280 likes | 782 Views
S.N.P. NEWS. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. ข่าวสารฉบับที่ 159. Logistics Specialist and International Freight Forwarder. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. www.snp.co.th. CEO Articles. Global News. All about Logistics. เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan. SNP Philosophy. English News.
E N D
S.N.P. NEWS S.N.P. GROUP OF COMPANIES ข่าวสารฉบับที่ 159 Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com
S.N.P. GROUP OF COMPANIES www.snp.co.th CEO Articles Global News All about Logistics เที่ยวรอบโลกกับPeter Chan SNP Philosophy English News Tel. 0-2333-1199 ( 12 Line )
คนไทยทั้ง7 ข่าวคนไทย 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับกุมไปตั้งแต่ปลายปี 2553 บริเวณชายแดนพื้นที่ทับซ้อน กัมพูชาอ้างว่า คนไทยทั้ง 7 รุกล้ำเข้าไปในดินแดนของกัมพูชา ในขณะที่ฝ่ายไทยอ้างว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีข้อยุติในเรื่องเขตแดน นับเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจแบบข้ามปี CEO Articles ในจำนวน 7 คนที่ถูกจับกุมนี้ มีผู้มีชื่อเสียง 2 – 3 คน ทำให้เป็นข่าวและเป็นที่สนใจของคนทั้งในประเทศกัมพูชาและไทย การวิพากวิจารณ์เกิดขึ้นเป็นวงกว้างแม้แต่สภากาแฟและคนขับรถแท๊กซี่ที่พยายามชวนผู้โดยสารคุย ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกชวนคุยทุกครั้งที่ไปใช้บริการ ประเด็นที่มีการวิจารณ์กันอย่างมากคือ ในเมื่อรัฐบาลรู้อยู่แก่ใจว่า พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทำไมกระทรวงการต่างประเทศของไทยจึงไม่ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ของกัมพูชาก่อน ทำไมจึงเสี่ยงเดินทางเข้าไปจนถูกจับกุม หรือว่ารัฐบาลมั่นใจว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นของประเทศ ไทยจึงไม่จำเป็นต้องประสาน หรือรัฐบาลแม้จะรู้ว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นปัญหา แต่อาจด้วยเหตุผลหลายประการจึง ไม่ต้องการประสาน อ่านต่อหน้า 2
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คนไทย 5 คนได้รับการปล่อยตัวออกมาด้วยคำตัดสินของศาลกัมพูชาว่ามีความผิด ถูกจำคุก 9 เดือน แต่โทษจำให้รอลงอาญาไว้ก่อน ทำให้คนไทย 5 คนนี้ได้เดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งเป็นความยินดีสำหรับคนไทยทุกคนรวมทั้งผมด้วย แต่ในขณะเดียวกัน คนไทยอีก 2 คน ที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรก็ยังทำให้คนไทยจำนวนมากอดเป็นห่วงไม่ได้แม้รัฐบาลจะพยายามส่งสัญญาณที่ดีออกมาก็ตาม ปัญหาที่ว่า ทำไมรัฐบาลไม่ประสานงานก่อนเดินทางไปนั้น ผมว่า ใครจะคาดเดากันไปอย่างไร คำตอบก็อาจเป็นได้ทั้งถูกและผิดเท่าเทียมกัน ในความเห็นของผม คนเป็นรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม กว่าจะฝ่าด่านต่าง ๆ มาได้ คงไม่น่าจะโง่แบบง่าย ๆ คนเป็นรัฐบาลส่วนใหญ่จะมีคนมีความรู้ล้อมอยู่มาก มีกลไกที่สามารถสั่งการได้มาก แต่อาจด้วยความจำเป็นที่เปิดเผยไม่ได้ รัฐบาลจึงเลือกที่จะเดินในแนวทางนี้ เมื่อพบความผิดพลาด รัฐบาลก็ยอมรับชะตากรรมที่ใครจะวิพากย์อย่างไรก็เชิญ แต่เป้าหมายเดียวที่รัฐบาลต้องรีบทำคือการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 ก่อน ซึ่งในขณะที่ผมกำลังเขียนข่าวอยู่นี้ก็ยังคงเหลืออีก 2 คน ผมคงไม่สามารถกล่าวได้ว่า ผมเชียร์หรือไม่เชียร์รัฐบาล แต่สิ่งที่ผมเห็นอยู่ในขณะนี้คือ ยิ่งวิจารณ์กันมาก ยิ่งขัดแย้งกันมาก ยิ่งประท้วงกันมาก ประเทศไทยและคนไทยก็ยิ่งเสียหายมากและยิ่งเสียเปรียบมากขึ้นเป็นเงาตามตัว รัฐบาลจะผิดหรือจะถูก หากเรามาตัดสินกันตอนเลือกตั้ง ผมว่าน่าจะงามกว่า วันนี้ปล่อยให้รัฐบาลรักษาหน้าตนเอง รักษาหน้าประเทศไทย และรักษาหน้าคนไทยไว้ให้ได้ก่อน จากนั้นผมว่า บรรดาสื่อสารมวลชนและนักวิชาการที่วันนี้มีความฉลาดขึ้นมาก ก็จะตีแผ่รัฐบาลออกมาให้ประชาชนรับรู้ และนำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินกันในการเลือกตั้งไม่ดีกว่าหรือครับ สิทธิชัย ชวรางกูร กลับสู่หน้าหลัก
Global News ระวัง!! เหล็กเส้นเกรดต่ำระบาดหนัก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเข้าไปจับกุมและอายัดเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 900 ตัน ของบริษัท ปณคุณ สตีล เอ็นเตอร์ไพพ์ จำกัด อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่า เนื่องจากได้รับรายงานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ว่า บริษัทดังกล่าวมีการจำหน่ายเหล็กเส้นที่ไม่เป็นไปตาม มอก. โดยเหล็กเส้นของบริษัทดังกล่าวไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. และเป็นเหล็กเส้นที่มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานที่ใช้งานในการก่อสร้าง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เกิดปัญหาเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานเริ่มแพร่ระบาดในวงการผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยอย่างมาก เนื่องจากผู้รับเหมา บางรายต้องการลดต้นทุนการก่อสร้างบ้าน โดยสั่งให้โรงงานผลิตเหล็กเส้นลดปริมาณน้ำหนักเหล็ก จึงต้องการเตือนให้ผู้ที่ต้องการจะสร้างบ้าน ควรตรวจสอบคุณภาพเหล็กอย่างรอบคอบ เพราะหากปล่อยให้ผู้รับเหมาใช้เหล็กเส้นไม่มีคุณภาพ จะเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินในอนาคต กรณีที่บ้านชำรุดหรือทรุดตัวพังลงเร็วกว่าปกติ ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สมอ.ได้เข้าไปอายัดเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วกว่า 5,000 ตัน หรือไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเส้น มูลค่าเกือบ 150 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมมีความเป็นห่วงผู้บริโภคที่อาจได้รับอุบัติเหตุภายหลัง การอยู่อาศัยภายในที่พักอาศัยที่อาจมีผลให้บ้านทรุดตัวหรือพังลง และจากการตรวจสอบพบว่าการระบาดของ เหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานส่วนใหญ่ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นตลาดใหญ่ และภาคการก่อ สร้างอาคารบ้านเรือนกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อ่านต่อหน้า 2 ไทยรัฐออนไลน์
พาณิชย์เพิ่ม “ไข่ไก่ –คลังสินค้า” เข้าบัญชีควบคุม นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้นำสินค้าไข่ไก่ และบริการให้เช่า และรับฝากสินค้าเกษตร เช่น คลังสินค้า เพิ่มเข้าในบัญชีสินค้า และบริการควบคุม สำหรับสาเหตุที่ต้องคุมไข่ไก่ เพื่อรองรับนโยบายปฏิรูปประเทศในการดูแลปัญหาค่าครองชีพ เพราะไข่ไก่ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด จึงจำเป็นต้องดูแลราคาและปริมาณอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากนี้จะประชุมเพื่อกำหนดรูปแบบรายละเอียดวิธีการควบคุมไข่ไก่อีกครั้ง ส่วนการคุมบริการรับฝากสินค้า เพื่อต้องการดูแลปริมาณสินค้าให้ได้ครบทั้งระบบ เพราะที่ผ่านมากระทรวงยังไม่มีอำนาจเข้าไปดูสต๊อกสินค้าในโกดังเอกชนได้ ซึ่งกลายเป็นช่องโหว่ให้มีการกักตุนสินค้า เช่น น้ำมันปาล์ม และน้ำตาลทรายจนประชาชนได้รับความเดือดร้อน การขึ้นบัญชีบริการคลังสินค้านั้น มีสาเหตุพบว่าจากสินค้าหลายรายการมีการใช้คลังสินค้าเอกชนกักตุนของ ไม่เพียงปาล์มน้ำมัน มีสินค้าอื่น ๆ ด้วย แต่ทางผู้จัดเก็บอ้างว่าไม่มีหน้าที่ต้องแจ้งการจัดเก็บสินค้า จนมีผลให้สินค้าหลายตัวขาดตลาด ดังนั้น เมื่อมีการขึ้นเป็นบัญชีควบคุมแล้ว หากผู้ให้เช่าคลังมีพฤติกรรมไม่แจ้ง และเข้าข่ายกักตุนสินค้า จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อ่านต่อหน้า 3
ที่ประชุมยังมีมติเพิ่มมาตรการดูแลปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนและราคาแพง โดยให้ผู้ผลิตต้องขออนุญาตคณะอนุกรรมการพิจารณาน้ำมันพืชบริโภคก่อนปรับราคาทุกครั้ง หากยังไม่ได้รับอนุญาตแล้วขึ้นราคาก่อนจะมีโทษตามกฎหมาย จากเดิมที่แจ้งแล้วปรับขึ้นราคาได้เลย นอกจากนี้ ยังให้ผู้เกี่ยวข้องกับน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ตั้งแต่โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ โรงบรรจุขวดและผู้ถือครองน้ำมันปาล์มตั้งแต่ 2,000 ลิตรขึ้นไป รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจไบโอดีเซล ให้แจ้งปริมาณการซื้อ การผลิต และสต๊อกคงเหลือให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบทุกเดือน จากเดิมที่ไม่ได้แจ้ง นอกจากนี้ ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืช กำหนดราคาควบคุมราคาน้ำมันพืชบริโภคทุกขนาด ทุกชนิด ทั้งชนิดขวด ปี๊บ และถุงในน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันอื่นๆ เพื่อดูแลราคาน้ำมันพืชให้ได้ทั้งระบบ จากเดิมที่ควบคุม เฉพาะน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองขวดลิตรเท่านั้นส่วนการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ 30,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนนั้น ขณะนี้องค์การคลังสินค้าอยู่ระหว่างการนำเข้า อ่านต่อหน้า 4
พาณิชย์เร่งขายข้าวให้ตะวันออกกลางพาณิชย์เร่งขายข้าวให้ตะวันออกกลาง นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการหารือกับนายมูฮัมหมัด อับดุล ราซซาก รมว.อาหารและภัยพิบัติ ประเทศบังกลาเทศ ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศบังกลาเทศและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 19-24 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า บังกลาเทศเสนอจะซื้อข้าวนึ่ง 15% จากไทย ปริมาณ 200,000 ตัน ในลักษณะรัฐต่อรัฐ โดยเสนอซื้อในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ประมาณตันละ 30-40 เหรียญสหรัฐฯ และเป็นการซื้อโดยรัฐบาลไทยต้องเสียค่าประกันภัยและราคาระวางเรือ (ซีไอเอฟ) เอง ตอนนี้บังกลาเทศต้องการนำเข้าข้าวมาก เพราะประเทศแห้งแล้ง ผลผลิตเสียหาย ไม่เพียงพอบริโภค จึงขอซื้อจากไทย ซึ่งการซื้อแบบจีทูจี เราคงขายราคาตลาดไม่ได้ ก็ต้องขายในราคามิตรภาพ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ส่วนจะตกลงได้เท่าไร ก็ให้กรมการค้าต่างประเทศไปเจรจากันต่อ หากสามารถตกลงกันได้จะเป็นการขายข้าวนึ่งให้บังกลาเทศได้ครั้งแรกในรอบหลายปี เพราะโดยปกติบังกลาเทศจะนำเข้าข้าวนึ่งจากอินเดียและเวียดนาม ส่วนการหารือกับบริษัทแพลตินัม คอร์ป. ผู้นำเข้าข้าวจากไทยรายใหญ่ของดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นั้น นางพรทิวา กล่าวว่า บริษัทนี้นำเข้าข้าวจากไทยมากกว่า 500,000 ตันต่อปี รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทย และได้รับรางวัลไทยแลนด์ เบสท์ เฟรนด์ จากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นในแต่ละปี เพราะชื่นชอบในคุณภาพข้าวไทย และการส่งมอบตรงเวลา แต่มีปัญหาเรื่อง ราคาสูงกว่าคู่แข่งเพราะค่าเงินบาทแข็งค่า และทำให้ทำตลาดค่อนข้างยาก ซึ่งได้ขอให้รัฐบาลไทยช่วยดู แลราคาให้คงที่ อย่าให้ผันผวนมาก อ่านต่อหน้า 5
ร้านอาหารไทยในยุโรปเดี้ยง! ผักแพง-ขาดแคลนหลังระงับส่งออก นางสมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สคร.) หรือทูตพาณิชย์ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐ กล่าวว่า กรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยระงับการส่งออกสินค้าเกษตร 5 กลุ่มเป็นการชั่วคราว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 หลังสหภาพยุโรป(อียู) ตรวจพบศัตรูพืชปนเปื้อนไปกับสินค้าพืชผักส่งออกจากไทยอย่างต่อเนื่องนั้น อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในอียู เพราะสินค้าเกษตรทั้ง 5 กลุ่มเป็นส่วนผสมหลักในการปรุงอาหาร เช่น กะเพรา โหระพา พริกขี้หนู มะเขือเปราะ เป็นต้น ซึ่งสภาพดินฟ้าอากาศในยุโรปขณะนี้เป็นฤดูหนาวไม่สามารถเพาะปลูกได้เอง ส่วนใหญ่ต้องนำเข้า ส่วนในสหรัฐจากการสอบถามผู้ประกอบการร้านอาหารไทย พบว่า ถ้าระงับการส่งออกจริงผลกระทบคงมีบ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าในยุโรป เพราะสินค้าดังกล่าวราว 90% สั่งตรงจากพ่อค้าคนกลางที่เป็นคนจีนและคนลาวที่รับมาจากทางฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และตอนใต้แถบไมอามี่ รวมถึงประเทศในหมู่เกาะแคริบเบียน ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกได้เอง เช่น กะเพรา โหระพา พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู มะเขือเปราะ มะเขือยาว เป็นต้น มีเพียงร้านอาหารไทยส่วนน้อยเท่านั้นที่ใช้มะเขือเปราะเป็นส่วนผสมของอาหารจำพวกแกงที่อาจประสบปัญหาขาดแคลนบ้าง อ่านต่อหน้า 6
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในเขตดูแลของ สคร.นิวยอร์ก ยังประสบปัญหาสินค้าบางชนิด เช่น ข้าว กะทิ กะเพรา และโหระพา ปรับราคาเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเป็นสินค้าขาดแคลนด้วย เพราะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยหลายแห่งเริ่มกักตุน เพราะคาดว่าราคาน่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจากการที่มีการระงับส่งออกสินค้าดังกล่าว ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับสกุลดอลล่าร์ ทำให้ผู้ส่งออกไทยเริ่มปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าการระงับการส่งออกสินค้าเกษตร 5 กลุ่มดังกล่าว เป็นเพียงการระงับชั่วคราว ไทยก็ยังสามารถที่จะแก้ไขและปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและส่งออกได้อีกในอนาคต ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นปัญหาเฉพาะระยะสั้นเท่านั้น หนังสือพิมพ์แนวหน้า กลับสู่หน้าหลัก
All about Logistics “ เจาะลึก Incoterm ใหม่ 2010 ” จากที่ ICC ได้มีประกาศ เงื่อนไขการซื้อขายหรือ Incoterm 2010 ฉบับใหม่ขึ้น ซึ่งมีการปรับปรุงและเพิ่มเงื่อนไขใหม่ขึ้นโดยประกาศยกเลิกTerm DAF (Delivered At Frontier), DES (Delivered Ex Ship), DEQ (Delivered Ex Quay) และ DDU (Delivered Duty Unpaid) และเพิ่มเงื่อนไข DAT (Delivered At Terminal) และ DAP (Delivered At Place) เข้ามาแทนที่ แต่ยังคงเงื่อนไข DDP ไว้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในวันนี้จะขออธิบายถึงรายละเอียดของเงื่อนไข DAT และ DAP ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่ดังนี้ DAT หรือ Delivered At Terminal Seller's Factory Terminal at Destination อ่านต่อหน้า 2
เป็นเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบในส่วนของค่าขนส่งทั้งหมด จากหน้าโรงงานของผู้ขายจนถึงTerminal ปลายทางตามที่ได้ระบุไว้ก่อนการซื้อขายกับทางคู่ค้า มีค่าใช้จ่ายประกอบด้วยค่าขนส่งจากต้นทาง ค่าพิธีการจากต้นทาง ค่าระวางเรือ ค่าขนส่งจากท่าเรือและค่าประกันภัยจนถึงแค่Terminalที่ได้มีการตกลงกันไว้เท่านั้น รวมถึงค่าขนสินค้าลงจากพาหนะ(Unlaoding) ที่บรรทุกไว้เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถนำของขึ้นพาหนะ(Loading) ต่อไปได้ทันที ส่วนผู้ซื้อต้องรับผิดชอบในส่วนที่เหลือ ซึ่งก็คือค่าพิธีการขาเข้าและค่าขนส่งจาก Terminal ปลายทางไปยังโรงงานของผู้ซื้อเอง โดยที่ผู้ซื้อต้องรับความเสี่ยงในส่วนของการขนส่งตั้งแต่ออกจาก Terminal จนถึงโรงงานของผู้ซื้อ DAP หรือ Delivered At Place Buyer's Factory Delivery Place อ่านต่อหน้า 3
DAP มีเงื่อนไขที่เหมือนกันกับ DATทุกประการ แต่ต่างกันที่ผู้ขาย ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่ายกสินค้า(Unloading)ลงจากพาหนะในที่จุดหมายที่ตกลงกันไว้ ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบในค่าบรรทุกของลง(Unloading) ค่าพิธีการขาเข้า ค่าขนส่ง จากจุดที่ผู้ขายนำสินค้ามาส่งไปยังโรงงานของผู้ซื้อ โดยที่ผู้ซื้อต้องรับความเสี่ยงในส่วนของการขนส่งตั้งแต่ออกจากจุดที่ผู้ขายนำสินค้ามาส่งจนถึงโรงงาน แต่ในกรณีนี้ ทาง ICC มีข้อกำหนดระบุไว้ว่า ถึงแม้ผู้ขายจะไม่มีภาระในการนำสินค้าลง แต่ทางผู้ขายจะต้องเตรียมสินค้าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย และพร้อมให้ผู้ซื้อนำสินค้าลงจากพาหนะได้สะดวก จากที่ ICC ได้มีการเปลี่ยนเงื่อนใหม่เพื่อความเข้าใจในเงื่อนไขการซื้อขาย Term Delivery ง่ายขึ้น โดยลดความซ้ำซ้อนของ DAF, DES, DEQและ DDUเหลือเพียง DAT, DAP เท่านั้นที่กำหนดว่าจะต้องส่งสินค้าถึงที่ใดและต้องรับผิดชอบค่าอะไรบ้าง แต่ในเงื่อนไขอื่นๆที่เหลือ เช่น FOB, EXW, CIF CFR ฯลฯ ยังคงใช้ได้เหมือนเดิม Incoterms 2010 ปรับปรุงใหม่เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2011 วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2011 เวลา 22:41 น. International Chamber of Commerce (ICC) ประกาศให้ Incoterms 2010 หรือเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2011 โดยเพิ่มข้อกำหนดขึ้นใหม่ 2 ข้อ คือ DAT (Delivered At Terminal) และ DAP (Delivered At Place) แทนข้อกำหนดเก่า DAF, DES, DEQ และ DDU ข้อกำหนดในกลุ่มส่งมอบ (Delivered) กำหนดไว้ว่าจุดส่งมอบสินค้า (Point of Delivery) เป็นที่เดียวกันกับสถานที่ปลายทาง (Place of Destination) ซึ่งใช้ได้กับขนส่ง ทุกรูปแบบ อ่านต่อหน้า 4
ข้อกำหนดใหม่ DAT (Delivered At Terminal) ผู้ขายต้องขนสินค้าลงจากพาหนะ ณ สถานที่ปลายทางที่ตกลงกันไว้ ส่วน DAP (Delivered At Place) ผู้ขายไม่ต้องขนสินค้าลงจากพาหนะ ณ สถานที่ปลายทางที่ตกลงกันไว้ แต่ต้องเตรียมให้อยู่ในสภาพที่ผู้ซื้อจะขนสินค้าลงพาหนะได้ ดังนั้นข้อกำหนด Incoterms 2010 จึงมีทั้งหมด 11 ข้อกำหนด โดยแบ่งตามรูปแบบการขนส่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ใช้กับการขนส่งทุกรูปแบบหรือหลายรูปแบบ ประกอบด้วย CIP - Carriage and Insurance Paid CPT - Carriage Paid To DAP - Delivered At Place DAT - Delivered At Terminal DDP - Delivered Duty Paid EXW - Ex Works FCA - Free Carrier กลุ่มที่ใช้กับการขนส่งทางทะเลและการขนส่งทางน้ำ ประกอบด้วย CFR - Cost and Freight CIF - Cost, Insurance and Freight FAS - Free Alongside Ship FOB - Free On Board กลับสู่หน้าหลัก
เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan ประเทศอาร์เจนตินา สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ พบกันอีกเช่นเคยนะครับกับคอลัมน์ “เที่ยวรอบโลกกับ Peter Chan” ที่จะพาไปดูสภาพเศรษฐกิจและสังคมของนา ๆ ประเทศ สัปดาห์นี้จะพาไปเที่ยวประเทศ อาร์เจนตินา ที่เคยประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงมาแล้ว อาร์เจนตินาวันนี้เป็นอย่างไรไปเที่ยวกันครับ อาร์เจนตินา หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐอาร์เจนตินา (República Argentina) เป็นหนึ่งในประเทศในทวีปอเมริกาใต้ (ลาตินอเมริกา) ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาแอนดีสทางทิศตะวันตก และมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ มีพรมแดนจดประเทศปารากวัยและประเทศโบลิเวียทางภาคเหนือ จดประเทศอุรุกวัยและประเทศบราซิลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจดประเทศชิลีทางภาคตะวันตกและภาคใต้ อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของทวีปอเมริกาใต้ รองจากบราซิล และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลก ระบบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุข การแบ่งเขตบริหาร แบ่งเป็น 23 จังหวัด (Provinces) และ 1 เขตเมืองหลวงสหพันธ์ อ่านต่อหน้า 2
ฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร เหมือนบ้านเรา มีสมาชิก 257 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 4 ปี เหมือนกันอีก ประโยชน์ต่อความต้องการของคนส่วนใหญ่มากขึ้น • นโยบายเศรษฐกิจ • การเปิดเสรีการค้า • การมีบทบาทสำคัญในกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (MERCOSUR) • ส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ • นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญคือ ส่งเสริมการส่งออกและวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้ง การเพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าด้านเกษตรกรรม ให้มีสินค้าอุตสาหกรรมมากขึ้น และกำลังพิจารณาจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (center ofdistribution) 25 เมืองทั่วโลก นอกจากนั้น รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนการส่งออกซึ่งนำไปสู่การกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียน อ่านต่อหน้า 3
อาร์เจนตินาประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดเมื่อปี 2543 - 2545 หลังจากเกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี สาเหตุสำคัญมาจากภาวะชะงักงันของเงินทุนต่างประเทศ การขาดดุลการคลัง และดุลการค้า และความพยายามของรัฐบาลที่จะรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐไว้ที่ระดับ 1 เปโซ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินายังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งการระงับการจ่ายหนี้สินต่างประเทศ และการลดค่าเงินเปโซ เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 2545 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการขยายตัวของการส่งออกและการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญ ทั้งนี้ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการส่งออกนับตั้งแต่ปี 2546 เป็นผลจากการลดค่าเงินเปโซ ซึ่งทำให้อาร์เจนตินาได้เปรียบดุลการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่รัฐบาลอาร์เจนตินาสามารถผลักดันนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งนำไปสู่การลดลงของอัตราการว่างงาน และการเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าภายในประเทศ ล่าสุดนิตยสารด้านการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสาขาของธนาคารโลก ได้จัดลำดับให้อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดอันดับ 77 ของโลก อ่านต่อหน้า 4
สำหรับประเด็นการชำระหนี้ IMF เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2548 ประธานาธิบดีเนสเตอร์ เคิร์ชเนอร์ ได้ตัดสินใจชำระหนี้ที่มีอยู่ต่อ IMF ทั้งหมด โดยใช้เงินคงคลัง (reserves) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาชำระหนี้ที่มีต่อ IMF ซึ่งประธานาธิบดีได้แถลงว่าการได้ดุลบัญชีเงินคงคลังและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้อาร์เจนตินาสามารถชำระหนี้ได้ก่อนกำหนด และการชำระหนี้ได้ทั้งหมดจะทำให้อาร์เจนตินามีอิสรภาพที่จะตัดสินใจดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่ IMF กำหนดไว้ในการเจรจาชำระหนี้ครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งการประกาศดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก การประมาณจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2009 ได้ผลว่าอาร์เจนติน่ามีประชากร 40,134,425 คน จัดเป็นอันดับที่ 3 ในอเมริกาใต้ และอันดับที่ 33 ของโลก โดยมีความหนาแน่นของประชากร 15 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่าความหนาแน่นเฉลี่ยของโลกที่ 50 คนต่อตารางกิโลมาตรเป็นอย่างมาก อัตราการเติบโตของประชากรในปี 2008 อยู่ที่ประมาณ 0.92% ต่อปี โดยมีอัตราการเกิดมีชีพเฉลี่ย 16.32 คนต่อประชากร 1,000 คน และอัตราการตายอยู่ที่ 7.54 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการอพยพสุทธิอยู่ที่ 0 คนต่อผู้อยู่อาศัย 1,000 คน อาร์เจนติน่ามีอัตราการเพิ่มของประชากรต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในละตินอเมริกา และมีอัตราการตายของทารกค่อนข้างต่ำ ค่ามัธยฐานของอายุประชากรอยู่ที่ 30 ปี และอายุขัยอยู่ที่ 76 ปี อ่านต่อหน้า 5
ระบบการศึกษาของอาร์เจนติน่าจัดได้ว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในละตินอเมริกา หลังจากได้รับอิสรภาพ ประเทศอาร์เจนติน่าได้มีการสร้างระบบการศึกษาแห่งชาติขึ้นมาให้ทัดเทียมกับชาติอื่น ในปัจจุบันมีอัตราการรู้หนังสือ 97% และผู้ใหญ่อายุเกิน 20 ปี สามในแปดคน จบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือสูงกว่า การศึกษาภาคบังคับมีผลใช้ตั้งแต่อายุ 5 ถึง 17 ปี โดยประกอบด้วยการเรียนระดับประถมศึกษาเป็นเวลาหกหรือเจ็ดปี และระดับมัธยมศึกษาเป็นเวลาห้าถึงหกปี ประธานาธิบดี โดมิงโก เฟาส์ติโน่ เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการผลักดันและบังคับใช้ระบบการศึกษาสมัยใหม่แบบไม่คิดค่าเล่าเรียนในอาร์เจนติน่า และการปฏิรูปมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 1918 ได้เป็นตัวสร้างรูปแบบมหาวิทยาลัยในระบบสามส่วน (tripartite) ในปัจจุบันในมหาวิทยาลัยของรัฐส่วนใหญ่ ภาษีของประชาชนนั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการศึกษาทั้งหมด ยกเว้นแต่การศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา และมีระบบการศึกษาของเอกชนในทุกระดับด้วยเช่นกัน โดยในปี ค.ศ. 2006 มีนักเรียนนักศึกษาอยู่ในการศึกษาในระบบประมาณ 11.4 ล้านคน โดยในนี้ เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย 85 แห่งทั่วประเทศจำนวน 1.5 ล้านคน นับตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ระบบการศึกษาของภาครัฐในอาร์เจนติน่านั้นไม่คิดค่าเล่าเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ส่งผลให้ความต้องการเข้าเรียนนั้นสูงเกินกว่างบประมาณของรัฐ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่สมัยทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา) พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ Peter Chan ที่มา : จากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ กลับสู่หน้าหลัก
English News Piracy in Somalia Piracy off the Somali coasthas been a threat to international shipping since the second phase of the Somali Civil War in the early 21st century. Since 2005, many international organizations, including the International Maritime Organization and the World Food Programme, have expressed concern over the rise in acts of piracy. Piracy has contributed to an increase in shipping costs and impeded the delivery of food aid shipments. Ninety percent of the World Food Programme's shipments arrive by sea, and ships into this area now require a military escort. A United Nations report and several news sources have suggested that piracy off the coast of Somalia is caused in part by illegal fishing and the dumping of toxic waste in Somali waters by foreign vessels that have, according to Somali fishermen, severely constrained the ability of locals to earn a living and forced many to turn to piracy instead.Other articles allege that many coastline villagers say given the choice between foreign-vessel collection of Somali sea life and the actions of the pirates, they support the pirates. Some pirates have suggested that, in the absence of an effective national อ่านต่อหน้า 2
coastguard following the outbreak of the Somali Civil War and the subsequent disintegration of the Armed Forces, they became pirates in order to protect their waters. This belief is also reflected in the names taken on by some of the pirate networks, such as the National Volunteer Coast Guard (NVCG). The UK's Department for International Development (DFID) issued a report in 2005 stating that, between 2003–2004, Somalia lost about $100 million dollars in revenue due to illegal tuna and shrimp fishing in the country's exclusive economic zone by foreign trawlers. Combined Task Force 150, a multinational coalition task force, took on the role of fighting Somali piracy by establishing a Maritime Security Patrol Area (MSPA) within the Gulf of Aden. The increasing threat posed by piracy has also caused concern in India since most of its shipping trade routes pass through the Gulf of Aden. The Indian Navy responded to these concerns by deploying a warship in the region on 23 October 2008.In September 2008, Russia announced that it too would join อ่านต่อหน้า 3
international efforts to combat piracy. Some reports have also accused certain government officials in Somalia of complicity with the pirates,with authorities from the Galmudug administration in the north-central Hobyo district reportedly attempting to use pirate gangs as a bulwark against Islamist insurgents from the nation's southern conflict zones. However, according to UN secretary general Ban Ki Moon, both the former and current administrations of the autonomous region in northeastern Somalia appear to be more actively involved in combating piracy. The latter measures include on-land raids on pirate hideouts, and the construction of a new naval base in conjunction with Saracen International, a UK-based security company. By the first half of 2010, these increased policing efforts by Somali government authorities on land and international naval vessels at sea reportedly contributed to a drop in pirate attacks in the Gulf of Aden from 86 a year prior to 33, forcing pirates to shift attention to other areas such as the Somali Basin and the wider Indian Ocean. According to Ecoterra, as of mid-November 2010, more than 500 crew members and at least 31 foreign vessels remain in the hands of Somali pirates. As of December 11, 2010, Somali pirates are holding at least 35 ships with more than 650 hostages. อ่านต่อหน้า 4
Somali Pirates Activity update (January 2011) January 26, 2011 WARNING: INDIAN OCEAN Latitude: 11°14N Longitude: 062°50E Alert number 066 / 2011. At 0630 UTC / 26 JAN / a merchant vessel was attacked by 2 skiffs and 1 fishing dhow acting as mothership. The vessel was fired upon by small arms. ***This vessel managed to evade hijack*** The Pirate action group is still in the area. January 25, 2011 WARNING: INDIAN OCEAN Latitude: 01°45S Longitude: 051°00E Alert number 065 / 2011. Reference previous Alert number 064 / 2011. อ่านต่อหน้า 5
On the 22nd of January at 1236 UTC a merchant vessel was reported under attack by 1 skiffs] in position 01 49N 056 35E. Weapons were fired upon the vessel. The Vessel was boarded by pirates. The position of the hijacked vessel is 01°45S 051°00E on the 25th of January at 1700 UTC. ***This vessel has been hijacked*** Credit: http://www.shipping.nato.int/CounterPir/copy_of_copy_of_SOMALIAPIR Chaiwijit กลับสู่หน้าหลัก
S.N.P. Philosophy " พ่อครับ ขอยืมตังค์หน่อย ” เสร็จจากงาน ถึงบ้าน เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว เขาเดินเข้าบ้านที่ดูเงียบเหงา เนื่องจาก ภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อปีกลาย ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้กับเขา ให้หาเลี้ยงลูกตามลำพังดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง อาหารก็กินอาหารปิ่นโตที่ผูกประจำ หากินเองได้ ทำให้ไม่เป็นภาระมากมายนัก เข้ามาในบ้าน เหงื่ออาบแก้มยังไม่ทันได้พัก ผู้เป็นพ่อเห็นหน้าลูกชายวัยซน ที่รอรับเอ่ยปาก ทัก ” พ่อครับวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ” ” เหนื่อยสิลูก แล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ” ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับถามต่อด้วยความเคยชิน ” เสร็จหมดแล้วครับ คือผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะ พ่อว่างหรือยังครับ” ลูกชายตัวน้อยถามต่อ “ เดี๋ยวพ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซักหน่อย แล้วคงจะเข้านอนวันนี้เหนื่อยเหลือเกินว่าแต่แก จะถามอะไรพ่อเหรอ” ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า “ คือผมอยากรู้ว่า พ่อทำงานได้ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ” ลูกชายถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ เค้าหันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วผู้เป็นพ่อก็ตอบไปว่า อ่านต่อหน้า 2
“ วันละ สี่ร้อย” “ งั้นผม ขอยืมตังค์พ่อซักสองร้อยได้มั้ยครับ” ลูกชายตัวน้อยเอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน “ หา แกว่าไง นะ” ผู้เป็นพ่อขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ ก่อนที่จะหันมาพูดกับลูกชายด้วยเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม “ นี่ฟังนะ แกคิดว่าเงินทองหาได้ง่ายๆ เหรอ กว่าพ่อจะได้เงินสี่ร้อยบาทต้องทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำ แต่พอกลับมาถึงบ้านเจอแกรอขอยืมเงินพ่อง่ายๆ แบบนี้นี่นะแกลองไปคิดดูให้ดีสิว่าแกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้างพ่อถึงจะต้องให้เงินสองร้อยนี่ให้แกยืม” เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงหลุดออก จากปาก แต่น้ำตาไหลซึมลงอาบร่องแก้มทั้งสองข้างก่อนที่จะหันหลังเดินกลับห้องตัวเองอย่างซึมเซา หลังจากอาบน้ำเสร็จ แวะเข้าครัวหาข้าวปลากินเรียบร้อย เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เดินไปที่ระเบียง ความรู้สึกเคร่งเครียดที่ได้รับมาจากงานนอกบ้านเริ่มผ่อนคลาย คิดไปถึงอดีตที่ผ่านและงานที่ทำมาทั้งวัน แล้วก็ย้อน กลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อยลูกเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเพิ่มนอกจากเงินค่าขนม ที่เขาให้ประจำวันเท่านั้น แต่วันนี้ทำไมถึงเอ่ยปากยืมเงินเมื่อสักครู่ เขาเหนื่อยเกินไป หรือเครียดเกินไปหรือป่าว ถึงได้ใช้อารมณ์กับลูกไปอย่างนั้น อ่านต่อหน้า 3
เมื่อได้คิดเขาดับบุหรี่ แล้วเดินไปที่ห้องลูกชาย ไฟในห้องนอนดับแล้วเมื่อเปิดประตูเข้าไป เอื้อมมือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคง หน้าตายังคงลืมจ้องมองมาที่ประตู แก้มที่แนบกับหมอนชุ่มด้วยน้ำตาพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆอยู่คนเดียว เขาเดินไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผมลูกชายเบาๆ พร้อมกับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเครือจุกคอ “พ่อขอโทษนะลูก เมื่อกี้ พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้อารมณ์กับลูกมากไปหน่อย จริงๆ ตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า ลูกอยากยืมเงินพ่อไปทำไม ลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็ได้ เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบากไม่ได้ได้มา ง่ายๆ แต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอ พ่ออาจจะให้ยืมก้อได้ เพราะว่าลูกหน่ะ สำคัญสำหรับพ่อเหนือสิ่งอื่นใด และพ่อรักลูกนะ” “ว่าแต่ ไหนลูกลองบอกพ่อสิว่า ลูกอยากยืมเงินสองร้อยไปทำอะไร” ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มองหน้าพ่อนิ่ง ด้วยน้ำเสียงปราณี เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ลูกชายตัวน้อยส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ “พ่อครับ ตั้งแต่แม่ตาย ผมเห็นพ่อต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินทุกวันจนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบ ไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน ผมเลยค่อยๆ เก็บค่าขนมของผมไว้ตลอดมาจนถึงตอนนี้ ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว แต่พอผมรู้จากพ่อว่า พ่อทำงานได้ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อยผมจึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีกสองร้อย ให้เป็นสี่ร้อยเพื่อจะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก ได้อยู่กับผมซักวันนึงครับ” เงินทอง อาจจะจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ครอบครัว ยังคงต้องการความรัก ความอบอุ่น และเวลาที่มีให้แก่กัน “อย่าห่วงงานจนลืม ครอบครัว และ คนที่คุณรัก” แต่ครอบครัว ยังคงต้องการความรัก ความอบอุ่น และเวลาที่มีให้ แก่กัน กลับสู่หน้าหลัก
Thank You ! พบกันใหม่ฉบับหน้า Logistics Specialist and International Freight Forwarder www.themegallery.com กลับสู่หน้าหลัก