1 / 20

Verb

Verb. Verb การใช้  Verb  to  be การใช้  Verb to  have การใช้  Verb  to  do. การใช้  Verb  to  be. Verb  to  be ( is ,  am ,  are). Verb  to  be  มีหลักการใช้  ดังนี้ 1.      ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  เป็น  อยู่  คือ

eliora
Download Presentation

Verb

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Verb

  2. Verb การใช้  Verb  to  beการใช้  Verb to  haveการใช้  Verb  to  do

  3. การใช้  Verb  to  be

  4. Verb  to  be ( is ,  am ,  are) • Verb  to  be  มีหลักการใช้  ดังนี้ • 1.      ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  เป็น  อยู่  คือ • 2.      ใช้วางข้างหน้า กลุ่มคำ   adjective  ( คำคุณศัพท์ ) • 3.      ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Continuous ( ประโยคที่มี กริยา ing ) • 4.      ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Passive  Voice • ( ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ )

  5. หลักการใช้กับประธานในประโยคหลักการใช้กับประธานในประโยค 1.  ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่  3  ซึ่งได้แก่  He  She  It  หรือ ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  is   เช่น *He  is  a  teacher.                               *Sam  is  a  singer *She  is  in  the  room.                         *My  father   is  sleeping. *It  is  a  dog.                                        *The 

  6. 2.   ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่  1  (  ผู้พูดคนเดียว ) ซึ่งได้แก่  I  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  am *I  am  a  student.                         *  I  am  under  the  table.

  7. 3.  ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ  ซึ่งได้แก่  We  You  They   หรือ ชื่อคนหลาย  • สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  are  เช่น •    *We  are  nurses.                    * My  father  and  I  are  in  the  room. • They  are  policemen.           • *Da and  her  friends  are  under  the  tree. •  *You  are  very  good.         •     *The  players  are  in  the  playground.

  8. การสร้างประโยคที่มี Verb  to  be  ให้เป็นประโยคปฏิเสธ.มีวิธีการดังนี้ • เติม  not   ลงไปในตำแหน่งที่เรียงต่อจาก Verb  to  be    หลัง  is  am  are  เช่น •            *He  is  not in  the  room.                   • *I  am  not  a  child. •            *They  are  not  teachers.                    • *Suda  is  notreading. • หมายเหตุ     รูปย่อของ ปฏิเสธ Verb  to  be  คือ  is  not  ย่อเป็น  isn’t am  not  จะไม่ใช้รูปย่อ  are  not  ย่อเป็น  aren’t

  9. การทำประโยคที่มี  Verb  to  be ให้เป็นประโยคคำถาม Yes  No  Question มีหลักการดังนี้ • เอา  Verb  to  be  มาวางหน้าประโยค  และเอาประธานของประโยคมาวางเรียงต่อจากVerb  to  be  •        หลังจบประโยค  ต้องใส่เครื่องหมายคำถาม เช่น •              He  is  in  the  room. เปลี่ยนเป็น   Is  he  in  the  room • They  are  soldiers    เปลี่ยนเป็น   Are  they  soldiers? •    I  am  a  boy.            เปลี่ยนเป็น   Am  I  a  boy ?

  10. Verb to  have • การใช้  have , has • 1.    เป็นกริยาสำคัญในประโยค  แปลว่า  มี หรือ รับประทาน • 2.    เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของรูปประโยค  Perfect  Tense.

  11. แยกใช้กับประธานในประโยคดังต่อไปนี้แยกใช้กับประธานในประโยคดังต่อไปนี้ •    1   ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่  3  ซึ่งได้แก่  • He  She  It  หรือ ชื่อคนคนเดียว  สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง    ใช้  has  เช่น •   *He  has  many  pens. *Dang  has  a  dog. •  *Her  sister  has  a dool.* This  cat   has  a  short  ear.

  12. 2. ประธานที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษ ที่  3  ทั้งหมด  ใช้   have  เช่น •  They  have  a   big  buffaloes.        * The  foxes  have  long  ears. • *I  have.   breakfast               • *We  have  a  big  farm.

  13. การสร้างประโยคที่มี have , has ให้เป็นประโยคปฏิเสธ •   ใช้  do  does    เข้ามาช่วย   โดยให้สอดคล้องกับประธาน   คือ •   1.  ถ้าประธานเป็นเอกพจน์  บุรุษที่  3  ซึ่งได้แก่  He  She  It   คนคนเดียว  สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง  ใช้  does  ตาม ด้วย   not  เป็น  does  not .  เช่น • ·       He  does  not  have  brother. • ·       She  does  not  have  money. • ·       It does  not  have  a  tail. • ·       James  does  not  have  any  pens. • does not  ใช้รูปย่อเป็น  doesn’ t

  14. 2.   ถ้าประธานเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่  3  ใช้ do  ตามด้วย   not  เป็น  do  not .  เช่น • ·       They  do  not  have any  brother. • ·       We  do  not  have  any  money. • ·       You do not  have  a  tail. • ·       James and Susan  do  not  have  any  pens. • do  not ใช้รูปย่อเป็น don’ t

  15. Verb to  do • Do  และ  Does  มีหลักการใช้คือ  ถ้าเป็นกริยาสำคัญหรือกริยาแท้ในประโยคจะมีความหมายว่า  ทำต้องแยกใช้ไปตามประธานของประโยคให้ถูก  เช่น                    He  does  his  homework.                    They  do  their  homework. • เป็นกริยาช่วยในประโยคคำถามและปฏิเสธที่มีกริยาแท้อยู่แล้วในประโยค และประโยคนั้นไม่มี Verb to be (  is   am  are  ) .ในบริบทของประโยคเช่นนี้  do , does จะไม่มีความหมาย  เป็นเพียงตัว ช่วย  เช่น •             He  does  not   have  any  sisters. •             We  do   not  buy  a  big  car. • Remark : Verb  to  be  ไม่อยู่  เอา  Verb  to  do  เข้ามาช่วย •                         do  not  ใช้รูปย่อเป็น    don’t  / does  not    ใช้รูปย่อ เป็น    doesn’t

  16. แยกใช้ไปตามประธานของประโยคดังนี้แยกใช้ไปตามประธานของประโยคดังนี้ • 1.  ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่  3  (  He , She , It  ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง ) ใช้ Does. •   2 .  ประธานเป็นไม่ใช่เอกพจ  น์บุรุษที่  3  (  I , You  , We , They   ชื่อคนหลายคน  สัตว์หลายตัว                   สิ่งของหลายอย่างที่ถูกกล่าวถึง ) ใช้  Do

  17. การใช้  Verb  to  do  ในประโยคปฏิเสธ • มีหลักการดังนี้ •    1.  Verb to  do  เป็นเพียงกริยาช่วย  ( Helping  Verb ) ไม่ใช่กริยาแท้ •   2.  กริยาแท้ของประโยคต้องใช้รูปเดิม  ( Base  form ) จะไม่มีการเติมหรือเปลี่ยนไปเป็นช่องใดทั้งสิ้น •             ประโยคบอกเล่า          He  likes  cartoon. •             ประโยคปฏิเสธ            He  doesn’t  like  cartoon. •             ประโยคบอกเล่า          They  play  football. •             ประโยคปฏิเสธ            They  don’t  play  football.

  18. การใช้  Verb  to  do  ในประโยคคำถาม • มีดังนี้ •    1.  Yes / No  Questions •  1.  ใช้  Verb  to  do  วางหน้าประโยค  ตามด้วยประธานของประโยคและกริยาแท้ของประโยควางเรียง  ตัวอย่างเช่น •          กริยาแท้ใช้  Base  form  ( รูปเดิมที่ไม่ต้องเติมหรือผัน ) •             ประโยคบอกเล่า          He  likes  cartoon. •             ประโยคคำถาม            Does  he  like  cartoon ? •             ประโยคบอกเล่า          They  play  football. •             ประโยคคำถาม            Do  they  play  football. ?

  19. 2.  Wh. Questions • 1.  ใช้  Verb  to  do  วางข้างหลัง Wh. และหน้าประธานของประโยค  ตามด้วย  •       กริยาแท้ของประโยควางเรียงต่อมา  ตัวอย่างเช่น •          ประโยคคำถาม         What  does   he  want  ? •          ประโยคคำตอบ        He  wants  a  pen. •          ประโยคคำถาม      When  do  you  have  lunch ? •          ประโยคคำตอบ         I  have  lunch  at  12.00.

  20. Thank you

More Related