500 likes | 586 Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. โรม 11. PAUL HIMSELF เปาโล เขาเอง (ROMANS โรม 11:1).
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
PAUL HIMSELF เปาโลเขาเอง (ROMANS โรม 11:1)
1I ask, then, has God rejected his people? By no means! For I myself am an Israelite, a descendant of Abraham, a member of the tribe of Benjamin. 1เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงถามว่า “พระเจ้าทรงทอดทิ้งชนชาติของพระองค์แล้วหรือ” หามิได้ข้าพเจ้าเองก็เป็นชนชาติอิสราเอล เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม เป็นเผ่าเบนยามิน
2God has not rejected his people whom he foreknew. Do you not know what the Scripture says of Elijah, how he appeals to God against Israel?
3“Lord, they have killed your prophets, they have demolished your altars, and I alone am left, and they seek my life.” 3“พระองค์เจ้าข้าพวกเขาได้ฆ่าพวกผู้เผยพระวจนะของพระองค์แท่นบูชาของพระองค์เขาก็ได้ขุดทำลายลงเสียเหลืออยู่แต่ข้าพระองค์คนเดียวและเขาแสวงหาช่องทางที่จะประหารชีวิตของข้าพระองค์”
4But what is God's reply to him? “I have kept for myself seven thousand men who have not bowed the knee to Baal.” 4แล้วพระเจ้าทรงตอบท่านว่าอย่างไรว่าดังนี้“เราได้เหลือคนไว้สำหรับเราเจ็ดพันคนซึ่งเป็นผู้ที่มิได้กราบไหว้พระบาอัล”
5So too at the present time there is a remnant, chosen by grace. 5เช่นนั้นแหละบัดนี้ก็ยังมีพวกที่เหลืออยู่ตามที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้โดยพระคุณ
6But if it is by grace, it is no longer on the basis of works; otherwise grace would no longer be grace. 6แต่ถ้าเป็นทางพระคุณก็หาได้เป็นเพราะทางการประพฤติไม่ถ้าเป็นทางการประพฤติพระคุณก็จะไม่เป็นพระคุณอีกต่อไป
7What then? Israel failed to obtain what it was seeking. The elect obtained it, but the rest were hardened, 7ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรพวกอิสราเอลไม่พบสิ่งที่เขาแสวงหาแต่คนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้นั้นเป็นผู้ได้พบและคนนอกนั้นก็มีใจแข็งกระด้างไป
8as it is written, “God gave them a spirit of stupor, eyes that would not see and ears that would not hear, down to this very day.”8ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าพระเจ้าได้ทรงประทานใจที่เซื่องซึมประทานตาที่มองไม่เห็นหูที่ฟังไม่ได้ยิน ให้แก่เขาจนทุกวันนี้
9And David says, “Let their table become a snare and a trap,a stumbling block and a retribution for them;9กษัตริย์ดาวิดทรงกล่าวว่าให้งานเลี้ยงของเขาเป็นบ่วงแร้วและเครื่องดักเป็นสิ่งให้สะดุดและเป็นสิ่งสนองเขา
10let their eyes be darkened so that they cannot see, and bend their backs forever.”10ให้ตาของเขามืดไปเพื่อเขาจะได้มองไม่เห็นและให้หลังของเขางอค่อมตลอดไป
THE GENTILES คนต่างชาติ (ROMANS โรม 11:11-15)
11So I ask, did they stumble in order that they might fall? By no means! Rather through their trespass salvation has come to the Gentiles, so as to make Israel jealous.
12Now if their trespass means riches for the world, and if their failure means riches for the Gentiles, how much more will their full inclusionmean! 12แต่ถ้าการที่พวกอิสราเอลละเมิดนั้นเป็นเหตุให้ทั้งโลกบริบูรณ์และถ้าการพ่ายแพ้ของเขาเป็นเหตุให้คนต่างชาติบริบูรณ์หากได้เขามาเพิ่มเข้าด้วยจะดียิ่งกว่านั้นอีกมากหนอ
13Now I am speaking to you Gentiles. Inasmuch then as I am an apostle to the Gentiles, I magnify my ministry 13แต่ข้าพเจ้ากล่าวแก่พวกท่านที่เป็นคนต่างชาติเพราะข้าพเจ้าเป็นอัครทูตมายังพวกต่างชาติข้าพเจ้าจึงยกย่องพันธกิจรับใช้ของข้าพเจ้า
14in order somehow to make my fellow Jews jealous, and thus save some of them. 14เพื่อข้าพเจ้าจะได้เร้าใจพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าให้เขาเอาอย่างเพื่อให้เขารอดได้บ้าง
15For if their rejection means the reconciliation of the world, what will their acceptance mean but life from the dead?
THE PATRIARCHSบรรพบุรุษ(ROMANS โรม 11:16-24)
16If the dough offered as first fruits is holy, so is the whole lump, and if the root is holy, so are the branches. 16ถ้าแป้งดิบก้อนแรกที่ปิ้งบริสุทธิ์แป้งดิบทั้งอ่างก็บริสุทธิ์ด้วยและถ้ารากบริสุทธิ์กิ่งทั้งหมดก็บริสุทธิ์ด้วย
17But if some of the branches were broken off, and you, although a wild olive shoot, were grafted in among the others and now share in the nourishing rootof the olive tree, 17แต่ถ้าทรงหักกิ่งบางกิ่งออกเสียแล้วและได้ทรงนำท่านผู้เป็นกิ่งมะกอกเทศป่ามาต่อกิ่งไว้แทนกิ่งเหล่านั้นเพื่อให้เข้าเป็นส่วนได้รับน้ำเลี้ยงจากรากต้นมะกอก
18do not be arrogant toward the branches. If you are, remember it is not you who support the root, but the root that supports you. 18ท่านก็อย่าอวดดีต่อกิ่งเหล่านั้นถ้าท่านอวดดีใช่ว่าท่านได้เลี้ยงรากนั้นก็หาไม่แต่รากต่างหากเลี้ยงท่าน
19Then you will say, “Branches were broken off so that I might be grafted in.” 19ท่านอาจจะแย้งว่า “กิ่งเหล่านั้นได้ทรงหักออกเสียแล้วก็เพื่อจะได้ต่อกิ่งข้าไว้”
20That is true. They were broken off because of their unbelief, but you stand fast through faith. So do not become proud, but stand in awe. 20ถูกแล้วเขาถูกหักออกก็เพราะเขาไม่เชื่อแต่ที่ท่านอยู่ได้ก็เพราะความเชื่อเท่านั้นอย่าเย่อหยิ่งไปเลยแต่จงเกรงกลัว
21For if God did not spare the natural branches, neither will he spare you. 21เพราะว่าเมื่อพระองค์มิได้ทรงงดโทษกิ่งเหล่านั้นที่เป็นกิ่งเดิมพระองค์ก็จะไม่ทรงงดโทษท่านเหมือนกัน
22Note then the kindness and the severity of God: severity toward those who have fallen, but God's kindness to you, provided you continue in his kindness. Otherwise you too will be cut off.
23And even they, if they do not continue in their unbelief, will be grafted in, for God has the power to graft them in again. 23ส่วนเขาทั้งหลายถ้าเขาไม่ดึงดันอยู่ในความไม่เชื่อสืบไปเขาก็จะได้รับการต่อกิ่งเข้าไปใหม่เพราะว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์อาจที่จะทรงให้เขาต่อกิ่งเข้าอีกได้
24For if you were cut from what is by nature a wild olive tree, and grafted, contrary to nature, into a cultivated olive tree, how much more will these, the natural branches, be grafted back into their own olive tree.
GOD HIMSELF พระเจ้า (ROMANS โรม 11:25-36)
25 Lest you be wise in your own conceits, I want you to understand this mystery, brothers: a partial hardening has come upon Israel, until the fullness of the Gentiles has come in.
26And in this way all Israel will be saved, as it is written, “The Deliverer will come from Zion, he will banish ungodliness from Jacob”;
26และเมื่อเป็นดังนั้นพวกอิสราเอลทั้งปวงก็จะได้รับความรอดตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาจากเมืองศิโยนและจะทรงกำจัดอธรรมให้สูญสิ้นไปจากยาโคบ26และเมื่อเป็นดังนั้นพวกอิสราเอลทั้งปวงก็จะได้รับความรอดตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาจากเมืองศิโยนและจะทรงกำจัดอธรรมให้สูญสิ้นไปจากยาโคบ
27“and this will be my covenant with them when I take away their sins.”27และนี่แหละจะเป็นพันธสัญญาของเรากับเขาทั้งหลายเมื่อเรายกโทษบาปของเขา
28As regards the gospel, they are enemies of God for your sake. But as regards election, they are beloved for the sake of their forefathers. 28ในเรื่องข่าวประเสริฐนั้นเขาเหล่านั้นก็เป็นศัตรูของพระเจ้าเพื่อประโยชน์ของพวกท่านแต่ถ้าว่าตามที่ได้ทรงเลือกไว้เขาทั้งหลายก็เป็นที่รักเนื่องจากบรรพบุรุษของเขา
29For the gifts and the calling of God are irrevocable. 29เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงกลับพระทัยในการที่ได้ทรงให้ของประทานและทรงเลือกสรรไว้
30Just as you were at one time disobedient to God but now have received mercy because of their disobedience, 30ท่านทั้งหลายก็เหมือนกันเมื่อก่อนมิได้เชื่อฟังพระเจ้าแต่บัดนี้ได้รับพระกรุณาเพราะความไม่เชื่อฟังของพวกเหล่านั้นฉันใด
31so they too have now been disobedient in order that by the mercy shown to you they also may nowreceive mercy. 31บัดนี้เขาเหล่านั้นก็มิได้เชื่อฟังเพื่อว่าเขาจะได้รับพระกรุณาโดยพระคุณที่ได้ประทานแก่ท่านทั้งหลายฉันนั้น
32For God has consigned all to disobedience, that he may have mercy on all. 32เพราะว่าพระเจ้าทรงปล่อยให้คนทุกคนอยู่ในฐานะที่ไม่เชื่อฟังเพื่อพระองค์จะได้ทรงพระกรุณาแก่เขาทั้งหลายทุกคน
33Oh, the depth of the riches and wisdom and knowledge of God! How unsearchable are his judgments and how inscrutable his ways! 33โอพระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้นล้ำลึกเท่าใดข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้
34“For who has known the mind of the Lord, or who has been his counselor?”34เพราะว่าใครเล่ารู้พระทัยของพระเจ้าหรือใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
35“Or who has given a gift to him that he might be repaid?”35หรือใครเล่าได้ถวายสิ่งหนึ่งสิ่งใดแก่พระองค์ที่พระองค์จะต้องประทานตอบแทนให้แก่เขา
36For from him and through him and to him are all things. To him be glory forever. Amen. 36เพราะสิ่งสารพัดมาจากพระองค์โดยพระองค์และเพื่อพระองค์ขอพระสิริจงมีแด่พระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์อาเมน