290 likes | 713 Views
N. S. MD SAYS . SNP JOKE. NEWS UPDATE. SNP ฟันเฟิร์ม. จับกระแสส่งออกโลก . ช็อตเด็ด บอลโลก. Smart EXIM. แวดวงนำเข้า. Customs Clinic. WHY I JOINED. SNP Health Corner. ตามติดกรมศุลกากร กับชิปปิ้งสีเทา. ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 127 WWW.SNP.CO.TH. S. S. S. เปลี่ยนประเทศไทย. N. N. N.
E N D
N S MD SAYS SNP JOKE NEWS UPDATE SNP ฟันเฟิร์ม จับกระแสส่งออกโลก ช็อตเด็ด บอลโลก Smart EXIM แวดวงนำเข้า Customs Clinic WHY I JOINED SNP Health Corner ตามติดกรมศุลกากร กับชิปปิ้งสีเทา ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 127 WWW.SNP.CO.TH
S S S เปลี่ยนประเทศไทย N N N ผมอ่านข่าวจากเดลินิวส์ ฉบับวันที่ 9 มิถุนายน 2553 คอลัมน์ “เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น” โดยอนุเทพ ในหัวข้อ “จุติและองอาจ” โดยมีเนื้อหาว่า คุณจุติ ไกรฤกษ์ และคุณองอาจ คร้ามไพบูลย์ มีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ “แม้จะอกหักจากการปรับ ครม. ทั้งสองไม่เคยแสดงอาการโกรธเคืองใด ๆ ออกมา นิ่งสงบ และจงรักภักดีต่อพรรคตลอด” ในคอลัมน์ได้แสดงความเชื่อมั่นบุคคลทั้งสองว่า เป็นคนมีคุณภาพ และเชื่อว่าจะสามารถบริหารประเทศไปได้ด้วยดี ซึ่งในมุมความจงรักภัคดีต่อพรรคและในมุมความสามารถ ผมว่า ประชาชนทั่วไปที่ติดตามการเมือง คงไม่คัดค้านแต่ประการใด แต่ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับดังกล่าว ได้เผยผลการสำรวจของเอแบคโพล จากประชาชน 17 จังหวัด ผลออกมาร้อย 53.8 คิดว่า “จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการปรับ ครม. ครั้งนี้” การที่ผมนำเรื่องนี้ มาเสนอต่อท่านผู้ประกอบการนั้น ผมเชื่อว่า ท่านผู้ประกอบการคงรับทราบข่าวนี้มาแล้ว และเชื่อว่าท่านผู้ประกอบการคงเห็นความขัดแย้งของข่าวดังกล่าวแล้วเช่นกัน P P P ต่อหน้า 2
ในมุมมองของผมนั้น เราต้องยอมรับความเป็นจริงก่อนว่า การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของประเทศไทยส่วนใหญ่แล้ว มาจากระบบโควต้าของแต่ละกลุ่มการเมืองทั้งสิ้น และโควต้าที่ได้รับก็มักจะขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส. ที่แต่ละกลุ่มมี กฎเกณฑ์อันนี้ ผมว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกคงหนีกันไม่พ้น จะต่างกันก็แต่เพียงประเทศไหนจะมาก จะน้อยมากกว่ากัน ประเทศที่ให้ความสำคัญต่อประชาชนมากว่า เมื่อกลุ่มของตนได้โควต้ามาแล้ว ก็ต้องจัดคนที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการกับประเทศได้จริง ๆ ส่วนประเทศไหนที่ให้ความสำคัญต่อประชาชนน้อยกว่า เมื่อกลุ่มได้โควต้ามาแล้ว ก็ส่งคนที่มีอิทธิพลในกลุ่มโดยไม่นำพาถึงความสามารถ และไม่แคร์ต่อความรู้สึกและประโยชน์ของประชาชน ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงระบบโควต้าไม่ได้ แต่ระบบโควต้ากลับขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส. ที่กลุ่มสามารถหาได้ ดังนั้นหากท่านผู้ประกอบการต้องการคนมีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการกับประเทศไทย จัดการกับปัญหาของท่านผู้ประกอบการที่ได้รับ ท่านผู้ประกอบการก็เพียงแต่เลือก ส.ส. ของพรรคหรือของกลุ่มที่ประกอบด้วยผู้มีวิสัยทัศน์ให้มากขึ้น เมื่อกลุ่มที่มีวิสัยทัศน์ได้ ส.ส. มาก เพียงพอต่อตำแหน่งรัฐมนตรี ประเทศไทยก็ย่อมมีรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์โดยปริยาย ส่วนพรรคใด กลุ่มใด ที่ประกอบด้วยผู้มีวิสัยทัศน์มากกว่า ผมว่า ไม่เกินความสามารถในการมองของท่านผู้ประกอบการไปได้ การเลือก ส.ส. โดยไม่มีการชี้นำ ปล่อยให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ใครรักใคร ชอบพอใคร ก็เลือกคนนั้น ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ และผมก็เชื่อว่าท่านผู้ประกอบการก็คงเห็นด้วยกับผมว่า เป็นสิ่งที่ดีและเป็นประชาธิปไตยที่ดี แต่ท่านผู้ประกอบการจะแน่ใจได้อย่างไรว่า บุคคลที่ใกล้ชิดกับท่านจะไม่ถูกผู้อื่นชี้นำให้เลือก ส.ส. ด้วยปัจจัยอื่น แถมเป็นปัจจัยอื่นที่ไม่มีเรื่องความสามารถในการนำพาประเทศหรือความรู้ในเชิงการบริหารร่วมอยู่ด้วย สุดท้ายก็ได้ ส.ส. ไร้ความสามารถ ที่ไปรวมตัวกันเป็นกลุ่มจนได้โควต้ารัฐมนตรี และส่งคนไร้ความสามารถมาเป็นรัฐมนตรีตามที่ท่านผู้ประกอบการเห็นอยู่ทุกวันนี้ S N P ต่อหน้า 3
อยากเปลี่ยนประเทศไทยอย่างไร ผมว่ามันมีหลายวิธีครับ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ ผมว่านี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ผมไม่รู้ว่า จะอีกนานแค่ไหนที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. กันใหม่ หากท่านผู้ประกอบการมีวิธีการเลือก ส.ส. ที่ดีอยู่แล้ว ก็ขอเชิญตามสะดวกครับ แต่หากเห็นว่า การใช้วิธีเลือกพรรคหรือเลือกกลุ่มที่มีวิสัยทัศน์ดีที่ผมเสนอพอจะใช้ได้ ก็ลองใช้ดูก็ได้นะครับ เผื่อว่า พวกเราในฐานะผู้ประกอบการจะสามารถเปลี่ยนประเทศไทยด้วยตัวเราเองได้ครับ สิทธิชัย ชวรางกูร S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
NEWS UPDATE S การกระจายสินค้าไทยในกรุงซานติอาโก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงซานติอาโก แจ้งว่า ธุรกรรมการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยในตลาดในเขตอาณาที่รับผิดชอบของสำนักงานฯ ได้แก่ ชิลี เปรู เอกวาดอร์ และโคลัมเบีย ส่วนใหญ่บริหารจัดการโดยผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย (agent) และบริษัทสาขาของผู้ผลิตในต่างประเทศ (branch office) ในตลาดเพื่อกระจายสินค้าสู่ผู้ซื้อต่างๆในตลาดของตนเอง ทั้งนี้ ยังไม่มีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยเป็นการเฉพาะ เนื่องจากผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยส่วนใหญ่พิจารณาเห็นว่า การลงทุนจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในตลาดนี้มีค่าโสหุ้ยที่สูงกว่าตลาดอื่นๆ และผลกำไรที่จะได้รับยังไม่คุ้มทุน เนื่องจากเหตุผลประเด็นต่างๆได้แก่ 1. ค่าขนส่งสูงเนื่องจากระยะทางขนส่งไกลและไม่มีเส้นทางเดินเรือสายตรง 2. ค่าแรงงานสูงเนื่องจากมีกฎหมายเกี่ยวกับระบบประกันสังคมของแรงงานที่เข้มงวดเพื่อให้สวัสดิการแก่ แรงงานในมาตรฐานที่สูง 3. ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและเดินทางไปเจาะตลาดสำหรับผู้ส่งออกไทยสูงเนื่องจากตลาดอยู่ห่างไกล 4. การบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้าโดยผู้ส่งออกต่างประเทศมีต้นทุนสูงกว่าการบริหารจัดการของผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายที่เป็นธุรกิจในท้องถิ่นเนื่องจากต้องใช้ทีมงานที่ไว้ใจได้ในการติดต่อประสานงานธุรกิจกับนักธุรกิจท้องถิ่นและหน่วยงานทางการที่ส่วนใหญ่ใช้ภาษาสเปนเป็นหลัก N P ต่อหน้า 2
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการเห็นว่า ปริมาณและมูลค่าของสินค้าไทยที่นำไปจำหน่ายในตลาดยังไม่มากพอถึงจุดคุ้มทุน (Break Event Point) ทำให้บทบาทในการกระจายสินค้าที่นำเข้าจากไทยยังคงตกเป็นธุรกิจของผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย และสำนักงานสาขาของบริษัทผู้ผลิตที่เป็นบริษัทแม่ในประเทศผู้ผลิตรายสำคัญ อาทิเช่น กรณีของการกระจายสินค้ารถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋งส่วนบุคคลที่นำเข้าจากไทยจะบริหารจัดการโดยบริษัท มิตซูบิชิ นิสสัน เชฟโรเลท โตโยต้า และฮอนด้า ที่เป็นบริษัทสาขาในชิลี การกระจายสินค้าผลิตภัณฑ์อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ในบ้าน และสินค้าแฟชั่น จะถูกบริหารจัดการโดยผู้นำเข้ารายสำคัญและตัวแทนจำหน่ายสำหรับสินค้านั้นๆ ที่มา: http://www.depthai.go.th S N P ต่อหน้า 3
พาณิชย์แนะเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยลุยทุ่มโฆษณาเจาะตลาดสหรัฐฯพาณิชย์แนะเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยลุยทุ่มโฆษณาเจาะตลาดสหรัฐฯ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐ ได้รายงานภาวะตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐ ว่า การนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของสหรัฐจากทั่วโลก ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ที่ผ่านมา มีมูลค่า 1,433 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.6% ขณะที่การส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าของโรงงานผลิตให้ลูกค้าในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีตัวเลขสูงกว่า 3.37 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 19.7% ทำให้เห็นภาพรวมว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่ดี จึงมีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น สำหรับการแข่งขันและแนวโน้มตลาด พบว่า ปัจจุบันสหรัฐมีผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่เพียง 2 ราย คือ เวิรล์พูล ครองตลาด 45% และจีอี ครองตลาด 24% ที่เหลือ 31% เป็นของผู้ผลิตจากต่างประเทศ ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้ามี 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มจัดซื้อสินค้าให้แก่ร้านค้าปลีกต่างๆที่เป็นสมาชิก มีสัดส่วนมากที่สุด 45% 2.ผู้จัดส่งสินค้าให้ร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า 3.ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขายสินค้าโดยตรงให้แก่ร้านค้าปลีกระดับชาติโดยตรง และ 4.ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ร้านค้าปลีก และพ่อค้าขายส่ง ผู้บริโภคสหรัฐนิยมซื้อเครื่องใช้ไฟ้ฟ้าที่มีแบรนด์เป็นที่นิยม มากกว่าจะซื้อเป็นแบรนด์ใหม่ ดังนั้นสินค้าแบรนด์ใหม่ที่จะบุกตลาด โดยเฉพาะจากไทยต้องเน้นการโฆษณาให้ผู้บริโภครู้จัก แบรนด์ ไม่จำเป็นต้องมีอายุการใช้ยาวนานเพราะผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนสินค้าที่ใช้บ่อยครั้งขึ้น แต่ไม่ต้องการซ่อมแซม เนื่องจากค่าซ่อมแพงมาก S N P ต่อหน้า 4
กางโรดแมปแผนเจรจาการค้าโลก ยึดอาเซียนเป็นฐานก้าวกระโดด นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำแนวทางการเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเจรจาการค้ารอบโดฮา ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะได้ร่วมกับสมาชิกอื่นๆ ผลักดันให้สมาชิกรายใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป เร่งรัดการเจรจาให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว ส่วนการเจรจาการค้าระดับภูมิภาค ให้มุ่งกระชับการรวมกลุ่มอาเซียน ให้อาเซียนเป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็ง และนำอาเซียนออกไปขยายการค้าไปสู่ตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดีย และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่างละตินอเมริกาและตะวันออกกลาง โดยมีเป้าประสงค์ที่จะเพิ่มโอกาสการส่งออก หาแหล่งเงินทุนและแหล่งออกไปลงทุน หาแหล่งวัตถุดิบเพื่อลดต้นทุน หาแนวทางพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี สำหรับการร่วมกับอาเซียนในการเจรจาเขตการค้าเสรี กรมฯจะต้องให้ความสำคัญกับการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี ASEAN+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ASEAN+6 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) เพื่อสร้างตลาดขนาดกว่า 3,000 ล้านคน รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีกับกลุ่ม GCC ซึ่งเป็นประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ มีสมาชิก 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และกลุ่ม Mercosur ซึ่งเป็นตลาดร่วมแห่งอเมริกาใต้ ที่มีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย อุรุกวัย และ เวเนซุเอลา ทั้งนี้ ทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและละตินอเมริกามีศักยภาพสูงที่จะสามารถเป็นแหล่งทุน วัตถุดิบ และตลาดที่สำคัญของไทยในอนาคต การเจรจาในกรอบเอเปก จะผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้การค้าในเอเปกมีความคล่องตัวสูงสุด ส่วนการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในเอเปก คงต้องร่วมกับสมาชิกเอเปกแสวงหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม โดยต้องทำให้เอเปก มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อให้เอเปกมีกลยุทธ์การเจริญเติบโตที่จะรองรับการฟื้นตัวภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกในอนาคต S N P ต่อหน้า 5
กรมส่งออก ปิ๊งไอเดีย อบรมเจรจาการค้าผ่าน e-learning สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ เร่งฟื้นความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ เสนอหลักสูตร “เทคนิคการเจรจาการค้าระหว่างประเทศสู่ความสำเร็จ” ผ่านระบบ e-learning หวังกู้วิกฤติระยะสั้น ถึงระยะยาว มั่นใจ ใช้งานได้จริงสอดคล้องสถานการณ์ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออก โดยสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ ได้เตรียมจัดฝึกอบรมหลักสูตร “เทคนิคการเจรจาการค้าระหว่างประเทศสู่ความสำเร็จ” ผ่านระบบ e-learning ขึ้นระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2553 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีความรู้ใหม่ๆ ในการเจรจาการค้ากับคู่ค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการเรียนรู้เทคนิคการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อันจะเป็นการรักษาตลาดเดิม เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าในตลาดใหม่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ จัดการอบรมผ่านระบบ e-learning เป็นการเปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการทั่วประเทศเนื่องจากเป็นการเรียนรู้หลักสูตรผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสะดวกมากและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2512 0093 -104 ต่อ 326,329 หรือ www.depthai.go.th S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
จับกระแสส่งออกโลก S ตอน ตลาดใหม่ EU ผมได้นำเสนอถึงวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ PIGS ของ EU ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันไปผ่านคอลัมน์นี้ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแล้วนะครับ หลายท่านคงรู้สึกช็อกปนกับหดหู่กันไปเลยทีเดียว เพราะไม่เชื่อว่าประเทศทางฝั่งยุโรปทั้ง 4 ประเทศ ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบมากมายมหาศาลขนาดนั้น จนกระทั่ง สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับนักธุรกิจชาวโปรตุเกสท่านหนึ่งนะครับ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจของประเทศตนเองอยู่ในขณะนี้ นักธุรกิจท่านนี้พูดกับผมด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดทางหน้ากระดาษได้นะครับ แต่สรุปได้เลยว่า แกผิดหวังต่อนโยบายของรัฐฯในการแก้ปัญหาในครั้งนี้เหลือเกิน ในขณะที่อัตราภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากประชาชนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแทบจะเป็นรายเดือนทีเดียว ในขณะที่มุมหนึ่งของ EU กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก (แว่วๆว่า ฮังการีกำลังจะเป็นเหยื่อรายต่อไป) อีกมุมหนึ่งของ EU กลับส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนสำนักงานพาณิชย์ของไทยในต่างประเทศ ต้องจัดจ้างให้ European Center for International Political Economy (ECIPE) ซึ่งเป็นองค์กรในการวิเคราะห์ตลาดในเชิงธุรกิจที่โด่งดังแห่งหนึ่งของยุโรป มาทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดสินค้าไทยกันเลยเชียว กลุ่มตลาดดังกล่าวประกอบไปด้วย 5 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวาเกีย และสโลวาเนีย ซึ่งมีการขยายตัวของตลาดและอัตราเจริญเติบของ GDP ค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว N P ต่อหน้า 2
ไม่น่าเชื่อนะครับตัวเลขการนำเข้าสินค้าไทยของ 5 ประเทศดังกล่าวในช่วงปีที่ผ่านมาจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 1 พันล้านยูโร ทั้งที่ตอนแรกๆ ไม่ค่อยมีผู้ประกอบการชาวไทยรายใดเลยด้วยซ้ำที่ชายตามองตลาดดังกล่าว และที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องลงทุนสักแดงเดียวในการโปรโมทคุณภาพของสินค้าไทยใน 5 ประเทศนั้น แต่กลับเป็นผู้บริโภคและผู้จำหน่ายในกลุ่มประเทศเหล่านั้นเองที่กลับเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทยอย่างไม่น่าเชื่อ ฟังดูสวยหรูนะครับ สำหรับโอกาสใหม่ของบรรดาผู้ส่งออกไทยในครั้งนี้ แต่ช้าก่อนนะครับ ผมขออนุญาตเล่าจุดเสียของตลาดใหม่นี้ให้ฟังบ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวผมเอง มี 2 จุดครับ ที่มองว่าเป็นจุดเสียเปรียบของผู้ส่งออกไทย ปัจจัยแรก คือประเทศทั้ง 5 เหล่านี้ มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์คาบเกี่ยวหรือใกล้เคียงกับทวีปแอฟริกาและทวีปอเมริกาใต้พอสมควร ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังนิยมบริโภคสินค้าหลากหลายหมวดจากทวีปทั้ง 2 อยู่ ดังนั้นสินค้าไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดอาหารอย่างปลาแต่งปรุงรส หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับที่จะเผชิญหน้ากับปลาปรุงรสจากประมงเจ้าถิ่นอย่าง โมร็อกโก ชิลี โครเอเชีย รวมทั้งเวียดนามซึ่งเป็นขาประจำของกลุ่มปลาปรุงรสอีกต่างหาก ปัจจัยที่ 2 ที่จะทำให้ไทยเสียเปรียบคู่แข่งรายอื่นๆในตลาดดังกล่าวก็คือ 2 ใน 5 ของกลุ่มประเทศนี้ได้แก่ เช็ก และสโลวาเกีย ไม่มีอาณาเขตติดกับทะเลเลย ส่วนอีก 3 ประเทศอย่าง โรมาเนีย โปร์แลนด์ และสโลเวเนีย ถึงจะมีอาณาเขตติดกับทะเล แต่ท่าเรืออย่าง Constantza ของโรมาเนีย Luka Koper ของสโลเวเนีย และ Gdansk ของโปแลนด์ ต่างก็เป็นท่าเรือน้ำตื้นซึ่งไม่ค่อยมีเรือเข้าไปเทียบท่าเท่าไหร่ ทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้ทำได้ยาก และอาจเป็นเหตุให้ต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ของสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ไปด้วย สำหรับผู้ส่งออกชาวไทยท่านใดที่สนใจได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจกับกลุ่มประเทศตลาดใหม่ EU สามารถติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ omd@snp.co.th โดย : Red Carpet S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
Smart EXIM S ทำไมต้องเสียภาษีอากร ความแน่นอน ในเวลาเดียวกันนั้น ก็คือความไม่แน่นอน " แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดของมนุษย์ คือ ความตายและภาษี " ท่านผู้ประกอบการหลายๆท่าน รู้จักและเคยได้ยินคำว่า “ภาษีอากร” แต่ท่านผู้ประกอบการท่านรู้หรือไม่ว่า ทำไมมนุษย์เรา ถึงต้องเสียภาษีอากร ประเทศไทย มีรัฐบาลที่มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งต้องดูแลบริหารจัดการประเทศในด้านการสาธารณสุข การศึกษา การเกษตร การอุตสาหกรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ป้องกันการรุกรานของข้าศึกศัตรูที่รุกรานประเทศ และการจัดการอื่นๆ การดำเนินกิจการของรัฐบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องหารายได้เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการดูแลประเทศ ซึ่งรัฐบาลสามารถหารายได้ได้จากการเก็บภาษีอากร การขายสิ่งของและการให้บริการ การรับบริจาค ฯลฯ แต่จากแหล่งรายได้ทั้งหมดของรัฐบาล ภาษีอากรเป็นรายได้ที่สำคัญที่สุด (ประมาณ 81% ของรายได้รัฐมาจากภาษีอากร) นอกจากจะเป็นการหารายได้เพื่อให้พอกับรายจ่ายแล้ว การเก็บภาษีอากรยังเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการกระจายรายได้ ส่งเสริมความเจริญเติบโตของธุรกิจการค้า รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ หรือเพื่อสนองนโยบายบางประการของรัฐบาล ดังนั้นเราในฐานะที่อยู่ในประเทศจำเป็นต้องเสียภาษีอากรเพื่อให้ประเทศของเรามีการพัฒนายิ่งขึ้น เอาล่ะ มาพูดถึงภาษีศุลกากรที่เราๆท่านๆต้องเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงกันบ้าง N P ต่อหน้า 2
ภาษีศุลกากรเป็นภาษีทางอ้อม ซึ่งจัดเก็บจากสินค้าที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ วัตถุประสงค์หลักของการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอดีต ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือและปกป้องคุ้มครองอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ โดยมีการกำหนดอัตราอากรขาเข้าในอัตราที่สูงสำหรับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการผลิตของประเทศที่ยังไม่สามารถแข่งขันได้ แต่ในสภาวการณ์กระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ปัจจุบันส่งผลให้แต่ละประเทศมีการเปิดประเทศเพื่อค้าขายกันมากขึ้น ดังนั้น บทบาทของภาษีศุลกากรเพื่อใช้เป็นวัตถุประสงค์ในการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจึงลดน้อยถอยลงตามลำดับ โครงสร้างอัตราภาษีศุลกากร ปัจจุบัน อัตราอากรขาเข้าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0-80 อัตราอากรเฉลี่ย ณ วันที่ 28 มกราคม 2548 เท่ากับ ร้อยละ 10.71 โดยอัตราอากรขาเข้าแบ่งออกเป็น 1) อัตราอากรขาเข้าตามกรอบปกติ (General Rate) ซึ่งใช้เป็นการทั่วไปกับทุกประเทศ 2) อัตราอากรขาเข้าภายใต้กรอบการปฏิบัติตามข้อผูกพันตามความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก (WTO) และความตกลงการค้าพหุภาคีอื่นที่ผนวกท้ายความตกลงดังกล่าว ซึ่งการขอรับสิทธิเพื่อใช้อัตราอากรขาเข้าภายใต้กรอบ WTO นี้ ผู้นำเข้าต้องยื่น Form A เพื่อแสดงถิ่นกำเนิดของสินค้าจากประเทศที่เป็นภาคีของความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก 3) อัตราอากรขาเข้าเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันในการให้สิทธิประโยชน์ด้านอากรตามความตกลงว่าด้วยการใช้มาตรการกำหนดอัตราอากรร่วมเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (Agreement on the Common Effective Preferential Tariff (CEPT) Scheme for the ASEAN Free Trade Area (AFTA)) และพิธีสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยการใช้มาตรการกำหนดอัตราอากรร่วมเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (Protocol to Amend the Agreement on the Common Effective Preferential Tariff (CEPT) Scheme for the ASEAN Free Trade Area (AFTA) ในการขอรับสิทธิเพื่อใช้อัตรา CEPT ภายใต้กรอบ AFTA นั้น ผู้นำเข้าต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form D) ที่ออกตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงว่าด้วยการใช้มาตรการกำหนดอัตราอากรร่วมเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียนและข้อกำหนดเพิ่มเติมที่ออกตามความในกฎดังกล่าว โดย : โซดาน้ำ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
แวดวงนำเข้า S B /L Surrender กับ Telex Release แตกต่างกันอย่างไร การส่งออกสินค้าทางเรือไปต่างประเทศ ในขั้นตอนการออกเอกสาร B/L จะสามารถออกได้ใน 2 กรณี คือ การออก B/L โดยใช้ต้นฉบับ และ การใช้ Surrendered B/L,Telex Release ท่านผู้ประกอบการเคยสงสัยหรือไม่ว่า การใช้เอกสาร Surrendered B/L และ Telex Release ซึ่งเป็นการยินยอมให้ใช้ สำเนา B/L เหมือนกัน แต่ว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไร ด้วยความสงสัยของผู้เขียน จึงได้ลองสืบค้นหาข้อมูลเพื่อไขข้อข้องใจกันครับ เริ่มแรก ผมขอเกริ่นถึงที่มากันก่อน จากข้อมูลคร่าวๆ ในสมัยก่อน การออกเอกสาร B/L เพื่อใช้แลก D/O นั้นจะต้องใช้เอกสารตัวจริงเสมอ แต่ในกรณีที่สินค้าต้องการความเร่งด่วนในการปล่อยสินค้า ทางผู้ขายก็จะขอให้ทางสายเรือเป็นผู้อนุญาตให้ทางสายเรือปลายทางปล่อยสินค้าได้ โดยส่งเอกสารทาง Fax หรือทางโทรเลข กลายเป็นที่มาของชื่อ Telex Release จนมาถึงปัจจุบันที่บางสายเรือยังมีการใช้คำนี้อยู่เมือนกัน ส่วนเรื่องของความต่างระหว่าง Telex Release กับ Surrendered B/L จะต่างกันในเรื่องของกระบวนการคำสั่งในการสั่งปล่อยสินค้า ในกรณีของ Surrendered B/L จะเป็นการสั่งตั้งแต่ก่อนเรือออกที่ต้นทาง เพื่อให้เอกสารสำเนา สามารถนำไปใช้แลก D/O ได้ทันที แต่ในกรณี Telex release จะเป็นการขอให้สายเรือใช้ปล่อยสินค้าได้หลังจากที่สินค้าออกไปแล้ว ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากกรณีที่สินค้าออกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้สั่งเอกสาร Surrender ตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ในการแยกถึงความแตกต่างของทางต้นทางมากกว่า ซึ่งทางปลายทางก็สามารถใช้ในการปล่อยสินค้าได้เหมือนกัน N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ตามติดกรมศุลกากร กับชิปปิ้งสีเทา S ตอน สิทธิพิเศษของตัวแทนออกของรับอนญาตพิเศษ (2) “โอว โอ่ว โอว โอ๋ว โอว... โอว โอ๋ว โอว โอ๋ว โอว โอว โอ๋ว โอว..... โอว แอฟริกา” บอลโลกมาแล้วรับท่าน อีก 2 วัน ก็จะได้ดูนัดเปิดสนามระหว่างเจ้าภาพ แอฟริกาใต้ กับ เม็กซิโก กันแล้ว คิดแล้วก็ตื้นเต้นจังโว้ย ก่อนจะเข้าภาคต่อของ Customs Broker ผมขออนุญาตย้อนความกันสักนิดนึงนะครับ ครั้งที่แล้วผมพูดถึง ในส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะสามารถสมัครขอเป็น Customs Broker ได้ไปแล้วนะครับ แถมยังบอกสิทธิพิเศษทางด้านศุลกากรการนำของเข้าและส่งของออกไปแล้วนะครับ แต่อย่างที่บอกนะครับ ยังมีสิทธิพิเศษฯอีกมากมายเลยทีเดียวที่กรมศุลกากรให้ไว้กับ Customs Broker ไปดูกันเลยนะครับ สิทธิพิเศษด้านพิธีการศุลกากรส่งของกลับ (Re-Export) 1. กรณีสินค้านำเข้าที่ยังอยู่ในอารักขาของศุลกากร แต่ต้องการส่งออกทางท่าอื่น ที่ไม่ใช่ท่านำเข้า ให้ทำได้แต่ต้องชำระอากร 1 ใน 10 ส่วน แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ยกเว้นการส่งออกทางด่านศุลกากรบก ที่ไม่สามารถควบคุมและติดตามสินค้าได้ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 2. สินค้า Re-Export ที่อยู่นอกอารักขาของศุลกากร ไม่ต้องผ่านการตรวจร่วมจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำหน้าที่สืบสวนหรือปราบปราม เว้นแต่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมาย Grey's Comment: ปกติการทำ Re-Export จะทำได้ใน 2 กรณีครับ คือ กรณีที่สินค้ายังอยู่ในอารักขาของศุลกร และกรณีที่สินค้าผ่านพิธีการออกไปจากอารักขาของศุลกากรแล้ว N P ต่อหน้า 2
มาว่ากันแบบที่อยู่ในอารักขากันก่อน โดยปกติแล้วการทำ Re-Export ในลักษณะนี้ จะต้องกระทำการผ่านพิธีการ ณ ท่าเรือที่นำเข้าเลยทันที แต่มีหลายครั้งครับที่ผู้ประกอบการมี Connection กับสายเรือที่ดีกว่าในอีกท่าเรือหนึ่งหรือมีความจำเป็นบางอย่างต้องส่งออกสินค้าดังกล่าวในอีกท่าเรือหนึ่ง ซึ่งกฏหมายไม่เอื้อให้ทำอย่างนั้น แต่หากท่านใช้บริการของ Customs Broker ศุลกากรท่านให้สิทธิให้ทำได้ครับ มาว่ากันแบบ Re-export นอกอารักขากันบ้าง โดยปกติแล้วในการทำ Re-export แบบนี้ หลักสำคัญ คือ ของที่จะถูกส่งกลับออกไปต้องไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ใดๆที่ประเทศไทยเลย ซึ่งพอหลักเป็นแบบนี้ เวลาผ่านพิธีการฯ Re-export เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ปราบปราม(เคี่ยวกว่าศุลกากรธรรมดา) มักจะขอเปิดดูสินค้า เพื่อตรวจสอบว่าสินค้าดังกล่าวอยู่ในสภาพเดียวกันกับตอนที่นำเข้ามาหรือไม่ แต่หากท่านใช้บริการ Customs Broker ท่านว่า เจ้าหน้าที่ปราบปรามไม่ต้องมาก็ได้ แฮ่ๆ สิทธิพิเศษด้านพิธีการศุลกากรสินค้าถ่ายลำและสินค้าผ่านแดน Customs Broker สามารถใช้หลักประกันของตน แทนการวางเงินหรือหลักประกันของผู้ขอถ่ายลำหรือผู้ขอขนส่งผ่านแดนได้ Grey's Comment : บอกให้ฟังนะครับ ปกติการผ่านพิธีการศุลกากรแบถ่ายลำก็ดีหรือแบบผ่านแดนก็ดี แม้ว่าสินค้าดังกล่าวต้องแตะแผ่นดินของประเทศไทย แต่จุดหมายปลายทางที่แท้จริงจะอยู่อีกประเทศหนึ่ง ดังนั้นตามหลักแล้ว หากสินค้าไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆในไทยเลย การเก็บภาษีอากรก็ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ศุลกากรต้องการหลักประกันครับว่า ระหว่างการขนส่งผ่านแดนหรือถ่ายลำ ไม่ได้มีการแอบเอาสินค้าบางส่วนเก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์ใดๆในไทยเลย ศุลกากรจึงจำต้องขอเรียกเงินประกันหรือหลักประกันจากผู้ประกอบการดังกล่าวก่อน ซึ่งภายหลังจากศุลกากร ตำแหน่ง จ่าคุมส่ง ควบคุมการส่งหรือถ่ายลำสินค้าเรียบร้อยแล้ว เงินหรือหลักประกันดังกล่าวจะขอคืนได้ทันที ง่ายกว่าแน่นอนครับ หากใช้บริการ Customs Broker S N P ต่อหน้า 3
สิทธิพิเศษด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรสิทธิพิเศษด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร Customs Broker ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีอากร ในด้านระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นในการขอรับบริการจา กศุลกากรในหลายๆด้าน ดังนี้ Grey's Comment: S N P ต่อหน้า 4
สิทธิพิเศษด้านคดี 1. กรณีตรวจพบความผิดฐานสำแดงเท็จ แต่ไม่มีผลทำให้อากรขาดไป สามารถใช้สิทธิ Customs Broker ขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำจุด ตรวจปล่อยสินค้าออกไปก่อนได้ แล้วให้พิจารณาคดีภายหลัง 2. กรณีทำผิดกฏหมายศุลกากร จนเป็นเหตุให้อากรขาดเพียงเล็กน้อย ไม่เกิน 5,000 บาท และผู้นำของเข้าหรือส่งของออกยินยอมทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากรสำหรับความผิดดังกล่าว Customs Broker สามารถร้องขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำจุดเป็นผู้พิจารณาความผิดและสั่งคดีไปได้ก่อนเลย โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปที่กองคดี (ซึ่งแน่นอน ว่าเคี่ยวกว่า) Grey's Comment : หลายครั้งครับที่ผู้ประกอบการทำความผิดแต่เพียงเล็กน้อย และไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราอากร เช่น การสำแดงเท็จเกี่ยวกับรหัสสถิติ มูลค่า ปริมาณ อัตราแลกเปลี่ยนเงิน หรือเลขประจำตัวผู้เสียอากร ซึ่งบางทีเกิดขึ้นเพียงเพราะพิมพ์ผิดเท่านั้น กรณีแบบนี้การใช้บริการกับ Customs Broker จะช่วยท่านให้ได้รับโทษเบาลงไปมากเลยทีเดียวครับ หลังจากร่ายยาวมา 2 ตอน ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วนะครับว่า Customs Broker ไม่ได้เป็นเพียงเสือกระดาษเท่านั้นใช่ไหมครับ เพราะมีสิทธิพิเศษมากมายเหลือเกินที่ได้รับจากกรมศุลกากร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แน่นอนว่าสิทธิพิเศษเหล่านี้ ย่อมต้องแลกมาซึ่งมาตรฐานที่ต้องสูงส่งกว่า LSP ทั่วไปอย่างแน่นอน ถึงบรรทัดนี้แล้ว ผมคงไม่ต้องแนะนำท่านแล้วใช่มั้ยครับว่า จะเลือกใช้ LSP แบบที่เป็น Customs Broker ดีหรือไม่ โดย ชิปปิ้งสีเทา S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
Customs Clinic S 1. ของถ่ายลำ(Transhipment) หมายถึงอะไร ตอบของที่นำเข้าเพื่อทำการขนถ่ายเปลี่ยนยานพาหนะ ณท่าที่ถ่ายของออก แล้วส่งไปยังต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียภาษีอากรขาเข้า 2. เกณฑ์การเปรียบเทียบระงับคดีตามกฎหมายศุลกากรในความผิดฐานสำแดงเท็จหลีกเลี่ยงอากรใช้เกณฑ์ใด ตอบปรับสองเท่าของอากรที่ขาดและให้ชำระอากรที่ขาดให้ครบถ้วนพร้อมเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิต และภาษีเพื่อมหาดไทยที่ขาดและภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
S WHY I JOINED “สัมภาษณ์คุณเฉลิม เนียมกลิ่น” ทักทายกันเป็นรายสัปดาห์ครั้งสุดท้ายกับ Why I Joined ที่มาพร้อมกับคำสัมภาษณ์จากผู้ใหญ่ใจดีจากแผนกขาออกของเรา คุณเฉลิม เนียมกลิ่น หรือว่า พี่แมว ที่มีประวัติในการทำงานอย่างยาวนาน กับ SNP จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยดีกว่ามาทำงานที่นี่ได้อย่างไร? “เดี๋ยวพี่มาเล่าเท้าความให้ฟังก่อนนะ ก่อนที่พี่จะมาทำงานที่SNPเป็นครั้งที่ 2 เนี่ย ครั้งแรกเลยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว พี่เคยเข้ามาทำงานที่SNPมาแล้ว 1 ครั้ง โดยมาเป็นแมสเซ็นเจอร์ก่อน แต่ด้วย ณ ขณะนั้นก็มีเหตุอะไรหลายๆอย่างที่พี่รู้สึกว่ามันไม่ดีต่อตัวพี่ พี่จึงต้องออกไป แต่ก่อนที่พี่จะมาทำที่ SNP เนี่ย พี่เป็นกระเป๋ารถเมล์มาก่อนนะ รวมๆแล้วเงินเดือนได้เกือบๆหมื่นบาทต่อเดือนเลย แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้ พี่ก็ออกมาและมาทำที่ SNP สมัยก่อนนี้ก็วิ่งงานไปเรื่อยๆ พกเงินมาวันละ 100 บาท เติมน้ำมันเอย กินข้าวเอย ไหนจะถูกตำรวจจับอีก แล้วบางครั้งก็รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบจากคนรอบๆตัวเอง จึงทำให้พี่คิดอะไรๆและเลือกตัดสินใจที่จะออกจาก SNP ไปในตอนนั้น แล้วพี่ก็ได้ไปทำงานที่อื่นอยู่ประมาณ 5 ปีได้ ก็เป็นบริษัทฯทำ Shipping เนี่ยแหละ แต่ด้วยเจ้าของทะเลาะกันเองจึงค่อยๆปิดตัวลง และระหว่างนั้นก็มีลูกค้าของพี่บางเจ้าก็ให้พี่ลองทำเองดู พี่ก็ลองทำกับเพื่อนพี่กัน 2-3 คน แต่เพราะคำว่า “เงิน” ทำให้พี่ต้องถูกแทงข้างหลังจากเพื่อนของพี่เอง แต่ระหว่างนั้น ตลอดเวลาผู้จัดการฝ่ายขาออกของ SNP ก็ชักชวนพี่ให้กลับมาทำงานที่นี่อยู่เสมอมา เมื่อบริษัทฯที่พี่ทำปิดตัวเอง N P ต่อหน้า 2
เพื่อนพี่ที่เป็นแมสฯอยู่ที่นี่ก็ชวนกันให้เข้ามาทำ เอาใบสมัครมาให้กรอกอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้ ทำให้พี่ตัดสินใจเขียนใบสมัครเข้ามาทำงานที่ SNP อีกครั้ง เท่าที่จำได้ตอนที่กลับมาสมัคร ไม่มีคนสัมภาษณ์พี่นะ แต่รับให้พี่เข้ามาทำงานเลย แล้วพี่ก็ทำงานอยู่ตรงแผนกขาออกมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลา12ปีได้แล้วล่ะ” ข้อดีของ SNP “พี่มองข้อดีที่นี่คือ อยู่ที่นี่มีความสุขเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน พี่ น้อง คือที่ SNP เนี่ย เราอยู่กันเป็นครอบครัว เหมือนพี่น้อง ไม่มีการแบ่งว่าคนนี้เป็นหัวหน้า เป็นลูกน้อง ไปไหนไปด้วย ไปไหนไปกันตลอด นี่คือสิ่งที่ดี” แง่คิดในการทำงาน “แง่คิดของพี่ ใครก็แล้วแต่ เด็กที่พี่สอนมา หรือใครที่พี่สอน พี่ก็จะบอกเสมอว่า ความรับผิดชอบต้องมาก่อน ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนก็แล้วแต่ ความรับผิดชอบต้องมาก่อน ถ้าคุณทำงานแล้วมีความรับผิดชอบงานของคุณก็ออกมาดีแน่นอน” ฝากถึงผู้ประกอบการ “ก็ขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกท่านที่ให้ความอุปการะและไว้วางใจเรามาตลอด เราทำงานให้ท่านอย่างจริงใจและเต็มที่ เรามีความรู้สึกว่าสิ่งของของท่านก็เหมือนของของเรา เรายินดีที่จะทำงานและแก้ปัญหาไปพร้อมๆกับคุณอย่างเต็มที่” S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP HEALTH CORNER S S S “ประโยชน์ของน้ำทับทิม” ไม่น่าเชื่อเลยว่า ทับทิม ผลไม้ของไทยมีประโยชน์มากมาย ปัจจุบันลูกทับทิม สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำทับทิม กลายเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพยอดฮิตไปแล้ว ทุกท่านคงเคยเห็นลูกทับทิมกันแล้ว เป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิมสามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) และมีแถบอินเดียตอนเหนือบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ในเมืองไทย ทับทิมดูจะเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่นิยมนำไปถวายแด่เจ้าแม่กวนอิม ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมเป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้ ถือว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากพระเจ้า ทับทิมในตำราแพทย์สมัยโบราณ ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซี่ยม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และ ระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ระบุว่าทับทิมมีประโยชน์ดังต่อไปนี้ * การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของหัวใจและตับ * การฟอกไตและท่อปัสสาวะ * สมรรถนะในการส่งเสริมการย่อย * ขจัดไขมันส่วนเกิน * เป็นยาบำรุงกำลัง * ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง * ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน N N P P ต่อหน้า 2
* ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต * การฟื้นฟูจากโรคเบาหวาน * สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ * ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง * ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ * ทำให้ผิวหน้าสวย การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา พบว่าในน้ำทับทิมมีสารต้านนอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก ด้วยความสามารถที่สูงของสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิม มีผลถึงกับมีงานวิจัยที่มีคุณประโยชน์โดยตรงหลาย อย่างไม่ใช่การคาดคะเนอ้อมๆกันอีกต่อไป งานวิจัยแรกพบว่าสารจากน้ำทับทิม สามารถลดภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือด จากไขมันในเลือดสูงได้ โดยทำให้การแข็งตัวหรือการสะสมไขมันในเส้นเลือดหนู และในคนด้วยดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางการแพทย์ ยังมีอีกรายงานที่พบว่าไม่เพียงแต่ลดการสะสมไขมันในตัวเส้นเลือด แต่ยังทำให้เส้นเลือด ที่หนาตัวและมีไขมันสะสมแล้วซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดีแล้ว มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย ผลงานวิจัยดังกล่าวนี้เป็นรายงานใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ที่เชื่อถือได้ และจากการทดลองในผู้ป่วยน้ำทับทิมมีคุณสมบัติ ลดความดันโลหิตได้เล็กน้อยอีกด้วย คือลดได้ประมาณ 5% ในผู้ป่วยที่ความดันโลหิตสูง ซึ่งทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี เป็นเวลาสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ต้องการผลนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทานมากขนาดนั้น สารต้านอนุมูลอิสระในทับทิม ยังบำรุงตับ โดยมีรายงานการให้สารจากทับทิมในหนูทดลองก่อนที่จะให้สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์ต่อตับ พบว่าหนุที่ได้รับสารจากทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง (Hepatoprotectiv effect) ยังมีงานวิจัย ด้วยน้ำทับทิม ทั้งในรูปน้ำสดและกผ่านการหมักต่อเซลล์มะเร็งหน้าอกของคน (Human breast cell) พบว่ามีฤทธิ์ในการ ยับยั้งของเซลล์มะเร็งได้จริงอีกด้วย S N P ต่อหน้า 3
ในประเทศญี่ปุ่นมีรายการแนะนำทับทิมทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ว่า ทับทิมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นอีกมากมาย ทำให้ทับทิมเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง สภาพตลาดทับทิมระหว่างประเทศ ในปัจจุบัน ได้มีการค้นคว้าและแปรรูปทับทิมมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น ในประเทศเยอรมันมี นอกจาก จะมีการผลิตสินค้าจากน้ำทับทิมเข้มข้นนแล้ว ยังได้นำ เมล็ด ใบ และดอก มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลากหลายชนิด น้ำทับทิมจึงเป็นน้ำผลไม้ม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ และเป็นของที่มาจากธรรมชาติ นับเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่มีผลบำรุงร่างกายที่แท้จริง S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP JOKE S “อินเดียนแดง” พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกอินเดียนแดงในเขตสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่า “ฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า”หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์มหัวหน้าเผ่า จึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่า “ปีนี้จะหนาวทารุณ ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ”เมื่อตอบแล้ว หัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุฯ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศตอบว่า “ท่าทางจะหนาวจัด” หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น สองสามวันต่อมา หัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุฯให้แน่ใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน” หัวหน้าเผ่าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชิ้นที่หาได้ พอใกล้ฤดูหนาว หัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุฯ อีกครั้ง “แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด”“100 เปอร์เซ็นต์” เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่นหัวหน้าเผ่าถาม “ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น”กรมอุตุฯตอบ “พวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ!!!”อ้างอิงจาก : http://www.zabzaa.com/joke/view.asp?GID=44 N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP ฟันเฟิร์ม S “วันเกิดบอกนิสัยและเนื้อคู่” พบกันอีกครั้งกับ SNP ฟันเฟิร์ม ครั้งนี้นำวันเกิดมาให้ดูนิสัยและเนื้อคู่ของตัวเองกันว่าจะตรงและแม่นขนาดไหนกัน ผู้ชายที่เกิดวันอาทิตย์: เป็นคนมาดขรึม ท่าทางสุขุมนุ่มลึก ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะไม่ชอบผู้หญิงที่เปรี้ยวเกินไป แต่ก็ไม่เฉื่อยแฉะเกินไปด้วย เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ชอบผู้หญิงรูปร่างสันทัด ความรักที่เจอมักจะเป็นแบบรักแรกพบ ประเภทส่งสายตาปิ๊งกันมากกว่า เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ ผู้หญิงที่เกิดวันอาทิตย์: เป็นคนที่มีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว และใจร้อน เนื้อคู่จะเป็นคนรูปร่างใหญ่หรือไม่ก็สันทัด ผิวค่อนข้างจะคล้ำ หรือไม่ก็ดำแดงมากกว่าเหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพุธ ผู้ชายที่เกิดวันจันทร์: เป็นคนอ่อนน้อม ช่างวิตกกังวล แต่ชอบการต่อสู้แข่งขัน ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะเจ้าชู้ แล้วก็ช่างเลือก เขาจะชอบผู้หญิงที่รูปร่างสันทัด สัดส่วนดี ผิวขาว เอาใจเก่ง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันเสาร์ ผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ : เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ก็อ่อนหวานได้เหมือนกัน มีนิสัยร่าเริง รักสนุก มักเลือกผู้ชายที่รูปร่างกำยำเป็นสุภาพบุรุษ ที่สำคัญต้องเอาใจเก่งด้วย เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันเสาร์ ผู้ชายที่เกิดวันอังคาร: มักชอบพูดจาขวานผ่าซาก และดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เป็นคนโรแมนติกทีเดียว จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานนิ่มนวล ผิวไท่ขาวหรือดำจนเกินไป แต่ถ้าผิวดำแดงจะถูกใจเป็นพิเศษ ส่วนรูปร่างน่ะไม่สำคัญ เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์ N P ต่อหน้า 2
ผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร: เป็นคนรอบรู้ ช่างเจรจา แต่จะเป็นคนดื้อรั้น ไม่ค่อยจะยอมใคร เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์ ผู้ชายที่เกิดวันพุธ: เป็นคนช่างคิด ใจกว้าง รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น น่ารักทีเดียว ชอบผู้หญิงที่อ่อนหวาน แต่งตัวนำสมัย มักจะปิ๊งเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนที่ทำงาน แรกๆอาจไม่ถูกชะตาแต่ต่อไปก็ยิ่งซึ้งน้ำใจมากขึ้นเอง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพุธ ผู้หญิงที่วันพุธ: เป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และมีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก จะชอบผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่และผิวสองสีหรือผิวดำแดง เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันศุกร์ วันเสาร์ ผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี : ชอบเป็นผู้นำ ช่างพูด จริงใจ ชอบผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศเลออะไรนัก แต่ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชอบผู้หญิงผิวขาว โดยเฉพาะรูปร่างอวบๆ จะถูกใจมาก เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันศุกร์ ผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี : เป็นคนถือตัว บางทีอาจดูเหมือนหยิ่ง แต่ก็ชอบช่วยเหลือคนอื่น มักจะมองผู้ชายที่สุภาพ นุ่มนวล มีความรู้ มีเกียรติ แต่ถ้าเพื่อนๆที่ออกจะโลๆ ละก็ไม่ถูกใจเธอแน่เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์ ผู้ชายที่เกิดวันศุกร์ : เป็นคนฉลาด พูดจามีเสน่ห์ แต่อารมณ์มุทะลุ โกรธง่ายแต่หายเร็ว ชอบผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ช่างพูดจนเกินไปและต้องใจเย็นทนอารมณ์แปรปวนเขาได้ เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร วันเสาร์ ผู้หญิงที่เกิดวันศุกร์ : เป็นคนพูดจาอ่อนหวานรักสวยรักงาม พูดจาตรงไปตรงมาดี มีนิสัยน่ารัก คือชอบช่วยเหลือคนอื่น มักชอบผู้ชายที่มาดขรึม และสุภาพ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันอาทิตย์ S N P ต่อหน้า 3
ผู้ชายที่เกิดวันเสาร์ :เป็นคนเด็ดเดี่ยว หูเบา เชื่อคนง่าย ชอบผู้หญิงรูปร่างสเลนเดอร์ สูงโปร่ง ผิวขาว มีเสน่ห์ที่ดวงตา และการพูดจา เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ ผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์: จะเป็นคนหัวรั้นซักหน่อย จึงไม่ค่อยแคร์ใครๆ มักจะปิ๊งแบบฉับพลัน มากกว่ามองกันเป็นชาติ จะชอบคนที่ค่อนข้างผิวขาวมากกว่าผิวดำ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี อ้างอิงจาก : http://horoscope.yenta4.com/horoscope-lover/2794.html S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ช็อตเด็ด บอลโลก S ตอน เปิดบริสุทธิ์ บอลโลก N ซิเดเฟ่ ชาบาลาล่า (เบอร์ 8)/แอฟริกาใต้นิโกลัส โลเดโร่ (เบอร์ 14)/อุรุกวัย ในที่สุด ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากกันแล้วนะครับ แล้วแน่นอนครับ “ช็อตเด็ดบอลโลก” ของเราก็ไม่พลาดจะพาทุกท่านไปเก็บตกบรรยากาศในช่วงวันแรกของการแข่งขันกันแมตช์เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพแอฟริกาใต้กับเม็กซิโกทีมขาประจำฟุตบอลโลกทีมหนึ่งจากโซนคอนคาเคฟ ผลปรากฏว่าเจ๊ากันไปอย่างสนุก 1-1 โดยแอฟริกาใต้ได้ประตูขึ้นนำแล้วเป็นการเปิดบริสุทธิ์สกอร์ครั้งแรกของฟุตบอลโลกหนนี้ด้วย โดยผู้ทำประตูนี้ได้แก่ “ซิเดเฟ่ ชาบาลาล่า” มิดฟิลล์กราบซ้ายจากสโมสร “ไกเซอร์ชีฟฟ์” แชมป์ลีกหลายสมัยของชาติเจ้าภาพนั่นเอง พอยิงประตูเสร็จแกก็ไม่พลาดชวนเพื่อนร่วมทีมมาฉลองประตูในสไตล์แอฟริกันด้วยการเต้นในแบบ บี้ เดอะสตาร์ แต่ผมว่าแกไม่เหมือน พี่บี้ เดอะสตาร์ หรอก แกเหมือน พี่บ้า สติไม่ดี มากกว่า คู่ที่สองของวันเดียวกัน เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างอดีตแชมป์โลกเมื่อปี 1998 และรองแชมป์เก่าจากฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วอย่างฝรั่งเศสและทีมจอมโหด “อุรุกวัย” อดีตแชมป์โลกสมัยแรก ผลการแข่งขันเจ๊ากันไปแบบโนสกอร์ แต่ไฮไลท์ของการแข่งขันในแมตช์นี้ก็คือ “นิโกลัส โลเดโร่” กองกลางพันธุ์ดุของอุรุกวัย เปิดบริสุทธิ์ในแบบที่ไม่มีใครอยากได้ กับการเป็นผู้เล่นคนแรกที่โดนไล่ออกจากการแข่งขันประจำปีนี้เลือกถูกไหมครับ ว่าอยากจดจำแบบ ชาบาลาล่า หรือ โลเดโร่ ดี? โดย เขียดมุมธง P กลับเข้าสู่หน้าหลัก