1 / 21

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

S.N.P. NEWS. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. ข่าวสารฉบับที่ 157. Logistics Specialist and International Freight Forwarder. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. www.snp.co.th. CEO Articles. Global News. Supply & Demand. Inside Customs. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan. SNP Philosophy.

aoife
Download Presentation

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. S.N.P. NEWS S.N.P. GROUP OF COMPANIES ข่าวสารฉบับที่ 157 Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com

  2. S.N.P. GROUP OF COMPANIES www.snp.co.th CEO Articles Global News Supply & Demand Inside Customs เที่ยวรอบโลกกับPeter Chan SNP Philosophy Tel. 0-2333-1199 ( 12 Line )

  3. สินค้านำกลับ หลายเดือนที่ผ่านมา ผมพบสินค้าที่ส่งออกไปจากประเทศไทยถูกส่งกลับคืนมาหลายราย บางรายเกิดปัญหาขณะผ่านพิธีการศุลกากรนำกลับจนเกิดเป็นค่าใช้จ่าย ทำให้ผมนึกถึงในอดีตที่มีผู้ส่งออกอาหารกระป๋องรายหนึ่ง ถูกผู้ซื้อต่างประเทศส่งสินค้ากลับคืนมาหลายครั้ง จนในที่สุดกรมอาหารและยาต้องเข้ามาตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้าว่า มีปัญหาหรือไม่ จนเป็นที่แปลกใจต่อผู้บริหารของผู้ส่งออกรายนั้นว่า กรมอาหารและยาทราบได้อย่างไรว่ามีสินค้านำกลับบ่อยครั้งจนต้องเข้ามาตรวจสอบคุณภาพ CEO Articles ผมไม่แน่ใจว่าระบบการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการนำเข้าและการส่งออกจะดีมากเพียงใดในปัจจุบัน แต่ที่ผมแน่ใจคือมีการเชื่อมโยงกันแน่นอน ดังนั้น การที่สินค้าส่งออกของไทยถูกส่งกลับคืนหลายครั้งนั้น ไม่ช้าก็เร็วก็อาจเป็นเหตุให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้านั้นเข้ามาตรวจสอบกระบวนการผลิตก็ได้ อีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรเพื่อนำกลับเข้ามาให้ได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีนั้น ผมพบว่าสร้างความเดือดร้อนต่อผู้ส่งออกหลายครั้ง ด้วยเหตุเพียงเพราะการรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น ทั้งที่กฎหมายเกี่ยวกับสินค้านำกลับในภาค 4 ประเภท 1 กำหนดไว้แต่เพียงว่า “ของที่ส่งออก รวมทั้งของที่ส่งกลับออกไป ซึ่งนำกลับเข้ามาภายในหนึ่งปีโดยไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะหรือรูปแต่ประการใดและในเวลาที่ส่งออกนั้นได้รับใบสุทธินำกลับเข้ามาแล้ว” อ่านต่อหน้า 2

  4. หมายเหตุ “อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจที่จะสั่งให้ได้รับการยกเว้นจากบทบัญญัติที่ว่าด้วยใบสุทธิสำหรับนำกลับเข้ามา หรืออาจอนุญาตให้ขยายกำหนดเวลาออกไปอีกตามความจำเป็นแก่กรณีได้” หากจะสาระสำคัญของกฎหมาย กำหนดเรื่องหลัก ๆ สำหรับสินค้านำกลับให้ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีไว้เพียง 2 ประการเท่านั้น คือ 1. ต้องนำกลับเข้ามาภายใน 1 ปี นำแต่วันที่ส่งออกและทำใบสุทธินำกลับไว้ขณะส่งออกด้วย แต่อธิบดีมีอำนาจขยายเวลาและผ่อนผันใบสุทธินำกลับ (Re-Importation Certificate) ได้ 2. สินค้าที่นำกลับต้องไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะหรือรูปแต่ประการใด ด้วยเงื่อนไขง่าย ๆ เพียงเท่านี้ แต่กลับทำให้ผู้ส่งออกปวดเศียรเวียนเกล้า คือเมื่อผู้ซื้อต่างประเทศที่เป็นผู้ส่งสินค้ากลับคืน ไม่ว่าจะส่งทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ซื้อต่างประเทศมักทำใบกำกับสินค้า (Invoice) ใหม่ ใช้น้ำหนักใหม่ ตอนใช้น้ำหนักใหม่นี้กลับทำให้น้ำหนักไม่ตรงกับที่สำแดงไว้ขณะส่งออก แต่กฎหมายระบุว่า “สินค้าที่นำกลับต้องไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะหรือรูปแต่ประการใด” การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักจึงนำไปสู่ข้อสงสัยทางเอกสารว่า “สินค้ามีการเปลี่ยนแปลง” นี่เป็นเพียงประเด็นหนึ่งเท่านั้นนะครับ ซึ่งวิธีแก้ไขง่าย ๆ ในประเด็นนี้ก็คือ หากผู้ซื้อต่างประเทศประสงค์จะทำเอกสารให้ใหม่ เอกสารใหม่ทุกชนิดต้องไม่สำแดงเนื้อหาใด ๆ ที่สื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของของนั้นจนอาจเป็นการขัดต่อกฎหมายเท่านั้นเองครับ ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่สมควรเตรียมการตั้งแต่รู้ตัวว่าสินค้าจะต้องถูกส่งกลับนั้น ผมจะนำมากล่าวใน โอกาสต่อไป สิทธิชัย ชวรางกูร กลับสู่หน้าหลัก

  5. Global News ห้ามส่งออกผักไป EU! ดีเดย์ 1ก.พ.นี้ นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ ประเทศไทยจะงดการส่งออกผักไปยัง 27 ประเทศในสหภาพยุโรป(อียู)ชั่วคราว หลังจากที่อียูได้ตรวจพบศัตรูพืชกักกันในพืชผักผลไม้ที่นำเข้าจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนทำให้อียู.เตรียมออกมาตรการห้ามนำเข้าพืชผักบางชนิดของไทย ซึ่งผลการเจรจาระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับหน่วยงาน Health and Consumer(DG-SANCO) ของอียู. ได้ข้อสรุปว่า หากไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านสุขอนามัยพืชในสินค้าพืชผักจำนวน 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กะเพรา โหระพา แมงลัก ยี่หร่า  2. พริก  3. มะระจีน มะระขี้นก 4. มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือม่วง มะเขือขาว มะเขือขื่น และ5. ผักชีฝรั่ง ทางอียู.จำเป็นต้องออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทย เนื่องจากพืชเหล่านี้เป็นพืชควบคุม และศัตรูพืชที่ตรวจพบเป็นศัตรูพืชกักกันของอียู. ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรจะออกประกาศชะลอการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชผักทั้ง 5 กลุ่มที่จะส่งออกไปยังอียู. เพื่อไม่ให้ส่งออกผักที่เป็นปัญหาชั่วคราว และในระหว่างนี้หากพบการลักลอบส่งออก หรือลักลอบซุกซ่อนสอดไส้สินค้าพืชควบคุม ก็จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากการส่งออกพืชผักทั้ง 5 กลุ่มนี้กว่าปีละ 738 ล้านบาท (เดือนละ 50 ล้านบาท หรือประมาณผักส่งออก 2,700 ตันต่อเดือน) หรืออาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียตลาดส่งออก อ่านต่อหน้า 2

  6. อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวได้เร็วหรือช้านั้น ขึ้นอยู่กับผลการปรับปรุงระบบควบคุมการผลิตของผู้ผลิตและผู้ส่งออก จึงกำชับให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออก ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และเร่งปรับปรุงระบบควบคุมด้านความปลอดภัยทั้งด้านสารตกค้าง เชื้อจุลินทรีย์ และสุขอนามัยพืช เนื่องจากมาตรการของอียู.ที่กักสุ่มตรวจสารตกค้างและเชื้อจุลินทรีย์ในสินค้าพืชผัก เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือ คะน้า กะเพรา โหระพา ผักชีไทย และสะระแหน่ อาจยกระดับความรุนแรงเป็นห้ามนำเข้าได้หากยังพบปัญหาต่อเนื่อง สำหรับศัตรูพืชที่มีการตรวจพบ ประกอบด้วย แมลงหวี่ขาว หนอนชอนใบ แมลงวันผลไม้ และเพลี้ยไฟ พร้อมแนะนำให้เกษตรกรเลือกใช้เทคโนโลยีป้องกัน หรือสารเคมีที่ไม่เป็นอันตราย หรือ ใช้วิธีกางมุ้งปลูกผัก ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะเข้าให้ความช่วยเหลือ ที่มา : ครอบครัวข่าว 3 อ่านต่อหน้า 3

  7. น้ำมันถั่วเหลืองขาดตลาด หลังน้ำมันปาล์มขึ้นราคา Filed under breakingnews, เศรษฐกิจ นาย วิชิต วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวถึงสาเหตุที่น้ำมันถั่วเหลืองเริ่มขาดตลาดว่า เป็นเพราะผู้บริโภคหันมาซื้อน้ำมันประเภทนี้มากขึ้นหลังราคาน้ำมันปาล์มปรับ สูงขึ้นจากขวดละ 38 บาทเป็น 47 บาท และห้างสรรพสินค้าบางแห่งไม่จำกัดปริมาณให้ลูกค้า ทำให้มีการซื้อจำนวนมากเพื่อกักตุน ส่วนกำลังการผลิตของผู้ประกอบการในขณะนี้ยังคงเท่าเดิม และเช่นเดียวกับปริมาณที่ส่งสินค้าให้ห้างก็ไม่ได้ลดปริมาณลงแต่อย่างใด สัดส่วนการบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองร้อยละ 28 และมีแนวโน้มที่ความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นหากน้ำมันปาล์มยังคงมี ราคาสูงกว่าถั่วเหลือง ขณะ ที่นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในยืนยันจะไม่เข้าไปแทรกแซงและปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของ ตลาด และหากผู้บริโภคพบว่ามีการขายสินค้าเกินราคาหรือกักตุนสินค้าสามารถแจ้งสาย ด่วนกรมการค้าภายในที่ 1569 อ่านต่อหน้า 4

  8. คนไทยกินน้ำตาลแพงต่อ สอน.เมินราคา สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ตอบปฏิเสธข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่เสนอให้พิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำตาลลงทันที 5 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.54 เป็นต้นไป โดยคณะทำงานได้ระบุว่า แม้ภาระหนี้จะหมดลง แต่ไม่จำเป็นต้องลดราคาขายปลีกลง โดยเฉพาะ ในสัดส่วน 5 บาทต่อ กก. หลังจากก่อนหน้านี้มีการปรับ ขึ้นราคาขายปลีกน้ำตาลในประเทศ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส.จำนวนหนึ่ง โดย สศช.ให้เหตุผลว่า เมื่อภาระหนี้สินหมดลงจากการขึ้นราคาขายปลีก 5 บาทต่อ กก. ก็สมควรต้องลดราคาขายปลีกลงทันที 5 บาท เพื่อทำให้ราคาขายปลีกน้ำตาลลดลงมาอยู่ที่ 18.50 บาทต่อ กก. จากปัจจุบันอยู่ที่ 23.50 บาท เพื่อลดภาระรายจ่ายให้กับประชาชน แต่คณะทำงานได้ยืนยันต่อ สศช.ว่า ไม่จำเป็นต้องลดราคาขายปลีกให้ประชาชน โดยให้เหตุผลว่า แม้ภาระหนี้ของ กท.จะหมดลง แต่ กท.ต้องการเก็บเงินในอัตรา 5 บาทต่อ กก.ต่อไป เพื่อสะสมเงินเข้าสู่ระบบ ของ กท. เหมือนกรณีการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเข้าไป สะสมในกองทุนน้ำมัน เพื่อให้ กท.มีสภาพเงินสดหมุนเวียน โดยคณะทำงานต้องการให้มีเงินสะสมจากสัดส่วน 5 บาทต่อ กก. ขั้นต่ำ 30,000 ล้านบาท จึงจะพิจารณายกเลิกการเก็บเงินสะสมส่วนนี้ลง อ่านต่อหน้า 5 ไทยรัฐออนไลน์

  9. อึ้ง! นักธุรกิจไทยบุก (ทำนา) ไนจีเรีย นำร่อง2พันไร่ นายสาทิต วิยะพร นักธุรกิจคนไทยเจ้าของบริษัท วิยะพร อินเวสเม้นท์ แอนด์ ดีเวลล็อปเม้นท์ ซึ่งมีกิจการหลายอย่างในแถบประเทศกัมพูชา เวียดนาม และ สปป.ลาว อาทิ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง กิจการบ้านพักตากอากาศและโรงแรมให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ได้เข้าไปลงทุนทำนาปลูกข้าวในประเทศไนจีเรียซึ่งเป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตก และมีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา นายสาทิตกล่าวว่า ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว หลังจากที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวแอฟริกากับบริษัทท่องเที่ยวบริษัทหนึ่ง และมีโอกาสไปที่ประเทศไนจีเรีย จึงมองเห็นช่องทางที่จะลงทุนทำธุรกิจที่นั่น โดยเฉพาะในด้านเกษตรกรรม ระยะแรกจึงได้ร่วมกับเพื่อนลงขันกันเพื่อทำการเกษตรในไนจีเรีย โดยเพื่อนหุ้นส่วนสนใจเรื่องปลูกข้าว ทำนา ส่วนตนสนใจเรื่องของการทำสวนผลไม้มากกว่า หลังจากนั้นได้ลงมือทำแปลงนาซึ่งมีลักษณะเหมือนที่เมืองไทยคือเป็นแปลงสี่เหลี่ยมมีคันนา และใช้แรงงานคนไนจีเรีย ซึ่งต้องฝึกสอนกันอย่างหนัก เพราะคนงานเหล่านี้ไม่รู้วิธีปลูกข้าวแบบไทย นายสาทิตกล่าวอีกว่า ปริมาณความต้องการข้าวของคนภายในประเทศไนจีเรียมีสูงกว่าผลผลิตที่ผลิตได้ในแต่ละปี ดังนั้นปลูกมาเท่าไหร่ก็สามารถขายได้หมดภายในประเทศ ปัจจุบันประเทศไนจีเรียต้องนำเข้าข้าวประมาณ 3,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาในเรื่องแรงงานที่ใช้ในการทำนา กล่าวคือจะต้องพัฒนาคนไนจีเรียให้มีความรู้และทักษะในการปลูกข้าว ปกติแล้วชาวนาไนจีเรียเมื่อทำนาเกี่ยวข้าวแล้วจะไม่นำข้าวไปสีในโรงสี แต่จะใช้วิธีตำข้าวแล้วฝัดข้าว เอาฝุ่นออก ดังนั้นคาดว่าในอนาคตโรงสีข้าวที่ตนติดตั้งไว้ก็จะเป็นประโยชน์กับชาวนาไนจีเรียด้วย กลับสู่หน้าหลัก มติชนออนไลน์

  10. Supply & Demand โอกาสผลไม้ไทยในยุโรป สวัสดีค่ะท่านผู้ประกอบการทุกท่าน ช่วงนี้อากาศยังคงแปรปรวนอย่างมาก บางวันก็ร้อนบางวันก็เย็น อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยการดื่มน้ำวันละ 1.5 ลิตร ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันนะคะ ในเรื่องของอาหารสำหรับสุขภาพหลายๆท่านโดยเฉพาะสาวๆย่อมต้องนึกถึงผลไม้กันอย่างแน่นอนค่ะ สัปดาห์นี้เรามาดูตลาดผลไม้ไทยในเยอรมนีกันดีกว่าค่ะ กลุ่มประเทศ EU ในปัจจุบัน มีนโยบายรณรงค์ให้กลุ่มผู้บริโภค เด็ก และวัยรุ่น บริโภคผักและผลไม้ให้ได้เพิ่มมากขึ้น (เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552) โดยมีการรณรงค์ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ในการส่งเสริมการบริโภคผลไม้และผัก และส่งเสริมให้เด็กมีความภูมิใจในการเป็นนักทานอาหารเพื่อสุขภาพ (healthy eaters) โอกาสทางการตลาดของสินค้าผลไม้เมืองร้อนทั้งแบบสด และแบบแปรรูปยังมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในประเทศแถบยุโรปที่เน้นการอุตสาหกรรม ประเทศเหล่านี้ยังคงมีการบริโภคผลไม้และผักต่อหัวต่อวันต่ำกว่าระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่ผู้บริโภคควรจะได้รับ ในประเทศเยอรมนีมีการบริโภคผลไม้กระป๋องโดยเฉลี่คนล่ะ 7 กิโลกรัมต่อปี อ่านต่อหน้า 2

  11. ชนิดผลไม้กระป๋องที่นิยมบริโภคในเยอรมนีได้แก่ชนิดผลไม้กระป๋องที่นิยมบริโภคในเยอรมนีได้แก่ 1. สับปะรด 2. พีช 3. เชอร์รี่ 4. ส้มแมนดาริน 5. แอปปริคอต 6. แพร์ 7. สตรอว์เบอร์รี่ 8. พรุน 9. ผลไม้รวม จากการที่ผลไม้กระป๋องและแปรรูปสามารถเก็บรักษาได้นานไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงไม่มีความเร่งรีบในการขนส่ง สำหรับการขนส่งภายในประเทศหรือระหว่างประเทศอื่นๆในยุโรปส่วนใหญ่นิยมใช้รถบรรทุกสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้ทางเมืองต่างๆในประเทศเยอรมนีมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการทานผลไม้และประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยในงานเทศกาลต่างๆ โดยมีการแจกผลไม้ไทยให้ชิมและแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งอธิบายวิธีรับประทานรวมถึงสรรพคุณต่างๆด้วย ซึ่งเท่ากับว่าทางการของเยอรมนีเองก็ได้ทำการขยายตลาดให้กับผลไม้ไทยไว้แล้ว หากท่านผู้ประกอบการไทยท่านใดมีความสามารถในการหาผลไม้สด/แช่แข็ง/กระป๋อง ส่งออกได้เป็นจำนวนมาก อย่ารอช้านะคะ ตลาดทางเยอรมนีและประเทศอื่นๆใน EU เปิดกว้างรออยู่ค่ะ กลับสู่หน้าหลัก เพนกวิ้นตัวกลม

  12. INSIDE CUSTOMS เงื่อนไขการออก Form E ผู้เขียนได้รับแจ้งมาจากเอเย่นต์ที่ประเทศจีน ถึงเงื่อนไขการออก Form E อาเซียน - จีน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2011 เป็นต้นไป โดยระบุไว้ว่า "In the Column 1 (Goods consigned from Exporter's business name and address country), it could only shows the name of Broker or Applicant only the name and address of real Exporter should be showed in the bottom of  Column 7.( Number and type of goods)  " ซึ่งหมายความว่า ต่อจากนี้ไป ชื่อและที่อยู่ที่เป็นของผู้ส่งออก (Shipper) จริงๆนั้น จะต้องระบุไว้ในตอนท้ายของคอลัมน์ 7 (จำนวนและชนิดของสินค้า) เท่านั้น ในส่วนของ คอลัมน์ที่ 1 ที่ปกติเราเคยใส่ทั้งชื่อ Customs Broker หรือ Applicant แล้วต่อด้วย on behalf of หรือ Care of ตามด้วยชื่อ shipper จริงๆนั้น จะถูกเปลี่ยนโดยให้ใส่เพียงชื่อและที่อยู่ของ Customs Broker หรือ Applicant เท่านั้น ข่าวนี้ จะเป็นจริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ บริษัทฯ จะรีบหาหลักฐานและคำยืนยัที่แน่นอน และแจ้งให้ผู้ประกอบการได้รับทราบโดยเร็ว กลับสู่หน้าหลัก โดย...ชิปปิ้งสีเทา

  13. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan ประเทศเกาหลีใต้ สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยทุกสัปดาห์กลับ “เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan” สัปดาห์นี้เราจะพาท่านไปเที่ยวประเทศเกาหลีโดยไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินกันนะครับ เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็จะต้องเป็นเกาหลี นักร้องก็ต้องนักร้องเกาหลี อาหารก็ต้องเกาหลี ไปเที่ยวก็ต้องเกาหลี ฯลฯ นับว่าประเทศเค้าพัฒนาเร็วมากในหลาย ๆ ด้าน และเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านทางหนังและละครที่เราติดกันงอมแงมทั่วบ้านทั่วเมือง ประเทศเกาหลีในที่นี้เราจะพูดกันถึงประเทศเกาหลีใต้นะครับ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เกาหลีนั้นแบ่งออกเป็นประเทศเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ ที่กำลังห้ำหั่นกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเกาหลีใต้ได้เจริญรุดหน้าเกาหลีเหนือไปแล้วหลายขุมนัก เราจะมาดูกันว่าเค้ามีพื้นฐานทางเศรษฐกิจแบบไหน และข้อมูลเชิงลึกของเค้ากันครับ สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) หรือ เกาหลีใต้ (SouthKorea) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ มีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้ เมืองหลวงของเกาหลีใต้ คือกรุงโซล โดยมีภาษาของเค้าเองคือภาษาเกาหลีเป็นภาษาราชการ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบอบรัฐสภา แบบบ้านเรา อาจจะมีตบตีกันบ้างในสภาเป็นบางครั้ง มีนาย ลีม ยองปาก นายกรัฐมนตรี ชื่อ คิม ฮวางซิก 2.628 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ รายได้ต่อหัวเฉลี่ย 24,200 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี หรือประมาณ 58,000 ต่อเดือน และสกุลเงิน วอน อ่านต่อหน้า 2

  14. ยุคนี้ได้เกิดสามอาณาจักรขึ้นมาอีกครั้งบนคาบสมุทรเกาหลีและภายหลังได้รวมกันได้อีกครั้ง ประกอบด้วย 3 อาณาจักร คือ • อาณาจักรซิลลา หรือ อาณาจักรรวมซิลลา หลังจากพระเจ้ามุนมูสามารถรวมอาณาจักรแพกเจและอาณาจักรโกคูรยอเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันได้ ในปี ค.ศ. 668 อาณาจักรซิลลาถือว่าเป็นอาณาจักรแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีที่สามารถรวบรวมแคว้นต่างๆเข้าด้วยกันได้ จนในปี ค.ศ. 892 รัชสมัยพระราชินีจินซองอาณาจักรซิลลาเริ่มอ่อนแอลงจากการเกิดความวุ่นวายขึ้น จนในปี ค.ศ. 935 รัชสมัยพระเจ้าคยองซุน ได้ยอมจำนนต่ออาณาจักรฮูโกคูรยอหรืออาณาจักรโกคูรยอใหม่ อาณาจักรซิลลามีอายุมากถึง 1092 ปี • อาณาจักรแพกเจใหม่ หรือ อาณาจักรฮูแพกเจ ตั้งอยู่บริเวณทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี ก่อตั้งในปี ค.ศ. 892 โดยพระเจ้าคยอน ฮวอน มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองจอนจู พระเจ้าคยอน ฮวอน แห่งฮูแพกเจสามารถยึดครองซิลลาได้ในปี ค.ศ. 927 รัชสมัยพระเจ้าคยองแคแห่งซิลลา และให้อาณาจักรซิลลาเป็นเมืองขึ้นของของอาณาจักรฮูแพกเจ จนใน ค.ศ. 935 พระเจ้าคยอน ฮวอน สิ้นพระชนม์ วัง กอน ได้นำทัพเข้ายึดครองฮูแพกเจจนใน ค.ศ. 936 รัชสมัยพระเจ้าซินคอมแห่งฮูแพกเจได้ยอมจำนงต่ออาณาจักรฮูโกคูรยอ อาณาจักรแพกเจใหม่มีอายุ 44 ปี • อาณาจักรโกคูรยอใหม่ หรือ อาณาจักรฮูโกคูรยอ ตั้งอยู่บริเวณตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 901 โดยพระเจ้ากุงเย มีเมืองหลวงแห่งแรกอยู่ที่เมืองซองอัก ต่อมาได้ย้ายไปที่เมือลชอลวอน ในปี ค.ศ. 918 พระเจ้ากุงเยถูก ประหารชีวิตโดยวังกอน วังกอนได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อมาของฮูโกคูรยอ และได้ย้ายเมืองหลวงไป ที่เมืองแคซอง จนในปี ค.ศ. 936 วังกอนสามารถรวบรวมอาณาจักรซิลลาและอาณาจักรฮูแพกเจเข้าเป็นอาณาจักร เดียวได้ จึงได้เปลี่ยนชื่อาณาจักรเป็นอาณาจักรโครยอ และเปลี่ยนชื่อเป็นพระเจ้าแทโจแห่งโครยอ อ่านต่อหน้า 3

  15. การเมืองการปกครอง หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2491 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) โดยสหภาพโซเวียตดูแลเกาหลีเหนือมีการปกครองระบอบสังคมนิยม ส่วนสหรัฐอเมริกาดูแลเกาหลีใต้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประมุขของประเทศคือประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา รัฐสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติ และศาลทำหน้าที่ทางตุลาการ ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 9 จังหวัด และ 6 เขตการปกครอง (โซล ปูซาน อินชอน แตกู กวางจู แตชอน) ในปัจจุบัน แม้ว่าสาธารณรัฐเกาหลีจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ แต่ก็ยังมีผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ในตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเกาหลีที่ถูกล้มล้างไปโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1910 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 เจ้าชายวอน รัชทายาทแห่งเกาหลี ได้ทรงสถาปนาพระองค์เองขึ้นดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิเกาหลี (ราชวงศ์โชซอน) แต่กระนั้น เจ้าหญิงแฮวอนแห่งเกาหลี ก็ทรงได้รับการสนับสนุนจากคณะราชนิกูลที่เห็นว่าพระนางมีพระอาวุโสสูงสุดในราชวงศ์ จึงจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเสวยราชย์ดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิเกาหลีเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 พร้อมทั้งทรงประกาศฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการและอ้างสิทธิในราชบัลลังก์จักรพรรดิแห่งเกาหลี โดยเรียกพระองค์เองว่า จักรพรรดินีแห่งเกาหลี (Empress of Korea) อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มราชนิกุลบางส่วนสนับสนุนให้เจ้าชายชังขึ้นเสวยราชย์และอ้างสิทธิเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ เพราะมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนแต่พระองค์กลับปฏิเสธ อ่านต่อหน้า 4

  16. ทั้งนี้ ประชาชนเกาหลีมีสถาบันจักรพรรดิเป็นศูนย์รวมจิตใจมาตั้งแต่ช่วงที่เกาหลีเป็นประเทศในอารักขาของจักรวรรดิญี่ปุ่น จนกระทั่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายโฮอุนแห่งเกาหลี ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของเกาหลีพระองค์ก่อนเมื่อปี ค.ศ. 2005 แต่เนื่องจากไม่มีผู้สืบราชสันตติวงศ์ส่งผลให้บัลลังก์ของราชวงศ์โชซอนว่างเว้นจากตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิช่วงหนึ่งในปี ค.ศ. 2005 เกาหลีใต้เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศกำลังพัฒนาขั้นสูง เชื้อชาติ : ประเทศเกาหลีแทบจะไม่มีชนชาติอื่นนอกจากคนเกาหลีเอง แต่ก็มีชาวจีนประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งอยู่ตามเขตเมืองหลวงมาช้านานแล้ว และยังมีชาวฟิลิปปินส์อีก 72,000 คน ศาสนา : ชาวเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาประมาณ 46 % ศาสนาคริสต์ 26 % ศาสนาพุทธ 26 % ลัทธิขงจื๊อ 1 % ศาสนาชอนโดเกียว ศาสนาอิสลาม และอื่นๆ 1 % ชาวเกาหลีมีชุดประจำชาติตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกว่า ฮันบก (ฮันหมายถึงชาวเกาหลี บกหมายถึงชุด รวมกันหมายถึงชุดของชาวเกาหลี) ฮันบกทั้งของผู้หญิงและผู้ชายมีลักษณะหลวมๆเพื่อความสะดวกสบายและคล่องแคล่วไม่ใช้กระดุมหรือขอแต่จะใช้ผ้าผูก ไว้แทน ชุดของผู้ชาย ข้างล่างประกอบด้วย "ปันซือ" แต่สมัยใหม่เรียกว่า "แพนที" ซึ่งหมายถึงกางเกงใน ชั้นนอกสวม "บาจี" เป็นกางเกงขายาวหลวมๆรวบปลายขาไว้ด้วย "แทมิน" เป็นแถบผ้าใช้มัดขากางเกง"บันโซเม" เป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นไว้ข้างใน เสื้อนอกเรียกว่า "จอโกลี" เป็นเสื้อแขนยาวไม่มีปกไม่มีกระเป๋า อ่านต่อหน้า 5

  17. ชุดของผู้หญิง ประกอบด้วย "แพนที" หรือกระโปงที่อยู่ข้างใน ข้างบนใช้ "ซ็อกชีมา" เป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ ใช้มัดทรวงอกไว้แทนเสื้อยกทรง ข้างนอกสวม "ชีมา" เป็นกระโปรงยาวกรอมเท้า สวมเสื้อ "จอโกรี" เป็นเสื้อนอกแขนยาว ฮันบกเป็นภาพรวมศิลปะของเกาหลีที่สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนนของเกาหลี ราวกับถนน สายแฟชั่นของปารีส ฮันบกชุดแต่งกายประจำชาติของเกาหลีทำจากผ้าสีสัน สดใส เนื้อผ้าจะขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กหญิงหรือหญิงสาวจะสวมกระโปรง สีแดงเสื้อสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีแดง เสื้อสีเขียวเมื่อแต่งงานแล้วส่วน หญิงสูงอายุอาจเลือกสีสันต่างๆที่สดใส และเลือกใช้เนื้อผ้าได้หลากหลาย ปัจจุบันชุดแต่งกายวัฒนธรรมเดิมจะใช้เฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่ตามถนนหนทาง และรถไฟใต้ดินจะยังคงเห็นผู้คนสวมใส่กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุยังคงสวมใส่ชุดฮันบกอยู่ พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะครับเราจะพาไปเที่ยวเกาหลีเหนือกันบ้าง โชคดีปีใหม่ครับ Peter Chan ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี กลับสู่หน้าหลัก

  18. S.N.P. Philosophy วิธีคิดไม่ธรรมดา ของ มาร์ติน วีลเลอร์ " คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้ " นิยามความรวยกับความจน มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่มีหนี้สิน คนจนไม่มีหนี้เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน แต่คนรวยยืมเงินได้ คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่ ? ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า ๑.ผมมีบ้าน ผมทำบ้านเล็ก ๆ เป็นกระท่อมน้อย ๆ เอาหญ้ามามุงหลังคา ชาวบ้านเรียกว่าเถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ มันบ้านของผม ไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันกันแดด - กันฝนได้ แค่นั้นผมก็รวยแล้ว อ่านต่อหน้า 2

  19. ๒.มีที่ดินแค่ ๖ ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอกมีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมาก จริง ๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานของชีวิต เราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา ไม่ใช่ของเจ้านาย เพราะว่าถ้ามันเป็นของเจ้านาย เราต้องไปหาเงินให้เขา ถ้าเราไม่มีเงินเขาก็ไล่เราออก เราไม่มีที่อยู่นะ เพราะฉะนั้นต้องมีบ้านเป็นของตัวเองไว้ก่อน ซึ่งผมก็มีบ้าน คิดว่าลูกของผมจะต้องมีบ้านแน่ ๆ ด้วย เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่าย คือปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ ๒๕ - ๓๐ ปี ตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ ๒๐๐ ปีได้เท่านี้เอง เพราะอากาศเย็น เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่นโอ๊ย ... มันร้อน ๆ ผมว่ากลับเป็นเรื่องดี แสงแดดเยอะจะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ๑ ปี ทำได้ทุกวัน แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อน ๆ ไม่เอา .. ไม่เอา .. อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่าไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พ่อของผมเขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูเป็นแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับอยากมีผิวขาว ผมมีลูก ๓ คน ชาย ๒ หญิง ๑ สิ่งสำคัญที่สุด ๒ เรื่องในชีวิตของเรา คือ ๑. ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้ จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ ๒.ต้องมีงานทำทุกวัน ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทุกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่า อ่านต่อหน้า 3

  20. วิธีเดียวที่รับประกันได้ว่าลูกมีงานทำ คือการมีที่ทำกินให้เขา และเราต้องช่วยให้เขาทำเป็น ผมคิดว่าคนชนบทจริง ๆ ใครมีที่ดินทำกินแล้วจะไม่ตกงาน เว้นแต่คนขี้เกียจ ซึ่งบางคนมีที่ดินเยอะแต่ไม่ยอมทำ ถ้าเราสั่งสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากินเขาก็ไม่ตกงาน ผมถือว่างานที่อิสระและมีประโยชน์มากที่สุด คืองานเกษตร ซึ่งช่วยให้เรากินอิ่มทุกวัน คนอังกฤษกินไม่อิ่มเยอะมากนะ ผมไม่อยากให้ลูกของผมอดอาหาร อยากให้ลูกกินอิ่มในลักษณะที่ส่งเสริมสุขภาพด้วย กินอาหารที่ไม่มีสารพิษ กินอาหารแบบเรียบง่ายก็ได้แต่อิ่มทุกวัน เมื่อมีบ้าน มีงาน มีอาหาร ลูกของผมก็จะรวยที่สุด ... ฯลฯ โปรดอ่านต่อฉบับหน้าครับ อ่านต่อหน้า 4

  21. Thank You ! พบกันใหม่ฉบับหน้า Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com กลับสู่หน้าหลัก

More Related