440 likes | 1.92k Views
เคมีอินทรีย์ 1202-111 พอลิเมอร์ (Polymer). ดร.วันชาติ ปรีชาติวงศ์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และทรัพยากร อาคารวิชาการ 4 ห้อง 146 โทร 2308 : wanchart@yahoo.com Reference: F.W. Billmeyer, Jr., “Textbook of Polymer Science”, Wiley, Singapore, 1984. พอลิเมอร์ (Polymer).
E N D
เคมีอินทรีย์ 1202-111 พอลิเมอร์ (Polymer) ดร.วันชาติ ปรีชาติวงศ์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และทรัพยากร อาคารวิชาการ 4 ห้อง 146 โทร 2308 : wanchart@yahoo.com Reference: F.W. Billmeyer, Jr., “Textbook of Polymer Science”, Wiley, Singapore, 1984
พอลิเมอร์ (Polymer) • บทนำ พอลิเมอไรเซชั่น • สัณฐานวิทยา เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์ • พลาสติก • ยางธรรมชาติและการวัลคาไนซ์ • ยางสังเคราะห์ชนิดต่าง ๆ
พอลิเมอร์ คืออะไร??? • Polymer = Poly (หลาย) + meros (ส่วน) • เกิดจากโมโนเมอร์ (monomer) ซึ่งเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ มาต่อโยงกันโดยพันธะเคมี • เรียกโครงสร้างที่ซ้ำ ๆ กันว่า Repeating Units • เรียกกระบวนการที่โมโนเมอร์มาต่อกันว่า พอลิเมอไรเซชั่น (Polymerization)
Plastics Thermoplastics Thermosetting Elastomers or Rubber Fibers Adhesives Coatings ชนิดของพอลิเมอร์
การเรียกชื่อ เรียกโดยเติม “Poly” นำหน้าชื่อของโมโนเมอร์ที่ใช้เตรียม MonomerPolymer ethylene CH2=CH2 Polyethylene propylene CH2=CH(CH3) Polypropylene vinyl chloride CH2=CHCl Polyvinyl chloride styrene CH2=CH(C6H5) Polystyrene tetrafluoroethylene CF2=CF2 Polytetrafluoroethylene
การเรียกชื่อ (ต่อ) MonomerPolymer methyl methacrylate CH2=C(CH3)(COOCH3) PMMA caprolactam NH2(CH2)5COOH Polycaprolactam
Polymerization Polymerization เป็นปฏิกิริยาการเตรียมพอลิเมอร์ โดยทำให้โมโนเมอร์ มาต่อเรียงกันโดยพันธะเคมี (พันธะโคเวเลนต์) • ปฏิกิริยาควบแน่น (Condensation) หรือ Step-reaction: มีโมเลกุลเล็ก ๆ ออกมา และปฏิกิริยาเกิดเป็นขั้นๆ • ปฏิกิริยาการเติม (Addition) หรือ Chain-reaction: ไม่มีการสูญเสียโมเลกุลเล็ก ๆ และปฏิกิริยาเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
Condensation Polymerization (แบบควบแน่น) • Step-reaction Polymerizationเพราะปฏิกิริยาเกิดเป็นขั้น ๆ Pi + Pj ----> P i+j • โมเลกุลที่เข้าทำปฏิกิริยาไม่จำเป็นต้องเป็นโมโนเมอร์ อาจจะเป็นโมเลกุลที่มีจำนวนโมโนเมอร์อยู่หลายตัว • มีโมเลกุลเล็ก ๆ เป็น by-product ออกจากปฏิกิริยา • สูตรโครงสร้างของ repeating unit ต่างจาก monomer • โมโนเมอร์เป็น bifunctional (มีหมู่ฟังก์ชัน 2 หมู่)
Polyesterเกิดจาก diol + dibasic acid n HO-R-OH + n HOOC-R’-COOH --> H(O-R-OCO-R’-CO-)nOH + (2n-1)H2O Polyamideเกิดจาก diamine + dibasic acid หรือ monomer ที่มี amine และ carboxyl group อยู่ในโมเลกุลเดียวกัน n NH2(CH2)xCOOH ----> H(-NH(CH2)xCO-)nOH + (n-1) H2O n NH2(CH2)xNH2 + n HOOC-(CH2)y-COOH -----> H(-NH(CH2)xNH-CO (CH2)yCO)nOH + (2n-1) H2O
Addition Polymerization (แบบเติม) • Chain-reaction Polymerization เพราะปฏิกิริยาเกิดอย่างต่อเนื่อง • เป็นปฏิกิริยาการเติม โดยที่ไม่มีการสูญเสียโมเลกุลเล็ก ๆ Pn* + M ------> Pn+1* (M = monomer, Pn* = polymer chain with reactive site (*) and degree of polymerization of n) • Reactive Site โดยทั่วไปคือ พันธะไม่อิ่มตัว เช่น พันธะคู่ • เรียกโมโนเมอร์ที่มีพันธะคู่ว่า vinyl monomer
ขั้นตอนย่อยของ Addition 1. Initiation: Initiator จะให้ free radical ออกมา เช่น peroxide แตกตัวเป็น 2 free radicals และจะเข้าทำปฏิกิริยากับโมโนเมอร์ I ---> 2R. R. + CH2=CHX ---> RCH2-CHX . 2. Propagation: chain radical ที่เกิดจะเติมโมโนเมอร์ตัวถัดไป R(CH2-CHX)n CH2-CHX .+ CH2=CHX ---> R(CH2-CHX)n+1 CH2-CHX .
ขั้นตอนย่อยของ Addition (ต่อ) 3. Termination: เป็นการสิ้นสุดของ polymerization 3.1 Combinationหรือ Coupling เป็นการรวมของ free radicals และได้ 1 โมเลกุลของพอลิเมอร์ -CH2CHX. + .XHCCH2- ----> -CH2CHX-XHCCH2- 3.2 Disproportionationมีการให้ H.กับอีก free radical ได้ 2 โมเลกุลของพอลิเมอร์ (โมเลกุลหนึ่งมีพันธะคู่) -CH2CHX. + .XHCCH2- ----> -CH2CH2X + XHC=CH-
Polymerization - น้ำหนักโมเลกุล (MW) • เมื่อ Polymerization ดำเนินไป น้ำหนักโมเลกุลจะเพิ่มขึ้น • น้ำหนักโมเลกุลมีผลต่อสถานะ เช่น Polyethylene (CH2-CH2)nจาก ethylene ethylene (CH2=CH2) -> hexane (C6H14) -> Polyethylene H(CH2)nH (ก๊าซ -> ของเหลว -> ของแข็ง )
Polymer - Oligomer Polymer • n ต้องมีค่ามากพอที่ทำให้สมบัติ (เช่น จุดหลอมเหลว) ของ polymer ไม่เปลี่ยนเมื่อมีการเติมโมโนเมอร์ไปอีกตัว Tm (n) = Tm (n+1) Oligomer - โมเลกุลที่มีน้ำหนักโมเลกุลไม่มากนัก ==> สมบัติเปลี่ยนเมื่อมีการเติมโมโนเมอร์อีกตัว
สัณฐานวิทยา (Morphology) • ผลึก (Crystalline): มีการเรียงตัวเป็นระเบียบ (ความหนาแน่นสูง) ==> ไม่โปร่งแสง • อสัณฐาน (Amorphous): ไม่มีการจัดเรียงตัวและมีช่องว่างระหว่างโซ่สูง (ความหนาแน่นต่ำ) มีรูปร่างที่เรียกว่า “random coil” ==> โปร่งแสง (ถุงร้อนจะขุ่นกว่าถุงเย็น เพราะเป็นชนิดที่มีความเป็นผลึกสูง)
Folded Chains (a) sharp fold (b) switchboard (c) loose loops with adjacent entry, (d) combination of (a-c) Fringed Micelle
Crystalline - Amorphous • พอลิเมอร์ทุกตัวจะต้องมีส่วนอสัณฐานโดยที่อาจจะมีส่วนที่เป็นผลึกหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดเรียงตัวของโซ่ พอลิเมอร์ • พอลิเมอร์ที่เป็นอสัณฐานทั้งหมด เรียก “พอลิเมอร์อสัณฐาน” (Amorphous Polymer) • พอลิเมอร์ที่มีทั้งผลึกและอสัณฐานเรียกพอลิเมอร์กึ่งผลึก (Semi-crystalline Polymer) • โดยทั่วไปพอลิเมอร์จะไม่เป็น 100% crystalline ยกเว้นเตรียมจากการตกผลึกเดี่ยว (Single Crystal)
Thermal Transitions การเปลี่ยนแปลงสถานะเมื่อได้รับความร้อน • Melting Temperature (Tm) หรือ จุดหลอมเหลว ผลึก -> ของเหลว • Glass Transition Temperature (Tg) อสัณฐาน -> ของเหลว Tm > Tg
เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์ • มีการจำแนกพอลิเมอร์ ได้หลายชนิดตามการใช้งาน (1) Plastic Tg > 25 oC (amorphous) Tm > 25 oC (semi-crystalline) (2) Rubber Tg < 25 oC (amorphous) Tm < 25 oC (semi-crystalline) (3) Fiber (ผ่านกระบวนการดึง) (4) Adhesive และ Coating materials
ตัวอย่างค่า Tgและ Tmของพอลิเมอร์ ชนิด TgTm Polydimethylsiloxane -127 -40 rubber Polyisoprene -73 28*rubber Poly(ethylene oxide) -41 66 plastic Polyethylene -36 137 plastic Polypropylene -3 176 plastic PET 61 270 plastic Polystyrene 100 250 plastic * เป็นการตกผลึกภายใต้การดึง (ไม่ใช่ Tmปกติ)
เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์ (ต่อ) การเปลี่ยนรูปเมื่อได้รับความร้อน • Thermoplasticสามารถขึ้นรูปใหม่เมื่อ T > Tmเป็นพลาสติกที่สามารถ recycle ได้ เช่น ขวดน้ำ ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ recycle และรหัสของชนิดของพลาสติก • Thermosetไม่อาจขึ้นรูปใหม่ได้ เพราะเกิดการ crosslink เป็นโครงสร้าง 3 มิติเช่น กาวอีปอกซี ยาง เมลามีน
เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์ (ต่อ) การ polymerization • Addition เช่น PE, PP, PS, PVC, PMMA, PTFE (Teflon) • Condensation เช่น PET, Polyamide (Nylon)
เกณฑ์การจำแนกพอลิเมอร์ (ต่อ) จำนวนชนิดของโมโนเมอร์ • Homopolymer ใช้โมโนเมอร์ชนิดเดียว • Copolymerประกอบด้วยโมโนเมอร์อย่างน้อย 2 ชนิด • random ABAABABBABBAA • alternating ABABABABAB • block AAAAAABBBBBB • graft AAAAAAAAAA B B
Plastics • เป็นพอลิเมอร์ที่มี Tgสูงกว่าอุณหภูมิห้อง จึงมีสภาพแข็ง • พลาสติกที่มีการใช้งานทั่วไป - Polyethylene - Polypropylene - Polyvinyl chloride - Polystyrene - PET - Nylon (Polyamide) • พลาสติกพิเศษ - เสื้อกันกระสุน
Polyethylene (PE) • เตรียมจาก ethylene CH2=CH2 • มีจุดหลอมเหลว 110-137oC มี 2 ประเภท 1. Low Density PE (LDPE): PE ซึ่งมีกิ่งต่อจากโซ่หลัก ทำให้มีการจัดเรียงตัวในส่วนผลึกไม่ดี (มีช่องว่างมาก) 2. High Density PE (HDPE): PE ซึ่งมีกิ่งน้อยมาก มีการเรียงตัวกันดี ทำให้มีความเป็นผลึกสูง => แข็งแรงกว่า *Ultra High MW PE: ใช้ทำเป็นชิ้นส่วนในกระดูกเทียม
Polypropylene (PP) • เตรียมจาก propylene CH2=CH(CH3) • มีจุดหลอมเหลวสูงกว่า PE เพราะหมู่ CH3ที่เพิ่ม (165 - 177oC) • ใช้ทำภาชนะใส่อาหารที่ใช้ในเตาไมโครเวฟได้
Polyvinyl Chloride (PVC) • เตรียมจาก CH2=CHCl • เป็นพลาสติกที่แข็ง เนื่องจากมีแรงดึงดูดแบบมีขั้ว ซึ่งเกิดจาก Cl (มีค่า Electronegativity) ทำให้จุดหลอมเหลวสูง (204oC ) • ใช้ทำท่อน้ำประปา • มีการเติมสาร “plasticizer” เพื่อลดความแข็ง • หนังเทียม ==> ในรถยนต์ใหม่จะมีกลิ่น เพราะ plasticizer ระเหยออกมา
Polystyrene (PS) • เตรียมจาก CH2=CH(C6H5) • โดยทั่วไปเป็นอสัณฐานเนื่องจากขนาดของ C6H5ที่ใหญ่ ทำให้เกิดการเรียงตัวเป็นผลึกได้ไม่ดี • เป็นพลาสติกใส (แต่เปราะ) หรือทำให้เป็นโฟม โดยการเติมสารทำให้เกิดโฟม • มี Tg = 100oC, Tm = 150-243oC
Poly(ethylene terephthalate) (PET) • เตรียมจาก ethylene glycol และ terephthalic acid • มี repeating unit เป็น (O-CH2-CH2-O-CO- -CO-) • เป็นพลาสติกที่เหนียว ใช้ทำขวดน้ำมันพืช ขวดน้ำอัดลม
Polyamide (Nylon) • เตรียมจาก diamine + dibasic acid หรือโมโนเมอร์ที่มีหมู่ amine และ carboxyl อยู่อย่างละข้าง H(-NH(CH2)xNH-CO (CH2)yCO)nOH มักใช้งานในรูปของเส้นใย (fiber)
Aramid • Aramid = Aromatic + amide (-CO- -CO-NH- -NH-)n • ชื่อการค้าว่า Kevlar • ใช้ทำเสื้อเกราะกันกระสุน เพราะมีความเหนียว ซึ่งเกิดจากวงแหวน C6H4ที่อยู่ในโซ่พอลิเมอร์ เทียบกับพลาสติกทั่วไป ซึ่งเป็น CH2
Polytetrafluoroethylene (PTFE) • ชื่อการค้าว่า Teflon (-CF2-CF2-)n • ทนต่ออุณหภูมิสูง จุดอ่อนตัว = 370oC • ใช้เคลือบกระทะ เพราะสารอื่นเกาะไม่ดี
Composite Materials • วัสดุประกอบ หมายถึงวัสดุซึ่งเกิดจากการนำวัสดุอย่างน้อย 2 ชนิดมาใช้งานร่วมกัน อาจเป็น โลหะ พอลิเมอร์ เซรามิกซ์ - ปีกเครื่องบิน (โลหะผสม + carbon fiber) - เสา (คอนกรีต + เหล็กเส้น) - ยางรถยนต์ (ยาง + เส้นใยเหล็ก ไนลอน PET) - ไม้เทนนิส (รุ่น graphite, boron, etc.) http://www.ccm.udel.edu