970 likes | 1.27k Views
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550. Chudchai Chamchan, PhD. Crime Investigation Division Provincial Police Region 5 Sub : Hi-Tech Crime Center ). หัวข้อการบรรยาย. กฎหมาย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กับสถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบัน
E N D
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 Chudchai Chamchan, PhD. Crime Investigation Division Provincial Police Region 5 Sub : Hi-Tech Crime Center)
หัวข้อการบรรยาย กฎหมาย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กับสถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบัน การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ จับ-ไม่จับ ดูอย่างไร? Data Privacy แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์
วิวัฒนาการทางอาชญากรรมวิวัฒนาการทางอาชญากรรม - โลกาภิวัตน์ - การมนุษย์เศรษฐกิจ -การแข่งขัน(โอกาส) -โลกไร้ดุลภาพ การค้าประเวณี ในสถานบริการ www. / Tel สังคม (เดิม) สังคม (ใหม่) ยาเสพติด กลุ่มเฉพาะ การเลียนแบบ(สื่อ) -การเรียนรู้แบบเท่าทัน -Self-hood -การใช้เทคโนโลยีแบบทันสมัยแต่ไม่พัฒนา
Computer – Related Crime • วิวัฒนาการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ • จากแนวความคิดที่ต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องติดต่อสื่อสารได้ และสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ จาก 1 เครื่อง ไปสู่เครื่องข่าย (เป็นสมาชิก) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ 1) ระดับพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจ เช่น ระบบการเงินผ่านคอมพิวเตอร์ / โทรศัพท์ 2) ทำให้เกิดสินทรัพย์ เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา 3) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสังคม คือ สังคมเกษตรกรรม สังคมอุตสาหกรรม และสังคมเทคโนโลยีและข้อมูล สู่สังคมแบบอุดมปัญญา 4) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการใช้พลัง เช่น มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม และการร่วมกันก่อการร้าย รวมไปถึงการสร้างสื่อ (ชุมนุม /ประท้วง)
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ • คือ ผู้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนสำคัญ เป็นการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูล โดยที่ผู้กระทำไม่ได้รับอนุญาต การลักลอบแก้ไข ทำลาย คัดลอกข้อมูล ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด แม้ไม่ถึงกับเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการกระทำที่ผิดระเบียบกฎเกณฑ์ จรรยาบรรณของการใช้คอมพิวเตอร์นั้นๆ • การกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ • ทำให้เหยื่อได้รับความเสียหาย • ทำให้ผู้กระทำได้รับผลตอบแทน • การกระทำผิดกฎหมายใดๆ • ใช้ความรู้เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์มาประกอบการกระทำผิด • ใช้ผู้มีความมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ในการสืบสวน ติดตามเพื่อจับกุถม
ความสัมพันธ์ระหว่างคอมพิวเตอร์กับอาชญากรรมความสัมพันธ์ระหว่างคอมพิวเตอร์กับอาชญากรรม • คอมพิวเตอร์ เป็นเป้าหมายในการก่ออาชญากรรม เช่น การลักทรัพย์ • คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการก่ออาชญากรรม (ภาพถ่ายแผนที่) • อาชญากรรมที่เกิดกับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เช่น การสร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ / การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา • คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชญากรรม เช่น การใช้ในการโอกนเงินจากบัญชีธนาคารจากบัญชีหนึ่งไปสู่อีกบัญชีหนึ่ง จำหน่ายสื่อ/วัตถุลามก ฯลฯ
สาเหตุที่ทำให้อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ถูกละเลย “ไม่ได้รับความสนใจ” • ความเป็นส่วนตัว Impersonal จึงไม่มีผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึก • การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การโอนเงินผิดกฎหมาย การฉ้อโกงด้านการสื่อสาร มีความแตกต่างกับอาชญากรรมแบบ(เดิม) **ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่คุ้นเคยและเข้าใจเป็นอย่างดี • อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์แตกต่างกับอาชญากรรมรูปแบบทั่วไป (เฉพาะกลุ่ม) • อาชญากรรมฯ เกี่ยวพันกับ ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งต้องใช้ความรู้ + ทรัพย์สิน ทำให้บุคคลไม่มีความรู้เกี่ยวกับ IT เกิดความไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว • บุคคลโดยส่วนมากมองอาชญากรรมเป็น “มิติเดียว” คือ เกิดเป็นครั้งคราวๆ ไม่ได้คิดว่าจะเกิดความรุนแรง การกระจาย เสียหายปริมาณมาก • เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการเรียนรู้และเข้าถึง (ใช้งบประมาณสร้างผู้เชี่ยวชาญ)
(ต่อ) • ผู้เสียหาย กลับจะตกเป็นผู้ที่ถูกประนาม ว่า เป็นผู้เปิดช่องโอกาสให้กับอาชญากรทำผิดเอง หรือว่า ผู้เสียหายถูกตำหนิว่า “ไม่มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม” หรือ “ไม่กล้าเปิดเผยว่า ระบบของตนถูกบุกรุกทำลาย” • ทรัพย์สินทางปัญญา ไม่สามารถประเมินราคาความเสียหายได้อย่างแน่ชัด ทำให้ไม่รู้สึกถึงความรุนแรงของคนทั่วไป • พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ไม่มีความรู้ ความชำนาญหรือความสามารถพอเพียง • บุคคลทั่วไปให้ความสนใจนอกมาก เพราะไม่กระทบกับตนเอง • เจ้าหน้าที่มักจะใช้ความรู้ความเข้าใจในอาชญากรรมเดิมมาใช้สืบสวนฯ จึงทำให้มองข้ามไปโดยไม่พบการกระทำผิด • เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความเตรียมพร้อมรองรับอาชญากรรมใหม่ • ปัจจุบันนี้ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์มีผลกระทบไม่ทำกับอาชญากรรมด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
บุคคลที่ “เสี่ยง” ต่อ สถานการณ์ภัยคุกคามอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ • พวกหัดใหม่ คือ ชอบลองของ • พวกจิตวิปริต คือ ชอบทำลาย • กลุ่มที่ประกอบอาชญากรรมในลักษณะองค์กรคือ หาข่าวสารขององค์กร(เจ้าหน้าที่ตามไม่ทันอาชญากรรม) • พวกมืออาชีพ ***ขณะนี้ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ **** • พวกหัวพัฒนา คือ ใช้ความรู้ในการแสวงหาเงินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย • พวกช่างคิดช่างฝัน คือ สร้างความเชื่อในสิ่งสิ่งใดอย่างรุนแรง (สื่อ/ลัทธิ) • พวก Hacker คือ เข้าไปเพื่อแสดงว่าตนเองมีความรู้ Cracker คือ หาผลประโยชน์จากการบุกรุก
ประเภทอาชญากรรมด้วยคอมพิวเตอร์ (ปัจจุบัน) • ข้อมูลทางการทหารและข้อมูลทางราชการลับ • จารกรรมทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลด้านธุรกิจ • จารกรรมทางการเงินและทำให้เกิดความติดขัดทางด้านพาณิชย์ • การโต้ตอบเพื่อล้างแค้น • การก่อการร้าย เช่น ทำลายข้อมูล ก่อกวนการทำงานของระบบ เสนอข้อมูลผิด • การเข้าสู่ระบบเพียงเพื่อแสดวงให้เห็นว่ามีความสามารถทำได้
ภัยที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตภัยที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต • การจำหน่ายสินค้า เช่น โทรศัพท์ฯ (ความผิดทางการฉ้อโกง) • กรณีคนซื้อหลอกคนขาย เช่น การหลอกมาเพื่อปล้น • กรณีละเมิดลิขสิทธ์ เช่น การคัดลอกจาก www. อื่น แล้วนำมาเป็นของตนเอง • การใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ เช่น มีการซื้อบัญชี(ชั่วโมง) การใช้ แต่ได้ถูกแอบไปใช้หมด โดยมีคนนำเลขประจำตัวผู้ใช้ และรหัสลับ ไปเขียนในเว็บบอร์ด ***เด็กที่ทราบก็ใช้กันสนุก*** ดังนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบ • พบว่า มีผู้เอาไปใช้จริง แล้วก็ให้ ผู้ให้บริการตรวจสอบ ** หลังจากนั้นก็ไปสืบว่า คนที่เอาไปเล่นเป็นเด็กมีฐานะ จึงนำข้อมูลเหล่านี้ไปขู่เพื่อจะให้มอบทรัพย์สิน + ไม่ให้เกิดการแจ้งความ (ตกลงยินยอมชำระเงิน เพื่ออนาคตเด็ก)
(ต่อ) • สาวขายบริการ คือ มีหนุ่มๆ สนใจก็จะนัดมาให้บริการ (นวด) • มีนักศึกษา chat คือ ร้อนเงิน บัตรหาย แต่เหยื่อ คาดไม่ถึง ให้ยืมบัตร ATM เพราะเงินไม่มีแต่พบว่า ถูกนำเอา เลขที่บัญชีเปิดขายโทรศัพท์ ให้โอนเงินมา แล้วก็ถอนเงินออกไป (กลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่ได้ตั้งใจ) • การให้เบอร์โทรศัพท์ ถ่ายคลิปไว้ดูเล่น เกิดการแก้แคล้น โดยนำข้อมูลไปเขียนในเว็บบอร์ด “เหงาจังอยากมีคู่นอน”
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หัวข้อหลักที่น่าสนใจ ความผิดที่ถูกกำหนดขึ้นใหม่ให้ครอบคลุมการกระทำผิด พยานหลักฐานและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บหลักฐาน อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
ความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ • มุ่งกระทำต่อความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ • การรักษาความลับ (Confidentiality) • บูรณภาพของข้อมูล (Integrity) • ความพร้อมใช้ (Availability) • การเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม • ผู้กระทำความผิด และ ผู้สนับสนุน • ความผิดเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้ให้บริการ
การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นิยาม : ระบบคอมพิวเตอร์ “ระบบคอมพิวเตอร์”หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
การกระทำความผิดตาม มาตรา 5 มาตรา 5 สิ่งใด เงื่อนไข กระทำ ใคร
ระบบต้องมีมาตรการในการป้องกันระบบต้องมีมาตรการในการป้องกัน 1. 2. 3. 4. ไม่ได้ระบุว่าต้องผ่านมาตรการป้องกัน เข้าไปในระบบ มีความหมายครอบคลุม ทั้งการเข้าถึงทางอุปกรณ์ (Hardware) โดยตรง และ การเข้าถึงจากระยะไกล การวินิจฉัยเรื่องคำว่า “เข้าถึง” และ “พยายาม” ( เพื่อระงับมิให้เกิดความเสียหายขึ้น ก่อนที่ระบบจะถูกเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์) การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น
การเปิดเผยมาตรการป้องกันระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบการเปิดเผยมาตรการป้องกันระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเปิดเผยข้อมูลในส่วนใด ถือว่าเป็นความผิด 1. 2. 3. ต้องมีเจตนาโดยมิชอบในการเปิดเผยหรือไม่ ต้องเกิดความเสียหาย หรือโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย การเปิดเผยมาตรการป้องกันระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
การเข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่นโดยมิชอบการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่นโดยมิชอบ มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การพิจารณาว่าเป็นการเข้าถึงระบบ หรือการเข้าถึงข้อมูลจะพิจารณาอย่างไร 1. 2. การเข้าถึงสื่อสำหรับจัดเก็บข้อมูล (Storage Media) ที่ยังมิได้นำไปเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น มิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์
การแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือทำลายข้อมูล มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รบกวนการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จุดประสงค์เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานได้ไม่เป็นปกติ เช่น ช้าลง , ให้บริการได้น้อยลง 1. 2. 3. การขัดขวางหรือรบกวนทางกายภาพแก่ฮาร์ดแวร์ (Hardware) การขัดขวางหรือรบกวนระยะไกล เช่น การทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ปฏิเสธการทำงาน (Denial Of Service) รบกวนการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
Spam Mail มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด หรือปลอมแปลง แหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
การเผยแพร่ชุดคำสั่งที่ใช้ในการกระทำความผิดการเผยแพร่ชุดคำสั่งที่ใช้ในการกระทำความผิด มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือ ในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือ มาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การนำข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์การนำข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
การนำข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์การนำข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็น ข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔)
การให้ความสนับสนุนของผู้ให้บริการการให้ความสนับสนุนของผู้ให้บริการ มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตาม มาตรา ๑๔
ภาพตัดต่อ มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ • ประเภทของผู้ให้บริการ • การเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต • การให้บริการจัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ • หน้าที่ของผู้ให้บริการ • จัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ • จัดเก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ • จัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการ • กำหนดจุดประสานงานเพื่อทำงานร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่
การจัดเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการการจัดเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการ มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท
อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ • อำนาจในการสืบสวนสอบสวน • อำนาจในการรับคำร้องทุกข์ กล่าวโทษ • อำนาจในการระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม • การประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ จับ ควบคุม ตรวจค้น และ ทำสำนวนการสอบสวน • ข้อจำกัดของการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ • มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง • เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการ • สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ • ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ • สั่งให้ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ • ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ • ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ • ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็น
ข้อจำกัดในการดำเนินการ ตาม พ.ร.บ. ฯ การทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) สั่งยึดหรืออายัดไว้เกิน 30 มิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้อง ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกิน 60 วัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัด ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
การระงับการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมการระงับการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนพนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้
กระบวนการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่กระบวนการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีมีอำนาจร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง
ข้อจำกัดการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ข้อจำกัดการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ • มาตรา 18 ภายใต้บังคับมาตรา 19 เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน และ สอบสวน ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด และหาตัวผู้กระทำความผิด
มาตรา 22 การเปิดเผยข้อมูลของพนักงานเจ้าหน้าที่ • ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มา ตามมาตรา 18 ให้แก่ผู้ใด ความในวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่ง หรือได้รับอนุญาตจากศาล พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 23 กระทำโดยประมาท ให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูล • พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใด กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มา ตามมาตรา 18 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 24 ล่วงรู้ข้อมูลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาและเปิดเผยต่อผู้อื่น • ผู้ใด ล่วงรู้ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มา ตามมาตรา 18 และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 25 การนำเอาข้อมูลมาใช้เป็นพยานหลักฐาน • ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐาน ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ กฎหมายอื่น อันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ มีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น
กรณีศึกษาการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์กรณีศึกษาการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ • กรณีคนร้ายใช้โปรแกรมไม่พึงประสงค์ ประเภทโทรจัน ในการดักรับข้อมูลที่อยู่ระหว่างการส่ง และ เข้าสู่ระบบของธนาคารอิเลคทรอนิคส์
ช่องโหว่การบังคับใช้กฎหมายช่องโหว่การบังคับใช้กฎหมาย
ล่อซื้อ - ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตราที่ ๖๖ ความผิดตามพรบ.ลิขสิทธิ์ เป็นความผิดอันยอมความได้ คือ เจ้าของลิขสิทธิ์ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่รู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้นจะขาดอายุความร้องทุกข์ - หากผู้เสียหายมีส่วนร่วม หรือก่อให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น ก็ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่มีอำนาจฟ้องคดีได้ สรุป การล่อซื้อและการส่งหน้าม้า จึงเป็นกรณีที่เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยไม่มีอำนาจฟ้อง