1.22k likes | 2.52k Views
การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่ออบรมทักษะ ในการปฏิบัติงานด้านการจำแนก. เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับครอบครัว สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคมและการสื่อสาร.
E N D
การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่ออบรมทักษะการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่ออบรมทักษะ ในการปฏิบัติงานด้านการจำแนก เรื่องความรู้เกี่ยวกับครอบครัว สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคมและการสื่อสาร โดย รองศาสตราจารย์ระพีพรรณ คำหอม คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.00-12.00 น. ณ โรงแรมโฟร์วิงส์ สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร
ประเด็นการนำเสนอ • การประเมินครอบครัว ชุมชน สังคม • 2. เครื่องมือการประเมินครอบครัว ชุมชน และสังคม
1.การประเมินครอบครัว ชุมชน สังคม • ประเภทของครอบครัว 1.ครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Family) 2.ครอบครัวขยาย (Extended Family) 3.ครอบครัวผสม (Reconstituted Family) 4.ครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เพียงคนเดียว (Single-Parent Family) • คุณสมบัติของระบบครอบครัว • ครอบครัวเป็นระบบเปิดทางสังคมและวัฒนธรรม (Open Socio Cultural System) • ครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลง (Transformation) • ครอบครัวมีการจัดระบบภายในเพื่อความสมดุลย์(Homeostasis) • ครอบครัวมีการสื่อสาร (Communication) • ครอบครัวที่มีกฎที่สมาชิกต้องถือปฏิบัติ (Rules of family) • ครอบครัวมีขอบเขตของตนเอง (Boundaries)
การช่วยแก้ปัญหา (Problem Solving) การสร้างการสื่อสาร (Communication) การกำหนดบทบาท (Role) การตอบสนองต่ออารมณ์ (Affective Responsiveness) ความผูกพันทางอารมณ์ (Affective Involvement) การควบคุมพฤติกรรม (Behavior Control) การทำหน้าที่ของครอบครัว
วงจรชีวิตครอบครัว (Family Life Cycle)
ขั้นตอนการใช้เครื่องมือวงจรชีวิตครอบครัวขั้นตอนการใช้เครื่องมือวงจรชีวิตครอบครัว 1.ทำความเข้าใจกับวงจรชีวิตครอบครัวแต่ละระยะ 2.ประเมินว่า ครอบครัวปฏิบัติภารกิจที่สำคัญได้สำเร็จหรือไม่ - ถ้าครอบครัวปฏิบัติภารกิจสำคัญสำเร็จ ครอบครัวนั้นจะสามารถก้าวไปสู่วงจรชีวิตครอบครัวระยะต่อไปได้โดยไม่มีความเครียด - แต่ในครอบครัวที่ปฏิบัติภารกิจสำคัญไม่สำเร็จจะทำให้ครอบครัวนั้นเผชิญกับ ความเครียด นำไปสู่การเกิดปัญหาในครอบครัวได้ 3. คัดกรองความเครียดครอบครัวและสมาชิกในครอบครัว - ประเมินว่าครอบครัวสามารถจัดการกับความเครียด (Family Coping) ได้หรือไม่ และว่าความเครียดนั้นมีผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวอย่างไร - วางแผนการดูแลที่เฉพาะสำหรับผู้รับบริการแต่ละรายโดยการพยากรณ์จากธรรมชาติของวงจรชีวิตครอบครัวในระยะสั้น ๆ 4. ติดตามดูแลต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ระบบครอบครัว (Family system assessment) 1. เป็นครอบครัวระยะใด (Family life cycle) 2. มีใครอยู่บ้าง (Family as a system) 3. ปกติอยู่กันอย่างไร มีใครทำอะไรกันบ้าง (Roles, Family stability or homeostasis) 4. ผู้อาวุโสตามลำดับเป็นใครบ้าง (Hierarchy) 5.มีมุ้งเล็กในมุ้งใหญ่อย่างไร (Boundaries, Alliance, Coalition) 6.เมื่อเกิดปัญหาในครอบครัว ครอบครัวมีการปรับตัวอย่างไร (Family coping) 7.ครอบครัวมีรูปแบบการแก้ปัญหาที่ผ่านมาอย่างไรถ่ายทอดข้ามรุ่นหรือไม่ (Family pattern) 8.ใครคือผู้ที่อาจจะมีโอกาสเกิดปัญหาในอนาคตบ้าง(ผู้ใช้สารเสพติด ผู้กระทำผิดกม.)
เป็นครอบครัวระยะใด มีใครอยู่บ้าง ปกติอยู่กันอย่างไร มีใครทำอะไรกันบ้าน ผู้อาวุโสตามลำดับเป็นใครบ้าง การวิเคราะห์ระบบครอบครัว
วาดอย่างน้อย 3 รุ่น เริ่มจากตัวผู้ป่วยหลัก ลำดับพี่น้อง/สามีภรรยา จากซ้ายไปขวา วงรอบสมาชิกบ้านเดียวกับผู้ป่วย รายละเอียดสมาชิก ความสัมพันธ์ในครอบครัว แผนภูมิครอบครัว Genogram
สัญลักษณ์บางอย่างในการเขียน family tree ชาย หญิง ผู้ใช้บริการ แต่งงาน (ระบุปี) 2526 แยกทางกัน 2539
ลำดับบุตร (ระบุอายุ) 41 37 31 ปีเกิด ปีสิ้นชีวิต 2490 - 2545 อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยไม่แต่งงาน 2530
หย่า 2547 บุตรบุญธรรม
บุตรอุปถัมภ์ . . . . เสียชีวิตขณะตั้งครรภ์
ทำแท้ง แฝด
ถูกกระทำ (Abuse) ละเลย ทอดทิ้ง (Neglect) ถูกกระทำทางเพศ (Sexual abuse)
ถูกกระทำทางร่างกาย (Physical Abuse) ถูกกระทำทางจิตใจ (Emotion Abuse) ความไม่ไว้วางใจ (Distrust)
การควบคุม (Controlling) อิจฉา (Jealous) เลื่อมใส/ศรัทธา (Admirer)
ความขัดแย้ง (Conflict) รังเกียจ (Hate) รัก (Love)
ทำให้เห็นบริบทที่ช่วยเหลือ สนับสนุนครอบครัว เช่น โรงเรียน ที่ทำงาน ญาติ เพื่อน ฯลฯ นำไปสู่การวางแผนช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.Eco mapระบบนิเวศของครอบครัว
ความสัมพันธ์แข็งแกร่งความสัมพันธ์แข็งแกร่ง ความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหา ทิศทางความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ไม่แข็งแรง -------------- แหล่งประโยชน์ สัญลักษณ์บางอย่างที่ใช้ใน Eco map
ตัวอย่างการเขียน Genogramor Family Tree ปู่ ย่า ตา ยาย น้าสาว น้าเขย แม่ บิดา บิดาเลี้ยง ลูกสาว โรคมะเร็ง 8 ปี 18 ปี 17 ปี 12 ปี ชายแปลกหน้า โรงเรียน จอมใจ 14 ปี ชุมชน เพื่อน สถานีตำรวจ ร้านอาหาร บ้านพักเด็กและครอบครัว
ความรู้มุมมองการทำงานคน-สิ่งแวดล้อม-ชุมชน-สังคมความรู้มุมมองการทำงานคน-สิ่งแวดล้อม-ชุมชน-สังคม
แบบประเมินความพร้อมของครอบครัวผู้ใช้บริการสังคมสงเคราะห์แบบประเมินความพร้อมของครอบครัวผู้ใช้บริการสังคมสงเคราะห์ ชื่อ – นามสกุลของผู้ให้ข้อมูล ....................... อายุ ............... ปี เกี่ยวข้องเป็น .............................ชื่อ – นามสกุลของผู้ใช้บริการ............................ HN. .............อายุ .......... ปี เวลา ............. ถึง ............... หอผู้ป่วย ............................วินิจฉัยโรค .......................... ประเมินก่อน ประเมินหลัง
คำชี้แจง ใส่เครื่องหมาย ✓ ลงในช่อง □ ตามการประเมินความพร้อม ทั้งนี้แบบประเมินนี้ไม่สามารถใช้โดยการซักถาม/ สัมภาษณ์ข้อมูลจากผู้ใช้บริการหรือผู้ให้ข้อมูลโดยตรง แต่ต้องมาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลรอบด้านในกระบวนการปฏิบัติงานของนักสังคมสงเคราะห์คลินิก
** การให้คะแนนการประเมินข้อที่ 2 - 10 นับคะแนนตามจำนวนข้อที่เลือกตอบ
ความพร้อมของครอบครัวอยู่ในระดับ ................................................ …………………………………………………………………………………………………… ปัญหาและวางแผนให้ความช่วยเหลือ ................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ นักสังคมสงเคราะห์ผู้ประเมิน ................................................................วันที่.................................................................................................
หมายเหตุ คะแนนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 หมายถึงระดับความพร้อมน้อยที่สุดใช้วิธี Family Therapy หมายถึง ระดับ น้อยที่สุด คะแนน 11 – 20 หมายถึง ระดับความพร้อมน้อย ใช้วิธี Family Therapy / Family Counseling คะแนน 21 – 30 หมายถึง ระดับความพร้อมปานกลาง ใช้วิธี Counseling คะแนน 31 – 40 หมายถึง ระดับความพร้อมมาก ใช้วิธี Psycho – Social Support คะแนน 41 – 47 หมายถึง ระดับความพร้อมมากที่สุด ใช้วิธี Psycho – Social Education ** ถ้าคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง – มากที่สุด (21 คะแนนขึ้นไป) หมายถึง ครอบครัวมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วย ** ถ้าคะแนนอยู่ในระดับน้อย – น้อยที่สุด (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 คะแนน) หมายถึง ครอบครัวไม่มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วย นักสังคมสงเคราะห์ต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามข้อที่มีคะแนนการประเมินน้อย
ประเด็นการนำเสนอ 1.ความหมายของการสื่อสาร2.หลักการสื่อสารทั่วไป3.องค์ประกอบของการสื่อสาร4.เทคนิคการติดต่อสื่อสารในการให้บริการ5.ทฤษฎีการวิเคราะห์การติดต่อสื่อสาร (Transactional Analysis -TA) 6.ทักษะการสื่อสาร 7. สถานการณ์จำลองการฝึกปฏิบัติด้านการสื่อสาร
ประเภทของการสื่อสาร 1.ความหมายของการสื่อสาร • กระบวนการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นกระบวนการซึ่งสารถูกส่งจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร การสื่อสารเป็นกระบวนการรับรู้ร่วมกันในเรื่องของความคิด ความรู้สึกและความรู้ • การสื่อสารภายในตัวบุคคล (intrapersonal communication) • การสื่อสารระหว่างบุคคล (interpersonal communication) และการสื่อสารกลุ่มเล็ก (small group communication) • การสื่อสารกลุ่มใหญ่ (large group communication) • การสื่อสารในองค์การ (organizational ommunication) • การสื่อสารมวลชน (mass communication)
การสื่อสาร • ส่งสารสาร รับสาร สัญญาณที่ส่งออกมา หรือสามารถสังเกตได้ รับสาร- ภาษาพูด ส่งสาร - ภาษากาย คำพูด น้ำเสียง แววตา สีหน้า การเคลื่อนไหวของร่างกาย
แบบจำลองการสื่อสารแบบทางเดียวแบบจำลองการสื่อสารแบบทางเดียว
ลักษณะของ S M C R model ปัจจัยสำคัญต่อขีดความสามารถของผู้ส่งและผู้รับที่จะทำให้การสื่อความหมายนั้นได้ผลสำเร็จหรือไม่เพียงใด ได้แก่ 1. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) หมายถึง ทักษะซึ่งทั้งผู้ส่งและผู้รับควรจะมีความชำนาญในการส่งและการรับสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันได้อย่างถูกต้อง เช่น ผู้ส่งต้องมีความสามารถในการเข้ารหัสสาร มีการพูดโดยการใช้ภาษาพูดที่ถูกต้องใช้คำพูดที่ชัดเจนฟังง่าย มีการแสดงสีหน้าหรือท่าทางที่เข้ากับการพูด ท่วงทำนองลีลาในการพูด เป็นจังหวะน่าฟัง หรือการเขียนด้วยถ้อยคำสำนวนที่ถูกต้องสละสลวยน่าอ่าน เหล่านี้เป็นต้น ส่วนผู้รับก็ต้องมีความสามารถในการถอดรหัส และมีทักษะที่เหมือนกันกับผู้ส่ง โดยมีทักษะการฟังที่ดี ฟังภาษาที่ผู้ส่งพูดมารู้เรื่อง หรือสามารถอ่านข้อความที่ส่งมานั้นได้ เป็นต้น
ลักษณะของ S M C R model 2. ทัศนคติ (Attitudes) เป็นทัศนคติของผู้ส่งหรือผู้รับซึ่งมีผลต่อการสื่อสาร เกี่ยวข้องกับการยอมรับซึ่งกันและกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับด้วย เช่น ถ้าผู้ฟังมีความนิยมชมชอบในตัวผู้พูดก็มักจะมีความเห็นที่คล้อยตามไปได้ง่ายกับผู้พูด แต่ในทางตรงข้ามก็จะเกิดการปฏิเสธ หรือถ้าทั้งสองฝ่ายมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกัน ท่วงทำนองหรือน้ำเสียงในการพูดก็อาจจะห้วนห้าว แต่ถ้ามีทัศนคติที่ดีต่อกันแล้วก็มักจะพูดกันด้วยความไพเราะอ่อนหวานน่าฟัง
ลักษณะของ S M C R model 3. ระดับความรู้ (Knowledge Levels) ผู้ส่งและผู้รับมีระดับความรู้ที่เท่าเทียมกันก็จะทำให้การสื่อสารนั้นลุล่วงไปด้วยดี แต่ถ้าหากความรู้ของผู้ส่งและผู้รับมีระดับที่แตกต่างกัน ย่อมจะต้องมีการปรับความยากง่ายของข้อมูลที่จะส่งในด้านของความยากง่ายของภาษาและถ้อยคำสำนวนที่ใช้ เช่น *การไม่ใช้คำศัพท์ทางวิชาการ ภาษาต่างประเทศหรือถ้อยคำยาว ๆ สำนวนสลับซับซ้อน *การใช้ภาษาถิ่นสื่อสาร *การใช้ภาษามือของคนใบ้ ถ้า ผู้รับไม่เคยได้เรียนภาษามือมาก่อนจะทำให้ไม่เข้าใจและไม่สามารถสื่อสารกันได้
ลักษณะของ S M C R model 4. ระบบสังคมและวัฒนธรรม (Social - Culture Systems) เป็นสิ่งที่มีส่วนกำหนดพฤติกรรมของประชาชนในชาตินั้น ซึ่งเกี่ยวข้องไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติ สังคมและวัฒนธรรมในแต่ละชาติย่อมมีความแตกต่างกันไป เช่น การให้ความเคารพต่อผู้อาวุโส หรือวัฒนธรรมการกินอยู่ต่าง ๆ กฎ ข้อบังคับทางศาสนาของแต่ละศาสนาด้วย
รูปแบบการจัดที่นั่ง การเริ่มต้นสนทนา 1. การต้อนรับ (Greeting) แบบกันเอง 2. แนะนำตนเองสั้น ๆ และสนทนาเพื่อทักทาย (Small Talk)เพื่อสร้างสัมพันธภาพ เช่น การเดินทาง ดินฟ้าอากาศ การคุยแบบไม่เป็นทางการ 3. การจัดที่นั่งสนทนา 4. ผู้สนทนาใช้ทั้งคำพูดและภาษากายเปิดเผย จริงใจ
การเริ่มต้นสนทนา (ต่อ) 5. การสบตา (eye contact) การแสดงสีหน้าที่สอดคล้องกับเรื่องราวของเขา แสดงความจริงใจ ให้กำลังใจผู้เล่าเรื่อง 6. การสนทนาใช้ทั้งภาษากาย น้ำเสียง การแต่งกาย
การสื่อสาร 2 ทาง • การสื่อสาร 2 ทาง • การแลกเปลี่ยนข้อมูล • การปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน • การเรียนรู้ • ความเข้าใจ • การแสดงออกผ่าน • พฤติกรรมที่พึงประสงค์
แบบจำลองการสื่อสาร Melvin De Fleur