260 likes | 272 Views
S.N.P. NEWS. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. ข่าวสารฉบับที่ 151. Logistics Specialist and International Freight Forwarder. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. www.snp.co.th. CEO Articles. CEO Articles. Global News. Inside Customs. Supply & Demand. Privilege Society. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan.
E N D
S.N.P. NEWS S.N.P. GROUP OF COMPANIES ข่าวสารฉบับที่ 151 Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com
S.N.P. GROUP OF COMPANIES www.snp.co.th CEO Articles CEO Articles Global News Inside Customs Supply & Demand Privilege Society เที่ยวรอบโลกกับPeter Chan SNP Philosophy Tel. 0-2333-1199 ( 12 Line )
สูตรการผลิต 4 เรื่อง “สูตรการผลิต” ที่ผมได้กล่าวไป 3 ฉบับก่อนหน้า ผมหวังว่าท่านผู้ประกอบการคงได้ภาพของความสำคัญ ภาพของการทำบัญชีวัตถุดิบคงเหลือร่วมกัน 3 ฝ่ายเพื่อตรวจสอบซึ่งกันและกัน และภาพของความหมายของคำว่า “ส่วนสูญเสีย” ที่จะเกิดขึ้นจากการผลิตไปบ้างแล้ว ในฉบับนี้ ผมอยากกล่าวถึงการเล่นกับ “ส่วนสูญเสีย” ให้เกิดประโยชน์กับท่านผู้ประกอบการเองและเป็นไปตามหลักของกฎหมาย CEO Articles ผมพบผู้ประกอบการหลายท่านมีความเข้าใจในเรื่อง “ส่วนสูญเสีย” เป็นอย่างดี ผู้ประกอบการเหล่านี้จึงยื่นสูตรการผลิตที่แสดงปริมาณส่วนสูญเสียที่มากไว้ก่อน อาจเป็นปริมาณที่มากตามความเป็นจริงก็ได้ หรืออาจเป็นปริมาณที่มากเกินความเป็นจริงก็ได้เช่นกัน จากนั้นก็พยายามต่อสู้กับหน่วยงานของรัฐที่เข้ามาพิสูจน์ว่า “ส่วนสูญเสีย” ที่ถูกต้องควรเป็นสัดส่วนเท่าไรต่อการผลิตสินค้าหนึ่งหน่วยกันแน่ หลายกรณีผู้ประกอบการก็ไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ “ส่วนสูญเสีย” ที่ยื่นขอไว้ในปริมาณสูง หลายกรณีที่ผู้ประกอบการก็ถูกบังคับด้วยคำสั่งหรือหลักเกณฑ์ให้ใช้ “ส่วนสูญเสีย” ในปริมาณที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่อีกหลายกรณี ผู้ประกอบการก็ประสบความสำเร็จจากการยื่นขอใช้ “ส่วนสูญเสีย” ในปริมาณที่สูงเช่นกัน ผมได้กล่าวไว้ในฉบับที่ผ่านมาว่า เมื่อใดที่ “ส่วนสูญเสีย” ได้รับอนุมัติมาก ตัวเลขวัตถุดิบคงเหลือภายหลังการส่งออกในทางบัญชีก็จะเหลือน้อย ในกรณีของ B.O.I. ก็ย่อมทำให้สิทธิการนำเข้าวัตถุดิบใหม่ภายหลังการส่งออกได้เพิ่มขึ้น แถมยังลดความเสี่ยงกรณีวัตถุดิบคงเหลือตกค้างทางบัญชีมากเกินไปและไม่สามารถส่งออกได้จนอาจต้องเสี่ยงต่อการชำระภาษีขาเข้าพร้อมเบี้ยปรับย้อนหลังอย่างไม่รู้ตัว อ่านต่อหน้า 2
ส่วนกรณีของการขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ “ส่วนสูญเสีย” ที่มาก ที่ตัดบัญชีได้ และได้รับความยินยอมให้คืนภาษีได้ ก็ย่อมทำให้ผู้ประกอบการได้คืนภาษีมากขึ้นเช่นกัน นี่คือประโยชน์ของ “ส่วนสูญเสีย” แต่ปัญหาคือ ทำอย่างไร ผู้ประกอบการจึงจะได้รับอัตรา “ส่วนสูญเสีย” ตามความเป็นจริง หรือที่สูงกว่าการถูกบังคับให้ได้รับ ? วิธีการที่ถูกต้องคือ ผู้ประกอบการต้องศึกษา “ส่วนสูญเสีย” ที่จะเกิดจากการผลิตอย่างแท้จริงให้ได้ก่อน และต้องศึกษาโดยผู้ที่เข้าใจในระบบสูตรการผลิตของทางราชการร่วมกับผู้ที่เข้าใจในการผลิตจริง ต้องไม่ปล่อยให้ผู้หนึ่งผู้ใดศึกษาเพียงฝ่ายเดียว ยื่นเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้เพราะฝ่ายหนึ่งจะยืนอยู่บนพื้นฐานที่เพียงคิดว่าจริง และเดินตามความคิดของตนเอง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งจะเดินตามความคิดทางบัญชี และก็เดินตามความคิดของตนเองเช่นกัน จึงมีความเห็นขัดแย้งกัน ในการคำนวณ “ส่วนสูญเสีย” ออกมา เพียงผู้ประกอบการเลือกใช้บุคคลจาก 2 ฝ่ายในการทำสูตรการผลิตและคำนวณ “ส่วนสูญเสีย” เพียงเท่านี้ ท่านผู้ประกอบการก็สามารถเห็นวิธีการของทั้ง 2 ด้าน แล้วนำมาจัดทำสูตรการผลิตที่เหมาะสมกับการผลิตตน นำมาสร้างหลักการ เหตุผล และวิธีการพิสูจน์ต่อส่วนราชการเพื่อให้อนุมัติสูตรการผลิตที่มี “ส่วนสูญเสีย” ที่ท่านผู้ประกอบการเห็นว่าเหมาะสมกับการผลิตของตนได้ เมื่อใดที่ท่านผู้ประกอบการได้รับอนุมัติ “ส่วนสูญเสีย” ทางบัญชีในสูตรการผลิตตามความเหมาะสมของตน เมื่อนั้น ผู้ประกอบการก็จะได้ประโยชน์จากคมดาบด้านหนึ่ง โดยไม่ต้องกังวลจะถูกคมดาบอีกด้านหนึ่งบาดมือตัวเองอีกต่อไป สิทธิชัย ชวรางกูร กลับสู่หน้าหลัก
Global News ธปท.เชื่อวิกฤตหนี้ไอร์แลนด์กระทบเศรษฐกิจไทยไม่มาก นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศไอร์แลนด์ต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนของไทยมีไม่มากนัก โดยหากจะดูผลกระทบผ่านภาคการส่งออกของไทยไปยังไอร์แลนด์มีสัดส่วนไม่มาก น้อยกว่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนมาก อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกไม่เชื่อมั่นและส่งผลให้เงินทุนไหลกลับไปยังประเทศที่เศรษฐกิจมีศักยภาพแข็งแรงกว่า อย่างเช่น เยอรมันเป็นหลัก ตามด้วยฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาบางส่วน สภาวะที่เกิดขึ้นสะท้อนได้จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ที่ช่วงหลังมีค่อนข้างนิ่งไม่ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอีก ขณะที่ค่าเงินบาทของไทยมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าต่อเนื่องได้จนถึงปลายปีนี้ อ่านต่อหน้า 2
ปัญหาหนี้สาธารณะในไอร์แลนด์ ถือเป็นปัจจัยระยะสั้น และถือเป็นผลดีต่อค่าเงินในสกุลเอเชีย ด้วยซ้ำ เนื่องจากทิศทางเงินทุนที่ไหลออกไปยังประเทศที่มีศักยภาพที่แข็งแรงกว่า ทำให้ลดลงแรงกดดันของค่าเงินในภูมิภาคลดลง และมีไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามปัญหาหนี้ไอร์แลนด์ในขณะนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น หลังการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ทำให้นักลงทุนทั่วโลกคาดว่า ไอร์แลนด์จะสามารถควบคุมวิกฤตที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินได้ ไม่ลุกลามกระทบต่อประเทศอื่นในยุโรปทั้งโปรตุเกส สเปน หรืออิตาลี อย่างที่มีความกังวล ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี มองว่าจะมีผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเศรษฐกิจไทยโดยตรงมากกว่ากรณีไอร์แลนด์ อ่านต่อหน้า 3
ปีหน้าอาจเห็นบาทแตะ 28 บาท/ดอลลาร์ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าแม้ระยะนี้จะได้เห็นเงินบาทอ่อนค่า แต่เป็นเหตุการณ์ระยะสั้นเนื่องจากตอนนี้มีปัญหาหนี้ในประเทศไอร์แลนด์ส่งผลให้เกิดความกังวลและนักลงทุนกลับเข้าไปถือครองดอลลาร์ชั่วคราวแต่แนวโน้มระยะยาวโดยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดอลลาร์จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลต่างๆรวมถึงเงินบาท การแข็งค่าขึ้นของเงินหยวน จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เงินในภูมิภาคเอเชียรวมถึงเงินบาทแข็งค่าขึ้นขณะเดียวกันกระแสเงินทุนไหลเข้าทั้งในรูปแบบของพอร์ตลงทุน และการลงทุนโดยตรงจะมีเข้ามาต่อเนื่องทำให้คาดว่าภายในสิ้นปี 2554 เงินบาทจะแข็งค่าแตะ 28 บาท/ดอลลาร์ ด้านแนวโน้มดอกเบี้ย คาดว่า การประชุมรอบวันที่ 1 ธ.ค. 2553 คณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75%โดยความกังวลยังอยู่ที่การแข็งค่าของเงินบาทแต่คาดว่าดอกเบี้ยจะเริ่มปรับขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาสที่2 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ที่เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวขึ้น เดิมประมาณการณ์ของแบงก์ชาติทำให้ตลาดคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อมาดักเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้ประมาณดังกล่าว น่าจะสูงกว่าตัวเลขจริงๆเพราะเขามีสมมติฐานว่ารัฐบาลจะยกเลิกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ แต่เรามองว่าด้วยเหตุผลทางการเมืองน่าจะมีการต่ออายุมาตรการออกไป อ่านต่อหน้า 4 มติชนออนไลน์
ผู้นำเข้าเดนมาร์ก สนใจนำเข้าเครื่องถ้วยชามเซรามิกส์จากไทย สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้รับแจ้ง แจ้งบริษัท aida a/s ว่าขณะนี้ได้รับการสั่งซื้อจากลูกค้าในต่างประเทศในสินค้าประเภทถ้วยและเหยือกเซรามิกส์ ( Porcelain /ceramics CUP AND MUG ) ประมาณ 500,000 ใบ และต้องการสินค้าที่ผลิตจากไทยมีคุณภาพดีเท่านั้น มิใช่จากแหล่งราคาถูกที่ประเทศอื่น จึงสนใจติดต่อผู้ส่งออก/โรงงานผู้ผลิตสินค้าเซรามิกส์ ประเภทถ้วยชาม ที่มีขนาดใหญ่ มีพนักงานประมาณ 100 คน หรือ มีกำลังผลิตมากพอในการรับคำสั่งซื้อปริมาณมาก บริษัท aida a/s เป็นผู้นำเข้าและค้าส่งสินค้าของขวัญของชำร่วย เครื่องใช้ ในครัวเรือน ( Home Living) รายสำคัญ มีร้านจำหน่ายภายใต้แบรนด์ aida กระจายอยู่ทั่วเดนมาร์ก และเป็น supplier จัดหาสินค้าให้แก่ บริษัท Peter Justesen ซึ่งเป็นบริษัทผู้จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีให้สถานทูตและองค์การระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ผู้สนใจรายละเอียดบริษัท สามารถชมได้ ที่ website :www.aida.dk นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยที่สนใจสามารถติดต่อได้โดยตรง ตามที่อยู่ข้างล่างนี้ AIDA AS Grenavej 63 5 a , Skodstrup 8541 DENMARK Tel. +45 87490900 Fax. +45 87490901 E-mail : pmj@aida.dk website :www.aida.dk Contact : Mr. Peter Maae Jensen Managing Director สำนักงานส่งเสริมการค้า ณ กรุงโคเปนเฮเกน อ่านต่อหน้า 5
น้ำท่วม-บาทแข็งซ้ำเติมแรงงานคนจนน้ำท่วม-บาทแข็งซ้ำเติมแรงงานคนจน นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 3 ปี 53 ว่า มีประเด็นต้องเฝ้าระวังที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแรงงานได้ในระยะสั้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทต่อรายได้แรงงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นหลัก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้แรงงานสูง อาทิ อุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องหนัง อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารสำเร็จรูป และสินค้าเกษตร ทำให้มีผลต่อเนื่องถึงรายได้ของแรงงานจากการลดโบนัสหรือไม่ปรับขึ้นเงินเดือนในช่วงปลายปี เนื่องจากผลตอบแทนจากผลประกอบการที่ลดลง ขณะเดียวกัน การแข็งค่าของเงินบาทยังส่งผลต่อรายได้ในรูปเงินบาทของแรงงานไทยที่ส่งกลับมาจากต่างประเทศให้ลดลง โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี การแข็งค่าของเงินบาททำให้สูญเสียรายได้ของแรงงานไทยส่งกลับในรูปเงินบาทประมาณ 1,161 ล้านบาท พร้อมกันนั้น ภาวะน้ำท่วมที่กระจายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ ทั้งพื้นที่เกษตรโดยเฉพาะนาข้าวและที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย ซ้ำเติมเกษตรกรและแรงงานที่ยากจน จากการสูญเสียรายได้จากพืชผลการเกษตร บ้านเรือน อุปกรณ์ในการดำรงชีวิตได้รับความเสียหาย และสูญเสียรายได้จากการทำงาน รวมทั้งได้รับผลกระทบจากราคาอาหารที่มีแนว โน้มสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ทำให้รายได้ของเกษตรกรลดลง ซึ่งทั้ง 2 กรณี ยิ่งเป็นการ ซ้ำเติมต่อแรงงาน โดยเฉพาะระดับรากหญ้าอย่างมาก กลับสู่หน้าหลัก ไทยรัฐออนไลน์
INSIDE CUSTOMS ตอน... ตอบอย่างไรดี? สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสนั่งสนทนาภาษาชิปปิ้งกับคุณสิทธิชัย ชวรางกูร CEO ของกลุ่มบริษัท SNP อยู่ประมาณเกือบ 40 นาทีครับ ซึ่งบอกตามตรงว่าแกไม่ได้พิศวาสเรียกผมเข้าไปคุยคนเดียวหรอกครับ คุณสิทธิชัย มักจะหาโอกาสดีๆ เวลาเหมาะๆ ที่จะเรียกพวกเราชาว SNP เข้าไปนั่งลับสมองกันอยู่เสมอ และทุกครั้ง หลังจากคุยกันเสร็จ พวกเราก็มักจะเผลอหยิบฉวยความรู้ต่างๆ ในแวดวง Logistics ใส่กระเป๋าออกมากันคนละตุงสองตุงทุกที ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันครับ รุ่นน้องคนหนึ่ง ถามคุณสิทธิชัยไปว่า “Boss ครับ ผมสงสัยมาก ทำไมเวลาเรานำเข้ารถยนต์ ต้องแยกพิกัดล้ออะไหล่ออกมาเสียภาษีด้วย?” ฟังเสร็จ ผมแอบอมยิ้มมุมปาก คิดในใจเสียงดังว่า “ถามโง่ๆ นำเข้ารถยนต์ก็ต้องแยกยางอะไหล่ออกมาเพื่อเสียภาษีสิวะ ทำมาจนชินแล้วโว้ย เพราะ... เอ่อ …. อืม.... เพราะ …. เพราะ.. อะไรหว่า?” ใช่ครับ พอคิดไปคิดมาดีๆ ผมกลับคิดขึ้นมาได้ว่า ผมรู้ครับว่ายางอะไหล่ต้องแยกเสีย แต่ก็รู้เพราะเพียงแต่ ทำมาจนชิน ไม่ได้รู้ถึงหลักการและเหตุผลใดๆ มาก่อนเลยนี่หว่า ว่าแล้ว ก็รีบหลบสายตาเจ้านายทันที เพราะกลัวครับ กลัวแกถามว่าผมรู้ไหม 555 คุณสิทธิชัย เหมือนรู้ อธิบายหลักการและเหตุผลให้พวกเราฟังทันที ซึ่งถ้าถอดความออกมาตามแนวทางของผมก็จะได้ความประมาณว่า หลักการที่กรมศุลกากร นำมาตัดสินว่า อะไหล่หรืออุปกรณ์ตัวไหน ของสินค้าชนิดใดบ้าง ที่ต้องแยกรายการ แยกพิกัด ออกมาเสียภาษีต่างหาก ก็คือ หลัก First Operation นั่นเองครับ พูดง่ายก็คือ หากอะไหล่ต่างๆ (Accessories) ที่นำเข้ามาพร้อมกับสินค้าหลักนั้น ไม่ได้ใช้พร้อมกับ การทำงานครั้งแรกสุดของสินค้าหลักแล้วล่ะก้อ ต้องแยกรายการ เสียภาษีอีกพิกัดหนึ่งครับ อ่านต่อหน้า 2
ยกตัวอย่างให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นก็คือ เราซื้อรถมา ตอนเราสตาร์ทรถครั้งแรก หากไม่มียางอะไหล่ รถสามารถวิ่งได้หรือไม่? แน่นอน คำตอบคือได้ นั่นก็หมายความยว่า ยางอะไหล่ ไม่ได้ถูกใช้งานใน First Operation ของรถคันนั้นๆ จึงต้องแยกพิกัด เสียภาษีไงครับ อีกสักตัวอย่างหนึ่ง สมมติเรานำเข้า จอ LED ขนาดยักษ์เข้ามา พร้อมกับชุดอุปกรณ์ติดตั้ง (Set up Kits) เราจะแยกหรือไม่แยกดี คำถามที่เราตั้งถามตนเองก็คือ ถ้าไม่มีไอ้อุปกรณ์ติดตั้งที่ว่าเนี่ย จอ LED เราใช้ได้หรือไม่ “เป็นไง พอจะเข้าใจหลักการ First Operation ที่ผมอธิบายแล้วหรือยัง” คุณสิทธิชัย ถามพวกผมด้วยความเอ็นดู ผมรีบยกมือถามเจ้านายที่เคารพรัก (แผล่บๆ) ของผมทันทีว่า “เจ้านายคร้าบ อย่างงี้ ถ้าผมนำเข้าเครื่องจักร มาพร้อมกับ Spare Parts เกินมาเยอะๆ แล้วผมกลัวโดนแยกเสียภาษี ผมก็แพ็คดีๆ แล้วสำแดงว่า เครื่องจักรพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง ได้ไหมคร้าบ?” คำถามคือ ถ้าท่านเป็นคุณสิทธิชัย ท่านจะเลือกตอบคำถามนี้อย่างไรครับ? ^__^ ชิปปิ้งสีเทา กลับสู่หน้าหลัก
Supply & Demand ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าจับตามองประเทศออสเตรเลีย สวัสดีค่ะท่านผู้ประกอบการ สัปดาห์นี้เรามาดูตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าจับตามองของไทยกันดูบ้างค่ะ ประเทศออสเตรเลียจัดเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมในหมู่คนไทยในการไปศึกษาต่อและไปทำงานกัน นอกจากนี้ประเทศออสเตรเลียยังเป็นหนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกของไทยด้วยค่ะ ออสเตรเลียมีการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากต่อปีโดยผู้ส่งออกอันดับหนึ่งได้แก่ประเทศจีน รอลงมาคือมาเลเซีย และประเทศไทยตามมาเป็นอันดับสาม ซึ่งส่วนแบ่งตลาดไม่หนีห่างจากมาเลเซียมากนัก โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคออสเตรเลียส่วนใหญ่มีในครัวเรือนได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับการเตรียมอาหาร(99.9%) ตู้เย็นพร้อมตู้แช่แข็ง(97.4%) เครื่องซักผ้า(97.1%) เครื่องหุงต้มประเภท cooker (96.7%) จะสังเกตได้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่ผู้บริโภคนิยมคือสินค้าอำนวยความสะดวกในบ้านเรือนแถบทั้งสิ้น โดยสามารถวิเคราะห์จากพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดังนี้ 1) การซื้อตู้เย็น ชาวออสเตรเลียนิยมซื้ออาหารละครั้ง ดังนั้น จำเป็นต้องเก็บอาหารในตู้เย็น จึงนิยมตู้เย็นที่มีพื้นที่การเก็บอาหารมาก นอกจากนั้น ตู้เย็นยังเป็นเครื่องบอกสถานภาพ (status symbol) ภายในกลุ่มของคนชั้นกลาง โดยครอบครัวที่มีฐานะดีจะนิยมตู้เย็นประตูคู่ อ่านต่อหน้า 2
2) เครื่องดูดฝุ่น ชาวออสเตรเลียนิยมการอยู่กับบ้านมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่าย ดังนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่น จะได้รับความนิยม สวนกระแสการซบเซาของเศรษฐกิจ นอกจากนั้น บริษัทผู้ผลิตมีการออกแบบสินค้าที่มีความแปลกใหม่และเพิ่มมูลค่า เช่น บริษัท Dyson ออกสินค้าเครื่องดูดฝุ่นที่ไม่มีถูกเก็บฝุ่น ทำให้สินค้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น 3) สินค้าแบรนด์ของต่างประเทศได้รับความนิยมในตลาดออสเตรเลีย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ผู้บริโภคจะนิยมสินค้าจากแบรนด์ที่มีความเด่นในแต่ละหมวดสินค้า เช่น Breville จะเป็นผู้นำในหมวดเครื่องใช้ในครัว Philips จะเป็นผู้นำในสินค้าเตารีด เป็นต้น ซึ่งเป็นผลเนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะเน้นด้านการออกแบบและการสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ Electrolux เป็นผู้นำตลาดของออสเตรเลีย ภายใต้ชื่อ แบรนด์ Westinghouse, Dishlex, Eloctorlux, Kelvinator, Chef and Simpson ซึ่งครอบคลุมสินค้าในหลายระดับราคา และระดับประชากรของออสเตรเลีย 4) การคำนึงเรื่องสุขภาพส่งผลต่อการซื้อสินค้าที่โฆษณาว่ามีผลดีต่อสุขภาพ โดยจะมีผลมากกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น เครื่องย่างใช้ไฟฟ้าที่ลดไขมัน โดยในปี 2551 ออสเตรเลียจัดเป็นประเทศที่มีประชากรมีปัญหาเรื่องความอ้วนมากที่สุดในโลก ทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีผลช่วยด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตาม สินค้า ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะราคาค่อนข้างแพง ซึ่งเหมาะกับผู้บริโภคที่มีรายได้สูง ขณะที่ผู้ที่มีปัญหาด้านความอ้วน เป็นผู้บริโภคกลุ่มที่มีฐานะต่ำทางสังคม ดังนั้น สินค้าที่ส่งผลดีต่อสุขภาพและราคาไม่สูงมากนั้นจะมีโอกาสขาย ในตลาดได้มาก อ่านต่อหน้า 3
5) ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปัญหาที่ประสบกับความแห้งแล้ง ดังนั้น นอกเหนือจากการต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ปัจจัยเรื่องสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานหรือน้ำจึงเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยสินค้าหลายชนิดมีการโฆษณาระดับการประหยัดพลังงาน (energy rating) เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น 6) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยการประหยัดเวลามีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัวสมัยใหม่ (อายุประมาณ 25-45 ปี) ที่ต้องทำงานนอกบ้าน อยู่ในเมืองที่การจราจรแออัด ซึ่งต้องการประหยัดเวลาในการทำงานบ้าน จะนิยมใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกและประหยัดเวลา เช่น เครื่องซักผ้าที่ซักผ้าในช่วงเวลาสั้น เตารีดแบบใช้แรงอัดไอน้ำ เครื่องครัวที่ง่ายต่อการทำความสะอาด เป็นต้น เพนกวิ้นตัวกลม กลับสู่หน้าหลัก
Privilege Society คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ Board of Investment : BOI เป็นหน่วยงานราชการภายใต้สังกัดของ กระทรวงอุตสาหกรรม ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยการให้สิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ แก่บรรดาผู้ประกอบการต่างประเทศ เพราะเชื่อว่า สิทธิประโยชน์เหล่านั้นจะทำให้บรรดานักลงทุนชาวต่างชาติ หันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น และส่งผลในเชิงบวกทำให้ประชากรของเรามีงานทำ และเกิดการกระจายความพัฒนาออกไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ หากท่านผู้อ่านท่านใด ทราบอยู่แล้วว่า BOI คือ อะไร ผมอนุญาตให้ไม่ต้องอ่านบทความย่อหน้าแรกของผมก็ได้นะครับ (เล่นมาบอกตอนนี้ หลายคนเลยหลวมตัวอ่านไปแล้ว ชิมิ! 555) เพราะจริงๆ แล้วท่านผู้อ่านส่วนใหญ่ โดยเฉพาะท่านผู้อ่านที่ทำงานในกิจการที่มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ แต่ที่ต้องนำมาขยายความบอกต่อกันอีกที ก็เพราะว่าคอลัมน์ผมวันนี้ จะเว้นจากการนินทากรมศุลการกรสักสัปดาห์หนึ่ง และหันมาสรรเสริญความดีของ BOI แทน ควาช่วยเหลือจาก BOI เราทราบกันดีนะครับว่า ตลอดปี 53 ที่ผ่านมา บรรดานักธุรกิจทั้งไทยและเทศ ที่ปักหลักหากินอยู่ในดินแดนขวานทองแห่งนี้ ต่างประสบปัญหาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 ปํญหาหลัก คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง ค่าเงินบาทแข็งตัว และอุทกภัยครั้งใหญ่ส่งท้ายปลายปี นักลงทุนต่างชาติที่มีภูมิต้านทานไม่สูงมากนัก ต่างถอดใจ ยอมยกธงขาว หอบผ้าหอบผ่อนรวมทั้งแบงค์ดอลล่าร์ออกไปลงทุนประเทศอื่นกันหมด อ่านต่อหน้า 2
ทีนี้ก็ยุ่งสิครับ พอโรงงานใหญ่ๆ ล้มลง พนักงานถูกลอยแพ ปัญหาการว่างงานก็เกิด โจร ขโมย อาชญากรรมและยาเสพย์ติด ก็ต่อคิวกัน ซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีกเยอะ BOI ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างงานให้แก่ประชาชนชาวไทย ก็เลบอยู่นิ่งไม่ได้ครับ และแม้ปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองจะเป็นปัญหาที่ BOI มิอาจแก้ไขได้ แต่กับอีก 2 ปัญหาหลักๆ ที่เหลือ อย่าง เรื่องค่าเงินบาทและภัยน้ำท่วม BOI พอจะมีเอี่ยว ช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้บ้าง ว่าแล้วก็ขอปรบมือดังๆ ให้ BOI ที่ออกนโยบายการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับวัตถุดิบและวัสดุจำเป็น ให้แก่ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องเรือน สิ่งทอ ของเด็กเล่น เครื่องกีฬา อัญมณีและเครื่องประดับ เลนส์ และสิ่งพิมพ์ โดยการออกนโยบายส่งเสริมให้แก่ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ ก็มีเหตุสืบเนื่องมาจากค่าเงินบาท ทีไม่รู้ไปแอบกินไวอากร้าที่ไหนมา แข็งเอาๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำให้ยอดการส่งออกของอุตสาหกรรมทั้ง 10 หมวด ดังกล่าว ตกลงไปแบบมหาศาล สำหรับภาคธุรกิจที่เครื่องจักรได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา BOI ก็จะยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าเครื่องจักรใหม่มาแทนเครื่องจักรเก่าให้ โดยจะใช้กรณีนี้เป็น Case Study สำหรับโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ในอนาคตด้วย หากทุกหน่วยงานของรัฐฯ หันมาให้ความช่วยเหลือกับภาคเอกชนอย่างที่ BOI ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างไปแล้วนี้ ผมเชื่อครับว่า ประเทศไทยเจริญชัวร์ ฟันธง.. กลับสู่หน้าหลัก Mr. Privilege
เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan ประเทศรัสเซีย สวัสดีครับท่านผู้ประกอบการสัปดาห์นี้จะพาไปเที่ยวประเทศรัสเซีย เพราะหันไปเห็นแผนที่ที่ติดอยู่ข้างผนัง เห็นประเทศนี้สะดุดตาขึ้นมาเพราะเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 33 เท่า ประเทศนี้อยู่ทางตอนเหนือของทวีปเอเชีย และมีพื้นที่ 2 ใน 3 อยู่ในทวีปเอเชีย โดยมีเทือกเขาอูราล เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างทั้งสองทวีป เมืองหลวงของรัสเซียคือกรุงมอสโก เมืองสำคัญอื่น ๆ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วลาดิวอสต็อก โนโวสิเบียรสก์ นิชนีย์ โนฟโกรอด เยคาทารินเบิร์ก ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ จึงแบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งสิ้น 89 แห่ง โดยแบ่งออกเป็นสาธารณรัฐ (Republic) 21 แห่ง ดินแดนปกครองตนเอง (Krays) 6 แห่ง มณฑล 49 แห่ง สาธารณรัฐปกครอง ตนเอง ( Autonomous Republic ) 11 แห่ง และ Federal City 2 แห่ง ( กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ) หน่วยเงินตรา รูเบิล (rouble - RUR) เขตเวลา แบ่งเป็นเขตเวลาทั้งสิ้น 11 เขต ( เวลาที่กรุงมอสโกช้ากว่าไทย 3 ชั่วโมง ในฤดูร้อน และช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมงในฤดูหนาว ) อ่านต่อหน้า 2
การเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซีย : ในปี ค . ศ . 1917 ซึ่งอยู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ( ค . ศ . 1914 -1918) ได้มีการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซียโดยกลุ่มบอลเชวิกภายใต้ การนำของนายวลาดิเมียร์ เลนิน ทำให้ระบบกษัตริย์ได้ถูกล้มล้างไป กลุ่มบอลเชวิกได้เข้ามาบริหารประเทศ และเปลี่ยนชื่อประเทศจากจักรวรรดิรัสเซีย (Russian Empire) เป็น Russian Soviet Federative Socialist Republic พร้อมทั้งใช้กำลังทางทหารเข้ายึดครองรัฐต่าง ๆ ในจักรวรรดิรัสเซียเดิม และไดัจัดตั้งสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต ( Union of Soviet Socialist Republic : USSR ) หรือสหภาพโซเวียต ( Soviet Union ) ขึ้นในปี ค . ศ . 1922 โดยมีสาธารณรัฐรัสเซีย เป็นแกนนำ สหภาพโซเวียตตกอยู่ภายใต้การบริหารของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเน้นการบริหารและการวางแผน จากส่วนกลาง เป็นเวลายาวนานถึง 69 ปี เป็นผลให้ชาวโซเวียตนับล้านคนเสียชีวิตจากการกวาดล้างผู้ ที่ไม่เห็นด้วยทางการเมือง และจากภาวะทุพภิกขภัย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนชาวโซเวียตราว 20 ล้านคน เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ( ค . ศ . 1939 -1945) และต่อมาในปี ค . ศ .1949 โซเวียตได้เริ่มพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง ในระหว่างสงครามเย็น สหภาพโซเวียต ให้ความสำคัญกับนโยบายแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นผู้นำด้านอุดมการณ์ ทางการเมืองและการพัฒนาอาวุธ ส่งผลให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ช่วงทศวรรษที่ 80 ทำให้ประชาชนและกลุ่มแรงงานออกมาเรียกร้องและต่อต้านรัฐบาลมากขึ้นและรุนแรง ขึ้น แม้ว่านายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีคนสุดท้าย ของสหภาพ โซเวียตจะพยายามกำหนดแผนการปฏิรูปต่าง ๆ ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนกระทั่งนายกอร์บาชอฟ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง อ่านต่อหน้า 3
ประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค . ศ . 1991 และสหภาพโซเวียตล่ม สลายลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคม ค . ศ . 1991 โดยแยกออกเป็นประเทศทั้งสิ้น 15 ประเทศ ในส่วนของสหภาพโซเวียตนั้น ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสหพันธรัฐรัสเซีย ต่อมาสหพันธรัฐรัสเซียและ ประเทศที่แตกตัวจากสหภาพโซเวียตอีก 11 ประเทศ ( ยกเว้นประเทศบอลติก 3 ประเทศ ได้แก่ ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย ) ได้ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States : CIS) 1 รัสเซียทำอุตสาหกรรม เหมืองแร่อย่างครบวงจร ทั้งถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และเหล็ก เคมีภัณฑ์ เครื่องบิน อุตสาหกรรมด้านอวกาศ อุปกรณ์การสื่อสารและขนส่ง เรือ รถไฟ เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักรทางการเกษตร สินค้าออกที่สำคัญ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ เหล็ก เคมีภัณฑ์ ตลาดส่งออกที่สำคัญ สหภาพยุโรป สหรัฐ ประเทศในกลุ่มเครือรัฐเอกราช (CIS) จีน ญี่ปุ่น สินค้านำเข้าที่สำคัญ เครื่องมือเครื่องจักร เคมีภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค ยา เนื้อสัตว์ น้ำตาล ตลาดนำเข้าที่สำคัญ สหภาพยุโรป สหรัฐฯ กลุ่มประเทศ CIS ญี่ปุ่น จีน อ่านต่อหน้า 4
รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 1 ของไทย ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก ในปี 2546 มีมูลค่าการค้ารวม 845.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออก 272.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำ เข้า 572.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2547 มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับ รัส เซีย คิดเป็น 342 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออก 78.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่นำเข้า 263.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าจากไทย น้ำตาลทราย , เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ , ผลไม้กระป๋องและแปรรูป , เม็ดพลาสติก , ข้าว , ยางพารา , รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ , อัญมณีและเครื่องประดับ , อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้าส่งออกมาไทย เหล็กและเหล็กกล้า , ปุ๋ย , สินแร่โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ , เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ , แร่ดิบ , เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ , กระดาษ กระดาษแข็ง และผลิตภัณฑ์ , ยาง ยางสังเคราะห์ รวมทั้งเศษยาง , หนังดิบและหนังฟอก จำนวนนักท่องเที่ยว 70,482 คน (9 เดือนแรก) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 ทุกปี โดยในปี 2546 มี 90,722 คน ( ปี 2546) Peter Chan กลับสู่หน้าหลัก
S.N.P. Philosophy เสน่ห์ของผ้าขี้ริ้ว ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาดเสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุขพ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบายความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด ผ้าขี้ริ้วเป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่นเขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง อ่านต่อหน้า 2
ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น ผ้าขี้ริ้วไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไรเหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุดเหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร อ่านต่อหน้า 3
ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาดเหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบางเหมือนคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกึนปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรค ครั้งนั้นให้ได้ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่นรู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้นมองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่าเมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก อ่านต่อหน้า 4
ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิตอย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง คุณเห็นด้วยไหม ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง ที่มา//คุ้มดอทเน็ต กลับสู่หน้าหลัก
Thank You ! พบกันใหม่ฉบับหน้า Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com กลับสู่หน้าหลัก