110 likes | 717 Views
จัดทำโดย. ขนมไทย. ด.ช. กรบัณฑิต อยุ่โภชนา ม.1/16 เลขที่ 2 เสนอ อ.ฐิตาพร ดวงเกตุ. บัวลอย. วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
E N D
จัดทำโดย ขนมไทย ด.ช. กรบัณฑิต อยุ่โภชนา ม.1/16 เลขที่ 2 เสนอ อ.ฐิตาพร ดวงเกตุ
บัวลอย • วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน • 1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น) • 2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น) 1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น) • 2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น) • 3. ทำน้ำกะทิโดยผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ) • 4. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงาขาว เสริฟขณะร้อนหรือรอให้เย็นก็ได้ +ส่วนผสมน้ำกะทิ+ • * กะทิ 2 ถ้วยตวง • * น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม • * น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง • * เกลือป่น 1 ช้อนชา • * เนื้อมะพร้าวอ่อน, ไข่ (จะมีหรือไม่มีก็ได้) • * งาขาว (สำหรับแต่งหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้)
หม้อแกง • วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน • 1. นำหอมแดงไปเจียวในน้ำมันจนเหลืองและกรอบ (ระวังไหม้ ควรเจียวด้วยไฟอ่อนๆ ) • 2. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ในน้ำและนำไปนึ่งจนสุก หรือถ้าใช้เผือกก็ปอกเปลือกและนำไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงนำเผือกไปยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ • 3. ในชามขนาดกลาง, ผสมไข่ น้ำตาลปี๊บและเกลือ แล้วขยำโดยใช้ใบเตยให้เข้ากันดี น้ำตาลละลายหมด จากนั้นจึงใส่หัวกะทิลงไป ขยำต่ออีกจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก 4. เอาถั่วหรือเผือกใส่ลงไปในส่วนผสมที่กรองแล้ว และใส่น้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมแดง (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี • ส่วนผสมหม้อแกง • * ถั่วเขียว 250 กรัม (เผือก, เม็ดบัว, อื่นๆ) • * น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง • * หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง • * น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม • * เกลือป่น 1/4 ช้อนชา • * ไข่เป็ด 3 ฟอง • * หอมแดงซอยละเอียด 3 ลูก • * ใบเตย 3 ใบ
ขนมชั้น • ส่วนผสมทำขนมชั้น • 1. แป้งท้าวยายม่อม 140 ก. • 2. แป้งข้าวจ้าว 70 ก. • 3. แป้งมัน 100 ก. • 4. กะทิ 800 มล. • 5. น้ำตาลทราย 400 ก. • 6. กลิ่นมะลิ 1/2 ชช. • 7. สีผสมอาหารตามชอบ อย่างละ 3 หยด • วิธีทำ1. เชื่อมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 ถ้วย2. ผสมแป้งทั้ง 4 ชนิด เข้าด้วยกัน แล้วนวดกับกะทิ โดยค่อย ๆ ใส่กะทิทีละน้อย ๆ นวดนาน ๆ จนกะทิหมด แล้วใส่น้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน พอให้แป้งติดหลังมือนิดหน่อย3. กรองแป้งทั้งหมด แล้วแบ่งแป้งครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ4. นำถาดไปนึ่งแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่แป้งสีขาวประมาณ 1/2 ถ้วย แล้วนึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ชั้นที่ 2 ใส่สีเขียว แล้วนึ่งอีกประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วให้ชั้นสุดท้ายเป็นสีเข้มกว่าชั้นอื่น ๆ เมื่อสุกยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นตามต้องการ
กล้วยบวชชี • วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน • 1. นำกล้วยไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3-5 นาที หรือนึ่งจนกระทั่งผิวกล้วยเริ่มแตกออก จึงปิดไฟและนำออกมาปอกเปลือกและหั่นครึ่งลูก จากนั้นจึงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ • 2. นำหางกะทิไปต้มในหม้อและใส่ใบเตยลงไปด้วย เมื่อเดือดแล้วจึงใส่กล้วยที่หั่นไว้แล้วลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำตาลทรายขาวและเกลือนิดหน่อย • 3. เมื่อกะทิเริ่มเดือดอีกครั้งจึงใส่หัวกะทิลงไป และปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดอีกประมาณ 3 นาที ถ้าต้องการให้น้ำข้นเหนียวก็ให้ใส่แป้งมันลงไปประมาณ 1 ช้อนชาและคนให้ละลายทั่ว • 4. อย่าต้มนานจนเกินไปเพราะจะทำให้กล้วยเละ กล้วยควรจะยังแข็งนิดหน่อย จากนั้นตักใส่จานและเสริฟทันที • ส่วนผสมทำขนม กล้วยบวชชี้ • * กล้วยน้ำว้า 8 ลูก (เลือกห่ามๆ ไม่สุกมาก) • * หัวกะทิ 450 มิลลิลิตร • * หางกะทิ 500 มิลลิลิตร • * ใบเตย 2 ใบ • * น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม • * น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม • * เกลือ
ฝอยทอง • วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน • 1. ต่อยไข่ไก่และไข่เป็ด เลือกเอาเฉพาะไข่แดง นำออกมากรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก • 2. ผสมไข่แดง, ไข่น้ำค้างและน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน คนจนผสมกันทั่ว • 3. นำน้ำลอยดอกมะลิผสมกับน้ำตาลในกระทะทองเหลืองและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนเดือด • 4. นำส่วนผสมไข่แดงใส่ลงไปในกรวยและนำไปโรยในน้ำเชื่อมที่เดือด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีจนไข่สุกจึงใช้ไม้แหลม สอยขึ้นและพับให้เป็นแพตามต้องการ • 5. จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างทางเล่นในวันสบายๆ • ส่วนผสมทำขนม ฝอยทอง • * ไข่เป็ด 5 ฟอง • * ไข่ไก่ 5 ฟอง • * น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง • * น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า) • * ไข่น้ำค้าง 2 ช้อนโต๊ะ(ไข่ขาวส่วนที่เป็นน้ำใสๆ ที่ติดอยู่กับเปลือกด้านป้าน) • * น้ำมันพืช 1 ช้อนชา • * กรวยทองเหลืองหรือกรวยใบตอง (สำหรับโรยไข่ในกระทะ) • * ไม้แหลม (สำหรับตักและพับฝอยทองในกระทะ)
ขนมครก • วิธีทำขนมครก1. ตั้งกระทะขนมครก ใช้ไฟอ่อนปานกลาง รอจนเตาร้อนเต็มที่ • 2. นำลูกประคบ ทำด้วยกากมะพร้าวห่อด้วยผ้าขาว แตะน้ำมันพืช เช็ดที่เบ้าขนมครกให้ครบทุกเบ้า 3. ตักหรือใช้กาหยอดแป้งขนมครก ลงในเบ้าปริมาณ 3/4 นำกระบวยกดให้ล้นขึ้นมาด้านข้าง ประมาณ 1 เซนติเมตร ปิดฝาทิ้งไว้ราว 2-3 นาที 4. หยอดหางกะทิ ตามด้วยหัวกะทิ ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อ 1 เบ้า โรยหน้าตามใจชอบ ปิดฝาทิ้งไว้ รอจนขอบแป้งเหลือง ใช้ช้อนแซะขึ้นใส่ภาชนะ • ส่วนผสมทำขนมครก • 1. แป้งข้าวเจ้าอย่างดี ตราดอกไม้ 1 กิโลกรัม 2. น้ำกะทิ 4 ถ้วยตวง 3. น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง 4. น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง 5. น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ 6. เกลือ 1 ช้อนชา 7. โรยหน้าตามใจชอบ อาทิ ต้มหอม ข้าวโพด เผือก ฯลฯ
สาลี • วิธีทำ สาลี • 1. ตอกไข่ใส่ชาม แล้วใช้ส้อมตีแรงๆ ระหว่างตีนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย ตีไข่จนขึ้นเป็นสีขาวนวล • 2. ร่อนแป้งสาลี แล้วนำไปผสมในไข่ คนเบาๆจนแป้งละลายดีจึงใส่สีผสมอาหารลงไป (ไม่ควรใส่มาก ควรผสมให้เป็นสีโทนอ่อน จะน่ารับประทานมากกว่าสีเข้ม) • 3. นำกระดาษปูลงในถาดที่จะใช้นึ่งขนม จากนั้นเทแป้งลงในถาด (หรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้) และแต่งหน้าด้วยลูกเกด (แล้วแต่ความชอบ) • 4. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้ำเดือด จึงนำถาด (หรือแบบพิมพ์) ที่ใส่แป้งลงไปนึ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้าแป้งหนาอาจต้องใช้เวลา นึ่งนานขึ้น (20-25 นาที) เมื่อสุกดีแล้วจึงยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นตัดเป็นชิ้นๆ จัดใส่จานเสริฟ • ส่วนผสมทำขนม สาลี • * แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง • * น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง • * ไข่เป็ด 10 ฟอง • * สีผสมอาหารตามใจชอบ • (บางสีอาจใช้ดอกไม้หรือใบไม้ได้ • เช่น สีเขียว - ใบเตย, สีม่วง - ดอกอัญชัญ) • * ลูกเกด (สำหรับแต่งหน้าขนม)
สังขยาฟักทอง • วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน • 1. นำฟักทองมาตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมบริเวณหัวขั้วจากนั้นจึงขวักเมล็ดข้างในออก จนกลวงเป็นช่องภายใน จากนั้นจึงนำไปน้ำปูนใสประมาณ 8 - 10 นาที แล้วจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ (เคล็ดลับ : แช่น้ำปูนใสเพื่อไม่ให้ฟักทองแตกเวลานึ่ง) • 2. ระหว่างรอฟักทองที่แช่ในน้ำปูนใส เตรียมทำสังขยาโดยผสมไข่ไก่, หัวกะทิ , แป้งข้าวเจ้า, น้ำตาลปิ๊บ และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากันดี • 3. นำส่วนผสมสังขยาที่ทำในขั้นตอนที่สองเทลงในฟักทอง จากนั้นจึงนำไปนึ่งประมาณ 20 - 25 นาที กรณีเสริฟเป็นลูกฟักทอง ก็นำฝาที่ตัดออกไปนึ่งด้วย ถ้าแบ่งเสริฟก็หั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อความสวยงามและน่ารับประทาน เวลาหั่นควรระวังไม่ให้สังขยาเละ • * ฟักทอง 1 ลูก (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม) • * ไข่่ 4 ฟอง • * หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง • * น้ำตาลปิ๊บ 1/4 ถ้วยตวง • * แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ • * เกลือป่น 1/4 ช้่อนชา • * น้ำปูนใส