780 likes | 901 Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. I Corinthians โค รินธ์ 11 Head Coverings and the Lord’s Supper .
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
I Corinthians โครินธ์ 11 Head Coverings and the Lord’s Supper
1Be imitators of me, as I am of Christ. 1ท่านทั้งหลายก็จงปฏิบัติตามอย่างข้าพเจ้าเหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามอย่างพระคริสต์
2Now I commend you because you remember me in everything and maintain the traditions even as I delivered them to you. 2ข้าพเจ้าขอชมท่านทั้งหลายเพราะท่านได้ระลึกถึงข้าพเจ้าทุกประการและท่านได้รักษาธรรมวัตรที่ข้าพเจ้าได้มอบไว้กับท่าน
3But I want you to understand that the head of every man is Christ, the head of a wifeis her husband, and the head of Christ is God. 3แต่ข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านเข้าใจว่าพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของชายทุกคนและชายเป็นศีรษะของหญิงและพระเจ้าทรงเป็นพระเศียรของพระคริสต์
4Every man who prays or prophesies with his head covered dishonors his head, 4ผู้ชายที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะโดยมีผ้าคลุมศีรษะอยู่ก็ทำความอัปยศแก่ศีรษะ
5but every wife who prays or prophesies with her head uncovered dishonors her head—it is the same as if her head were shaven. 5แต่ผู้หญิงที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะถ้าไม่มีผ้าคลุมศีรษะก็ทำความอัปยศแก่ศีรษะเพราะเหมือนกับว่านางได้โกนผมเสียแล้ว
6For if a wife will not cover her head, then she should cut her hair short. But since it is disgraceful for a wife to cut off her hair or shave her head, let her cover her head. 6ถ้าผู้หญิงจะไม่คลุมศีรษะก็ควรจะโกนผมเสียแต่ถ้าการที่ผู้หญิงจะตัดผมหรือโกนผมนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอายจงเอาผ้าคลุมศีรษะเสีย
7For a man ought not to cover his head, since he is the image and glory of God, but woman is the glory of man. 7การที่ผู้ชายไม่สมควรจะคลุมศีรษะนั้นก็เพราะว่าผู้ชายเป็นพระฉายาและพระสิริของพระเจ้าส่วนผู้หญิงนั้นเป็นศักดิ์ศรีของผู้ชาย
8For man was not made from woman, but woman from man. 8(เพราะว่าไม่ได้ทรงสร้างผู้ชายจากผู้หญิงแต่ได้ทรงสร้างผู้หญิงจากผู้ชาย
9Neither was man created for woman, but woman for man. 9และไม่ได้ทรงสร้างผู้ชายไว้สำหรับผู้หญิงแต่ทรงสร้างผู้หญิงไว้สำหรับผู้ชาย)
10That is why a wife ought to have a symbol of authority on her head, because of the angels.10ด้วยเหตุนี้เองผู้หญิงจึงควรจะเอาสัญลักษณ์แห่งอำนาจนี้คลุมศีรษะเพราะเห็นแก่พวกทูตสวรรค์
11Nevertheless, in the Lord woman is not independent of man nor man of woman; 11(ถึงกระนั้นก็ดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ชายก็ต้องพึ่งผู้หญิงและผู้หญิงก็ต้องพึ่งผู้ชาย
12for as woman was made from man, so man is now born of woman. And all things are from God. 12เพราะว่าผู้หญิงนั้นทรงสร้างมาจากผู้ชายฉันใดต่อมาผู้ชายก็เกิดมาจากผู้หญิงฉันนั้นแต่สิ่งสารพัดก็มีมาจากพระเจ้า)
13Judge for yourselves: is it proper for a wife to pray to God with her head uncovered? 13ท่านทั้งหลายจงตัดสินเองเถิดว่าเป็นการสมควรหรือไม่ที่ผู้หญิงจะไม่คลุมศีรษะเมื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า
14Does not nature itself teach you that if a man wears long hair it is a disgrace for him, 14ธรรมชาติไม่ได้สอนท่านหรือว่าถ้าผู้ชายไว้ผมยาวก็เป็นที่น่าอาย
15but if a woman has long hair, it is her glory? For her hair is given to her for a covering. 15แต่ถ้าผู้หญิงไว้ผมยาวก็เป็นสง่าเพราะว่าผมเป็นสิ่งที่ประทานให้แก่เขาเพื่อคลุมศีรษะ
16If anyone is inclined to be contentious, we have no such practice, nor do the churches of God. 16แต่ถ้าผู้ใดจะโต้แย้งเราและคริสตจักรของพระเจ้าไม่รับธรรมเนียมอย่างที่โต้แย้งนั้น
I Timothyทิโมธี8I desire then that in every place the men should pray, lifting holy hands without anger or quarreling; 8เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าปรารถนาให้ผู้ชายทั้งหลายอธิษฐานในที่ทุกแห่งด้วยใจบริสุทธิ์ปราศจากโทโสและการเถียงกัน
9likewise also that women should adorn themselves in respectable apparel, with modesty and self-control, not with braided hair and gold or pearls or costly attire, 9ฝ่ายพวกผู้หญิงก็เหมือนกันให้แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยไม่ใช่ถักผมหรือประดับกายด้วยเครื่องทองและไข่มุกหรือเสื้อผ้าราคาแพง
10but with what is proper for women who profess godliness—with good works. 10แต่ให้ประดับด้วยการกระทำดีซึ่งสมกับหญิงที่ประกาศตัวว่าถือพระเจ้า
11Let a woman learn quietly with all submissiveness. 11ให้ผู้หญิงเรียนอย่างเงียบๆและด้วยใจนอบน้อม
12I do not permit a woman to teach or to exercise authority over a man; rather, she is to remain quiet. 12ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ผู้หญิงสั่งสอนหรือใช้อำนาจเหนือผู้ชายแต่ให้เขานิ่งๆอยู่
13For Adam was formed first, then Eve; 13ด้วยว่าพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างอาดัมขึ้นก่อนแล้วจึงถึงเอวา
14and Adam was not deceived, but the woman was deceived and became a transgressor. 14และอาดัมไม่ได้ถูกหลอกลวงแต่ผู้หญิงนั้นได้ถูกหลอกลวงจึงได้กระทำบาป
15Yet she will be saved through childbearing—if they continue in faith and love and holiness, with self-control. 15แต่ถึงกระนั้นผู้หญิงก็จะรอดได้ด้วยการมีบุตรถ้ายังดำรงอยู่ในความเชื่อในความรักและในความบริสุทธิ์ด้วยความสงบเสงี่ยม
I Peter เปโตร 3:1-7 1Likewise, wives, be subject to your own husbands, so that even if some do not obey the word, they may be won without a word by the conduct of their wives—
2when they see your respectful and pure conduct. 2คือเมื่อเขาได้เห็นการประพฤติที่นอบน้อมและดีงามของท่านทั้งหลายผู้เป็นภรรยา
3Do not let your adorning be external—the braiding of hair, the wearing of gold, or the putting on of clothing— 3การประดับกายของท่านนั้นอย่าให้เป็นการประดับภายนอกด้วยการถักผมประดับด้วยเครื่องทองคำและนุ่งห่มเสื้อผ้าสวยงาม
4but let your adorning be the hidden person of the heart with the imperishable beauty of a gentle and quiet spirit, which in God's sight is very precious. 4แต่จงให้เป็นการประดับภายในจิตใจแต่งด้วยเครื่องประดับซึ่งไม่รู้เสื่อมสลายคือด้วยจิตใจที่สงบและสุภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่งในสายพระเนตรพระเจ้า
5For this is how the holy women who hoped in God used to adorn themselves, by submitting to their husbands, 5บรรดาสตรีผู้ทรงศีลในครั้งโบราณนั้นผู้ซึ่งเชื่อในพระเจ้าก็ได้ประดับกายเช่นนั้นและเชื่อฟังสามีของตน
6as Sarah obeyed Abraham, calling him lord. And you are her children, if you do good and do not fear anything that is frightening. 6เช่นนางซาราห์เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกท่านว่านายถ้าท่านทั้งหลายประพฤติดีและไม่มีความหวาดกลัวสิ่งใดท่านก็เป็นบุตรหลานของนาง
7Likewise, husbands, live with your wives in an understanding way, showing honor to the woman as the weaker vessel, since they are heirs with you of the grace of life, so that your prayers may not be hindered.
17But in the following instructions I do not commend you, because when you come together it is not for the better but for the worse. 17ในการให้คำสั่งต่อไปนี้ข้าพเจ้าชมท่านไม่ได้คือว่าการประชุมของท่านนั้นมักจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี
18For, in the first place, when you come together as a church, I hear that there are divisions among you. And I believe it in part,18ประการแรกข้าพเจ้าได้ยินว่าเมื่อท่านประชุมคริสตจักรนั้นมีการแตกก๊กแตกเหล่าในพวกท่านและข้าพเจ้าเชื่อว่าตามซึ่งได้ยินนั้นคงมีความจริงอยู่บ้าง
19for there must be factions among you in order that those who are genuine among you may be recognized. 19เพราะจะต้องมีการขัดแย้งกันบ้างในพวกท่านเพื่อคนฝ่ายถูกในพวกท่านจะได้ปรากฏเด่นขึ้น
20When you come together, it is not the Lord's supper that you eat. 20เมื่อท่านทั้งหลายประชุมพร้อมกันนั้นจึงไม่เป็นการเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้
21For in eating, each one goes ahead with his own meal. One goes hungry, another gets drunk. 21เพราะว่าเมื่อท่านรับประทานบ้างก็รับประทานอาหารของตนก่อนคนอื่นบ้างก็ยังหิวอยู่และบ้างก็เมา
22What! Do you not have houses to eat and drink in? Or do you despise the church of God and humiliate those who have nothing? What shall I say to you? Shall I commend you in this? No, I will not.
Luke ลูกา 22:14-2314And when the hour came, he reclined at table, and the apostles with him. 14เมื่อถึงเวลา พระองค์ทรงเอนพระกายเสวยพร้อมกับอัครทูต
15And he said to them, “I have earnestly desired to eat this Passover with you before I suffer. 15พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกินปัสกานี้กับพวกท่านก่อนเราจะต้องทนทุกข์ทรมาน
16For I tell you I will not eat it until it is fulfilled in the kingdom of God.” 16ด้วยเราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัสกานี้อีก จนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า”
17And he took a cup, and when he had given thanks he said, “Take this, and divide it among yourselves. 17พระองค์ทรงหยิบถ้วยโมทนาพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้แบ่งกันดื่ม
18For I tell you that from now on I will not drink of the fruit of the vine until the kingdom of God comes.” 18เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำผลแห่งเถาองุ่นต่อไปอีก จนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมา”
19And he took bread, and when he had given thanks, he broke it and gave it to them, saying, “This is my body, which is given for you. Do this in remembrance of me.” 19พระองค์ทรงหยิบขนมปัง โมทนาพระคุณ แล้วหักส่งให้แก่เขาทั้งหลาย ตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา [ซึ่งได้ให้สำหรับท่าทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา”