320 likes | 437 Views
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) ที่มีผลกระทบกับภาคการเกษตรของไทย. อนันต์ ดา โลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ในวันพุธที่ 15 สิงหาคม 2555 ณ ห้วยป่าปกรี สอร์ท ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( ASEAN Economic Community : AEC ). อาเซียน ( ASEAN ).
E N D
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีผลกระทบกับภาคการเกษตรของไทย อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ในวันพุธที่ 15 สิงหาคม 2555 ณ ห้วยป่าปกรีสอร์ท ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC)
อาเซียน (ASEAN) • ก่อตั้งเมื่อปี 2510 (1967) ครบรอบ 44 ปี (เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2554) • จุดประสงค์เริ่มแรก – สร้างความมั่นคง เพื่อต้านภัยคุกคามคอมมิวนิสต์ สมาชิก และปีที่เข้าเป็นสมาชิก อาเซียน 6 สมาชิกใหม่ CLMV ปี 2540 ปี 2540 ปี 2510 ปี 2510 ปี 2538 ปี 2542 ปี 2527 ปี 2510 ปี 2510 ปี 2510
วัตถุประสงค์ • ส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประเทศใน ภูมิภาค • ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคง ทางการเมือง • สร้างสรรค์ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ • การพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม • การกินดีอยู่ดีบนพื้นฐานของความเสมอภาคและ ผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศสมาชิก
ASEAN : Fact & Figures10 ประเทศสมาชิก • ประชากร599.5 ล้านคน (2010) • สัญลักษณ์: ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้นมัดรวมกัน สีน้ำเงิน สันติภาพและความมั่นคง สีแดง ความกล้าหาญและก้าวหน้า สีเหลือง ความเจริญรุ่งเรือง ความบริสุทธิ์ วงกลม แสดงถึงความเป็นเอกภาพ • กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter)
ความสำคัญของอาเซียน ที่มา : ASEAN Secretariat, ปี 2010
ศักยภาพของไทยในอาเซียนศักยภาพของไทยในอาเซียน ที่มา : สำนักเลขาธิการอาเซียน, ปี 2010
ศักยภาพของไทยในอาเซียน (ต่อ) ที่มา : สำนักเลขาธิการอาเซียน, ปี 2010
ตลาดส่งออกหลักของไทย ปี 2535 กับปี 2553 ปี 2535 ปี 2553 USA 10.9% USA 22.4% Other 25.5% Other 33.6% EU 11.9% จีน 1.2% EU 19.6% ญี่ปุ่น 10.3% จีน 10.6% ญี่ปุ่น 17.5% อาเซียน 13.8% อาเซียน 22.7% • ส่งออกรวม 32,609.1 ล้านเหรียญสหรัฐ • ส่งออกรวม 195,311.6 ล้านเหรียญสหรัฐ • Note • AFTA เริ่มเจรจาปี 2535 และเริ่มลดภาษีปี 2536 (1993) • ASEAN 6 ภาษีเป็นร้อยละ 0 ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 (2010)
แหล่งนำเข้าหลักของไทย ปี 2535 กับปี 2553 ปี 2535 ปี 2553 USA 10.9% USA 22.4% ญี่ปุ่น 18.7% Other 25.5% Other 33.6% ญี่ปุ่น 29.3% จีน 1.2% อื่นๆ 28.0% อื่นๆ 36.6% EU 9.1% EU 19.6% จีน 3.0% EU 14.4% USA 6.3% ญี่ปุ่น 17.5% จีน 12.7% USA 11.7% อาเซียน 13.6% อาเซียน 16.6% • นำเข้ารวม 40,615.8 ล้านเหรียญสหรัฐ • นำเข้ารวม 182,406.54 ล้านเหรียญสหรัฐ • Note • AFTA เริ่มเจรจาปี 2535 และเริ่มลดภาษีปี 2536 (1993) • ASEAN 6 ภาษีเป็นร้อยละ 0 ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 (2010)
ประชาคมอาเซียน (ASEANCommunity)2015 (2558)
ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนASEAN Political and Security Community (APSC) แนวคิดหลัก :“ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ประชาธิปไตย และความมั่นคงในภูมิภาค” ยุทธศาสตร์สำคัญ 5 ด้าน • พัฒนาการทางด้านการเมือง • การเสริมสร้างบรรทัดฐานที่จะมีร่วมกัน • การเสริมสร้างความเชื่อใจของประเทศสมาชิก • การแก้ไขปัญหาภายในโดยสันติ • การสร้างสันติภาพและการป้องกันข้อพิพาท
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) จุดมุ่งหมาย • การสร้างประชาคมแห่งสังคมเอื้ออาทรและแบ่งปัน • แก้ไขผลกระทบต่อสังคมอันเนื่องมาจากการรวมตัวทาง เศรษฐกิจ • ส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและการจัดการดูแลอย่างถูกต้อง • ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนในระดับรากหญ้า การเรียนรู้ และรับรู้ข่าวสาร
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนASEAN Economic Community (AEC) Single market (ตลาดร่วมอาเซียน) แนวคิดที่จะให้มีการไหลเวียนที่มีความเสรีมากขึ้น สำหรับเงินทุน • อาเซียนมิอาจตั้งเป้าหมายให้เงินทุนไหลเวียนได้เสรี 100% จึงตั้งให้การไหลเวียนมีความเสรีมากขึ้นเท่านั้น การไหลเวียนเสรีสำหรับแรงงานฝีมือ • ขณะนี้ Blueprint ได้แต่เพียงตั้งเป้าหมายเปิดเสรีเฉพาะแรงงานฝีมือเท่านั้น ยังไม่อาจเปิดเสรี 100% ได้
สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน AEC ปี 2558 สินค้า ภาษีนำเข้าเป็นศูนย์/อุปสรรคนำเข้า ระหว่างอาเซียนด้วยกันหมดไป ตลาด 10 ประเทศรวมเป็นหนึ่ง บริการ ทำธุรกิจบริการในอาเซียนได้อย่างเสรี การลงทุน การลงทุนในอาเซียนทำได้อย่างเสรี แรงงานฝีมือ การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรี เงินทุน การเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรียิ่งขึ้น
แผนงานสำคัญใน AEC BlueprintGDP = US$ billion 1,865 (2010) = 2.97% of global GDP A C D B ตลาดเดียว/ ฐานการผลิตเดียว ขีดความสามารถ การแข่งขันสูง พัฒนาเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ บูรณาการกับเศรษฐกิจโลก • เปิดเสรีการค้าสินค้า (AFTA) • เปิดเสรีการค้าบริการ (AFAS) • เปิดเสรีการลงทุน (AIA) • เคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างกันได้ดีขึ้น • เปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือ • รวมกลุ่มสาขาสำคัญ (Priority sector) • นโยบายการแข่งขัน • การคุ้มครองผู้บริโภค • การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน • ภาษีอากร • การพัฒนา SMEs • แผนงานการริเริ่มการรวมตัวอาเซียน • (Initiative for ASEAN Integration : IAI) • ความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบสนองต่อเศรษฐกิจภายนอก • การมีส่วนร่วมในเครือข่ายอุปทานโลก
เป้าหมายประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป้าหมายประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
“ภาคบริการ” VS“การลงทุน” ในความตกลงการค้าเสรี: ธุรกิจอะไรคือ “ภาคบริการ” อะไรคือ “การลงทุน”? ภาคที่ไม่ใช่บริการ = ลงทุน การเกษตร การประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ ภาคการผลิต (อุตสาหกรรม) + ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ 5 สาขา ภาคบริการ • บริการด้านธุรกิจ/ วิชาชีพ (แพทย์ วิศวกร ทนายความ นักบัญชี ฯลฯ) • บริการด้านสื่อสาร/ โทรคมนาคม • บริการด้านการก่อสร้าง • บริการด้านการจัดจำหน่าย • บริการด้านการศึกษา • บริการด้านสิ่งแวดล้อม • บริการด้านการเงิน • บริการด้านสุขภาพ • บริการด้านการท่องเที่ยว • บริการด้านนันทนาการ • บริการด้านการขนส่ง • บริการอื่นๆ
การเปิดเสรีการค้าสินค้าการเปิดเสรีการค้าสินค้า เคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างเสรี • ลดภาษีนำเข้าเป็นลำดับตั้งแต่ปี 2536 1 ม.ค. 2553 (2010) อาเซียน-6ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากอาเซียน เป็นศูนย์ 1 ม.ค. 2558 (2015) CLMVลดภาษีนำเข้าสินค้าจากอาเซียน เป็นศูนย์ ยกเว้น สินค้าอ่อนไหว(Sensitive List) ภาษีไม่ต้องเป็น 0% แต่ต้องไม่เกิน 5% และ สินค้าในรายการอ่อนไหวสูง (High Sensitive List) ให้กำหนดภาษีได้เป็นพิเศษ แต่ต้องลดลงในระดับที่สมาชิกยอมรับได้ สินค้าอ่อนไหวสูง : ข้าว และน้ำตาล ประเทศที่ขอไว้ : อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
สินค้าในรายการอ่อนไหวสูง (High Sensitive List) ให้กำหนดภาษีได้เป็นพิเศษ แต่ต้องลดลงในระดับที่สมาชิกยอมรับได้ สินค้า : ข้าว และน้ำตาล ประเทศที่ขอไว้ : อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทยได้ชดเชย เป็นการนำเข้าขั้นต่ำ ปีละประมาณ 5.5 แสนตัน มาเลเซีย ข้าว เป็น 20% ปี 2010 อินโดนีเซีย ข้าว25% ภายในปี 2015 น้ำตาล จาก 40% เป็น 5-10% ปี 2015 ฟิลิปปินส์ น้ำตาล คงอัตรา 38% ถึงปี 2011 และลดตามลำดับเป็น 5% ปี 2015 ข้าว คงอัตรา 40% ถึงปี 2014 และลดเป็น 35% ปี 2015 ไทยได้ชดเชย โดยฟิลิปปินส์ตกลงจะซื้อข้าวจากไทย อย่างต่ำปีละ 3.67 แสนตัน
ผลกระทบจากการเปิดตลาดผลกระทบจากการเปิดตลาด ผลกระทบเชิงบวก ภาษีนำเข้าเป็น 0% มาตรการนำเข้าลดลง นำเข้าวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากแหล่งผลิต ใน AEC ที่มีความได้เปรียบด้าน ราคา/คุณภาพ ตลาด 10 ประเทศ รวมเป็นตลาดเดียว ตลาดใหญ่ขึ้น :economy of scale การลงทุนในอาเซียน ทำได้โดยเสรี สามารถย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศ ที่เหมาะเป็นแหล่งผลิต เป็นฐานการผลิตร่วม ใช้ CLMV เป็นฐานการส่งออกไปนอก AEC เพื่อใช้ประโยชน์จากสถานะ Least Developed Countries LDCs
ผลกระทบจากการเปิดตลาดผลกระทบจากการเปิดตลาด ผลกระทบเชิงบวก ความร่วมมือด้านการอำนวย ความสะดวกทางการค้า ระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค สะดวกและถูกลง ทำธุรกิจบริการได้โดยเสรี ฐานธุรกิจอยู่ที่ใดก็ได้ในอาเซียน แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ FTA อาเซียนกับคู่ค้าต่างๆ ASEAN +1, +3, +6 มีความได้เปรียบทางภาษีนำเข้า กว่าคู่แข่งอื่นนอกอาเซียน
ผลกระทบจากการเปิดตลาดผลกระทบจากการเปิดตลาด ผลกระทบเชิงลบ ภาษีนำเข้าเป็น 0% มาตรการนำเข้าลดลง เกิดคู่แข่งใหม่จากอาเซียน ตลาด 10 ประเทศ รวมเป็นตลาดเดียว ต้นทุนของคู่แข่งอาจต่ำลง การลงทุน/ ทำธุรกิจบริการ ในอาเซียน ทำได้โดยเสรี คู่แข่งจะเข้ามาแข่งถึงในเขตแดนเราอาจถูกแย่งแรงงานฝีมือ เป็นฐานการผลิตร่วม บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมรองรับ หรือ เคยผลิตส่งบริษัทแม่ อาจถูกแย่งลูกค้า โดยแข่งในประเทศอื่นที่ได้เปรียบกว่าในการเป็นฐานการผลิต
สินค้าที่ไทยได้เปรียบ/ เสียเปรียบ สินค้าที่ไทยได้เปรียบ สินค้าเกษตรและอุปโภคบริโภค เช่น ข้าว ธัญพืช น้ำตาลทราย ผลไม้สด อาหารสำเร็จรูป (อาหาร กระป๋อง) เครื่องปรุงรส สินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์และชิ้นส่วน สินค้าที่ไทยเสียเปรียบ สินค้าที่มีข้อกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าในอาเซียน เช่น น้ำมันปาล์ม (มาเลเซีย) เมล็ดกาแฟ (เวียดนาม) มะพร้าว (ฟิลิปปินส์) และชา (อินโดนีเซีย)
AEC โอกาส (Opportunities) & ภัยคุกคาม (Threats) สำหรับเกษตรกรไทย ภาษีนำเข้า เป็นศูนย์หรือลดลง ตลาดอาเซียน มีความต้องการมากขึ้น สำหรับสินค้าเกษตรไทย ที่มีคุณภาพ สินค้าเกษตรจากอาเซียนที่คุณภาพดีกว่า/ราคาถูกจะเข้ามาแข่งขันและแย่งตลาด หากเกษตรกรไทยไม่เตรียมรับมือ อุปสรรคนำเข้า สินค้าเกษตรหมดไป > ไทยส่งออกสินค้าเกษตรได้ มากขึ้น > เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น
สิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรพึงได้สิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรพึงได้ จากการเปิดเสรีทางการค้า (FTAs) • แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และล้นตลาด - ตลาดขยายใหญ่ขึ้น - สามารถกระจายสินค้าสู่ประเทศภาคีสะดวก ไม่มีภาษี/ภาษีต่ำ • เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น - รายได้เพิ่มจากขายสินค้าเพิ่มขึ้น - ต้นทุนต่ำลง > เปิดเสรี นำเข้าเครื่องมืออุปกรณ์ ปัจจัยการผลิตเข้าสู่ประเทศหลากหลาย มีให้เลือก ราคาต่ำลง • เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต จากการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีการผลิตระหว่างกัน • ผู้ประกอบการ (ผู้ใช้สินค้าเกษตรเป็นวัตถุดิบ) ขยายการผลิต ส่งผลทางอ้อมต่อเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้เพิ่มขึ้น
แนวทางการปรับตัวรองรับการเปิดเสรี (เกษตรกรและผู้ประกอบการต่อเนื่อง) • ลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย รวมกลุ่มเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แข่งขันได้ • ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานตรงตามตลาดต่างประเทศต้องการ • พัฒนาและกำหนดมาตรฐานทางการค้าของไทย - มาตรฐานสุขอนามัย มาตรฐานเฉพาะสินค้า ระบบการตรวจสอบและสิ่งแวดล้อมให้เป็นมาตรฐานสากล ส่งออกต่างประเทศ ไม่ประสบปัญหาข้อกีดกัน ควบคู่กับรองรับสินค้าที่เข้ามา ต้องได้มาตรฐานตามกำหนดเป็นการคุ้มครองผู้ผลิตในประเทศ • ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรต่อเนื่อง เพื่อรองรับ • ผู้ประกอบการขยายฐานการผลิตออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
การปรับตัวและการช่วยเหลือของภาครัฐการปรับตัวและการช่วยเหลือของภาครัฐ • ให้ความรู้ความเข้าใจต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบให้สามารถแข่งขันได้ • ใช้มาตรการคุ้มครองเกษตรกรในประเทศ และมาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศ ในกรณีจำเป็น • ช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการเปิดเสรีผ่านกองทุน FTA - ด้านการผลิต : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย) - ด้านการตลาด : กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ เจ้าภาพ (กองทุนเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิต และบริการที่ได้รับผลกระทบ จากการเปิดเสรีทางการค้า)
เร่งปรับตัว • หากไม่เร่งปรับตัวในวันนี้ โอกาสที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอาจกลายเป็น วิกฤติที่คาดไม่ถึง • ศึกษาข้อมูลพันธกรณีในกรอบต่างๆ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ • ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด (รู้รอบรู้ทัน) • ปรับเปลี่ยนทัศนคติจากเชิงรับ เป็น เชิงรุก (ใช้โอกาสที่เปิดกว้างมาก ขึ้น) • รู้เขา รู้เรา (สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า/บริการจากจุดแข็งที่มีอยู่) • เข้าใจประเด็นเทคนิค (แหล่งกำเนิดสินค้า การคำนวณต้นทุน ฯลฯ) • ธุรกิจจะแข่งขันกันที่ความคิดสร้างสรรค์ คุณภาพ/มาตรฐาน และการ ให้บริการที่จะผูกมัดใจลูกค้าของเรา
สิ่งท้าทายต่ออาเซียน • มีทั้งที่เกิดจากภายในอาเซียนเอง และจากภายนอก • ภายใน กระบวนการ integration ช้ามาก ช่องว่างใน การพัฒนาของสมาชิกยังกว้างมาก ไม่มีกลไกในการ บังคับสมาชิกให้ปฏิบัติตามข้อตกลงกระบวนการ ตัดสินใจใช้แต่ฉันทามติ • ภายนอก โลกาภิวัตน์ การแข่งขันทางเศรษฐกิจรุนแรง ภูมิภาคต่างๆ พึ่งพากันมากขึ้น