340 likes | 799 Views
ENDNOTE X5 . New feature – 1. เปิดไฟล์ pdf บนหน้าต่างของ EndNote เพื่อ copy ข้อมูลจาก ไฟล์ pdf ไปแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลใน library ได้ 2. Find Reference Updates
E N D
ENDNOTE X5 New feature – 1.เปิดไฟล์ pdf บนหน้าต่างของ EndNoteเพื่อcopy ข้อมูลจาก ไฟล์ pdf ไปแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลใน libraryได้2. Find Reference Updates จัดซื้อโดยสถาบันวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต้องการใช้โปรแกรมดาวโหลดที่ http://www.car.chula.ac.th/curef-db/endnotex4b.html และขอ password ได้ที่ rss@car.chula.ac.th (ฝ่ายบริการช่วย ค้นคว้าวิจัย – น.ส. ปิยธิดา ห่อปทุม)หรือ ขอยืมแผ่นโปรแกรมพร้อม password ได้ที่หอสมุดชั้น 2 ปรียาพร ฤกษ์พินัยหอสมุดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยpreeyaporn.r@chula.ac.th
ความสามารถของโปรแกรม • ใช้จัดเก็บข้อมูลบรรณานุกรม/เอกสารอ้างอิง (Reference ) รูปภาพ ไฟล์เอกสารฉบับเต็ม ทั้งที่ได้จากการสืบค้นจากเว็บไซต์ฐานข้อมูลต่าง ๆ และการบันทึกเข้าโปรแกรมด้วยการพิมพ์ • สามารถถ่ายโอนข้อมูลบรรณานุกรมจากไฟล์ PDFได้ • ช่วยค้นหาไฟล์เอกสารฉบับเต็มที่อยู่ใน ISI, PubMedLinkOut, และ OpenURLได้ • ใช้ปรับเปลี่ยนข้อมูลบรรณานุกรม ให้เป็นรูปแบบ ( style)ต่างๆ ได้มากกว่า 4,500 รูปแบบ เช่น vancouver, APAเป็นต้น • ทำงานร่วมกับโปรแกรม Microsoft Word 2003, 2007,2010, OpenOfficeเพื่อแทรกรายการเอกสารอ้างอิงในไฟล์ word
ติดตั้ง / เปิดโปรแกรม (Slide 4) สร้าง (New)หรือ เปิด (Open)library (Slide 5) การ import ไฟล์ PDFเข้า libraryและการดูรายละเอียดในรายการ Reference (Slide 7-8) 4A.การนำข้อมูลจาก PubMedเข้าEndNote(Slide 9-11) 4B. การนำข้อมูลจาก Scopusเข้าEndNoteวิธี เปลี่ยนวารสาร (ชื่อเต็ม-ชื่อย่อ) (Slide 12-17) 4C. การนำข้อมูลจาก ProQuest Disertationเข้าEndNote(Slide 16-18) 5AEndNoteช่วยหา full text ได้(Slide 19) 5Bการแนบไฟล์ full text ในรายการ ref(Slide 20) 5C การนำข้อมูลเข้าEndNoteด้วยการพิมพ์ (Slide 21-22) 6. การแทรก reference และ citation ในไฟล์ word (Slide 24-25) 7. การลบรายการ citationที่แทรกไปแล้ว (Slide 26) 8. การ Insert Citationใน citationที่แทรกไปแล้ว (Slide 27-28) 10. การเปลี่ยนรูปแบบ reference(Style of Reference) (Slide 29) 11. การแก้ไขรูปแบบบรรณานุกรม (Edit Output Styles)(Slide 30-31) 12. การนำรายการเอกสารอ้างอิงที่จัดรูปแบบแล้วออก (Export)มาจากโปรแกรม EndNoteโดยไม่ต้องการแทรก citation ในไฟล์ word (Slide 32-33) 13. Convert to Plain Text (Slide 34) สารบาญ
1.ติดตั้งโปรแกรมโดยดับเบิลคลิกไฟล์ endnotex5-setup.exeคลิก “I accept agreement”พิมพ์ password 2.หลังจากติดตั้งโปรแกรมแล้ว เรียกใช้ที่Start -> All Programs->EndNote->EndNote Program
2. สร้าง (New) หรือ เปิด (Open)library 1 2 3 Library คือไฟล์สำหรับเก็บข้อมูลของEndNoteมี file typeเป็น ENLต้องสร้างหรือเปิดไฟล์นี้ก่อนเมื่อต้องการใช้โปรแกรม 4. เมื่อสร้างไฟล์ enlจะได้โฟเดอร์ชื่อเดียวกับไฟล์ enl ไฟล์กับโฟเดอร์นี้ไปไหนต้องไปด้วยกัน
การนำเข้าข้อมูล Reference • นำเข้าด้วยไฟล์ PDF ของบทความวารสาร • นำเข้าจาก Online Database ทั่วไป ทาง Direct export และ Import • การพิมพ์ หรือ copy/paste
1 3.นำรายการ Reference เข้า library ด้วยการ import ไฟล์ PDF [File->Import-> File/Folder] 2 3 4
3.แสดง library หลังจาก การ importไฟล์ PDFเข้ามาแล้ว3.1 รายการ Referenceที่นำเข้ามา 3.2 แสดงจำนวนRef.ที่มีใน library3.3คลิกรายการ Ref ที่ต้องการเพื่อ Previewดู ตามรูปแบบ (style) ที่ต้องการ เปิดอ่านไฟล์ PDFหรือ edit ข้อมูลที่นำเข้ามาใน library3.4 เลือกแบบของ Ref 3.4 3.2 3.1 3.3
4A การนำข้อมูล PubMed เข้า EndNote 1. คลิกกรอกสี่เหลี่ยมหน้ารายการที่ต้องการ • คลิก send to-คลิก citation manager- คลิก Create File
3.การทำงานของ Browser หลังจากคลิก Create File ถ้าใช้ Chrome จะ save file ไว้ที่ Task bar -> ให้คลิกที่ชื่อไฟล์ ถ้าใช้ IE จะมีข้อความสอบถามว่าต้อง save หรือ Open -> ให้คลิก Open
4. ไฟล์ที่เลือกจะถูกส่งเข้าโปรแกรม EndNote พร้อมแสดงหน้าต่างให้เลือก Import Filter ชื่อ PubMed[NLM]ให้คลิก Choose ข้อมูลจาก PubMed จะถูกโอนเข้า library
4B การนำข้อมูล Scopus เข้า EndNote 1. คลิกกรอกสี่เหลี่ยมหน้ารายการที่ต้องการ2. คลิก Export
3. Export format = RIS …4. คลิก Export5. คลิกชื่อไฟล์ หรือ คลิก open6. import filter=scopus elsevier
วิธีแก้ปัญหาชื่อเต็มชื่อย่อวารสาร(1)วิธีแก้ปัญหาชื่อเต็มชื่อย่อวารสาร(1) การ import/export ข้อมูลมาจากหลายแหล่งอาจทำให้ ชื่อวารสารที่ได้บางครั้งเป็นชื่อเต็มบางครั้งเป็นชื่อย่อ ทำให้ข้อมูลบรรณานุกรมไม่ถูกต้อง วิธีแก้1.คลิก Tools-Open Term List – Journal Term List 2. จะพบหน้าต่าง Term Lists 3.ที่หน้าต่าง Term Lists คลิกแท็บ Lists - Import list 4. จะพบหน้าต่างให้หา โฟเดอร์ Program Files\EndnoteX?\Term List5. ดับเบิลคลิกไฟล์ชื่อ medical.txt แล้วคลิก Open โปรแกรมเพิ่ม list ชื่อย่อเพื่อใช้ในกรณีที่ import/export ข้อมูลที่มีชื่อวารสารเป็นชื่อเต็มเข้ามา6.คลิก Edit – Output Style แล้วคลิก Edit Vancouver หรือ style ที่ต้องการ จะพบหน้าต่างตามภาพนี้7. คลิก Journal Names เลือก journal name format เป็น Abrreviation 2
ถ้าทำ (1) แล้วยังไม่ได้ให้แก้ตามนี้
4C การนำข้อมูล ProQuest Diseration เข้า EndNote (1) เลือกดูเฉพาะ Dissertations(2) เลือกผลการค้นที่ต้องการ (3) คลิก Export/Save
(5) อาจมีการ block pop-up(6) พบหน้าต่าง export ให้คลิก Continue
5A. EndNote ช่วยหา fulltext ได้ 2 1 4 3 2 (1) คลิกรายการ ref ที่ต้องการหา fulltext (2) คลิกไอคอน Find Full Textหรือคลิกเม้าส์ข้างขวาจะพบเมนู Find Full Textเช่นเดียวกัน (3) พบหน้าต่าง ข้อความให้คลิก OK (4) โปรแกรมจะแสดงข้อความ Find Full Textพร้อมจำนวนที่เมนูด้านซ้ายมือ
5B. การแนบไฟล์ fulltext ในรายการ ref (1) คลิกรายการ ref ที่ต้องการ (2) คลิกเม้าส์ข้างขวาจะพบเมนู File Attachment แล้วคลิก Attach File(3) พบหน้าต่าง ให้หาไฟล์ที่ต้องการแนบ พบแล้วให้คลิก Open(4)โปรแกรมจะแสดงรูป คลิป หน้า ref ที่แนบไฟล์
5C. การนำข้อมูลเข้าEndNoteด้วยการพิมพ์ 5.1 คลิก References ->New Reference 5.2 จะได้หน้าต่าง New Referenceให้- คลิกเลือก ReferenceTypeให้ถูกต้อง- พิมพ์ข้อมูล หรือ copy/pasteลงใน fieldที่ถูกต้องกรณี -Authorถ้ามีหลายชื่อให้พิมพ์ชื่อละ 1 บรรทัด (พิมพ์ 1 ชื่อแล้วเคาะ enter)- ชื่อหน่วยงานภาษาอังกฤษ ชื่อคนภาษาไทย หรือหน่วยงานภาษาไทยให้พิมพ์โดยมีเครื่องหมาย commaปิดท้าย- การ saveทำโดยคลิก X ของหน้าต่างนี้
Field ที่ต้องบันทึกสำหรับข้อมูลที่ใช้บ่อย เช่น หนังสือ วิทยานิพนธ์ เว็บไซต์ ฯลฯ • หนังสือ Author , Year, Title , City,Publisher, Edition • บทหนึ่งของหนังสือ[Book Section] Author , Year, Title , Editor, Book Title, City,Publisher, Pages, Edition • วิทยานิพนธ์Author , Year, Title , City, University, Thesis Type (ตัวอย่าง Thesis M.Sc. (Microbiology) • เว็บไซต์ [Web Page] Author , Year[ถ้ามี], Title , City[ถ้ามี],Publisher[ถ้ามี], Access Year, Access Date (ตัวอย่าง Jun 26) , URL • Conference PaperAuthor , Year of Conference, Title, Conference Name, Conference Location, Date (ตัวอย่าง Jun 26-30)ถ้าตีพิมพ์เป็น Proceeding แล้วให้เพิ่ม Editor, Publisher, Pages
การแทรก Ref ในไฟล์ word นิยามศัพท์ • ข้อมูลบรรณานุกรม (bibliographic) คือข้อมูล ชื่อผู้เขียน ชื่อบทความ/เรื่อง ชื่อวารสาร/หนังสือ/การประชุม ฯลฯ ปีพิมพ์ ครั้งที่พิมพ์ volume, number, เลขหน้า • Reference หรือ Ref หรือรายการเอกสารอ้างอิง หรือ รายการบรรณานุกรม คือ ข้อมูลบรรณานุกรมที่เขียนในรูปแบบ (style) ที่ต้องการนำมาเป็นรายการอ้างอิงตอนท้ายบทความ/งานวิจัย • Citation การอ้างอิงภายในบทความ แสดงความสัมพันธ์ของเนื้อหาและ Reference
6. การแทรก citation และ reference ในไฟล์ word 6.1 ถ้าการติดตั้งถูกต้องที่ Microsoft Word จะมีเมนู EndNote X4 ถ้าไม่พบเมนูนี้ให้ remove โปรแกรม EndNote แล้วติดตั้งใหม่ 6.2 การแทรก เป็นการทำงานสลับไปมา ระหว่าง Microsoft Wordและ EndNote เมนูสำหรับแทรก citation & Ref
6. การแทรก citation และ reference ในไฟล์ word 6.3 วิธีแทรก 3 ขั้นตอน- กำหนดตำแหน่งที่ต้องการอ้างอิง โดยคลิกเมาส์ในไฟล์ Microsoft Word - เลือกรายการRefโดยไปที่ EndNoteคลิกเลือก Ref ที่ต้องการกี่รายการก็ได้ ไม่เรียงกันก็ได้ - แล้วแทรกโดยคลิกไอคอน ที่ EndNoteหรือ คลิก Insert Citation -> Insert Selected Citationที่ Microsoft Word EndNote / Microsoft Word
7. การลบรายการcitationที่แทรกไปแล้วทำที่ Microsoft Wordโดย 7.1 คลิก Edit & Manage Citationจะพบหน้าต่างEdit & Manage Citationแสดง รายการcitation ที่แทรกไว้แล้ว - 7.2 คลิก Edit Referenceรายการที่ต้องการ จะพบเมนูให้คลิก Removeแล้วคลิกปุ่มOK7.3รายการ cittation และRef. จะถูกลบออกจากไฟล์Word p.26
8. การเพิ่ม/ลด refใน citationที่แทรกไปแล้วทำที่ Microsoft Wordโดย 8.1 คลิก Edit & Manage Citationจะพบหน้าต่างEdit & Manage Citationแสดง รายการcitation ที่แทรกไว้แล้ว - 8.2 คลิก Edit Referenceรายการที่ต้องการ จะพบเมนูให้คลิก Insert Citation(ต่อสไลด์ถัดไป) p.27
8. (ต่อ) การ เพิ่ม/ลด refใน citationที่แทรกไปแล้วทำที่ Microsoft Wordโดย 8.3 จะพบหน้าต่างFind & Insert My Ref.แสดงกรอบให้ค้นหารายการ citationที่ ต้องการแทรก ให้พิมพ์คำใน Ref. ที่ต้องการแทรก แล้วคลิก Find8.4 โปรแกรมจะรายการที่ค้นได้ให้เลือกคลิก แล้วคลิกปุ่ม Insert 8.5รายการ cittationและ Ref.จะเพิ่มขึ้นในไฟล์ Word ทันที
10. การเปลี่ยนรูปแบบบรรณานุกรม (Style of Reference)ทำได้ 2 วิธีคือ 10.1 10.1 คลิกลูกศรหัวลงในกรอบ Styleเลือก Styleที่ต้องการ รูปแบบ Styleจะเปลี่ยนทันที 10.2 10.2 คลิกปุ่มเหลืองที่กรอบ Bibliography-พบหน้าต่างFormat Bibliographyคลิกลูกศรหัวลงในกรอบ with output Styleเลือก styleที่ต้องการ – แล้วคลิกOKรูปแบบ Styleจะเปลี่ยนทันที คลิก select another styleถ้าไม่พบ styleที่ต้องการ
11a. การแก้ไขรูปแบบบรรณานุกรม (Edit Output Styles) 11.1 11.3 EndNote จะไม่ยอมให้ save ทับไฟล์ต้นฉบับ 11.2 คลิกเ X เพื่อ save สิ่งที่แก้ไข การแก้ไข Citation – Tempates ให้เป็นตัวยกขึ้น
11b. การแก้ไขรูปแบบบรรณานุกรม (Edit Output Styles) การแก้ไข Bibliography – Tempates ของ Journal Articles โดยเอาเดือน (Date) และissue ออก ลบข้อความ Date|และ (Issue)| ออก แล้ว save
12. การนำรายการเอกสารอ้างอิงที่จัดรูปแบบแล้วออก (Export)มาจากโปรแกรม EndNoteโดยไม่ต้องการแทรก citation ในไฟล์ word12.1 คลิกเลือกรายการ Ref. /Style ที่ต้องการนำออกมา แล้วคลิกไอคอน Export 12.1 12.2 พบหน้าต่าง Export filenameให้ ตั้งชื่อไฟล์, เลือก file typeเป็น Rich Textและเลือก Output Styleที่ต้องการ แล้วคลิก Saveไฟล์ที่ saveนี้นำไปเปิดด้วย Microsoft Wordได้ 12.2
12.1 การนำรายการเอกสารอ้างอิงที่จัดรูปแบบแล้วออก (copy formatted)มาจากโปรแกรม EndNoteโดยไม่ต้องการแทรก citation ในไฟล์ word 1. คลิกเลือกรายการ Ref. /Style ที่ต้องการนำออกมา 2. แล้วคลิกเมาส์ข้างขวาจะพบเมนูให้คลิก Copy Formatted3. Paste ข้อมูลที่ copy ไว้ใน Microsoft Word
13. Convert to Plain Textทำเพื่อ removecodeต่างๆ ของ EndNoteออกไฟล์ word ทำโดย 13.1 คลิก Convert Citations and Bibliographyเลือก Convert to Plain Text 13.2 พบหน้าต่างนี้คลิก OK โปรแกรมจะสร้างไฟล์ใหม่ที่ไม่มีcode ของEndNote ให้Save