1 / 55

การถอดบทเรียน : เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ใน การทำงานของทีม เฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT)

การถอดบทเรียน : เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ใน การทำงานของทีม เฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT). ประภาพรรณ อุ่นอบ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เอกสารประกอบการประชุมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสอบสวนการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕

tamal
Download Presentation

การถอดบทเรียน : เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ใน การทำงานของทีม เฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การถอดบทเรียน: เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ในการทำงานของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) ประภาพรรณ อุ่นอบ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เอกสารประกอบการประชุมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสอบสวนการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ วังยาวรีสอร์ท จังหวัดนครนายก

  2. การถอดบทเรียนและสังเคราะห์องค์ความรู้คืออะไร ? 1 มีวิธีการอะไรบ้างที่ใช้ในการถอดบทเรียน ? 2 กระบวนการถอดบทเรียน มีกี่ขั้นตอน ? 3 ตัวละครที่สำคัญในการถอดบทเรียนมีใครบ้าง ? 4 ประเด็นการพูดคุย

  3. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เป้าหมายของโครงการพัฒนา (การป้องกันควบคุมโรคติดต่อ) การเปลี่ยนแปลงวิธีคิด การเปลี่ยนแปลงระบบคุณค่า

  4. การเรียนรู้ (Learning) “การศึกษาเพื่อหาหนทางสำหรับปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และพัฒนาต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นกระบวนการค้นหาไปสู่อนาคตที่พึงปรารถนา โดยการทบทวนตนเองและภูมิปัญญาในอดีต (การทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ) ”

  5. ความเข้าใจ (Comprehension) การปรับเปลี่ยน พฤติกรรม (Transformation) การรับรู้ (Reception) ระดับการเรียนรู้

  6. cognitive change action change ระดับของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (พฤติกรรมของคนในสังคม) behavior change value change Kotlor, (1982)

  7. การเรียนรู้

  8. เครื่องมือเพื่อสร้างการเรียนรู้เครื่องมือเพื่อสร้างการเรียนรู้ ในแผนงาน/โครงการพัฒนา/โครงการวิจัย กระบวนการถอดบทเรียน (Lesson-Learned) “ A Lesson is not learned unless something changed”

  9. สรุปบทเรียน (Lesson Learned) คือ??? “ความรู้ที่เป็นข้อค้นพบใหม่ หรือบทสรุป ที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์กระบวนการทำงาน” • บทเรียนจะอธิบายเหตุการณ์และเงื่อนไขที่เกิดขึ้น • บทเรียนจะมิใช่เพียงการเล่าเรื่องในอดีต แต่ต้องมีคำอธิบายที่มีคุณค่าที่จะนำไป ปฏิบัติต่อ • บทเรียนจะช่วยไม่ให้กระทำผิดซ้ำ • “เกิดการเรียนรู้”

  10. ขยายความบทเรียน • บทเรียนจากการทำงาน จะเขียนในลักษณะอธิบายผลที่เกิดขึ้น และสาเหตุหรือเงื่อนไขของผลนั้น (ถ้า... แล้ว ....) เช่น • ถ้ามีคนหมุนเวียนมาในโครงการบ่อยๆ และไม่มีการทำให้คนใหม่ตามโครงการทันแล้ว งานก็จะสะดุดและไม่เป็นไปตามแผน • ถ้าแกนนำของจังหวัดชัดเจนในโครงการตั้งแต่ต้นแล้ว โครงการจะรุดหน้าไปได้รวดเร็วมาก • การนำภาคีในจังหวัดมาทำงานโครงการนี้ จำเป็นต้องให้ภาคีแต่ละส่วนได้มีตัวตน หรือนำเอาศักยภาพของแต่ละคนมาใช้ในโครงการนี้ด้วย โครงการจึงจะได้รับความร่วมมืออย่างดี • บทเรียนในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นความรู้เชิงกลไกที่เป็นแบบแผน นำไปทดลองใช้หรือไปทดสอบได้ • บทเรียนมีลักษณะเป็นกลาง ไม่ใช่เรื่องดีหรือปัญหา หากแต่เป็นข้อค้นพบซึ่งเกิดขึ้นใหม่ในงานของเรา

  11. การถอดบทเรียน คือ อะไร? • วิธีการจัดการความรู้รูปแบบหนึ่งที่เน้นเสริมสร้างการเรียนรู้ในกลุ่มที่เป็นระบบเพื่อสกัดความรู้ฝังลึกในตัวคนและองค์ความรู้ของท้องถิ่นออกมาเป็นบทเรียนที่สามารถนำไปสรุปและสังเคราะห์เป็นชุดความรู้ คู่มือ สื่อรูปแบบต่างๆ โดยผลที่ได้จากการถอดบทเรียนนอกจากสื่อชุดความรู้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ร่วมกระบวนการถอดบทเรียนจะต้องเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน อันนำมาซึ่งการปรับวิธีคิด และวิธีการทำงานที่สร้างสรรค์ และมีคุณภาพยิ่งขึ้น

  12. จริงหรือไม่ ??? • “เมื่อเราแข่งขัน การแบ่งปันจะหายไป” • “เราจะแบ่งปัน แก่คนที่เรารัก” • “เราจะบอกความจริง กับคนที่เราไว้ใจ” ความเชื่อพื้นฐานของการถอดบทเรียน

  13. วงจรของโครงการพัฒนา ระหว่าง ดำเนินการ เป้าหมาย ผลลัพธ์ การใช้ความรู้ ก่อนดำเนินการ หลังดำเนินการ **Taken from Learning to Fly by Chris Collison & Geoff Parcell, 2001

  14. เทคนิคการถอดบทเรียนกับวงจรของโครงการเทคนิคการถอดบทเรียนกับวงจรของโครงการ การถอดบทเรียน หลังปฏิบัติการ ระหว่างดำเนินการ เป้าหมาย ผลลัพธ์ การใช้ความรู้ ก่อนดำเนินการ หลังดำเนินการ ระดมความคิด จากเพื่อนพ้อง ถอดบทเรียน หลังการดำเนินงาน **Taken from Learning to Fly by Chris Collison & Geoff Parcell, 2001

  15. 1.การเรียนรู้จากเพื่อน (Peer Assist – PA) • : การเรียนรู้จากเพื่อน (Peer Assist) เป็นการเรียนรู้ก่อนทำกิจกรรมหรือ Learning Before Doingโดยคำว่า “เพื่อน” ในที่นี้หมายถึง ทีมผู้ช่วยกับ ทีมปรึกษาภายนอกมาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์

  16. อะไรที่ท่านรู้ ในบริบท ของท่าน อะไรที่ เราทั้งสองรู้ สิ่งที่เรียนรู้ในการดำเนินการในอนาคต อะไรที่เราร่วมกันสร้าง อะไรที่ฉันรู้ ในบริบทของฉัน

  17. 2. การเรียนรู้หลังปฏิบัติการ(After Action Review)การเรียนรู้หลังปฏิบัติการ/การวิเคราะห์หลังปฏิบัติการ(After Action Review) หรือ AAR“เป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินกิจกรรมในโครงการ”“ตีเหล็กเมื่อกำลังร้อน”

  18. การวิเคราะห์หลังปฏิบัติการคือ???การวิเคราะห์หลังปฏิบัติการคือ??? • การจับความรู้ที่เกิดขึ้นสั้นๆ ภายหลังการทำกิจกรรมของทีมทำงาน รวมทั้งทบทวนและสะท้อนบทเรียน เพื่อนำไปสู่การวางแผนต่อไป • เป็นการให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างเป็นระบบ ต่อทีมทำงาน ในเรื่องผลการปฏิบัติที่ได้ทำไปแล้ว ทำให้ทีมงานมีความตื่นตัวและมีความรู้สึกติดพัน (involve) อยู่กับงาน • เป็นการอภิปรายร่วมกันในหมู่ “นักวิชาชีพ” ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นที่ผลการปฏิบัติว่าเป็นไปตาม “สิ่งที่ควรจะเป็น” อย่างไร ทำให้ผู้ปฏิบัติได้รู้จักและทบทวนตนเอง

  19. AARควรมีองค์ประกอบอย่างไรAARควรมีองค์ประกอบอย่างไร • ผู้อำนวยการเรียนรู้ (Facilitators) • ทีมงานทุกคนที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน • คำถามหลักเพื่อการอภิปราย เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจงและปฏิบัติได้ (SARs) • ความเป็นทางการ (รูปแบบ, สถานที่) • การรักษาความลับและการสร้างความไว้วางใจซึ่งกัน

  20. ข้อเสนอแนะที่เจาะจงและปฏิบัติได้(Specific Actionable Recommendations:SARs) • หมายถึง ชุดข้อความที่แสดงถึงการที่ทีมงานได้นำสิ่งที่เรียนรู้ มาพัฒนากิจกรรม เพื่อใช้ในการปฏิบัติครั้งต่อไป • ควรเป็นข้อเสนอแนะที่ระบุลักษณะที่ต้องแก้ไข และวิธีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม • ทีมงานทุกคนต้องเข้าใจตรงกันต่อข้อเสนอแนะนั้น ๆ • ข้อเสนอแนะเหล่านี้จะถูกนำไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการในครั้งต่อไป

  21. ตัวอย่าง SARs ควรมีการปรับเปลี่ยนกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้เอื้อต่อการเข้าใจภาพรวมของโครงการให้มากกว่านี้ และควรให้กิจกรรมใช้เวลาน้อยกว่านี้ • ในกิจกรรมกลุ่มย่อย ควรมีวิทยากรกระบวนการที่มีความรู้และเข้าใจโครงการ รวมทั้งมีทักษะในการดำเนินการประชุมเป็นอย่างดี • ควรปรับเปลี่ยนกิจกรรมบรรยายเนื้อหา ไปไว้ในช่วงก่อนรับประทานอาหารเย็น เนื่องจากตอนหัวค่ำ ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะหมดความสนใจ

  22. ชุดคำถามหลักในการวิเคราะห์หลังปฏิบัติการชุดคำถามหลักในการวิเคราะห์หลังปฏิบัติการ ชุดที่ 1 ชุดที่ 2 ชุดที่ 3 • ทำไม สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจึงแตกต่างไป จากสิ่งที่คาดหวัง ??? • (วิเคราะห์ถึงเงื่อนไข/ปัจจัยที่ทำให้เกิดเช่นนั้น) • ในการทำกิจกรรมครั้งต่อไป เราจะทำสิ่งใดให้ดีขึ้น หรือแตกต่างไปจากเดิมบ้าง ??? • สิ่งที่เรากำหนด/คาดหวังไว้ว่าจะให้เกิดขึ้น/หรือว่าจะทำ?? • สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคืออะไรบ้าง

  23. 3. การเรียนรู้หลังดำเนินการ : Retrospect โดยสรุป วิธีวิทยาการเรียนรู้หลังดำเนินการ มีลักษณะดังนี้ • 1.ทำอะไร • การรวบรวมความรู้ในระยะยาวสำหรับ • คณะทำงานหรือชุมชน • - ดำเนินในช่วงเวลาที่จบโครงการ • - เป็นการประชุมคณะทำงานเพื่อมองอนาคต

  24. 2 .ใคร ? • - คณะทำงาน • - ผู้อำนวยความสะดวก • - ผู้ที่ใช้ความรู้ในอนาคต • 3.เมื่อไร ? • ทันทีที่เสร็จสิ้นโครงการ • “เมื่อจบสงคราม มิใช่ เมื่อสิ้นสุดการโจมตีแต่ละครั้ง” • 4.ทำทำไม ? • - ปรัชญาของการทำงานที่ว่า • “ทุกครั้งเราทำอะไรซ้ำ เราควรทำให้ดีกว่าครั้งสุดท้าย” • - ช่วยผู้อื่นให้ทำงานของเขาให้ดีขึ้น • - สร้างความตระหนักในการเรียนรู้

  25. 5.ทำอย่างไร ? • คล้ายๆกับ AAR แต่ลงลึก (indepth) กว่า • - เป็นการทบทวนแผนและกระบวนการทั้งหมด • ตั้งคำถามว่าเราจะดำเนินการต่อไปให้ดีขึ้น • อย่างไร ด้วยวิธีใด ทำให้เป็นที่พอใจได้อย่างไร • บันทึกข้อเสนอที่เจาะจงนำไปปฏิบัติได • (Specific Actionable Recommendations -SARS)

  26. การวิเคราะห์หลังดำเนินการคือ??การวิเคราะห์หลังดำเนินการคือ?? @ เป็นการรวบรวมความรู้ในระยะยาวสำหรับทีมงาน @ดำเนินการในช่วงเวลาที่เสร็จสิ้นโครงการแล้ว @ เป็นการประชุมทีมงานเพื่อมองอนาคต บทเรียนที่ได้จะนำใช้ในโครงการต่อไป มิใช่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการเดิม @ การถอดบทเรียนเน้นให้ผู้ร่วมกระบวนการสกัดบทเรียนการทำงานโครงการทั้งระบบตั้งแต่ช่วงเตรียมการ , ช่วงดำเนินการ และผลลัพธ์หรือผลผลิตที่ได้จากโครงการ @ เป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนาน ปกติใช้เวลา 1-2 วันขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงการ

  27. ขั้นตอนที่สำคัญของ Retrospect • กิจกรรมอุ่นเครื่อง • กระบวนการถอดบทเรียน

  28. กิจกรรมอุ่นเครื่อง 1.เตรียมพร้อมความทรงจำและข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และผลการดำเนินโครงการ • วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ร่วมกระบวนการได้ทบทวนที่มาที่ไปของโครงการ กระบวนการดำเนินงาน และผลสำเร็จของโครงการร่วมกันก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์เหตุปัจจัยต่างๆในกิจกรรมขั้นต่อไป • เป็นการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วม “ย้อนอดีต” • อาจดำเนินการล่วงหน้าก่อนวันที่จะจัดเวทีถอดบทเรียน 2-3 วันได้

  29. ประเด็นสำหรับใช้ในกิจกรรมอุ่นเครื่องประเด็นสำหรับใช้ในกิจกรรมอุ่นเครื่อง  ทบทวนวัตถุประสงค์ของโครงการและผลงานที่ต้องส่งมอบของโครงการ  ทบทวนแผนงานและกระบวนการดำเนินโครงการ

  30. กิจกรรมอุ่นเครื่อง 2.เตรียมความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับกระบวนการถอดบทเรียน • วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ร่วมกระบวนการได้เข้าใจเกี่ยวกับหลักการ เป้าหมาย และกระบวนการถอดบทเรียนที่จะทำร่วมกัน • เป็นสิ่งสำคัญต่อบรรยากาศและคุณภาพของกระบวนการถอดบทเรียน • ควรย้ำถึงหัวใจของการถอดบทเรียนจนเป็นคุณค่าร่วมที่ทุกคนยึดถือตรงกัน

  31. กระบวนการถอดบทเรียน • กระบวนการระดมความคิดจากกลุ่ม • มีคำถามช่วยคิด 4 ข้อ

  32. คำถามข้อที่ 1 • ท่านเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการนี้อย่างไร ? • อะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ท่านเข้ามาร่วมในโครงการนี้ ?

  33. คำถามข้อที่ 2 • โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? • สภาพความสำเร็จของโครงการนี้เป็นอย่างไร ? • และสภาพที่เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างไร ?

  34. คำถามข้อที่ 3 • ทำไมจึงเป็น เช่นนั้น ? (ควรวิเคราะห์เงื่อนไขปัจจัยให้ครอบคลุมตั้งแต่ เริ่ม ระหว่าง และเมื่อสิ้นสุดโครงการ)

  35. คำถามข้อที่ 4 • ท่านได้เรียนรู้อะไรจากการทำโครงการนี้ ? • ท่านมีข้อเสนอแนะอะไร หากต้องทำโครงการนี้อีกในอนาคต ?

  36. ข้อเสนอแนะที่เจาะจงและปฏิบัติได้ (Specific Actionable Recommendations:SARs)

  37. ตัวอย่าง SARs ในการวางแผนโครงการ ต้องมีความรู้ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมและเพียงพอต่อการออกแบบโครงการ • ต้องมีการศึกษาบริบทของชุมชนโดยใช้เทคนิคแผนที่เดินดิน รวมทั้งเชิญคนที่เคยทำโครงการในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนเพื่อมาพูดคุยเกี่ยวกับบทเรียนการทำงาน เพื่อให้ได้ความรู้มาประกอบการวางแผนโครงการ • ต้องกำหนดระบบการติดตามประเมินผลภายใน (ตัวชี้วัด เครื่องมือ กลไกการติดตามประเมินผล และการนำผลการประเมิน ไปใช้) ไว้ในแผนงานโครงการเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการโครงการ

  38. ความสัมพันธ์ระหว่าง AAR และ Retrospect สิ้นสุด เริ่มต้น โครงการ กิจกรรมหลัก 1 กิจกรรมหลัก 2 กิจกรรมย่อย 1.1 กิจกรรมย่อย 1.2 กิจกรรมย่อย 1.3 กิจกรรมย่อย 2.1 กิจกรรมย่อย 2.2 กิจกรรมย่อย 2.3 AAR1.1 AAR1.2 AAR1.3 AAR2.1 AAR2.2 AAR2.3 SARs SARs SARs SARs SARs SARs การถอดบทเรียนหลังการดำเนินงาน

  39. การถอดบทเรียนแบบเล่าเรื่อง (Story telling) • เป็นการปลดปล่อยความรู้ที่ฝังลึก(tacit knowledge) โดยมีเป้าหมายให้ผู้มีความรู้จากการปฏิบัติปลดปล่อยความรู้ที่ซ่อนในตัวตน ทั้งในสภาพจิตใต้สำนึกและจิตสำนึก ภายใต้บริบทที่เฉพาะเจาะจงทั้งในเชิงประเด็น เนื้อหา และตัวละครที่เกี่ยวข้อง • กระบวนการดำเนินงานที่ได้จากการเล่าเรื่องจะมีความจำเพาะสูง จึงควรเป็นบทเรียนสำหรับการคิดต่อมากกว่ากระทำซ้ำในทันที • มีวัตถุประสงค์ (7 ประเภท) วิธีการ และผลที่ได้รับแตกต่างกัน (ศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือ บริษัทกระรอกน้อยจำกัดฯ โดยพูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ)

  40. การถอดบทเรียนแบบเล่าเรื่อง(Story telling) • เงื่อนไขการเล่าเรื่อง ผู้เล่า “ต้องมีความสุขในการเล่า” “บรรยากาศดี มีความเท่าเทียมกัน” “เป็นอิสระ” “เป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จ” “มีการซักถามด้วยความชื่นชม” (appreciative inquiry) • “การเล่าเรื่อง” และ “การถอดบทเรียนจากการเล่าเรื่อง” มิใช่สิ่งเดียวกัน • สิ่งสำคัญในการถอดบทเรียนจากการเล่าเรื่อง คือ “การสกัดความรู้จากเรื่องที่เล่า ตรวจสอบคุณค่า และสำรวจทางเลือกสู่การปฏิบัติในโอกาสต่อไป”

  41. การถอดบทเรียนจากการประเมินผลโครงการการถอดบทเรียนจากการประเมินผลโครงการ • การถอดบทเรียนจากแผนที่ผลลัพธ์ (outcome mapping: OM) • การถอดบทเรียนจากการประเมินแบบเสริมพลัง (empowerment evaluation: EE) • การถอดบทเรียนจากการประเมินสรุปผลโครงการ (summative evaluation)

  42. จุดอ่อนของการถอดบทเรียนและการประยุกต์ใช้ • เป็นการดำเนินโดยไม่มีระบบ ไม่มีโครงสร้าง จึงได้ความรู้เป็นส่วนๆไม่สามารถเชื่อมโยงในเชิงระบบได้ มีสำนึกของการ “หวงวิชา” ไม่ยอมถ่ายทอด รวมทั้งกลุ่มก็ไม่เห็นความสำคัญของการแลกเปลี่ยนเพิ่มพูนความรู้ซึ่งกันและกัน เกิดภาวะ “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” ไม่สามารถสังเคราะห์องค์ความรู้ที่ท่วมท้นมาใช้ประโยชน์ได้ ระบบคิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ขาดการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้ จึงทำให้มีการทำงานซ้ำ (ผิดซ้ำ) การตัดสินใจดำเนินการมิได้ใช้ความรู้ที่ได้จากการถอดบทเรียนต้องเกิดการเรียนรู้จากบทเรียน มิใช่“เลียนแบบ”

  43. จุดร่วมของการถอดบทเรียนการเรียนรู้ที่สำคัญ คือ • ความเรียบง่าย • ช่วงเวลาที่เหมาะสม • สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี • การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญคือ เลือก คนที่ถูกต้องเหมาะสม(Get the right people talking)หาผู้ที่รู้ดีที่สุด แบ่งปันความรู้กับเครือข่าย • สร้างองค์ความรู้จากบทเรียนที่ดี (BestPractice) • สิ่งสำคัญคือ การนำความรู้ที่ได้นั้นไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสร้างสรรค์ในอนาคต จึงจะเป็นการจัดการความรู้โดยสมบูรณ์

  44. กระบวนการถอดบทเรียน มีกี่ขั้นตอน ? • การออกแบบแผนการถอดบทเรียน ขั้นที่ 1 การกำหนดรูปแบบในการถอดบทเรียน ขั้นที่ 2 การเลือกเทคนิคการถอดบทเรียน ขั้นที่ 3 การกำหนดปฏิทินการถอดบทเรียน • การดำเนินการถอดบทเรียน ขั้นที่ 4 การถอดบทเรียนเฉพาะประเด็น ขั้นที่ 5 การถอดบทเรียนทั้งโครงการ • การสื่อสารผลการถอดบทเรียน ขั้นที่ 6 การบันทึกบทเรียน ขั้นที่ 7 การพัฒนาชุดความรู้ • การติดตามการนำบทเรียนไปใช้ ขั้นที่ 8 การติดตามการใช้บทเรียน

  45. ตัวละครที่สำคัญในการถอดบทเรียนมีใครบ้าง ? • ผู้จัดงาน / ผู้ประสานงาน • ผู้ร่วมถอดบทเรียน • ผู้อำนวยความสะดวก • ผู้ช่วยผู้อำนวยความสะดวก • ผู้บันทึกบทเรียน

  46. ผู้จัดงาน / ผู้ประสานงาน • มีบทบาทสำคัญในการประสานงาน และสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ และประโยชน์ รวมถึงวัน เวลา สถานที่ของการจัดกิจกรรมถอดบทเรียนให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

More Related