110 likes | 365 Views
เศรษฐศาสตร์แรงงาน ศ. 471 โครงสร้างค่าจ้าง และค่าจ้างชดเชย Wage structure and Compensating wage differential. รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวดี ทองอุไทย สิงหาคม 2552. การปรับค่าจ้างให้เท่าเทียมกันในตลาดแข่งขันสมบูรณ์. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ – คนงาน และ งานเหมือนกันทุกประการ ถ้า...
E N D
เศรษฐศาสตร์แรงงาน ศ. 471โครงสร้างค่าจ้าง และค่าจ้างชดเชยWage structure and Compensating wage differential รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวดี ทองอุไทย สิงหาคม 2552
การปรับค่าจ้างให้เท่าเทียมกันในตลาดแข่งขันสมบูรณ์การปรับค่าจ้างให้เท่าเทียมกันในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ • ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ – คนงาน และ งานเหมือนกันทุกประการ • ถ้า... • มีความสมบูรณ์ในด้านข้อมูลข่าวสาร • การหางาน และ การโยกย้ายงาน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ • ทรัพยากรแรงงานจะย้ายระหว่างงาน / ท้องที่ต่างๆจนกระทั่งคนงานทุกคนได้รับค่าจ้างที่แท้จริง (real wage) เท่ากัน • โครงสร้างค่าจ้าง (wage structure) หรือ อัตราค่าจ้างที่จ่ายแก่คนงาน ทั้งหลาย จะไม่ปรากฏความแตกต่าง • อัตราค่าจ้างเฉลี่ย จะเป็นค่าจ้างเพียงอัตราเดียวในระบบเศรษฐกิจนั้น
ความแตกต่างที่ปรากฏในโครงสร้างค่าจ้างมีสาเหตุจากอะไร?ความแตกต่างที่ปรากฏในโครงสร้างค่าจ้างมีสาเหตุจากอะไร? • ความแตกต่างของค่าจ้างเกิดจาก • งานมีลักษณะไม่เหมือนกัน • คนงานไม่เหมือนกัน • ตลาดแรงงานไม่สมบูรณ์ • ความแตกต่างของลักษณะงาน • ถ้างานเหมือนกันทุกประการ คนงานที่จะแสวงอรรถประโยชน์สูงสุดจะตัดสินใจโดยพิจารณาอัตราค่าจ้าง • แต่...งานแตกต่างกันหลายๆด้าน • ลักษณะของสิ่งอื่นๆเกี่ยวกับงาน (นอกเหนือจากค่าจ้าง) • ทักษะที่ต้องใช้ • นายจ้าง (เช่น ขนาดโรงงาน การเลือกปฎิบัติ)
การชดเชยความแตกต่างด้วยค่าจ้าง Compensating wage differentials • ค่าจ้างที่นายจ้างต้องเพิ่มให้ เพื่อชดเชยลักษณะบางอย่างของงานที่ลูกจ้างไม่ชอบ (งานอื่นๆ ที่ลูกจ้างอาจเลือกได้ ไม่มีลักษณะดังกล่าว) • Wage premium หรือCompensating wage differential • ความแตกต่างนี้ จะคงอยู่ไปเรื่อยๆ ถ้าจะเปลี่ยนก็เกิดจากปัจจัยอุปสงค์/อุปทานอื่นๆ • ดังนั้น ก็จัดเป็นค่าจ้างดุลยภาพ เพราะลูกจ้างจะไม่โยกย้ายไปไหน • CWDทำหน้าที่จัดสรรแรงงานไปยังหน้าที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่อาจจำเป็นสำหรับเศรษฐกิจ/สังคมนั้นๆ • ตัวอย่าง ลักษณะต่างๆของงาน (นอกเหนือจากค่าจ้าง) • ความเสี่ยงอันตราย/ชีวิต ผลประโยชน์พิเศษ สถานภาพสังคมของงาน ที่ตั้งของงาน ความสม่ำเสมอของรายได้ โอกาสก้าวหน้า
คนงานมีลักษณะไม่เหมือนกันคนงานมีลักษณะไม่เหมือนกัน • โครงสร้างค่าจ้าง ถูกกระทบโดย ความแตกต่างระหว่างคนงาน เช่น • ทุนมนุษย์ต่างกัน • ความพอใจต่างกัน 1. ทุนมนุษย์ • ตลาดแรงงานประกอบด้วย กลุ่มต่างๆที่ทำงานคนละแบบตามคุณสมบัติของตน ทดแทนกันได้ยาก ไม่แข่งกัน (non competing groups) เนื่องจาก • ความสามารถในการเรียน การทำงาน ต่างกัน • ประเภท ปริมาณ และคุณภาพ ของการศึกษาฝึกอบรม ต่างกัน • ในระยะยาว อาจมีการโยกย้ายระหว่าง non competing groupsได้โดย การลงทุนในทุนมนุษย์ • แต่...อาจถูกจำกัดโดย เงินลงทุน ความสามารถ
2. ความพอใจต่างกัน - คนงานต่างกันในแง่ของ • ความต้องการรายได้ - ปัจจุบัน หรือ อนาคต • ถ้าสนใจรายได้ในอนาคต • จะคำนวณการลงทุนในทุนมนุษย์โดยใช้อัตราส่วนลดต่ำ • ชอบลงทุน • ความรู้สึกต่อลักษณะต่างๆของงาน ที่ไม่ใช่ค่าจ้าง • ให้คุณค่ากับความปลอดภัย • ชอบงานที่มีโอกาสท่องเที่ยว / พักผ่อนเยอะๆ • สนใจสถานภาพสังคมของงาน
The Hedonic Theory of Wages • ‘Hedonic’ แนวคิดปรัชญาความสุข – มีข้อสมมติว่า คนแสวงหาความสุข/ความพอใจ/อรรถประโยชน์ เช่น รายได้ และ หลีกเลี่ยงความไม่พอใจ เช่น งานที่มีสภาพการทำงานสกปรก อันตราย • คนงานจะสนใจ อรรถประโยชน์สุทธิ และเต็มใจจะแลกเปลี่ยน ระหว่าง • การได้สิ่งที่สร้างอรรถประโยชน์มากขึ้น กับ • การลดสิ่งที่ไม่พอใจลง • ใช้การวิเคราะห์ด้วย เส้นความพอใจเท่ากันแลกเปลี่ยนระหว่าง • ‘good’ (ค่าจ้าง) • ‘bad’ ( โอกาสเกิดอันตราย) หรือ • ‘good’ (โอกาสที่อันตรายจะ ไม่ เกิด ---- ความปลอดภัย)
ผลบางอย่างต่อตลาดแรงงานผลบางอย่างต่อตลาดแรงงาน • สำหรับคนงานที่มีทุนมนุษย์เท่ากัน ก็ยังอาจมีความแตกต่างของค่าจ้าง • กฎหมายที่กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของลักษณะงาน • อาจมีผล ลด อรรถประโยชน์สำหรับคนงานบางกลุ่ม • เช่น กำหนดความปลอดภัย • ความแตกต่างในรายได้ระหว่างหญิง – ชาย • ส่วนหนึ่งอาจสะท้อนรสนิยมที่ต่างกันต่อลักษณะของงาน • เช่น สภาพการทำงาน ระยะทาง