1 / 14

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเงิน

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเงิน. ความหมายของเงิน.

Download Presentation

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเงิน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเงิน

  2. ความหมายของเงิน คำว่า “เงินตรา” ตามศัพท์ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า “Money” มาจากรากศัพท์ในภาษาลาตินว่า “Moneta” ซึ่งเป็นพระนามของเทพธิดาที่สำคัญองค์หนึ่ง คือ เทพธิดา Juno Moneta ซึ่งเป็น องค์อัครมเหสีของเทพเจ้า Jupiter สันนิฐานว่าชาวโรมันได้เคยตั้งโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ขึ้น ในบริเวณพระวิหารของเทพธิดา Juno Moneta ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงเรียกเหรียญกษาปณ์ว่า “Moneta” ตามพระนามของธิดา Juno Monetaได้มีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายหรือคำนิยามของเงินไว้ดังนี้ คือ

  3. “เงิน” คือ สิ่งที่ถูกกำหนดใช้เป็นสื่อกลาง ในการแลกเปลี่ยน โดยมีการกำหนดมูลค่าของสิ่งที่นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน สามารถรักษามูลค่าให้คงอยู่ได้ และเป็นสิ่งที่คนในสังคมหรือประเทศนั้นยอมรับ และยังขึ้นอยู่กับกาลสมัยอีกด้วย เช่น ในสมัยสุโขทัยใช้เบี้ย หอย เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนซื้อขาย สมัยกรุงศรีอยุธยาใช้เงินพดด้วง ซึ่งเงินพดด้วงนี้ได้ใช้มาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาจนได้เปลี่ยนมาเป็นเหรียญกษาปณ์และธนบัตรอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

  4. วิวัฒนาการของเงินตรา • 1 เงินตราก่อนประวัติศาสตร์ ในอดีตก่อนที่มนุษย์จะรู้จักนำวัตถุสิ่งของ และโลหะต่าง ๆ มาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั้น นักประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์ใช้วิธีการแลกเปลี่ยนโดยตรง (Direct Exchange) คือการนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกับสิ่งของของผู้อื่นที่เรียกว่า Barter System เช่น ปศุสัตว์ ลูกปัด เกลือ เปลือกหอย ขนนก ขวานหิน หัวลูกธนู หนังสัตว์ ฟันปลาวาฬ เครื่องประดับ ในการแลกเปลี่ยนกระทำโดยการนำเอาข้าวมาแลกเปลี่ยนกับเนื้อวัว นำมีดมาแลกเปลี่ยนกับผักผลไม้ เป็นต้น การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ได้ดำเนินมาเป็นระยะเวลานานหลายศตวรรษ จนกระทั้งในเวลาต่อมาได้มีการวิวัฒนาการระบบการแลกเปลี่ยนเรื่อยมา เนื่องด้วยสังคมมีความเจริญขึ้น และการแลกเปลี่ยนโดยระบบเดิมที่ใช้อยู่มีปัญหาเกิดขึ้น

  5. ปัญหาของการแลกเปลี่ยนด้วยระบบเดิมนี้ปัญหาของการแลกเปลี่ยนด้วยระบบเดิมนี้ สามารถแยกได้ 2 ประเภทคือ 1.1 ปัญหาเรื่องชนิดของสิ่งของที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกัน 1.2 ปัญหาเรื่องปริมาณของสิ่งของที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกัน จากปัญหาทั้ง 2 ประการนี้เอง ทำให้มนุษย์เริ่มที่แสวงหาสิ่งต่างๆ ที่จะนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแทนระบบเดิม โดยเริ่มจากนำหนังสัตว์ เปลือกหอย กระดองเต่า ขนสัตว์ งาช้าง หินสีสวยๆ โลหะต่างๆ มาใช้เป็นสื่อกลางและได้มีการวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนกระทั้งกลายเป็นเงินตราที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

  6. เงินตราโลก เงินตราที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้มีการวิวัฒนาการมานาน นับพันปี ซึ่งอาจจำแนกวิวัฒนาการของเงินตราออกได้เป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ • 2.1 เงินอโลหะ (Non-metallic Money) เป็นเงินตราในยุคสมัยแรกที่ • มนุษย์เริ่มนำสิ่งต่าง ๆ มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน • 2.2 เงินโลหะ (Metallic Money) จากข้อบกพร่องของอโลหะ มนุษย์จึงได้ค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกว่าเพื่อนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยนำโลหะต่าง ๆ มาหลอมเป็นรูปต่าง ๆ ใช้เป็นเงินตราแทนอโลหะ

  7. 2.3 เงินกระดาษ (PaperMoney) จากปัญหาความไม่เพียงพอของโลหะที่จะนำมาใช้ผลิตเงิน และราคาขึ้นลงของโลหะที่ใช้ในการผลิต ประกอบกับความไม่สะดวกในการพกพาเงินที่ทำด้วยโลหะ จึงได้มีการผลิตเงินที่ทำขึ้นด้วยกระดาษ เรียกกันว่า “ธนบัตร” จากหลักฐานเชื่อว่า จีนเป็นชาติแรกที่ผลิตเงินกระดาษขึ้นใช้ เมื่อประมาณ 140 ปี ก่อนคริสตกาล • 2.4 เงินเครดิต (Credit Money) ในขณะที่ธนบัตรและเงินเหรียญโลหะยังคงใช้อยู่อย่างแพร่หลายในระบบการแลกเปลี่ยนนั้น แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นอุสาหกรรมขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้เงินเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจึงทำให้เกิดเงินเครดิตในรูปแบบต่างๆ เช่น พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็ค บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นๆ ฯลฯ เงินเครดิตในรูปแบบต่างๆนี้ช่วยให้ประชาชนทั่วไป นักธุรกิจและธุรกิจต่างๆ มีความสะดวกและคล่องตัวในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อาจเนื่องมาจากความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อถือเงินเครดิต หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า "บัตรเครดิต"

  8. เงินตราของไทย ชนชาติไทยมีการผลิตเงินตราของตนเองขึ้นใช้เป็นเวลานานแล้วเช่นกัน แต่การที่มีการอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นและการสู้รบกับผู้มีอำนาจปกครองเจ้าของถิ่นเดิมเป็นเวลานานติดต่อกัน จึงอยากที่จะระบุได้ว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด และรูปร่างเป็นอย่างไร แต่ประมาณปลายพุทธศาตวรรษที่ 18 ชนชาติไทยได้ตั้งมั่นอยู่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศ หลังจากขับไล่ขอมออกไปแล้ว ได้เริ่มผลิตเงินตราขึ้นใช้เรียกว่า "เงินพดด้วง" ในระยะแรกๆ ที่ผลิตเงินพดด้วงขึ้นนั้นมีน้ำหนักมากถึง 4 บาท และมีขายาวเรียกว่า "เงินกำไร" ต่อมาภายหลังเงินตราของอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่างก็ผลิตเงินพดด้วงที่มีขนาดเล็กลง หนักเพียง 1 บาท และใช้เป็นเงินมาตรฐาน

  9. ความเปลี่ยนแปลงของเงินตราไทยเกิดขึ้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระ ความเปลี่ยนแปลงของเงินตราไทยเกิดขึ้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีชาวยุโรปเข้ามาทำการค้ากับประเทศไทย เมื่อการค้าขยายตัว มากขึ้นทำให้ปริมาณเงินพดด้วงไม่ทันต่อความต้องการใช้ เพื่อให้มีการผลิตเงินตราได้ เร็วขึ้นจึงได้มีการนำเงินกระดาษ หรือ "หมาย" ออกใช้แล้วยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สั่งซื้อเครื่องมือทำเหรียญกษาปณ์มาจากประเทศอังกฤษและเริ่มผลิตเงินตราชนิด กลมแบนขึ้นแล้วนำออกใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2399 หลังจากการผลิตเงินพดด้วงก็เริ่มค่อย ๆ ลดลงและเลิกผลิตโดยสิ้นเชิง ในรัชสมัยพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย หันมาผลิตเหรียญเงินขึ้นแทน และได้นำธนบัตรออกมาใช้คู่กับเหรียญเงินเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2445 และหลังจากนั้นมา ระบบการเงินของไทยก็เริ่มเป็นสากลมากขึ้น โดย เงินตราของประเทศประกอบด้วยเหรียญและธนบัตรจนปัจจุบันนี้

  10. คุณสมบัติของเงินที่ดีคุณสมบัติของเงินที่ดี เงินนั้นมีรูปแบบต่าง ๆ กัน แล้วแต่ว่าสังคมใดจะยอมรับให้สิ่งใด เป็นเงินหรือสิ่งที่จะนำมาให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ดังนั้น เงินจึงมี ลักษณะแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ดีของเงิน ควรมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ 1 เป็นสิ่งที่ยอมรับกันโดยทั่วไป (Acceptability) 2 เป็นของหายาก (Scarcity) 3 มีความคงทนถาวร (Durability) 4 เป็นสิ่งที่มีความเหมือนกัน (Homogeneity)

  11. 5 สามารถแบ่งออกเป็นหน่วยย่อย ๆ ได้ง่าย (Divisibility) 6 เป็นสิ่งที่สามารถสังเกตเห็นว่าเป็นเงินได้โดยง่าย (Recogizability) 7 สามารถขนย้ายได้โดยง่าย (Portability) 8 เป็นสิ่งที่มีความมั่นคงในมูลค่า (Stability of value) “เงิน” เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการในระบบเศรษฐกิจโดยมีการกำหนดมูลค่าเป็นหน่วยเงินตรา และเป็นที่ยอมรับจากประชาชน โดยทั่วไปคุณลักษณะดังกล่าวจึงทำให้เงินสามารถทำหน้าที่ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ

  12. หน้าที่ของเงิน 4.1 หน้าที่หลัก (Primary Functions) 4.1.1 เงินเป็นเครื่องวัดมูลค่า 4.1.2 เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน 4.2 หน้าที่รอง (Secondary Functions) 4.2.1 เงินเป็นเครื่องรักษามูลค่า 4.2.2 เงินเป็นมาตรฐานการชำระหนี้ในอนาคต

  13. 4.3 หน้าที่ประกอบ (Contingent Functions) 4.3.1 เงินเป็นเครื่องชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย 4.3.2 เงินเป็นหลักประกันความสามารถในการชำระหนี้ 4.3.3 เงินเป็นเครื่องมือในการกระจายรายได้ให้เป็นไปโดยสะดวก 4.3.4 เงินเป็นเครื่องโอนย้ายมูลค่า 4.3.5 เงินเป็นของให้และของให้ยืม 4.4 เงินเป็นของใช้และของให้ยืม

More Related