1 / 105

English Conversation การสนทนาภาษาอังกฤษ by likhitta

English Conversation การสนทนาภาษาอังกฤษ by likhitta. จบม. 6 ใน 8 เดือน . มาตรฐานการเรียนรู้. 1. สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ ตัวบ่งชี้ 1.1 รู้และเข้าใจ ศัพท์ เกี่ยวกับงานอาชีพ ธุรกรรมกับสถาบันการเงิน 1.2 สนทนาเ กี่ยวกับการทำงาน หรือการให้บริการ 1.3 เจรจาต่อรอง เกี่ยวกับอาชีพ

zody
Download Presentation

English Conversation การสนทนาภาษาอังกฤษ by likhitta

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. English Conversationการสนทนาภาษาอังกฤษ by likhitta จบม.6 ใน 8 เดือน

  2. มาตรฐานการเรียนรู้ 1. สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ ตัวบ่งชี้ 1.1 รู้และเข้าใจศัพท์ เกี่ยวกับงานอาชีพ ธุรกรรมกับสถาบันการเงิน 1.2 สนทนาเกี่ยวกับการทำงาน หรือการให้บริการ 1.3 เจรจาต่อรองเกี่ยวกับอาชีพ 2. สนทนาเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ตัวบ่งชี้ 1.1 พูดแนะนำตัวเองสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มประเทศอาเซียน 1.2 แนะนำสินค้า/บริการ แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญ ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนและประเทศ

  3. การสนทนา พิจารณาเลือกคำตอบ ตามแต่กรณีตามสถานการณ์ “ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร กับใคร”

  4. กรณีศึกษา จับใจความจากหัวใจสำคัญก็คือ โครงสร้างหลักๆในเรื่อง phrase(วลีหรือกลุ่มคำ), sentence(ประโยคหลัก) และclause (ประโยคย่อย) ใคร (Who) ทำอะไร (What)ที่ไหน (Where)เมื่อไร (When)อย่างไร (How)กับใคร (Whom) P A big bird in the bush. นกใหญ่ตัวหนึ่งในพุ่มไม้ S A big bird is singing in the bush. After a big bird is singing in the bush. c

  5. หลักคิดเรื่อง โครงสร้างหลักที่จำเป็นต่อการสอบ (พื้นฐานเรื่องโครงสร้างประโยค) 1. คำ 2. กลุ่มคำ หรือวลี (phrase) คือเอาคำมารวมกันหลายๆคำ 3. ประโยค(sentence) ประกอบด้วยอย่างน้อย คือ ประธาน กริยา สามารถวางไว้ได้อย่างอิสระ 4. ประโยคย่อย (clause) ประกอบด้วยอย่างน้อย คือ ประธาน กริยา ต้องขึ้นต้นประโยคด้วยตัวเชื่อมต่างๆเสมอ เช่น which, that, because, although, when เป็นต้น

  6. โครงสร้างพื้นฐานหลัก

  7. สอบที่ผ่านมา ทดสอบอะไร ?

  8. ทดสอบความสามารถในด้านไวยากรณ์ Structure Part แบ่งออกเป็น ให้หาข้อถูก และให้หาข้อผิด ควรใช้เทคนิคคือ ยังไม่ต้องอ่านโจทย์ พยายามจับให้ได้ว่าข้อสอบต้องการวัดเรื่องอะไร และเมื่อสังเกตจะพบว่า... 1. มีคำเหมือนกัน สลับที่กันไปมา (ห้ามอ่านเด็ดขาด) 2. ใช้ศัพท์คำเดียวกัน แต่หน้าตาแตกต่างกัน เช่น invention, inventing, invented (เขาวัดหน้าที่ของคำ วัดรูปแบบของ verb หรืออาจจะวัดเป็น ประโยค ประโยคย่อ วลี ก็ได้ 3. ใช้คำไม่เหมือนกัน (สังเกตจากประเภทของคำหลักๆที่ต่างกัน) เช่น which, they, and, in พยายามจับประเด็นว่าข้อสอบต้องการวัดอะไร

  9. ความสามารถในการอ่าน Reading Part • มักจะถามคำถามหลักๆ ต่อไปนี้ • ให้สรุปความคิดเห็นหลักของเรื่องMain idea ความคิดหลัก, Title หัวเรื่อง,Topic หัวข้อ • ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง (infer) • ตอบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน (detail) • เป็นการถามถึงอารมณ์หรือแนวการเขียนของผู้เขียน (tone) • ทดสอบความสามารถในการใช้ศัพท์ (vocabulary)

  10. ตอบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน (detail) หลักคิด ประโยค SENTENCE

  11. อะไรO ใคร S ทำV

  12. 3. ส่วนประกอบของประโยค My mom ประธาน Made กริยา Pizza กรรม แม่ฉันทำพิซซ่า

  13. ส่วนประกอบประโยค 2 กริยา ส่วน เติม เต็ม 1ประธาน 3 กรรม ประโยค

  14. เป็นกรรม(O) หรือ เป็นส่วนเติมเต็ม (C) I love you. ประธานS กริยาV กรรมO I am an artist. กริยาV ประธานS ส่วนเติมเต็ม C

  15. คำกริยา (verbs) คือคำที่แสดงการกระทำ รวมทั้งบอกอาการ มี, เป็น, อยู่, คือ ของประธานในประโยค (ซึ่งอาจเป็นชื่อคน สรรพนาม หรือนามโดยสมมุติ)

  16. He ate mango yesterday I wanted you last week.

  17. กริยาช่วย คือ กริยาที่ใช้คู่กับกริยาตัวอื่น(กริยาแท้) เพื่อให้ได้ใจความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และช่วยสร้าง Tense ที่แตกต่างกันออกไป ต้องการเน้นให้ ใจความ ของประโยค ความหมายไป ในทำนองว่า จะ, ควรจะ, หรือสามารถ ใช้ในการเปลี่ยน ประโยคบอกเล่า ให้เป็นปฏิเสธ หรือคำถาม ใน Present simple, Past simple เพื่อแสดง Perfect Tense หรือการกระทำที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

  18. ลักษณะพิเศษกริยาช่วย 3 ข้อ • 1. แม้ประธานเป็นบุรุษที่ 3 เอกพจน์ ก็ไม่เติม –(e)s Ratree can swim well. Ton must do this homework. • 2. ลำดับคำต้องเป็น “กริยาช่วย + กริยาช่อง 1” Ratreewill be a pilot. Ton can sing a song. • 3. ประโยคปฏิเสธและคำถาม ไม่ใช้ do(es) • Can I look at the picture ? ฉันขอดูรูปได้ไหม No, you can,t. ไม่ได้ เธอดูไม่ได้ • You may use my car. เธอใช้รถของฉันก็ได้ • May I come in ? ขอฉันเข้าไปได้ไหม Yes, you may. ได้ เธอเข้ามาได้ • Fa may not come home tonight. ฟ้าอาจจะไม่กลับบ้านคืนนี้

  19. ชนิดของประโยค • 1. ประโยคบอกเล่า I like pizza. ฉันชอบพิซซ่า • 2. ประโยคคำถาม Do you want some cola ? เอาโคล่าไหม • 3. ประโยคคำสั่ง Have some pizza. กินพิซซ่าซิคะ/ครับ • 4. ประโยคอุทาน How delicious !อร่อยจังเลย !

  20. โครงสร้างประโยค 5 แบบมาตรฐานของการแบ่งประเภทของประโยค E ก็คือ “คำกริยา” • แบบที่ 1 S + V • แบบที่ 2 S + V + C • แบบที่ 3 S + V + O • แบบที่ 4 S + V + IO +DO • แบบที่ 5 S + V + O + OC ไม่มีกรรม มีกรรม

  21. คำนิยาม • S = Subject ประธาน • V= Verb กริยา • C= Complete สมบูรณ์ • O = Object กรรม • DO = Direct Object กรรมตรง • IO = Indirect Object กรรมรอง • OC = Object Complete ส่วนเติมเต็มกรรม

  22. โครงสร้างประโยค 5 แบบ แบบที่ 1 S + V(กริยาที่ไม่ต้องมีกรรม หรืออกรรมกริยาสมบูรณ์) อกรรมกริยา คือกริยาที่ใช้เดี่ยวๆได้ ไม่ต้องมีกรรม นกร้อง พระอาทิตย์ส่องแสง Birds sing. The sun shines. S + V S + V

  23. แบบที่ 2 S + V + C ประธาน + กริยา + ส่วนเติมเต็ม (ที่เป็นคำนาม/คุณศัพท์/กริยาบอกการรับรู้) I am a doctor. ฉันเป็นหมอ (ฉัน = หมอ) She is beautiful. หล่อนสวย The leaves turned red. ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง This ice cream tastes sweet. ไอศกรีมนี่มีรสหวาน Falooks happy. ฟ้าดูท่าทางมีความสุข (look taste smell sound feel)

  24. แบบที่ 3 S + V + O ประธาน + กริยา(สกรรมกริยา) + กรรม I have a car. ฉันมีรถ S+V +O My father loves me very much. พ่อของฉันรักฉันมาก I want to drink some coffee. ฉันอยากดื่มกาแฟ

  25. แบบที่ 4 S + V + IO + DO กรรมรองมักระบุคำว่า “แก่หรือให้” He gave me a present. เขาให้ของขวัญแก่ฉัน Please pass me the salt. ช่วยส่งขวดเกลือให้ฉันหน่อย Fa told Toan the news. ฟ้าบอกข่าวแก่ต้น She sent me a card. หล่อนส่งการ์ดมาให้ฉัน The students asked me some Questions. พวกนักเรียนถามคำถามฉัน Mother made her a new dress. คุณแม่ตัดชุดใหม่ให้หล่อน Please get me some water. ขอน้ำให้ฉันหน่อยค่ะ/ครับ

  26. แบบที่ 5 S + V + O+ OC ประธาน+กริยา+กรรม+ ส่วนเติมเต็มกรรม(อยู่หลังกรรม) We call him Toan. เราเรียกเขาว่าต้น I think him a great musician. ฉันคิดว่าเขาเป็นนักดนตรีที่ยอดเยี่ยม The news madeFa happy. ข่าวนั้นทำให้ฟ้ามีความสุข I want you to do the work. ฉันอยากให้เธอทำงานนั้น

  27. คำเชื่อมอนุประโยค (ประพันธ์สรรพนาม = Relative Pronoun) Who whom whose which that what where when why how Which (ที่, ซึ่ง, อัน) คำที่ขยายเป็นสิ่งของและสัตว์ Why คำที่ถูกขยายเป็นเหตุผล Who (ผู้ซึ่ง ) เป็นคนโดยเฉพาะทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค whom (ผู้ซึ่งเป็นกรรม) คำที่ถูกขยายเป็นคนเฉพาะ What “สิ่งซึ่ง, ที่ซึ่ง” ใช้แทนสิ่งของโดยเฉพาะ How คำที่ถูกขยายเป็นวิธีการ Whose “ของผู้ซึ่ง, ของผู้ที่” ใช้แสดงความเป็นเจ้าของเป็น คนหรือ สัตว์ ก็ได้ Where “ที่ซึ่ง” ใช้แทนสถานที่โดยเฉพาะ That “ที่, ซึ่ง, อัน” คำที่ถูกขยายเป็นได้ทั้ง คน สัตว์ หรือสิ่งของ When คำที่ถูกขยายเป็นเวลา

  28. การใช้ Yes, No ใช้เป็นคำตอบสำหรับประโยคคำถามซึ่งนำหน้าด้วยกริยา is, am, are, have, has, will, shall, canและกริยาช่วย do, does, did เป็นต้น

  29. 24 กริยาพิเศษ มี 11 หมวด • 1. is, am, are/was, were = เป็น, อยู่, คือ • 2. has, have/ had = มี • 3. will, shall/ would, should = จะ, ควรจะ • 4. can/ could = สามารถ • 5. may/ might = อาจจะ, ขออนุญาต • 6. must = ต้อง...แน่ๆ • 7. ought to = ควรจะ • 8. used to = เคย • 9. need = จำเป็นต้อง • 10. dare = กล้า, ท้า • 11. do, does,/ did = ใช้ถาม และปฏิเสธ

  30. คำแสดงคำถาม (Question Words)ต้องตอบอธิบายเป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช้ Yes หรือ No • Who (ใคร) ต้องการทราบว่า “บุคคลใด” เป็นผู้กระทำกริยาหลัง Who ต้องเป็นเอกพจน์เสมอ (เช่น wants, is, has) • What (อะไร) ใช้ในการถามเกี่ยวกับ “สิ่งของทั่วๆไป ชื่อ การกระทำ” ถ้าใช้ what กับคน หมายถึง ต้องการถามถึงอาชีพ What is your father ? • Where (ที่ไหน)ใช้ถามเมื่อต้องการทราบถึงสถานที่ว่าเป็นที่ไหน เช่น Where • When (เมื่อไร) • Why (ทำไม) • How (อย่างไร) • Whom (ใคร) ใช้เป็นกรรม • Which (สิ่งไหน, อันไหน) • Whose (ของใคร)

  31. การใช้ WHo Who (ใคร) Who + กริยา + ……? ต้องการทราบว่า “บุคคลใด” เป็นผู้กระทำ Who likes a cat ? ใครชอบแมว? Who is playing ? ใครกำลังเล่นอยู่ ? Who is there ? ใครอยู่ที่นั่น ? Who has a pen ? ใครมีปากกา ? กริยาหลัง Who ต้องเป็นเอกพจน์เสมอ (เช่น wants, is, has)

  32. การใช้ what What (อะไร) ใช้ในการถามเกี่ยวกับ “สิ่งของทั่วๆไป ชื่อ การกระทำ” ถ้าใช้ what กับคน หมายถึง ต้องการถามถึงอาชีพ What is your father? พ่อของคุณมีอาชีพอะไร What are you doing ? คุณกำลังทำอะไร? What is your name ? คุณชื่ออะไร ? What is that ? นั่นคืออะไร ? What do you want ? คุณต้องการอะไร ?

  33. การใช้ when When “เมื่อไร” ใช้เมื่อต้องการทราบเวลา When + กริยาช่วย + …….? ตัวอย่างประโยค When do you go home ? คุณกลับไปบ้านเมื่อไร ? When did he come here ? เขามาที่นี่เมื่อไร ? Whendid she get up ? เธอตื่นนอนเมื่อไหร่ ?

  34. การใช้ WHY Why ใช้ถามเมื่อต้องการทราบเหตุผลว่า “ทำไม” Why + กริยาช่วย + ........ ? ตัวอย่างประโยค Why does she go ? เธอไปทำไม ? Why is he angry ? ทำไมเขาถึงโกรธ ? Why does she get up early ? ทำไมเธอถึงตื่นเช้า ? Why do we work hard ?ทำไมพวกเราถึงต้องทำงานหนัก ?

  35. การใช้ Where การใช้ where ใช้ถามเมื่อต้องการทราบถึงสถานที่ว่าเป็น “ที่ไหน” ตัวอย่างประโยค Where is your house ? บ้านของคุณตั้งอยู่ที่ไหน ? Where were you born ? คุณเกิดที่ไหน ? Where do you come from ? คุณมาจากไหน ? Where are you going ? คุณจะไปไหน ?

  36. การใช้ WHICH ใช้ถามเกี่ยวกับสัตว์หรือสิ่งของว่าเป็น “อันไหน, ตัวไหน” หากคำนามที่เป็นบุคคลตามหลัง Which จะใช้ถามว่า “คนไหน” ตัวอย่างประโยค Which is your pen ? ปากกาด้ามไหนเป็นของคุณ ? Which dog do you like ? คุณชอบสุนัขตัวไหน ? Which teacher do you like best ? ครูคนไหนที่คุณชอบที่สุด ?

  37. การใช้ WHOSE ใช้ถามว่าสิ่งที่เห็นเป็น “ของใคร” และจะวาง whose อยู่หน้าคำนามเสมอ ตัวอย่างประโยค Whose book is this ? หนังสือนี้เป็นของใคร ? Whose cats are black ? แมวของใครสีดำ ? Whose rulers are there ? ไม้บรรทัดของใครอยู่ที่นั่น ?

  38. การใช้ WHOM ใช้ถามเมื่อต้องการคำตอบว่าเป็น บุคคลใด แต่เป็นในลักษณะที่เป็นกรรม (object) ของกริยา (verb) หรือบุพบท (preposition) ตัวอย่างประโยค Whom do you like ? คุณชอบใคร ? Whom does he speak to ? เขาพูดกับใคร ? Whom do you go with ? คุณไปกับใคร ?

  39. การใช้ HOW ใช้เมื่อต้องการถามเกี่ยวกับอาการหรือการเดินทางว่า เป็น “อย่างไร” อาจจะนำไปผสมกับ คำคุณศัพท์ (adjective) และกริยาวิเศษณ์ (adverb) แล้ววางไว้ที่หน้าประโยค How are you ? คุณสบายดีหรือ ? How far is it from here ? จากนี่ไปไกลแค่ไหน ? How long is your hair ? ผมของคุณยาวแค่ไหน ? How many pens do you have ? คุณมีปากกากี่ด้าม ? How much money does he has ? เขามีเงินมากเท่าไร ?

  40. คำถามที่ต้องการคำตอบว่า yes หรือ no (ไม่ต้องการรายละเอียด) Do you like FA ? ตอบ Yes หรือ No การแสดง คำถาม คำถามที่ต้องการรู้รายละเอียดมากขึ้น เช่น Who why where when what how

  41. PASSIVE VOICEการที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ และทำหน้าที่เป็นกรรม ประธาน HE กริยา loves กรรม Her. เขารักหล่อน She ประธาน Is loved Be+กริยาช่อง 3 By him. ผู้กระทำ หล่อนถูกเขารัก He was killed in the battle. เขาถูกฆ่าตายในสงคราม Japanese is spoken in Japan. ภาษาญี่ปุ่นถูกใช้พูดในญี่ปุ่น

  42. จงเลือกคำแสดงคำถามเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้องจงเลือกคำแสดงคำถามเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง • 1. A : ____ is Toan so angry ? B : Toan is angry because he lost his digital camera. 1. Why 2. Who 3. What 4. How 2. A : ____ shoes are those ? B : Those are Fa’s. 1. Why 2. Who 3. Whom 4. Whose 3. A : ____ one is her car ? 1. Who 2. Which 3. What 4. Why

  43. 4. A : ____ are you talking to ? B : I’ m talking to Fa. 1. Whom 2. Why 3. Which 4. How 5. A : ____ did Fa go there ? B : She went there last Monday. 1. Who 2. How 3. Which 4. When 6. A : ____ often does she go to the movies ? 1. Who 2. How 3. What 4. When 7. A : ____ is this book ? 1. Who 2. What 3. Whose 4. When

  44. จงเติมคำลงในช่องว่าง • 1. Where ____ Toan live ? • 1. is 2. are 3. do 4. does 2. How much ____ this ? 1. is 2. are 3. be 4. does 3. ____ you go there ? 1. How 2. How did 3. Why are 4. Why were 4. ____ you like best ? 1. Which does 2. Which sports does 3. Which sports do 4. What sports does 5. ____ the bus stop ? 1. When did it 2. When does it 3. Where is 4. How often

  45. สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพสนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ 1. รู้และเข้าใจศัพท์ เกี่ยวกับงานอาชีพ ธุรกรรมกับสถาบันการเงิน

  46. ศัพท์เกี่ยวกับอาชีพ Pictures of Occupations explorerAn explorer explores unknown places and discovers new things. For example, Magellan was an explorer who led the first expedition that sailed around the Earth.

  47. artistAn artist creates works of art.

  48. athleteSomeone who is good at a sport is an athlete.

  49. magicianA magician performs magic tricks.

  50. teacherA teacher is someone who helps you learn.

More Related