคาเพิ่มขึ้นจากข้อ 2.) ให้ตัดไปสู่บัญชี “ส่วนเกินทุนจากการตีราคาเพิ่ม” • 4.) ให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการบันทึกบัญชีที่ใช้ปฏิบัติและผลกระทบต่อ งบกำไรขาดทุน และกำไรต่อหุ้นที่แตกต่างจากวิธีปฏิบัติใน มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (ย่อหน้าที่ 63)

  34. การด้อยค่าของสินทรัพย์การด้อยค่าของสินทรัพย์ • อ้างอิงถึงมาตรฐานการบัญชี เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ • ทบทวนราคาตามบัญชี และประมาณการมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์ • ทบทวนเวลาที่กิจการต้องรับรู้หรือกลับบัญชีขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

  35. การเลิกใช้และการจำหน่ายสินทรัพย์การเลิกใช้และการจำหน่ายสินทรัพย์ ตัดบัญชี การจำหน่ายสินทรัพย์ การเลิกใช้งานและ ถือไว้เพื่อรอจำหน่าย • จำหน่ายสินทรัพย์นั้น หรือ • เลิกใช้สินทรัพย์นั้นอย่างถาวร หรือ • เมื่อคาดว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตหลังจากที่จำหน่ายสินทรัพย์ไปแล้ว กำไรขาดทุน = จำนวนเงินสุทธิที่ คาดว่าจะได้รับ - ราคาตามบัญชี - แสดงด้วยราคาตามบัญชี ณ วันที่สินทรัพย์เลิกใช้งาน - ทดสอบการด้อยค่า

  36. การเปิดเผยข้อมูล • เปิดเผยรายการต่อไปนี้ตามประเภทของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ • เกณฑ์การวัดมูลค่าที่ใช้กำหนดราคาตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสม • วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา • อายุการใช้งานหรืออัตราค่าเสื่อมราคา ( รวมถึงวิธีการปันส่วนค่าเสื่อมราคาในแต่ละงวดและค่าเสื่อมสะสม ณ วันสิ้นงวด ) • ราคาตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ ณ วันต้นงวดและสิ้นงวด • รายการกระทบยอดของราคาตามบัญชีระหว่างวันต้นงวดและสิ้นงวด

  37. การเปิดเผยข้อมูล (ต่อ) • ต้องเปิดเผยรายการต่อไปนี้ในงบการเงิน • จำนวนและข้อจำกัดในกรรมสิทธิ์ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลักประกันหนี้สิน • นโยบายการบัญชีที่ใช้สำหรับประมาณการรายจ่ายในการบูรณะสถานที่หลังเลิกใช้ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ • จำนวนรายจ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการสร้างอาคาร และอุปกรณ์ • จำนวนภาระผูกผันที่ตกลงไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน อาคารและอุปกรณ์

  38. การเปิดเผยข้อมูล (ต่อ) • ต้องเปิดเผยลักษณะและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีที่มีนัยสำคัญ • ราคาซาก • ประมาณการรายจ่ายในการซื้อ ขนย้าย หรือบูรณะสถานที่ภายหลังการเลิกใช้สินทรัพย์ • อายุการใช้งาน • วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา

  39. การเปิดเผยข้อมูล (ต่อ) • ต้องเปิดเผยเมื่อมีการตีราคาใหม่ ดังนี้ • เกณฑ์ที่ใช้ในการตีราคาสินทรัพย์ • วันที่มีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ • การตีราคาใหม่ทำโดยผู้ประเมินราคาอิสระหรือไม่ • ลักษณะของดัชนีที่ใช้กำหนดราคาเปลี่ยนแทน • ราคาตามบัญชีของสินทรัพย์แต่ละประเภท (เมื่อเลือกใช้ราคาทุน) • ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ โดยต้องแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของส่วนเกินทุนและข้อจำกัดในการแบ่งปันส่วนเกินทุนให้แก่เจ้าของ

  40. การเปิดเผยข้อมูล (ต่อ) • ต้องเปิดเผยเมื่อมีการด้อยค่าของสินทรัพย์ • เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงิน • ราคาตามบัญชีของสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นการชั่วคราว • ราคาตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ซึ่งหักค่าเสื่อมราคาทั้งจำนวนแล้วแต่ยังคงใช้งานอยู่ • ราคาตามบัญชีของสินทรัพย์ ซึ่งเลิกใช้งานและถือไว้เพื่อรอจำหน่าย • มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ หากมูลค่าดังกล่าวแตกต่างจากราคาตามบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ

  41. IAS 16 หลักการรับรู้รายการโดยทั่วไป 1. ต้นทุนเริ่มแรกเพื่อให้ได้มาหรือก่อสร้าง 2.ต้นทุนที่เกิดขึ้นภายหลังเมื่อมีการต่อเติม การเปลี่ยนแทนส่วนประกอบต่าง ๆ หรือการบำรุงรักษาสินทรัพย์ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32กับ IAS 16(ปี 2003) การรับรู้รายการ : ต้นทุนที่เกิดขึ้นภายหลัง TAS 32 รับรู้มูลค่าต้นทุนด้วย 2หลักการคือ 1. มูลค่าเริ่มแรก (Initial Cost) 2.มูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรก (Subsequent Expenditure)

  42. IAS 16 1. ภาระผูกพันของกิจการที่เกิดจากการติดตั้งสินทรัพย์ 2.ภาระผูกพันของกิจการที่เกิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์นั้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการผลิตสินค้า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32กับ IAS 16(ปี 2003) การวัดมูลค่าเริ่มแรก :ต้นทุนการรื้อถอนสินทรัพย์ต้นทุนการเคลื่อนย้าย และ ต้นทุนในการทำให้สินทรัพย์อยู่ในสภาพปกติรวมถึง TAS 32 1. ภาระผูกพันของกิจการที่เกิดจากการติดตั้งสินทรัพย์

  43. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32กับ IAS 16(ปี 2003) IAS 16 วัดมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้มาด้วยมูลค่า ยุติธรรม เว้นแต่ กรณีที่การแลกเปลี่ยนนั้น ไม่มีเนื้อหาเชิงพาณิชย์ (การแลกเปลี่ยนเกิดกับรายการสินทรัพย์ ที่เป็นตัวเงินหรือแลกเปลี่ยนกับทั้งรายการ สินทรัพย์ที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน) การวัดมูลค่าเริ่มแรก : การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ TAS 32 วัดมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้มาด้วยมูลค่า ยุติธรรม เว้นแต่ กรณีที่สินทรัพย์ที่ แลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน

  44. IAS 16 กิจการอาจแสดงรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ด้วยราคาที่ตีใหม่ หากสินทรัพย์นั้นสามารถวัดมูลค่า ยุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32กับ IAS 16(ปี 2003) การวัดมูลค่าภายหลังการรับรู้มูลค่าเริ่มแรก : การตีราคาใหม่ TAS 32 การใช้วิธีการตีราคาใหม่ไม่ได้ ระบุว่าขึ้นอยู่กับการที่มูลค่ายุติธรรม สามารถวัดค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ

  45. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) ค่าเสื่อมราคา : หน่วยวัดมูลค่า IAS 16 กิจการต้องคิดค่าเสื่อมราคาที่เป็น ส่วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ละส่วนที่มี นัยสำคัญแยกต่างหากจากกัน TAS 32 ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน

  46. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) ค่าเสื่อมราคา : มูลค่าของค่าเสื่อมราคา IAS 16 การคำนวณมูลค่าคงเหลือควร พิจารณาถึงจำนวนที่คาดว่าจะได้รับ ในปัจจุบันจากการประมาณอายุการ ใช้งานของสินทรัพย์ตั้งแต่พร้อม ใช้งานตลอดจนสิ้นสุดอายุการใช้งาน TAS 32 ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน

  47. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) ค่าเสื่อมราคา : ระยะเวลาในการคำนวณค่าเสื่อมราคา IAS 16 เริ่มคิดค่าเสื่อมราคาเมื่อสินทรัพย์ นั้นพร้อมที่จะใช้งาน การสิ้นสุดการ คิดค่าเสื่อมราคาจะเกิดขึ้นเมื่อกิจการ ตัดรายการสินทรัพย์นั้น ทั้งนี้ต้องคิด ค่าเสื่อมราคาในช่วงที่หยุดใช้งาน สินทรัพย์นั้นด้วย TAS 32 ไม่ระบุการเริ่มต้นในการคำนวณ ค่าเสื่อมราคาและระบุถึงการหยุด คำนวณค่าเสื่อมราคาของแต่ละรายการ เมื่อไม่ได้มีการใช้งานและถือไว้เพื่อ ขาย

  48. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) การตัดจำหน่าย : วันที่ตัดจำหน่าย IAS 16 1.ให้มีการตัดจำหน่ายราคา ตามบัญชีในวันที่มีการขายตาม มาตรฐานการบัญชี เรื่อง การรับรู้ รายได้ TAS 32 1.ไม่ได้ระบุถึงวันที่มีการตัด จำหน่าย

  49. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) การตัดจำหน่าย : วันที่ตัดจำหน่าย IAS 16 2.ให้มีการตัดจำหน่ายราคา ตามบัญชีของส่วนประกอบ(ชิ้นส่วน) ของสินทรัพย์ถ้าส่วนประกอบนั้นมีการ เปลี่ยนแทนรวมทั้งต้นทุนของการ เปลี่ยนแทนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของราคา ตามบัญชีของส่วนประกอบ(ชิ้นส่วน) นั้น ๆ TAS 32 2.ไม่มีการขยายหลักการตัด จำหน่ายของแต่ละส่วนประกอบ (ชิ้นส่วน) แต่จะกล่าวถึงรายจ่าย ภายหลังที่ทำให้สินทรัพย์มีสภาพดีขึ้น ให้รวมต้นทุนจากการเปลี่ยนแทนนั้น เป็นราคาตามบัญชี

  50. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระหว่าง TAS 32 กับ IAS 16 (ปี 2003) การตัดจำหน่าย : วันที่ตัดจำหน่าย IAS 16 3.กิจการต้องไม่จัดประเภทผล กำไรที่เกิดจากการจำหน่ายที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เป็นรายได้หลัก จากการดำเนินงาน TAS 32 3.ไม่ได้ระบุเงื่อนไขนี้

More Related